สวัสดีค่ะ 

เหมือนทุกอย่างของเรา เป็นอะไรที่ใหม่มากกับ Bloggang

ทั้งๆ ที่ หากย้อนไป 10 ปี ก่อน สมัยที่ยังไม่มี facebook 

Blog นิแหละ เชื่อว่าวัยรุ่นทุกคนต้องมี และเราเชื่อว่า

ทักษะการเขียน และแรงบันดานใจ ส่วนใหญ่ ก็มาจากที่เราเขียนนั้นแหละ

เข้าเรื่องเถอะ สำหรับทุนรัฐบาลเกาหลี

Korea Government Scholarship Program

(KGSP)

ที่เพิ่งประกาศรอบแรก สดๆ ร้อนๆ ของวันที่ 11/04/2016

ของเรา สมัครผ่านทางมหาวิทยาลัย 

ซึ่งผล คือ " ไม่ผ่าน"

คือทุนให้เปล่าชนิดหนึ่ง ที่รวมค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเทอม ค่าเดินทาง

และค่าเรียนภาษาเกาหลี 

โดยให้เรียนภาษา 1 ปีเต็ม และ ก็เข้าหลักสูตรที่สมัครไป

โดยโท ก็2 ปี เอกก็ 3 ปี

ส่วนเกรด ก็ 2.64 ขึ้น สมัครได้หมด สาขาวิชาไหนก็ได้ และที่สำคัญมหาลัยเยอะมาก

เป็นขั้นตอนที่ลำบากที่สุด วิ่งรถไปมา และที่สำคัญเสียเงินเยอะ

ผู้สมัคร ต้องมีเงินขั้นต่ำ 2,000 สำหรับการเตรียมเอกสาร

สำหรับเรา เรามีค่าสอบ โทอิก 1,500 บาท

ค่าส่งเอกสาร 1,300 บาท 

ค่าขอเอกสารนู๊นนี่นั้น 100 บาท 

และเนื่องจากเราไม่ไปรับรองเอกสารที่กงศุล ดังนั้นเราจึงประหยัดไป ราวๆ 400 บาท ต่อ 1 ชุด

(สำหรับเอกสาร 1 ชุด และ ขอการรับรองแบบไม่รีบ ถ้ารีบก็ อีกเท่านึง ทั้งนี้ เป็นการแปลเองนะคะ)

การมีผลสอบเป็น Advantage ถึงในใบสมัครจะเป็น optional แต่ควรมีค่ะ

เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องไปสอบ แต่ระดับคะแนนสอบไม่ได้เป็นสิ่งที่กำหนดว่าจะผ่านหรือไม่

ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่า ต้องได้เท่าไหร่ และการสอบชนิดใดดีกว่า

เพราะทางมหาลัย รับทั้ง TOEIC TOEFL IELTS หรือ แม้แต่กระทั่ง TOPIK ก็เถอะ

เพราะฉะนั้น ใครอยากสมัครทุนนี้ รีบไปสอบเอาคะแนนมาเก็บไว้กับตัวซะนะ

เท่าที่หาคำตอบมาได้นะ -*-

มันคือการรับรองเอกสารว่าเป็นเอกสารที่ถูกต้อง คล้ายๆกับการรับรองสำเนาถูกต้องในประเทศไทย

รวมถึงการลงชื่อเพื่อเป็นพยานในเอกสารบางอย่างด้วย โดยส่วนมากจะในไปใช้ยังต่างประเทศ

หรือ สถานฑูตต่างประเทศในไทย

เท่าที่อ่านเจอ และแพร่หลายมากคือ กงศุล กระทรวงต่างประเทศ ของเรานี้แหละ

ที่ทำ และมีอีกส่วนหนึ่งคือ พวกทนายที่ได้รับอนุญาต ซึ่งก็มีหลายสำนัก

ซึ่่งเหล่านี้ล้วนแต่มีค่าบริการทั้งสิ้น 

ซึ่งไม่ค่อยเป็น มิตรกับกระเป๋าสตางค์ 

ใครแปลเองได้ แปลเองเถอะค่ะ เพราะทาง กงศุลเค้ามีแบบฟอร์มให้

ลองหาดู ไม่ยาก แต่ถ้าไม่มีเวลา ก็จ้างค่ะมีหลายเจ้า ลองติดต่อดู

เราไม่ได้ให้ กงศุลประทับตรา แค่เซ็นเอง (เลยไม่ผ่านมั้ง) 

พวกนี้ก็มีความสำคัญค่ะ มีเทคนิกการเขียนมากมายในอินเตอร์เน็ท หาแบบถูกใจ แล้วลองทำตามดู

อันนี้แล้วแต่เทคนิก ใครมีญาติมิตรเป็นชาวต่างชาติก็เอาเลยค่ะ ให้ตรวจให้หน่อย

ส่วนตัวใช้ add-on ของ word ชื่อ Grammarly โอเคดีเหมือนกัน 

มันจะตรวจ ไวยากรณ์ คำศัพท์ ให้เรา ทำให้เราสบายใจได้ในระดับนึง

ใครใคร่ส่งผ่าน ไปรษณีย์ไทยก็ส่งค่ะ ใครใคร่ส่งกับเจ้าอื่นก็ส่งค่ะ

เพียงแต่คำนวนวันที่เอกสารถึงประเทศเกาหลีด้วย แนะนำว่าให้ส่งก่อนหมดเขต สัก 2 วัน

ทำเอกสาร เรียงหน้าให้เรียบร้อย 

ค่าส่ง เราส่งกับ DHL แบบด่วน ราคาอยู่ที่ 1,300 บาทกว่าๆ (มีบัตรทรูลดได้อีก 100) 

จากนั้นก็รอ.....รอ.....รอ

จะมีเมล์โทรมีนัดสัมภาษณ์ หรืออาจจะไม่สัมภาษณ์ก็ได้ 

การได้สัมภาษณ์ หรือไม่นั้นไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันว่า เราจะผ่านรอบแรก 

แต่มหาลัยส่วนใหญ่ จะมีการสัมภาษณ์ 

เป็นการโทร หรือ Skype แล้วแต่ ผู้สมัครจะสะดวกใจ 

จากนั้นก็รอๆๆ ผลออก 

เป็นอันจบกระบวนการ การคัดเลือกรอบแรก ส่วนรอบ 2 นั้น 

เราจะพยายามหาข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด เพราะเราเองก็ไม่ผ่าน

แต่เท่าที่รู้ตอนนี้ก็ได้เพียงแต่รอออ จนกว่าจะประกาศผลรอบที่ 2

วันที่ 3 พ.ค. 2559