เพราะว่าฉันอ้วน-- "Something is always beautiful in my memory... from now on--- Like You"
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
7 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
อกหักเมื่อหลักสี่ ภาคต่อ

มาต่อค่ะ วันหยุดมีเวลาเขียนค่ะ

เราตกลงคบกันในฐานะแฟนจริง ๆ จัง ๆ แต่เอาเข้าจริง ๆ มันก็ยังไม่เต็มร้อย เพราะไม่มีใครรู้เรื่องของเราเลย เรารู้กันแค่สองคน เก็บความรักไว้ในใจอย่างเงียบ ๆ

เดือน ต.ค. ปี 2550 พี่เขากลับมาอ่าวนาง กระบี่ เริ่มต้นชีวิตอีกครั้งโดยการหางานทำ ออกรถมอเตอร์ไซด์มือสองโดยที่ป้าช่วยเหลือเรื่องเงินดาวน์ ซื้อของใช้ส่วนตัว พี่เขาอาศัยนอนบ้านคนรู้จักกัน โดยที่ป้าไม่เคยไปเห็นไปรับรู้ว่าอยู่ส่วนไหน เราเจอกันในเมือง เงินทองก็ไม่มีมากมายอะไร

ครั้งนั้นป้ารับรู้ถึงการเริ่มต้นที่จะมีชีวิตคู่ หวังถึงวันข้างหน้าที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในเวลาต่อมา พี่เขาบอกว่าขอเวลาทำงานเก็บเงินเพื่อวันข้างหน้า จะสร้างบ้านบนที่ดินที่บ้าน (ขออนุญาตเอ่ยสถานที่น่ะค่ะ อำเภอขุนหาร จังหวัดศรีสะเกษ) แก่เฒ่าจะอยู่ด้วยกัน (ป้าเป็นคนใต้แท้ ๆ แต่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองค่ะ มีแต่แม่ที่อาศัยญาติอยู่ที่อำเภอหนึ่งในกระบี่) พี่เขาพาป้าไปไหว้พระที่วัดถ้ำเสือวัดดังในกระบี่ บอกว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับเรา

ตอนนั้นป้ามีความสุขมาก มีกำลังใจในการต่อสู้และรอคอย พี่เขาเริ่มจากงานขับรถกับคนรู้จัก เงินน้อยแต่สบายใจ ป้าอยากให้เขาทำงานโรงแรมหรืองานประจำที่มั่นคงมากกว่า แม้เงินเดือนจะน้อยแต่ก็มั่นคง รายได้มีแน่นอน แต่เนื่องจากพี่เขาเป็นคนไม่ชอบระบบที่มันบังคับอย่างนั้น อยากทำงานที่สบายใจ งานหนักไม่ค่อยเป็นเวลา รับส่งลูกค้าวันละหลาย ๆ รอบช่วง high season ไม่ค่อยมีเวลาที่จะเจอกัน ป้าก็ยังทำงานที่ภูเก็ต คิดอยากจะมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยโดยการหางานที่กระบี่ มันก็ลำบาก เพราะอายุมากเกินที่จะเริ่มต้นงานใหม่ คิดว่าเก็บเงินประมาณห้าปีน่าจะโอเค ถึงจะอายุสี่สิบกว่าก็ไม่น่าจะสายสำหรับชีวิตคู่

กลายเป็นว่ารายได้ของพี่เขาแทบจะไม่เห็น ซึ่งป้าก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จอย่างไร เพราะเขาบอกว่าค่าเช่าบ้านที่เขาแชร์กันเช่ากับคนรู้จักคนละครี่ง ค่าผ่อนรถ ก็แทบไม่เหลือ แถมลูก ๆ ก็ขอค่าเทอม ค่าอะไรปาถะ แม่ขอค่าถมที่ ค่าผ่อนแบงค์ ป้าพอจะหาหรือหยิบยืมมาได้ก็ช่วยเหลือกันไป โดยคิดว่า เมื่อเราตกลงปลงใจกับเขาแล้ว เราน่าจะสู้ด้วยกัน ช่วยเหลือกัน เขาคงไม่ไปไหนหรือมีใครอีกแล้ว เพราะพี่เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้และเสียหายกับเรื่องแบบนั้น แต่ป้าก็มีคิดบ้างเพราะป้าไม่ใช่คนสวยหรือน่ามองอะไรเลย ทั้งอ้วน เตี้ย ดำ สารพัดของความขี้เหร่ มีดีตรงที่มั่นใจว่าตัวเองฉลาด มีความคิด ความจำดี เอาใจใส่คนที่ป้ารักอย่างดี

พี่เขาบอกเสมอว่า เขาจะหาคนอื่นที่สวย รวยกว่าป้าก็ได้ แต่มันไม่ใช่ และเขาก็ไม่ทำอย่างนั้น เพราะป้ามีดีที่ความดี ถึงจะชอบน้อยใจ ใจน้อย ขี้งอน แต่เขาก็เข้าใจว่าจริงแล้วป้าเป็นคนอย่างไร.... ระยะเวลาที่เรารู้จักและมีใจให้กันสิบกว่าปีมันคงจะเพียงพอที่ป้าจะมั่นใจในตัวเขา

เราเจอกันบ้าง 2-3 เดือนครั้ง ๆ ละ 1 คืน เนื่องจากงานของพี่เขาที่ไม่เป็นเวลา เราอาจจะมีอะไรกัน แต่มันยังไม่ถึงขั้นนั้น เป็นเพราะป้าเองที่ไม่กล้าที่จะให้ถึงขั้นนั้น ซึ่งเขาก็โอเค เขาบอกว่า อยู่ด้วยกันแบบนั้น ถ้าเขาจะบังคับ ป้าก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ทำ .... นี่คืออีกหนึ่งความ "ดี" ที่ป้าคิดว่า พี่เขามีให้ และเลือกที่จะรอ เมื่อป้าบอกเล่น ๆ ว่า ให้เรามีเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าหนึ่งคืนก่อนซิ รอไปเที่ยวปายกันดีกว่า ไปฮันนีมูนกัน

เพราะเราไม่เคยได้ไปไหนด้วยกัน ไม่เคยได้ไปเที่ยวมากกว่าไปเดินห้าง กินข้าว มันเป็นเพราะเวลาป้าไปหาพี่เขาที่กระบี่ ป้ามักจะกลัวญาติของป้าเองเห็น และมันต้องเป็นเรื่องใหญ่ถ้าแม่ของป้ารู้ หลาน ๆ คงคิดว่า อะไรหว่า แก่กันปูนนี้แล้ว ยังจะกลัวแม่รู้อีก ป้าขอบอกเลยว่า ป้าอยากให้แม่รับรู้อย่างถูกต้อง ซึ่งพี่เขาบอกว่า ให้เขาทำงานสักพักแล้วค่อยไปทำความรู้จักกับแม่ของป้า แต่เขาก็เคยเห็นน่ะ เพราะเขาเคยไปหาป้าตอนที่ป้าพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลกระบี่ แต่แม่ของป้าอายุมากแล้ว ก็เลยไม่อยากให้ไม่สบายใจ

เรื่องระหว่างเราดำเนินไปอย่างนี้ ป้าคิดว่าป้ามีความสุขและรอคอย ซึ่งป้าเริ่มคิดว่ามันน่าจะมากกว่าห้าปีที่วางไว้แล้ว เพราะป้าไม่มีเงินเก็บเลย ซึ่งปกติป้าก็ไม่มีอยู่แล้ว หมดไปกับการไปเที่ยวกทม. เวลาพักร้อนของแต่ละปี ซึ่งป้าชอบมากที่จะได้ไปเที่ยว แต่ก็ไปได้ปีละครั้ง ความสุขครั้งใหม่กำลังรอป้าอยู่เมื่อป้าจองตั๋วโปร ฯ 0 บาท ไปเชียงใหม่ เพื่อจะต่อไปปายกับพี่เขา จองตั๋วข้ามปีตามสไตล์สาวกหางแดง กำหนดที่เดือน ก.ย. ปี 2552 ป้าย้ำกับพี่เขาตลอดว่าต้องไปให้ได้น่ะ

ป้าเริ่มหาข้อมูลการไปปาย หาโรงแรมทั้งที่เชียงใหม่ ปาย กทม. ตั๋วไปกลับสองคนถูกแสนถูก หาโปรฯ ที่พัก โดยได้รับการเอื้อเฟื้อ voucher expedia 20 P จากเพื่อน ๆ น้อง ๆ ห้องบลู จ่ายค่าห้องเชียงใหม่แค่สามร้อยกว่าบาทกับโรงแรมอโมรา ท่าแพ ใกล้ถนนคนเดินวันอาทิตย์ ค่าห้องที่กทม. จ่ายเพิ่มแค่ไม่ถึงร้อยกับค่าห้องที่ Royal View Rangnam ใกล้อนุสาวรีย์เพื่อสะดวกต่อการเดินทางไปสุวรรณภูมิ ติดต่อเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่ทำ guest house ที่ปาย เพื่อนถามว่าพาหนุ่มมาละซิ

ป้าวางแผนและเตรียมพร้อมทุกอย่าง โดยประหยัดงบส่วนนี้ไปมาก เพราะรู้ดีว่าถึงเวลาไปจริง ๆ มีเงินแค่ไม่ถึงหมื่นก็คงไม่มีปัญหา อยากจะไปใช้ชีวิตด้วยกันสองคนอย่างจริงจังกับเวลาห้าวันตามกำหนดการ

แต่แล้วลางก็มีบอก หลังจากที่เราเจอกันครั้งนั้น (ซึ่งมันเป็นครั้งสุดท้ายที่ป้าไม่คิดมาก่อน) ป้าพาแม่ไปลอกต้อกระจกที่กระบี่เมื่อเดือน ส.ค. เราอยู่ด้วยกันหนึ่งคืน และป้าบอกว่าเดือนหน้าเราจะไปปายกันแล้ว อย่าลืมละ ห้ามเบี้ยวเด็ดขาด ณ ตอนนั้นแล้ว ป้าก็คิดว่าไม่น่าจะเกิดอะไรแล้ว

ประมาณกลางเดือน พี่เขาบอกว่าญาติเสียต้องกลับบ้าน ป้าเริ่มใจไม่ดี ถามว่าจะได้ไปปายมั๊ย พี่เขาบอกแบบไม่รู้ ป้าก็คิดว่าเสร็จงานแล้วพี่เขาก็คงกลับ หรือถ้าติดธุระทางบ้านอย่างอื่น เราไปเจอกันที่สุวรรณภูมิก็ได้ เพื่อต่อเครื่องไปเชียงใหม่กัน แต่กลายเป็นว่า พี่เขาติดต่อกลับมาว่าไปทำงานที่กันทรลักษ์เพื่อหาเงินค่ารถกลับกระบี่ (ป้าก็คิดในใจว่า ปกติเขาขอค่ารถจากป้าได้) พี่เขาว่าแม่ไม่ค่อยสบายด้วย จะอยู่สักพักแล้วจะกลับมา

เมื่อใกล้กำหนดไปปาย ป้าก็เร่งถามพี่เขาเท่าที่จะติดต่อกันได้ เพราะพี่เขาบอกว่าสัญญาณไม่มี อยู่แถวชายแดน บางทีต้องพาลูกค้าไปป่าไปเขา เข้าเขตเขมร ตอนนั้นเขาพูดแบบเครียดกับชีวิตมาก แบบแม่กำลังแย่ อาจตายได้ถ้าไม่มีเงินซื้อยา คงไม่ได้ไปปายแล้ว ป้าก็ว่าทำไมมันแย่ขนาดนั้น พี่เขาคงไม่เอาชีวิตแม่มาพูดเล่นหรอกน่ะ แต่ก็ยังปลอบใจตัวเองว่ายังมีเวลา ป้าบอกว่าคงเข้าใจน่ะว่าป้าตั้งใจและรอคอยวันนี้มานานแค่ไหน เขาบอกว่าเข้าใจแต่จะให้ทำอย่างไร

ก่อนหน้าที่จะถึงวันเดินทาง พี่เขาโทรฯ มาบอกว่าต้องเข้าเขมรหนึ่งอาทิตย์ซึ่งตรงกำหนดที่จะไปกันพอดี และเขาก็ไปไม่ได้แล้ว ขนาดป้าบอกว่า ป้าจะรอถึงวันสุดท้าย ให้เขามาหาป้าที่สุวรรณภูมิ ไม่ต้องมีเงินมาก็ได้ ขอให้เอาตัวมา แต่ก็ไม่สำเร็จ ป้าเสียใจมาก ร้องไห้ไปหลายยก ขอร้องแต่เขาก็ตอบอย่างเครียดมากว่าป้าไม่เข้าใจเขาบ้าง ป้ามานั่งคิดว่า ป้าจะไปดีมั๊ย คนเดียว ไหน ๆ ก็จ่ายค่าห้องอะไรไปแล้ว เพื่อนรอบข้างงงกันใหญ่เมื่อป้าบอกว่า ไม่ได้ไปปายแล้ว แต่อาจจะไปแค่เชียงใหม่ ในใจป้าคิดว่า ป้าคงไม่ไปปายกับใครหรอก ถ้าไม่ได้ไปกับเขา

ป้าไปเชียงใหม่คนเดียวแบบเหงา ๆ เศร้า ๆ ณ เวลานั้น ถึงมีใครไปด้วยมันก็ไม่ใช่ คนที่เราอยากไปด้วยมีคนเดียวเท่านั้น ป้าไปแบบไม่มีโปรแกรมอะไร เมื่อโปรแกรมที่วางไว้มันล้มเหลว นอนเชียงใหม่สองคืน กลับมานอนกทม. อีกสองคืน ๆ แรกที่มาถึงกทม. พี่เขาโทรฯ มาหา บอกว่าออกจากเขมรและจะกลับไปอีก แล้วค่อยติดต่อมา

ตอนนั้นป้าเริ่มดีขึ้น ความรักทำให้ป้าคิดว่า รอไว้ปีหน้าก็ได้ เราคงได้ไปสักครั้ง ปีหน้า ปีไหน ในเมื่อเรามีกัน เราต้องได้ไปด้วยกันสักวัน

พี่เขาหายไปประมาณสองอาทิตย์ ป้าเริ่มเป็นห่วง ๆ ความปลอดภัย เพราะป้าวางใจเขาตลอด พอย่างเข้าอาทิตย์ที่สามที่หายไป (ตั้งแต่คบกันเขาไม่เคยหายไปเกินอาทิตย์) เขาติดต่อมาว่าโทรศัพท์ตกน้ำ ใช้การไม่ได้ ตอนนี้เอามือถือเก่า ๆ ติด ๆ ดับ ๆ มาใช้ ป้ายังบอกว่า เออ รอถูกหวยน่ะป้าจะซื้อให้ใหม่ (ขอบอกก่อนว่าเขาค่อนข้างจะโอเคกับเรื่องมือถือมือสอง ไม่ชอบของใหม่แต่จะซื้อมือสอง และดูของเป็น ที่ป้าใช้อยู่ทุกวันนี้ก็มือสอง)

เราห่างกันพัก ๆ พี่เขาบอกว่าถ้าไปทำงานจะไม่มีสัญญาณ จนวันหนึ่งเขาบอกว่ากลับมาอยู่บ้านแล้วที่ขุนหาร รอดูอะไรสักพักอาจจะกลับมา ป้าถามว่าอะไรนักหนา ปกติเขาจะอยู่บ้านไม่ได้ แต่ตอนนี้อ้างเรื่องแม่ เขาจะชอบขับรถ ทำงานอะไรก็ไม่ชอบเหมือนขับรถ ป้ายังเคยคิดว่า ถ้ามีเงินหรือพี่เขามั่นคงกว่านี้ ไม่มีปัญหาเรื่องทางบ้าน ป้าคงออกรถมาวิ่งร่วมพวกบริษัททัวร์กับเขาแล้ว

ขอโทษน่ะค่ะที่อาจจะดูเหมือนสาธยายมากไป แต่อยากระบายเป็นเรื่องราวค่ะ อยากปูรายละเอียดเพื่อว่าเพื่อน ๆ หลาน ๆ จะช่วยคิดป้าได้

สักพักค่ะ จะกลับมาเขียนภาคจบค่ะ




Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 17:25:25 น. 0 comments
Counter : 214 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

2you_drunken
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add 2you_drunken's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.