Hot on Red Carpet [Chiang Mai : 25 เมษายน 2552]
วันที่ 25 เมษายน 2552 เชียงใหม่อากาศร้อนเป็นพิเศษ ตื่นเช้ามาตอน 6 โมง ด้วยลมพัดลมที่พาอากาศร้อนๆ มาให้ตั้งแต่เช้า ดีว่าวันนี้ไม่ต้องทำงาน job พิเศษ แต่ก็อยู่บ้านไม่ได้แล้วล่ะ ร้อน จริงๆ สำหรับวันนี้
ที่เกริ่นเรื่องอากาศร้อนๆ เพราะจะนำไปถึงงานแฟชั่นโชว์ Hot on Red Carpet
งานแฟชั่นโชว์ชุดนี้จัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า CentralPlaza Chiangmai Airport ได้จัดขึ้นในวันที่ 25 เมษายน นี้ ในช่วงเวลา 18.30 น. และก็ได้ข้อมูลที่ทางห้างฯ ประชาสัมพันธ์งานแฟชั่นโชว์ชุดนี้ ที่จะมีดารามาเฉิดฉายบนแคทวอร์คพรมแดงสุดเซ็กซี่ นำโดย อ๊อฟ-ชนะพล , พิม-ซอนย่า คูลลิ่ง , ลูกตาล-อาริษา , นุ้ย-เกศริน , รัน-ณัทธมนกาญจน์ และยังพร้อมด้วยเซเลบริตี้ของชาวเชียงใหม่ ที่มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ชุดเสื้อผ้าสวยๆ ให้ชมพร้อมๆ กันไปด้วย
คุณก้อง-ปิยะ เป็นพิธีกรของงานนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ตั้งใจที่จะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเล่าให้อ่านกัน เกี่ยวกับการถ่ายภาพแฟชั่นโชว์ ที่มีโอกาสได้ถ่ายภาพร่วมกับน้าๆ ช่างภาพมือโปรฯ ซึ่งจะว่าไปมีเทคนิคหรือแนวการถ่ายภาพที่อาจจะแตกต่างๆ จากการถ่ายภาพแนวอื่นๆ อยู่บ้าง ลองอ่านตามๆ กันไป จำมาเล่าต่ออีกที
เปิดตัวด้วยหนุ่มอ๊อฟ-ชนะพล ที่งานนี้มีแฟนคลับตามมาร่วมเชียร์ด้วยอยู่หลายคนทีเดียว
การจับจังหวะการถ่ายภาพช่วงการเดินแบบบนแคทวอล์ค สามารถถ่ายภาพได้ 2 ช่วง ช่วงการเดิน และช่วงหยุดบริเวณ marker ที่นางแบบจะเดินมาหยุด post ท่าให้ถ่ายภาพ
เล่าถึงการถ่ายภาพ ณ ตำแหน่งจุด marker นี้ให้ก่อนก็แล้วกัน จุดนี้เป็นจุดหนึ่งที่น่าสนใจในการถ่ายภาพ เพราะนางแบบจะเดินมาหยุดตรงบริเวณนี้ให้ถ่ายภาพได้อย่างสบายๆ ได้ action การ post ท่าของนางแบบสวยๆ ได้เลย
แต่ปัญหาประการหนึ่งก็คือ ณ ตำแหน่งนี้ ส่วนใหญ่จะมีช่างภาพของงาน หรือช่างภาพของสื่อฯ ที่จะได้จุดการยืนถ่ายภาพเป็นฐานที่มั่นก่อนแล้ว อันนี้คงต้องให้เค้าไป เพราะเค้าต้องได้ทำงาน ได้งานในจุดนี้ไป และนี่ก็คือปัญหาที่จะเล่าให้ฟัง คือ เมื่อนางแบบมาถึงจุดนี้ ปกติอาจจะรู้จักช่างภาพของงาน (เพราะได้ตามไปถ่ายภาพกันมาแล้วจากหลังเวทีกันมาแล้ว) ดังนั้นพอนางแบบเดินมาถึงตรงจุดนี้ นางแบบจะให้ eye contact กับช่างภาพของงาน แล้วก็เดินจากไป (บางงานก็จะมีทีมงาน มายืนกำกับและคอยบอกนางแบบให้มองกล้องนี้) ส่วนกล้องอื่นๆ อีกนับสิบ ได้ภาพถ่ายบริเวณนี้แน่นอน แต่พอไม่มีภาพที่นางแบบให้ eye contact มา ภาพเหล่านั้นเกือบเอาไปใช้งานไม่ได้เลย(สำหรับงานที่ช่างภาพเค้าส่งสื่อตีพิมพ์กัน) แต่กับเราๆ ก็ถือว่า ok แล้ว ได้ภาพสวยๆ กับการ post ท่าสวยๆ ของนางแบบ ณ บริเวณนี้
รัน-ณัทธมนกาญจน์
เคยไปยืนถ่ายภาพบริเวณนี้เหมือนกัน แล้วก็ได้ภาพถ่ายมา แต่พอมาดูภาพ ทำไมไม่มีนางแบบคนไหนมองกล้องเราเลยสักภาพ ถ้าเป็นการมองของนางแบบที่มองไปข้างหน้าไกลๆ ก็ยังพอรับได้ แต่จะได้ภาพที่นางแบบเหลือบตามองไปทางกล้องของช่างภาพของงานซะมากกว่า
มาเล่าต่อกับอีกตำแหน่งหนึ่งในการถ่ายภาพแฟชั่นโชว์ คือ ช่วงการเดินบนแคทวอล์ค
ช่วงการเดินบนแคทวอล์คนี้ ได้รับคำแนะนำจากน้าๆ ช่างภาพมือโปรฯ มาประมาณนี้ ต้องถ่ายภาพในจังหวะที่เป็นช่วงของเท้าติดพื้นทั้ง 2 ข้าง (เท้าพร้อม) ไม่มีการยกลอยขึ้นมาข้างใดข้างหนึ่ง ไม่มีการเผยอของส้นเท้า หรือปลายเท้า ซึ่งต้องมีการกะจังหวะการก้าวเดินของนางแบบแต่ละคน และแต่ละคนก็เดินไม่เหมือนกัน จะคล้ายๆ กันบ้างกับนางแบบมืออาชีพ หรือทางงานกำหนดการเดินแบบให้เหมือนๆ กัน
การแกว่งแขนของนางแบบ น้าๆ ช่างภาพมือโปรฯ ก็เคยชี้แนะว่า ให้สังเกตการแกว่งแขนของนางแบบแต่ละคนไว้ ระวังเรื่องภาพถ่ายออกมาแล้วเหลือแขนข้างเดียว แต่ก็ไม่ต้องให้ความสำคัญเรื่องแขนมากนัก เอาเรื่องขาการก้าวเดินไว้ก่อน ส่วนแขนก็มาเลือกจากภาพถ่ายอีกที
สำหรับภาพถ่ายชุดนี้ ไม่ได้นำเอาคำแนะนำของน้าๆ ช่างๆภาพมือโปรฯ มาใช้เลย เดี๋ยวค่อยเฉลยก็แล้วกัน มาถึงอีกจุดหนึ่งที่ต้องจับภาพในการถ่ายภาพแฟชั่นโชว์ ก็คือ สายตาของนางแบบ ถ้าเป็นช่วงการเดินแบบ ส่วนใหญ่นางแบบจะส่งสายตาไปไกลๆ ไม่มองใครเป็นหลักอยู่แล้ว สามารถถ่ายภาพได้เลย แต่อย่าให้ได้ภาพหลับตามาก็แล้วกัน
อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับจังหวะการถ่ายภาพนางแบบ แต่ก็มีส่วนช่วยให้ได้ภาพสวยๆ มา นั่นก็คือ ควรมองหาตำแหน่งของไฟ follow ที่ยิงเข้าหาเวที เข้าหาตัวนางแบบ
เพราะส่วนใหญ่การเดินแบบจะมีเวทีที่ไม่ได้สว่างไสวเหมือนเวทีอื่นๆ ดังนั้นจำเป็นต้องมองหาไฟ follow ไว้ให้ดี แล้วก็ถ่ายภาพตามแสงไฟ follow นี้
ชุดนี้เป็นชุดการเดินแบบของเซเลบริตี้ของชาวเชียงใหม่ ใครเป็นใครลองชมกันดู
ในส่วนของเซเลบริตี้ของเชียงใหม่ชุดนี้ที่จริงก็มีโพยว่ามีใครมาร่วมเดินแบบด้วย แต่ไม่ได้คลุกคลีกับผู้ที่มีชื่อเสียงของชาวเชียงใหม่เลย เอาเป็นว่าขอลงข้อมูลตามโพยที่ได้มาก็แล้วกัน
ตระกูลชื่อดังที่มาร่วมเดินแบบในงานนี้มี อัศวรักษ์, ณ ลำพูน , เศรษฐกร , วีรปรีชาเมธ , ลิ้มจรูญ , บันสิทธิ์ , เพิ่มพัฒนากุล , จันทรมังกร , อังกสิทธิ์
นุ้ย-เกศริน
มาพูดถึงเรื่องที่ไม่ได้นำคำแนะนำของน้าๆ ช่างภาพมือโปรฯ มาใช้เลยก็คืองานเดินแบบแฟชั่นโชว์ปกติจะมีช่างภาพเยอะมากๆ อยู่แล้ว (ไม่เห็นเหมือนช่วงไปถ่ายฟ้อนรำ ที่มีช่างภาพพอๆ กับนางรำบนเวที) งานนี้ก็เช่นกันช่างภาพมากันเยอะจริงๆ แล้วทางผู้จัดก็แจ้งว่างานนี้มีช่างภาพจากกทม.มาหลายสิบคนทีเดียว รวมถึงช่างภาพสื่อฯ จากรายการดาวกระจายอีกด้วย
ประมาณโดยคร่าวๆ งานนี้ช่างภาพน่าจะถึงร้อยชีวิตทีเดียว
เวทีแคทวอล์คของการเดินแบบแฟชั่นโชว์ชุดนี้ จัดรูปแบบเป็นสี่เหลี่ยม รอบลานน้ำพุกลางแจ้งของทางห้างฯ ซึ่งถือว่าดีเหมือนกัน เพราะพอแยกช่างภาพออกไปรอบๆ เวทีแคทวอล์คได้ ซึ่งถ้าเป็นแคทวอล์คทางตรง เดินมาแล้วเดินกลับเหมือนทั่วๆ ไป สงสัยงานนี้ไม่ได้รูปแน่ๆ
งานนี้ได้เดินตามน้าๆ ช่างภาพมือโปรฯ ไป น้าๆ เค้ามาเลือกด้านข้างของหน้าเวที ที่ตอนแรกก็ไม่มีช่างภาพกันเลย แต่บริเวณด้านหน้านี้ไม่มีไฟ follow มีแต่ไฟ spot light 8 ดวงที่ส่องสว่าง ช่วยให้ตำแหน่งนี้สว่างไสว เพียงแต่เมื่อถ่ายภาพแล้วจะเป็นการถ่ายภาพย้อนแสงไฟ spot light เท่านั้น น้าๆ วานให้ไปเป็นแบบเพื่อวัดแสงด้วย แล้วก็ลงความเห็นว่าแสงตรงนี้ดี เพราะถ่ายมาแล้วจะได้แสงริมไลท์ แล้ว fill flash ช่วย หรือ จะไม่ยิงแฟลชช่วย แสงจาก spot light ก็ ok แล้ว
ลูกตาล-อาริษา
และจากตำแหน่งที่มายืนอยู่หน้าเวทีนี้ ณ จุดนี้ ทำให้เหลือการถ่ายภาพเส้นทางเดินบนแคทวอล์คของนางแบบ เหลือเพียง 3-4 เมตรเท่านั้น
ตอนแรกก็ใช้เลนส์ normal ใส่ไว้ เพราะยังไงช่วงทางเดิน 4 เมตร ยังไงก็ถ่ายภาพได้หลายๆ shot กับการก้าวเดินแน่ๆ แต่พอใกล้ๆ งานเริ่ม น้าๆ ก็บอกใช้ tele ดีกว่า เพราะช่างภาพมารุมล้อมบริเวณนี้กันหนาแน่นแล้ว ถ้าใช้ normal เข้าไม่ถึงแน่ๆ และพอเปลี่ยนมาใช้เลนส์ tele จากจุดที่ยืน ที่พอเก็บภาพการก้าวเดินของนางแบบได้เต็มตัว ก็จะได้แค่ช่วง 3-4 ก้าวแรกเท่านั้น ดังนั้นจึงแทบจะไม่มีเวลาจับจังหวะการก้าวเดินของนางแบบเลย ได้แต่จับจังหวะช่วง 3-4 ก้าวเดินของนางแบบนี้เท่านั้น
มาต่อกันอีก 2-3 เรื่อง หลังจากที่เล่าค้างไว้ แต่ก่อนไปเรื่องอื่นๆ ขอย้อนไปตรงตำแหน่งที่นางแบบ หยุด post ท่า ให้ถ่ายภาพ ตามที่เล่าไปนั้นว่า นางแบบอาจจะเดินมาหยุดบริเวณนี้แป๊บเดียว แล้วก็ส่ง eye contact ให้กับกล้องของงาน แล้วก็เดินจากไปนั้น ที่เล่าไปนั้นก็อาจจะไม่ใช่แบบนี้ทุกคน นางแบบที่ใจดีกับช่างภาพ ก็ส่ง eye contact ให้อยู่เสมอๆ แต่เมื่อเทียบกับงานที่ต้องเดินตามจังหวะ ตามเวลาที่กำหนด บ่อยครั้งที่จุดนี้ก็มีเวลาให้ไม่มาก ดังนั้นนางแบบจึงจำเป็นต้องรีบเดินจากไป
เปลี่ยนมาที่เรื่องการตั้งกล้องถ่ายภาพ น้าๆ ช่างภาพสอนไว้ก็อย่าถ่ายภาพให้เบลอ ใช้ speed shutter ให้พอเหมาะกับจังหวะการสับขา ที่ผ่านมาถ้านางแบบเดินช้าๆ speed shutter 1/160 วินาทีก็พอ แต่ถ้ากลัวจะเบลอก็ใช้ 1/200 วินาที และส่วนที่นางแบบเดินสับขาไปมา ก็เริ่มใช้ที่ 1/250 วินาที (เคยเจออยู่ครั้งหนึ่ง 1/250 วินาที เจอนางแบบที่เดินสับขาเร็วมาก 1/250 ยังเอาไม่อยู่เหมือนกัน ตรงนี้ก็ลองดูจากกล้องแล้วปรับเพิ่มหรือลดไปก็แล้วกันครับ)
เล่าเรื่อง speed shutter ไปก่อน เพราะเป็นส่วนสำคัญ กลับมาเรื่อง mode การถ่ายภาพ ก็ควรใช้ mode M ปรับ speed shutter ตามที่ว่าไว้ ISO ปรับไว้ที่ 400 หรือ 800 ตามสภาพแสงของงาน ค่า F ปรับให้ได้แสงที่ balance กันเป็นจุดสุดท้าย ถ้าเลนส์ธรรมดา อาจปรับได้แค่ 4.5 หรือ 5.6 ก็ตั้งตามนี้ แล้วไปเพิ่ม ISO เอา ตรงจุดนี้ โปร.จากกรุงเทพฯ สอนไว้เลยว่า อย่าห่วง ISO ที่ทำให้เกิด noise โปรฯ เปรียบเทียบว่า ถ้ากล้องผมปรับ ISO สูง มี noise และได้ภาพสวย แสงดี กับกล้องของคุณ ห่วงเรื่อง noise แล้วปรับแสงไม่ดี ได้ภาพไม่แจ่ม คุณจะเลือกแบบไหน
เรื่องการใช้แฟลช โปรฯ แนะนำว่าให้ติดไปไว้ก่อน ชาร์ทถ่านให้เต็ม ส่วนจะใช้หรือไม่ใช้ไปตัดสินใจกันในงาน ถึงแม้จะถ่ายตามแสงไฟ follow แล้วก็ตาม บางครั้งได้ภาพเป็นวงตามแสงไฟ follow (ไฟ follow ส่องไม่เต็มตัวนางแบบ) ให้ใช้แสงแฟลชยิง fill flash เพิ่มไป ตรงจุดนี้ตัวเองก็เห็นว่าแล้วแต่สถานการณ์เหมือนกัน ใช้ก็ดี ไม่ใช้ก็ได้ ถ้าแสงในงานแจ่มแล้ว
การเลือกซื้อแฟลช ถ้าตัดใจที่จะมาถ่ายภาพงานแฟชั่นโชว์แบบนี้ คำถามหนึ่งที่ไปเลือกซื้อแฟลช ระหว่างแฟลชตัวราคาถูก กับตัวราคาแพง โดยทั่วๆไป ก็จะได้รับคำตอบว่าใช้แฟลชถูกๆ ก็ได้แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องไปถ่ายภาพอะไรที่ต้องการยิงแฟลชถี่ๆ เลยสักครั้ง
แต่การนำแฟลชมาใช้ถ่ายภาพแฟชั่นโชว์ จำเป็นต้องการใช้ยิงแฟลชถี่ๆ ในช่วงที่เราต้องการถ่ายรัว จับจังหวะ จับ step การเดิน ดังนั้นแฟลชที่ราคาแพงกว่า และสามารถถ่ายภาพพร้อมยิงแฟลชได้หลายๆ ครั้ง ก็ดีกว่า แฟลชหัวกล้องก็ยังไม่เหมาะที่จะถ่ายภาพที่ต้องยิงแฟลชรัวๆ แบบนี้ เพราะเมื่อถ่ายภาพไปสักพัก กล้องจะเริ่มประมวลผลช้าลง ต้องหยุดรอให้กล้องพร้อมถ่ายในอีกหลายๆ วินาทีถัดไป ซึ่งตอนนั้นนางแบบคนสำคัญที่จะถ่ายภาพอาจเดินเฉิดฉายผ่านหน้าผ่านตาไปแล้วล่ะ
มาถ่ายภาพในงานนี้ ก็มีช่างภาพคนอื่นๆ มาถามโปรฯ แล้วได้นั่งฟังอยู่ด้วย วันนี้ผมเอาเลนส์มือหมุนมาถ่ายภาพ จับภาพนางแบบไม่ทันสักภาพ
ก่อนจะเล่าเรื่องนี้ เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังก่อนดีกว่า เริ่มแรกเลยที่ซื้อกล้องใช้ ได้เลือก Fuji 6500FD แล้วก็เริ่มหัดถ่ายภาพด้วยตัวเอง แล้วก็แอบมายืนดูน้าๆ ถ่ายภาพตามงาน events นี้อยู่เสมอๆ พอคุ้นหน้ากับน้าๆ บางคน ก็เดินเข้าไปคุยด้วย และพอเจองานแฟชั่นโชว์ครั้งแรกก็ตามไปถ่ายด้วย แต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามอะไรเลย ยืนถ่ายภาพไป โดนเบียดไปตรงโน้นที ตรงนี้ทีบ้าง ก็ไม่เป็นไร
แต่ที่ไม่พอใจเลยก็คือ ทำไมกดชัตเตอร์ แล้วได้แต่บางส่วนของตัวนางแบบกลับมา (การประมวลผลของกล้องทำให้การโฟกัสช้า กดชัตเตอร์ได้ช้าไปด้วย) หลังจากงานนั้น ก็กลับไปถามน้าๆ เค้าอีกครั้งเมื่อเจอกัน ถึงได้รู้ว่ากล้องตัวนี้ไม่เหมาะกับที่จะมาถ่ายภาพนางแบบเดินแฟชั่นโชว์เลย แล้วจากนั้นก็มองหากล้อง DSLR ที่มาแทนที่กล้องฟูจิตัวนี้
กลับมาที่คำถามของช่างภาพคนนั้น ในการใช้กล้องมือหมุน ปรับโฟกัสในการถ่ายภาพการเดินแบบ คงน่าจะยากที่จะปรับได้ทัน ถึงปรับได้ทันก็น่าจะได้ภาพแค่ shot เดียว ถ้านำกล้องตัวนี้ไปรอถ่ายภาพในจุดที่นางแบบมาหยุด post ท่าให้ถ่ายภาพยังดูน่าจะดีกว่า
พอเริ่มใช้กล้อง DSLR และลองฝึกถ่ายภาพตามที่น้าๆ เค้าสอน เช่น ในการวางเท้าให้เท้าพร้อมกัน เคยลองถ่ายแบบรัวๆ 6-8 ภาพต่อวินาที ในการรัวๆ แบบนี้ ถึงจะเลือกภาพถ่ายการวางเท้าที่ได้เท้าพร้อมๆ กันมา
ลืมเล่าให้ฟังเรื่องการเข้างานแฟชั่นโชว์ ซึ่งถือว่าเป็นด่านแรก และน่าจะเป็นเรื่องยากๆ ของใครหลายคน รวมถึงตัวผมเองด้วย เพราะถ้าไม่ได้คลุกคลีกับเรื่องความงาม ชุดเสื้อผ้า บูติค เครื่องสำอางค์แล้ว คงไม่มีโอกาสเลยที่จะได้เข้างานไปชม หรือไปถ่ายภาพได้ เพราะเดี๋ยวนี้แต่ละงานมักจะต้องลงทะเบียนจากบัตรเชิญของผู้จัดงานในแต่ละฝ่าย
การจัดงานที่กรุงเทพ กับ ที่เชียงใหม่ก็ยังแตกต่างกันมากพอสมควร ที่เชียงใหม่ยังพอให้ผู้ชมทั่วไปได้ยืนชมกันได้โดยรอบ แต่ก็มีแบบที่ต้องลงทะเบียนจากบัตรเชิญ ส่วนที่กรุงเทพ เท่าที่เห็นจะเป็นรูปแบบชัดเจนมากขึ้น มีฉากกั้นเวทีล้อมโดยรอบ คนทั่วไปอาจจะไม่ได้เห็น ไม่ได้ชม และคงยังต้องใช้บัตรเชิญเพื่อลงทะเบียนเข้างาน
เคยมีโอกาสได้ไปช่วงที่ทางกรุงเทพจัดงาน Fashion Weeks 6-8 เวที ตั้งแต่หน้าพารากอน จนไปถึงหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด แต่ละเวทีก็ปิดกั้นมิดชิดโดยรอบ ลองขอเข้างานไปถ่ายรูปเหมือนกัน มีแต่คำถามได้รับบัตรเชิญไหมครับ/คะ ถ้าไม่มีบัตรเชิญเข้างานไม่ได้ครับ/คะ เรียกว่าอุตส่าห์เดินไปเยี่ยมๆ มองๆ ทุกเวที ไม่สามารถเข้าได้สักเวที (อันนี้ก็ไม่ว่ากันล่ะ รูปแบบเค้าจัดมาแบบนี้)
เล่าถึงขั้นตอนต่อมา หากเข้างานได้ และก็ประมาณว่าเราเข้ามาได้แบบมือสมัครเล่น และอยากถ่ายภาพแฟชั่นโชว์แบบนี้ ก็ไปเล็งๆ ตำแหน่งของช่างภาพที่เค้ายืนรอถ่ายภาพกันในตำแหน่งที่ทางผู้จัดจัดไว้ให้ ด้านหน้าสุดอาจมีกล้องวิดีโอที่รอบันทึกพร้อมทีมช่างถือไฟ หรือช่างภาพสื่อ ช่างภาพของงาน ตรงนี้ต้องปล่อยให้เค้า ให้พื้นที่เค้าไว้ อย่าไปเกะกะเค้าเป็นอันขาด พยายามยืนถ่ายภาพที่ไม่บังทางกล้องใดกล้องหนึ่ง ถึงตรงนี้ก็คงไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีมากนัก แต่มีที่ยืนถ่ายภาพในงานนี้ได้ก็เอาแล้วล่ะ
ช่วงรอถ่ายภาพถ้ามีเวลายืนดูช่างภาพของงานเค้าทำงาน ก็เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จากเค้าไปได้ ถ้าช่างภาพของงานเค้าไม่ใช้แฟลช เราก็ต้องไม่ใช้แฟลชตามเค้าไปด้วย อันนี้เรื่องใหญ่ เค้าวัดแสงของเค้าดีอยู่แล้ว ถ้าเราบังเอิญไปถ่ายก่อนเค้า ยิงแฟลชไปช่วงที่เค้ากดชัตเตอร์พอดี ภาพของเค้าจะ over ทันที คราวนี้ล่ะมีวีนใส่แน่ๆ
ตรงนี้อาจจะเป็นเรื่องยากๆ ที่ต้องทำใจหน่อย แต่ต้องให้เค้า เค้ามาทำงาน เค้าต้องได้งาน เค้าต้องได้รูป ส่วนเราไปถ่ายแบบมือสมัครเล่น อุปกรณ์ก็ไม่ได้วิเศษอะไรเท่าเค้า แต่ถ้าอยากถ่ายภาพและเข้ามาในงานแบบนี้ คงต้องระวังเรื่องนี้ไว้ให้ดี อย่าไปกระทบกระทั่งกันเลย เพราะการถ่ายภาพงานแบบนี้ มันเป็นเสี้ยววินาที ผ่านแล้วผ่านเลย จะให้มาเดินใหม่ ถ่ายภาพใหม่แก้ตัวก็ไม่ได้ ยังไงก็ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพ และไม่ทำให้ช่างภาพของงานเค้าเดือดร้อนเป็นอันใช้ได้ล่ะ
ด้านหน้าเวทีจะมีสระว่ายน้ำขนาดเล็ก เตรียมไว้ให้ 2 สาว มาลงน้ำ ดับความร้อน
ช่วงที่มาถ่ายภาพตำแหน่งนี้ ก็เจอสถานการณ์ การเตรียมความพร้อมของตัวเองไม่ดี
ก่อนเริ่มการถ่ายภาพงานแฟชั่นโชว์ชุดนี้ ก็เช็ค memory แล้ว เหลืออยู่ 3 gb และก็ประมาณตัวเองว่างานนี้คงถ่ายภาพได้น้อย น่าจะได้คนละ 2-3 shot พอเริ่มถ่ายภาพจริงๆ ก็ประมาณนั้น ไม่สามารถถ่ายรัวๆ ได้เลย ไล่เก็บทีละ shot - 2 shot ก็ประมาณแล้วว่า 3 GB น่าจะพอ
แต่เอาเข้าจริง พอช่วงที่ 2 สาวมาลงน้ำ เจอ full memory ไปแล้ว ช่วงนั้นไม่สามารถหยิบ card ใหม่มาเปลี่ยนได้แล้ว เพราะหลงไปอยู่ในกลุ่มคนดูที่มาออกันอยู่ด้านข้างนี้ ส่วนช่างภาพก็ไปรุมกันอยู่ด้านหน้าเวที เลยต้องมาเลือกลบบางภาพออกไปมา
พอพิธีกร บอกว่าตอนนี้ไฮไลท์ของงานมาแล้ว-ซอนย่า คูลลิ่ง ช่วงนี้เลยได้มีเวลาเปลี่ยน card ใหม่ แต่ก็ไม่สามารถย้ายสถานที่ออกไปด้านหน้าเวที ที่ช่างภาพรายล้อมเต็มไปหมดแล้ว เลยปักหลักถ่ายภาพจากด้านข้างเวทีในตำแหน่งนี้จนจบ มุมของภาพเลยอาจจะไม่สวยเท่าที่ควรนะครับ
ขอขอบคุณเจ้าของงาน ทีมงานที่จัดการเดินแบบแฟชั่นโชว์งานนี้ให้ชาวเชียงใหม่ได้ชมกัน
ปิดท้ายด้วย 2 ภาพนี้ก็แล้วกัน
ขอขอบคุณนายแบบ และนางแบบ ทุกๆ ท่าน รวมถึงเซเลบริตี้ที่ได้นำภาพมาลงไว้ใน blog ชุดนี้ด้วย ขอบคุณทุกๆ ท่านเช่นเคยครับที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้
Create Date : 26 เมษายน 2552 |
|
22 comments |
Last Update : 28 เมษายน 2552 16:44:17 น. |
Counter : 5482 Pageviews. |
|
|
|