เที่ยว ชิม ริมวังหลัง
01/05/09
หลังจากว้อนท์มานาน ในที่สุดก็ได้ไปเยือน "วังหลัง" กะเค้าซะที โดยทริปนี้ขอไฮโซล่องเรืองริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปละกัน (จริงๆ คือไปไม่ถูก ไปถูกวิธีเดียว เหอๆ) การเดินทางทริปนี้ BTS ลงสะพานตากสิน ต่อด้วยเรือด่วน 18 บาทไปลง "วังหลัง" (ศิริราช ท่าเดียวกัน) อะ ลงเรือแล้วก็เดินตุปัดตุเป่ ไปไม่เป็นละทีนี้ เดินมั่วซั่วกันเลยทีเดียว ไปเจอข้าวคลุกกะปิ บะหมี่หมูแดงราคา 25 บาท น่ากินมาก แต่ไม่ได้ชิมเลยไม่กล้าถ่ายรูปเค้ามา ร้านแรกที่ประเดิมก็น้ำจั๊บเลี้ยง7 บาท ไม่เคยกินเลยปล่อยให้เพื่อนลอง รสชาติก็โอนะ เหมือนน้ำเฉาก๊วยเลย
เป้าหมายหลักของการมาช็อปครั้งนี้คือ "ซูชิ" เห็นเค้าร่ำลือกันหนาหูว่าอร่อยยิ่งนัก ก็เลยลัดเลาะไปเรื่อยๆ แต่ไปได้ต่างหูคริสตัลมาซะก่อน สวยมาก สีฟ้ามันส่องยามสะท้อนแสงแดดจนอดที่จะหยิบมาดูไม่ได้ ขนาดไม่ค่อยแต่งตัวก็ยังได้ต่างหูมาตั้งคู่นึง โอ้ยยยย เวิ่นนานแระ ซูชิจ้า มีบร้าตามหาอยู่!! นั่นแน่ะ ป้ายซูชิเบ้อเริ่มสีแดง เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ ก็ว่าทำไมไม่มีคน ก็เค้าบอกว่าร้านนี้ต้องมีบัตรคิวด้วยนี่นา สรุปว่าเห็นป้ายร้านนั้นแล้วใคร่ให้หันหลังเดินมาอีกด้านโลด เจอป้ายซูชิวังหลังที่คนมุงกันเยอะๆ น่ะ มั่นใจได้ว่ามาถูกที่แล้ว รอบนี้เลยจัดไป 2 ยก หิ้วประทังหิวขึ้นมากินลมชมวิวบนร้านกาแฟริมท่าน้ำ หม่ำไปก็หันมองธรรมศาสตร์ฝั่งตรงข้ามไป
เมนูมาแระ คุณเพื่อนได้ "น้ำฝรั่งทับทิม" แก้วใหญ่ 25 บาท ส่วนตัวเองก็ซัดชุดใหญ่ "ไวท์มอลล์" แก้วใหญ่ ใส่วิปครีม (นึกว่าตัวเองผอมสุดฤทธิ์ บำรุงวิปเข้าปาย 555+) สนนราคาแก้วนี้ก็ 40 บาท พร้อมยำอีก 1 จาน อ้อ...ก่อนจะเดินมาถึงร้านนี้ก็เพิ่งเลี้ยวผิดซอยไปสอย "โกโก้" ร้านป้ากาแฟหาดใหญ่ แก้วละ 15 บาท หน้าตาดูดี แต่มันค่อนข้างจะจืดเกินไปน่ะ สรุปว่าไม่ผ่านอย่างแรง ของเพื่อนชาเย็นไม่รู้เป็นไงมั่ง พอเดินมาอีกนิดก็สอยขนมน่าจะโตเกียวบิ๊กบึ้ม ห่อใส่กรอกชีสชิ้นยาว เห็นเค้าทำแล้วน่ากิน ถึงท้องใส้จะไม่ค่อยเหลือที่ให้เก็บอาหารแต่ก็อดไม่ได้ จัดมา 1 ชิ้น ราคา 10 บาท ยั่วยวนใจเป็นที่สุด (แต่สุดท้ายก็แทบไม่ได้กิน อิ่มซูชิมากๆ) อิ่มหนำกันได้ที่ก็เดินย้อนไปซื้อซูชิฝากที่บ้านบ้าง และแล้วก็เจอร้านขายถุงเท้า โอ้ววว 10 บาท (เป็นโรคแพ้ 10 บาทอย่างแรง) ได้มา 5 คู่หลากสีสันทีเดียวเชียว พอแระของที่กินไม่ได้เนี่ย เห็นเค้าว่า(อีกแล้ว) ขนมปังวังหลังอร่อยมาก ดูจากสภาพผู้คนรายลอบแล้วก็เห็นทีจะจริง จัดมาชิมสักชิ้นสิ ตอนแรกจะเอาสลัดแฮม คนขายบอกหมดต้องรอ ก็เปลี่ยนเป็น "รวมแฮม" คนขายก็บอกคำเดิม หมดต้องรอ สรุปเลยเอาใส้เบสิค "หมูหยอง" มาชิม 1 ชิ้นถ้วน สนนราคาที่ 40 บาทขาดตัว ขอบอกว่าเกือบไม่ได้กินเพราะหิ้วกลับบ้านเผลอแป๊บเดียวหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ขนมปังแบบนุ่มมากกกกก ใส้ก็เยอะแน่นมากๆๆๆๆ คราวหน้าต้องไปสอยมาใหม่ สัญญา และสัญญาว่าจะไม่เอามาแค่อันเดียวแล้วด้วย เฮ้อออ!! (ถอนหายใจเฮือกนึง ร้อนและเหนื่อยเอาการเลย) มาต่อกัน ทริปนี้ยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพไขมัน มามะ นั่งเรือข้ามฟากกันมั๊ยๆ ลงท่าพระจันทร์ จากนั้นก็แวะร้านดังซื้อ "ขนมปังเนย" 20 บาทแสนอร่อย อันนี้ต้องบอกว่าถ่ายรูปไว้ไม่ทันจริงๆ ไม่เห็นแม้แต่ซากถุง และก็น่าเสียดายอีกแล้ว ซื้อมาแค่ 1 ห่อ ถ้ารู้ว่าอร่อยอย่างนี้ดิชั้นจะไม่เอามาแค่หนึ่งให้รมณ์เสียแน่นอน คราวหน้าสัญญา ทั้งอบเนย อบกระเทียมเดี๊ยนจะเหมามิให้เหลือ คราวนี้กระเทียมหมดฟากไว้ก่อน พอก่อนของกิน เหนื่อยนักก็พักบนรถเมล์ เดิน...เดิ๊น...เดินมาเรื่อยๆ มาได้แต่หาทางกลับไม่ถูกซะงั้น ยืนรอรถพักใหญ่ อุ๊ยตายสาย 2 ผ่านมา จำได้ลางๆ ว่าผ่านประตูน้ำ เห็นดังนั้นจึงไม่รอช้าคว้าขา เอ้ย!! แขนคุณเพื่อนวิ่งฉิวไปต่อที่แพลทตินั่ม ณ ที่แห่งนี้ไม่ได้ของกิน แต่สอยนาฬิกามาได้ 6 เรือนถ้วน "ซื้อไปถมที่" ใครๆ ก็ชอบว่าอย่างนี้ แต่ทำไงได้ อดใจไม่ได้นิ ห้ามเห็น ห้ามมอง คงห้ามใจได้(มั้ง) ก่อนกลับ ได้ของเพียบแต่ดันไปลืม ATM ทิ้งไว้ไหนก็ไม่รุ ให้มันได้อย่างนี้สิ โชคดีว่าไม่มีใครเอาไปรูดซะก่อน หายทีแป้วเลยทีเดียวเชียว หมดเรี่ยวหมดแรง ทริปนี้พอก่อน ดูรูปทั้งหมดได้ ณ แห่งหนตำบลเดิม //ammeba.multiply.com/photos/album/43
Free TextEditor
Create Date : 05 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2552 14:22:47 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1475 Pageviews. |
|
|
|