เธอก็ยังมีฉันอยู่ทั้งคน (นี่นา ^^)
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

ควันหลงงานหนังสือ - เมื่อกระเป๋าสตางค์ถูกชำเราจนป่นปี้ไม่มีชิ้นดี เฮือก ~ ~"

ไม่ได้เยอะจนทนไม่ได้ แต่ก็เยอะกว่างบที่วางไว้ไปใช้ได้อยู่ เฮ้อ

เรื่องของเรื่องคือรอบแรกกดเงินมารอไว้ประมาณ 4 พัน ทั้งที่จริงๆ วางงบไว้ว่าไม่เกิน 2 พัน แล้วก็มั่นใจเสียเหลือเกินว่ายังไงก็ไม่มีทางเกิน เพราะเมว่างแค่ช่วงเช้า กะว่าคงเดินไม่กี่ชั่วโมง (แล้วเจ๊กดมาทำไมเยอะแยะ?? - ก็เผื่อๆ ไว้ แหะ)

นัดเจอเมเช้าวันปิยะตอนเก้าครึ่ง เป็นวันหยุดแรกในรอบแปดสิบล้านปีที่ตื่นตอนแปดโมง แม่ม พอๆ กะวันทำงานธรรมดานะนี่ อาจเพราะตื่นเช้า อาจจะเพราะวันหยุดรถเลยไม่ติด เราออกจากบ้าน 9 โมงนิดๆ ไปถึงศูนย์ประชุมก่อน 9 ครึ่งด้วยซ้ำ จากนั้นก็ได้เรียนรู้ว่า งานหนังสือเปิดสิบโมง (ตูบอกมันแล้วว่าสิบโมงงงง ฮืออ) แล้วก็..หน้าแพลนารี่ ฮอลล์ ในวันหยุด ตอนก่อนงานหนังสือเปิดเนี่ย --- โฮ่ย ใจนึงก็คิดว่าจะมายืนออทำไมกันตรงนี้ รอให้เปิดก่อนแล้วค่อยทยอยเดินกันเข้าไปก็ได้ หนังสือไม่หายไปไหนหรอกค่า (รู้สึกว่าการเดินไปซื้อชีสไบท์ที่เซเว่นในขณะนั้นยังกะต้องเดินผ่านสมรภูมิหนอน(หนังสือ) - นมบูดโฮ่ยยยย) แต่ก็นั่นล่ะ มองซ้ายมองขวาแถวๆ นั้นแล้วก็พยายามเข้าใจว่ามันคงไม่มีที่ให้ยืนมากนักหรอก (แต่ก็ยังรู้สึกลึกๆ ว่าไม่จริงอยู่ดีล่ะ ขอโฮ่ยอีกรอบ)

สิบโมงนิดๆ ตอนกลับจากเซเว่น ก็ถึงฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง เหล่านกเพนกวินที่พลัดถิ่นบริเวณทางเดินรอบๆ แพลนารี่ ฮอลล์ได้เดินทางย้อนกลับสู่ถิ่นฐาน บ้างก็เป็นนกเพนกวินวัยฝัน นกเพนกวินวันเยาว์ นกเพนกวินช่างคิด นกเพนกวินแนว นกเพนกวินแฟนตาซี นกเพนกวินต่างชาติ นกเพนกวินที่คุณก็รู้ว่าใคร นกเพนกวินถือศีล และนกเพนกวินแต่งเองนะครับ (จำไม่ได้ว่าบูธอะไร แต่เดินผ่านเค้าหลายรอบมาก เสียงนิ้งนิ่ง แล้วก็พูดอยู่แค่ 4 คำ ทั้งโทน ทั้งการเรียงรูปประโยคราวกับอัดเทปมาเปิด ~แต่งเองนะครับ~)

งานหนังสือรอบนี้เราเป็นนกเพนกวินอยู่ไม่กี่พันธุ์ เพราะตั้งใจว่าจะเดินแค่ 3-4 บูธ เนื่องจากไม่อยากเสียตังค์เยอะ บูธแรกที่แวะน่าจะเป็นบลิส ด้วยเหตุผลทางด้านความมั่นคงของชีวิต แวะบูธนี้ยิ่งเช้าเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะยังมีนกเพนกวินอีกมากมายที่ยังมาไม่ถึง อาจจะติดอยู่บนถนน บนเตียง หรือตรงทางเข้าตี๊ดๆ ของศูนย์ประชุม ~ เอาเข้าจริงๆ พอคนเริ่มหนอน เค้าก็ปล่อยให้บางคน (ที่ดูเหมือนจะตัวเปล่าเล่าเปลือย) เดินผ่านประตูที่ไม่ตี๊ดมาอยู่ดี แล้วจะตรวจทำไมน้อ เฮ้อ

บลิส พับลิชชิ่ง เป็นบูธแห่งความเสียดายและความเคยชิน ตามประสาคนที่มีบัตรลด 30% ในมือ มันให้ความรู้สึกประหลาดๆ ถ้าคุณจะไม่ใช่สิทธิ์ให้เต็มที่ หรือเรียกอีกแบบว่าเสียรู้ให้กับการตลาดง่ายๆ นั่นล่ะ เสียเวลาไม่ค่อยมากเนื่องจากมีหนังสือที่วางแผนซื้อมาก่อนอยู่แล้ว (คราวนี้ไม่มีหนังสือเด็กที่อยากได้ออกซักเล่ม นี่เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดสำหรับงานหนังสือคราวนี้) ซื้อไปสิบกว่าเล่ม ของไอ้เม 3-4 เล่ม ที่เหลือของเรา

อะเดย์ ไม่รู้ทำไม รู้สึกว่าอะเดย์เป็นสำนักพิมพ์สีส้มใสๆ สีแบบกลุ่มอากาศเข้มข้น เต็มไปด้วยจินตนาการ ซึ่งเราไม่ได้เสียเงินให้กับมันมากนักเนื่องจากเป็นคนไม่มีจินตนาการ ซื้อหนังสือเล่มใหม่ของนิ้วกลม หนังสือเล่มเก่าของโตมร สุขปรีชา นักเขียนคนที่อยู่ดีๆ เราก็โปรดขึ้นมาซะงั้น แล้วก็หนังสือแมวของคุณ "ต้องการ" เล่มหลังสุดนี้ได้มาแบบไม่ได้ฟลุคมาก เพราะตอนรอจ่ายเงินเราดันหยิบมาพลิกๆ แล้วดันไปเจอหน้าที่คนเขียนเธอแซวแมวตัวเองเวลาทำของตก หลุดหัวเราะออกมาตรงนั้นแล้วก็เสียตังค์ไปแบบไม่ตั้งใจเลยจริงๆ

สำนักพิมพ์วงกลม ไม่เสียอะไรเลย อาจจะเพราะไม่ได้ชอบเที่ยว ก่อนออกจากบูธกระซิบบอกเมเพิ่งว่าไปสอย "เจแปน เจอนั่น เจอนี่ ~ japan journal journey มาจากร้านมือสองแถวอนุสาวรีย์ ไว้เอาของเราไปอ่านก็ได้ แล้วก็เดินจากมาแบบโล่งอก 5555

วินทร์ เลียววารินทร์ ~ เมื่อก่อนชอบวินทร์มาก เดี๋ยวนี้ก็ยังชอบอยู่ แต่ไม่ได้ซื้อ เอ๊ะ แปลว่าอะไร ไม่รู้แฮะ เราชอบวินทร์สมัยทำคอลัมน์ที่จำชื่อไม่ได้แล้วให้กับอะเดย์ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้อ่านทั้งอะเดย์และทั้งวินทร์ เราเริ่มเหมือนคนแก่ๆ หลายคนเดี๋ยวนี้เข้าไปทุกทีล่ะมั้ง ไม่รู้สึกว่าอยากจะอ่านหนังสือที่ให้อะไรมากกว่าความบันเทิงซะอย่างนั้นล่ะ

โอเพ่น คราวนี้ไม่มีงานใหม่ของคุณวรากรณ์ สามโกเศศ กระหยิ่มแล้วว่าคราวนี้ไม่น่าเกินสองพันชัวร์ เพราะหนังสือค่ายนี้แพงดีเลื่อเกิ๋น กระนั้นก็เถอะ สุดท้ายก็สอยหนังสือของโตมร มาอีก 3 เล่มอยู่ดี

ตอนนี้เริ่มปวดส้นเท้าแล้ว ความแก่และความอ้วนไม่เคยปราณีใคร เฮ้อ

ออกจากแพลนารี่เข้าโซนซีสอง ลงบันไดไปด้านล่างแล้วเกือบจะกรี๊ดออกมา นี่ตูตาฝาดเหรอ ~ โอ้วววว บูธวิบูลย์กิจ วิ-บูลย์-กิจจจจจ มาเปิดบูธงานสัปดาห์หนังสือฯ ใครจะเชื่อฟระ ไอ้เมเข้าไปถามหาการ์ตูนสองสามเล่ม เราหมดยุคตามการ์ตูนแล้ว เดินๆ มองหาโคทาโร่ภาคแอล...ไม่ออก คุโรมาตี้ จำไม่ได้ที่บ้านว่ามีเล่มอะไรบ้าง ไว้ค่อยซื้อวันหลังละกัน

เนชั่น ~ ไปถึงก็ถามหาคุโรซากิ กับเค้าซะงั้น คนขายก็น่ารักเหลือใจ ตอบเต็มปากเต็มคำ ไม่รู้ครับ ฮาาาา จากนั้นก็ระลึกชาติได้ว่ามันของสนพ. สยามอินเตอร์คอมิคส์นี่นา โนดาเมะเล่มใหม่ก็ไม่ออก ไม่เสียตังค์ ลั้นลาาา

แวะเข้าแพลนารี่อีกรอบ เดินไปสยามอินเตอร์คอมิคส์ แทบจะเป็นลมตอนเดินผ่านบูธ ณ บ้านวรรณกรรม (ไม่แน่ใจว่าผนึกกำลังกับบูธไหนด้วยหรือเปล่า รู้แต่ว่าคนหนอนมาก กว่าจะหลุดไปได้ก็หงุดหงิดขึ้นมา 2 เซนต์ บูธนี้คนไม่เยอะเท่า ณ บ้านวรรณกรรม ได้คุโรซากิมาลองอ่าน 1 เล่ม

มองนาฬิกา เลยเที่ยงครึ่งแล้ว นางซินต้องกลับไปทำงานฮ่าาา เราตั้งใจจะเดินไปส่งเมที่รถไฟฟ้า แต่อีท่าไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็นั่งอยู่ในร้านสเต๊กตรงตึกคิวเฮาส์กับมันแล้ว งือออ ได้ข่าวว่าจะมังสวิรัติ โหยยย ขอให้คิดซะว่า พอร์คช็อปตรงหน้ามันทำมาจากโปรตีนเกษตรนะฮ้าคุณความตั้งใจที่ไม่มีตัวตนของเด็กหญิงนมบูด - -"

บ่ายโมงกว่า กลับเข้างานหนังสืออีกรอบ แวะไปบูธมติชน สำนักพิมพ์โปรดของข้าพเจ้า และ...ข้าพเจ้าไม่เสียตังค์ซักบาทเนื่องจากสอยมูราคามิเล่มใหม่ไปตั้งแต่หนังสือมันออกใหม่ๆ แล้ว... ขำดี เราไม่ได้อะไรกับบลิสหรอก แต่เสียตังค์ให้บูธนี้เยอะที่สุดทุกครั้ง คงเพราะเค้าเอาหนังสือเอเชียมาแปลเยอะด้วยล่ะมั้ง ส่วนตัวชอบนักเขียนญี่ปุ่นมากที่สุดแล้วตั้งแต่อ่านหนังสือมา รู้สึกว่าหนังสือของคนชาตินี้มันเงียบๆ อ่านแล้วมันไม่โหวกเหวกดี

บูธสุดท้ายที่แวะไปคือนายอินทร์ ไปแบบหมดแรง แถมเจอผู้คนมหาศาลจนไม่มีอากาศหายใจอีกรอบนึง พอคลุกวงในได้ก็เลยคว้าซีรี่ส์ไมรอนเล่มใหม่ของโคเบนแล้วเผ่นแนบไปจ่ายตังค์ทันที

หลังจากนั้นก็แวะเข้าแพลนารี่ฮอลล์อีกรอบเพราะกระต่ายน้อยฝากซื้อหนังสือที่แบรนด์เอจ ซื้อเสร็จก็เลยไปเหล่บูธนานมีนิดๆ + พยายามเดินหาบูธของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ แต่หาไม่เจอ+เหนื่อยด้วยล่ะมั้ง ก็เลยตัดใจกลับบ้านดีกว่า

ถึงบ้านสี่โมงกว่าแน่ะ สรุปว่าเป็นงานหนังสือครั้งที่ไม่ตั้งใจเดินเอาซะมากๆ คงเพราะเหนื่อยสะสมมานานก็เลยรู้สึกเฉื่อยๆ แล้วก็พาลไม่อยากไปซะทุกอย่างละมั้ง แต่งั้นก็เหอะ เบ็ดเสร็จตูก็เดินตั้ง 5 ชั่วโมง ทำไปได้ยังไงน้อ...

สรุปหนังสือที่ได้กลับมา - 18 เล่ม เสียไปประมาณ...เอ่อ...สามพันกว่าบาท - -"




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2550
4 comments
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 0:15:46 น.
Counter : 422 Pageviews.

 

ผมไปงานหนังสือ เมื่อ 21/10/2550

ครั้งนี้เป็นครั้งที่หมดไปกับค่าหนังสือมากที่สุด
(ทำลายสถิติของตัวเองไปเลย)

หมดไป 5200 บาท O_o;

 

โดย: Zeon (iamZEON ) 25 ตุลาคม 2550 0:37:29 น.  

 

ยอดความบอบช้ำจากงานหนังสือปี 2550

ครั้งที่ 1/07 = 4,700.-

ครั้งที่ 2/07 = 3,590.-

รวมค่าหนังสือรายเดือนช่วงไม่มีงานรูดบัตรไป
ตกเดือนละประมาณ 1,000 - 1,500

รวมยอดค่าหนังสือทั้งปี สามารถเดินทางไปเที่ยว
ประเทศเพื่อนบ้านด้วยสายการบินราคาประหยัด
ได้ 1 ทริป

 

โดย: ริมยมนา 25 ตุลาคม 2550 2:10:28 น.  

 

งานครั้งนี้ไมได้ไปอ่ะค่ะ เสียดาย เพราะไม่มีเวลาไปเลย
แต่ปกติก้อจะซื้อหนังสือเดือนละหลายๆ หน ไม่รู้ทำไมเหมือนกันอ่ะค่ะ เข้าร้านหนังสือที่ไหร่เป็นได้หยิบติดไม้ติดมือกลับบ้านสักเล่มสองเล่มซิน๊า.....

 

โดย: แพนด้าเริงระบำ 25 ตุลาคม 2550 9:10:22 น.  

 

ส่วนใหญ่ผมจะหมดเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่เกี่ยงว่าจะจัดงานหรือเปล่า เหอๆ

 

โดย: BaLL182 25 ตุลาคม 2550 19:57:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


an_nonymous
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add an_nonymous's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.