|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 |
| 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
| 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
| 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
| 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
ดูแลผมให้นุ่มด้วยทรีตเมนต์ขั้นเทพ
แก้ปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟู ด้วยทรีตเมนต์ระดับมือโปรฯ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กันยายน 2553 10:15 น.
By Lady Manager
เชื่อหรือไม่เส้นผมของมนุษย์มีความแข็งแรงกว่าขดลวดทองแดงที่มีขนาดเท่ากัน
และเส้นผมที่มัดรวมกันให้แน่นมีความสามารถจะรับน้ำหนักของคนได้จำนวนสูงถึง 99 คน
จะจริงหรือไม่นั้นแล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ แต่ข้อมูลข้างต้นมีจริง! แต่ขอขีดเส้นใต้ด้วยเลยว่า สำหรับผู้ที่มีเรือนผมสุขภาพผมดีเท่านั้น ไม่ได้หมายรวมถึง ผู้มีสุขภาพผมย่ำแย่แทบคลานเข้าไอซียูหรอกนะ
อ๊ะ! แล้วหากอยู่ในข่ายนั้น ผมแห้งเสีย ชี้ฟู แตกปลายบานเบอะแทบจะตัดผมสั้นกุด จะทำไงดีล่ะ?
ก็หมั่นบำรุงผม หรือถ้าฉุดไม่ได้เอาไม่อยู่ ก็ทำทรีตเมนต์ (Treatment) สิครับ
พี่เป้ - อมรชัย ปานขาว แฮร์สไตลิสต์(Hair stylist)แห่งชิเซโด้ โปรเฟสชันแนล (Shiseido Professional) แนะนำการทำทรีตเมนต์ผม เมื่อเห็นผมน้องนางแบบที่เพิ่งผ่านการทำสีผม และไฮไลท์ (Highlight) มาทั่วศีรษะเพียง 2 อาทิตย์เท่านั้น ประกอบกับผมเสีย และแห้งกรอบมาก ต้องการการเยียวยาจากโปรผมด่วน!
พอดิบพอดีทางชิเซโด้ เขามีโปรแกรมดูแลเส้นผมตัวล่าสุดกับชิเซโด้ โปรเฟสชันแนล โปรซินเนอร์จี้ (Shisedo Professional Prosynergy) เราจึงต้องขอพึ่งสักหน่อย
พี่เป้ มองปร้าดเดียวลูบๆ คลำๆ สัมผัสผมชั่วอึดใจ จากนั้นพี่เป้จัดชุดทรีตเมนต์ใหญ่ให้น้องนางแบบกับโปรซินเนอร์จี้ชุดที่ 1 สำหรับผมเส้นใหญ่แห้งเสียมาก
ผมของน้องนางแบบจะเป็นผมเส้นใหญ่ ผมแห้งมากเพราะทำสีผม และไฮไลท์มาทั่วศีรษะเลย
โดยการทำทรีตเมนต์ ผมในครั้งนี้มี 4 ขั้นตอน
ขั้นตอนแรก
สระผมขจัดคราบสิ่งสกปรก รับมือการบำรุง
อันดับแรกเชิญน้องนางแบบไปสระผมก่อนเลยครับ พี่เป้บอกนางแบบหลังจากตรวจสภาพเส้นผมก่อนจัดโปรแกรมทรีตเมนต์ดูแลผมอันล้ำลึก
จากการสังเกตการณ์ ช่างผมสระผมให้น้องนางแบบ 2 ครั้ง โดยไม่ใช้ครีมนวด แต่เราสงสัยจึงถามพี่เป้ว่า
บางร้านทำไมถึงสระผมให้ตั้ง 3 รอบ จนหนังหัวแทบจะเปื่อยอยู่แล้วค่ะ
จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลมากกว่า ว่าใครเจอฝุ่นผง เผชิญเหงื่อมลภาวะ มามากน้อยแค่ไหน หากคนสระผมทุกวัน ก็ไม่จำเป็นต้องสระมากถึง 3 ครั้งหรอกครับ พี่เป้ตอบ พร้อมย้ำด้วยว่า การสระผมสำคัญนะ เพราะก่อนบำรุงเราต้องขจัดสิ่งสกปรกที่ไม่จำเป็นออกจากเส้นผม เตรียมผมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลในขั้นตอนต่อไป
แล้วทำไมหลังสระไม่ใช้ครีมนวดล่ะคะ
เดี๋ยวขั้นตอนต่อจากนี้จะเข้าสู่การทรีตเมนต์ บำรุงผมอย่างล้ำลึกแล้ว ครีมนวดผมเหล่านี้จึงไม่จำเป็นครับ
ขั้นตอนที่สอง
ทรีตเมนต์แรก ปรับโครงสร้างเส้นผม ยับยั้งผมเสีย
ตัวนี้เป็นมัลติแคร์มิ้ลค์ (Multi Care Milk) เป็นตัวบำรุงผม เพื่อจะไปปรับโครงสร้างของเส้นผมยับยั้งไม่ให้ผมเสีย ซึ่งจะมีส่วนผสมของตัวบำรุงอยู่ประมาณ 6 ชนิด พี่เป้บอกต่อว่า การนวดธรรมดาสารบำรุงมักจะไม่ค่อยเข้าเส้นผม จึงต้องเน้นการอบเพื่อให้ครีมลงลึกสู่ใต้พื้นผิวผมจริงๆ
ทั้งนี้ พี่เป้รับประกันเลยว่า หลังจากทำทรีตเมนต์เสร็จ จะรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ผมนุ่ม
พี่เป้กล่าวว่า ตัวนี้เหมาะอย่างแรงสำหรับผมผ่านการทำเคมีมาหนักหนาสาหัส
จะเน้นปรับโครงสร้างเส้นผม จริงๆ ผมคนเราพออายุเพิ่มมากขึ้น น้ำตาลส่วนเกินของเส้นผมจะเยอะ ตัวนี้จะไปกระตุ้นยีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในเส้นผมเพื่อให้ทำงาน ชะลอในเรื่องผมร่วง ผมแตกปลาย
พี่เป้บีบครีมลงบนเส้นผม หลังใช้ไดร์ผมเป่าผมพอหมาดๆ เพื่อไม่ให้ผมเปียกชุ่มจนเกินไป มิฉะนั้นครีมอาจมลายหายไปกับน้ำที่ร่วงหล่นสู่พื้น เสียดายแย่
เน้นครีมไปเลยช่วงปลายผมเพราะคนส่วนใหญ่ปลายผมส่วนใหญ่จะเสีย แต่ถ้าผมแห้งมากๆ ก็ชโลมตั้งแต่โคนผมก็ได้ ยิ่งน้องนางแบบทำไฮไลท์มาด้วย ยิ่งต้องบำรุงจากโคนเลย
พี่เป้ย้ำว่า โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับคนผมแห้งเสียมากๆ เท่านั้น แต่หากท่านใดสุขภาพผมดีแล้วไม่แนะนำ
เพราะจริงๆ ตัวที่ออกมาเพื่อให้ผมแห้งมากๆ จะมีโปรตีนเยอะมาก ถ้าเราลงเยอะก็ไม่มีประโยชน์ สำหรับคนผมสุขภาพดี เพราะเส้นผมเขาแข็งแรงมากไม่เคยทำอะไรมา ซึ่งมีโปรตีนอยู่แล้ว เพิ่มเข้าไปก็ไร้ประโยชน์
เราแอบเห็นพี่เป้บีบๆ คลึงๆ เส้นผมน้องนางแบบเพื่อ
เมื่อเราบีบชโลมครีมลงบนเส้นผมแล้ว ต้องนวดคลึงครีมให้เข้าเส้นผม เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ครีมจะลงลึกสู่เส้นผมได้อย่างไร ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งในการเคล้าคลึงเส้นผมด้วยนิ้วมือ เราจะกดๆ คลึงๆ จนรู้สึกว่าครีมไม่เหนียวติดมือแล้ว เป็นอันว่าครีมเข้าสู่ผมเรียบร้อย
จากนั้นอบไอน้ำเพื่อเปิดเกล็ดผมให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวผมประมาณ 5 นาที
เราสงสัย.. หากทำทรีตเมนต์เองที่บ้าน เชื่อเลยคนส่วนใหญ่ไม่มีเครื่องอบไอน้ำทำไงดี จบเลยมั้ย
ไม่ยากเลยครับ เทคนิคนี้ญี่ปุ่นใช้กัน ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน หรือน้ำอุ่น แล้วนำเอามาโพกหัวประมาณ 5 นาที
จริงๆ แล้ว ที่ญี่ปุ่นเค้าจะใช้แรป (Wrap-ฟิล์มพลาสติกถนอมอาหาร) มาคลุมเท่านั้นเอง ไม่มีการมานั่งอบไอน้ำ เค้าเอาแค่ผ้าอุ่นคลุมเท่านั้นเอง เพียงแต่คนไทยชอบการอบไอน้ำ คิดว่ามีขั้นตอนที่มากกว่า ครีมล้วงลึกสู่เส้นผมมากกว่าเท่านั้นเอง
ขั้นตอนที่สาม
บำรุงล้ำลึก นำสารอาหาร โปรตีนเข้าเส้นผม
5 นาทีผ่านไป
เมื่ออบไอน้ำให้ครีมตัวแรกปรับโครงสร้างเส้นผมให้แข็งแรงเสร็จจากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของครีมตัวถัด ไป ซึ่งเรียกว่าเป็นพระเอกก็ว่าได้
ตัวคอนเซนเทรท (Concentrate) ตัวนี้ช่วยในเรื่องปรับโครงสร้างของเส้นผมเช่นกัน ซึ่งส่วนผสมโปรตีนสกัดมาจากเมล็ดถั่ว 9 ชนิด อันนี้บำรุงลึกกว่าตัวแรกแต่ต้องใช้ควบคู่กัน ตัวนี้ช่วยนำสารอาหารเข้าไปในเส้นผมโดยเน้นส่วนที่เสียมากเป็นพิเศษ รักษาเสถียรภาพให้เส้นผม
เอ๊ะ! กลิ่นครีมหอมโชยแตะจมูก ทว่ากลิ่นอ่อนโยนจัง
ใช่ครับ เป็นกลิ่นที่สกัดมาจากดอกบัว และพืชธรรมชาติอื่นๆ นั่นเอง พี่เป้เล่าที่มาที่ไป พร้อมบอกด้วยว่า ไม่เพียงแต่หอมละมุน ยังช่วยผ่อนคลายจิตใจอีกด้วย
ลักษณะวิธีการทำเหมือนขั้นตอนที่ 2 เป๊ะ! บีบชโลมครีม นวด คลึง บีบ กด ย้ำๆ เพื่อให้เนื้อครีมแทรกตัวเข้าสู่เส้นผม
จริงๆ ตัวนี้ไม่เน้นการนวดผม แต่จะเน้นที่การกด บีบ เช่นเดียวกับขั้นตอนก่อน นวดจนไม่รู้สึกเหนียวมือ ให้ครีมซึมลึกเข้าสู่ผม เวลาคลึงผม นวด และบีบครีม เน้นตรงส่วนปลายเลยเป็นพิเศษ เพราะผมจะเสียมาก ควรเริ่มจากผมข้างหลัง แล้วค่อยไล่มาส่วนผมด้านซ้ายขวาให้ทั่วทั้งหัว
ยิ่งทำสีผมบ่อย เกล็ดผมจะเปิดออก ทำให้ผมเปราะขาดง่ายสุดๆ พี่เป้เขาว่ามา
เวลาทำสีผมมากๆ เกล็ดผมก็จะเปิดออก ตัวนี้จะไปกระตุ้นตัวที่ทำให้ผมแข็งแรงทำงาน พอเกล็ดผมเปิดมากน้ำตาลในเส้นผมจะเยอะ พอมีมากก็เป็นส่วนเกิน ผมเปราะขาดง่าย
พี่เป้ฝากเตือนสาวหัวสี ที่พิสมัยการทำสีผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า
ถ้าเป็นไปได้ควรเว้นการทำสีบ้างครับ และเน้นหนักตรงการบำรุง สังเกตดูการทำสีผมซ้ำๆ สัก 2 - 3 รอบ แทนที่จะมีผมสีสวยดั่งใจ กลับได้สีที่ไม่สวย แลดูผมแห้งๆ ขาดชีวิตชีวา
คลึงกดจนได้ที่ ครีมไม่ติดมือก็ถือว่าโอเค ทิ้งไว้อีก 5 นาที
จากนั้นขึ้นเตียงล้างผมด้วยแชมพู พร้อมลงตัว Treatment Mask เพื่อสัมผัสผมลื่นเบาสบาย มีน้ำหนัก ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
ขั้นตอนสุดท้าย
ฉีดสเปรย์ปิดเกล็ดผม กันสารบำรุงไหลย้อน
เมื่ออบไอน้ำเปิดเกล็ดผมเพื่อให้ครีมลงลึกสู่เส้นผมแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย จำเป็นเหลือเกิน ต้องตบท้ายด้วยการ ปิดเกล็ดผม ป้องกันสารบำรุงผมไหลย้อนออกมานั่นเอง
หลังจากสระผม ต้องบำรุงเป็นตัวสเปรย์ฉีดผม เพื่อช่วยปิดเกล็ดผมด้วย Multi Protective โลชั่นบำรุงผมชนิดไม่ต้องล้างออก ปกป้องเส้นผมจากยูวี ความแห้งกร้าน และปัจจัยอื่นๆ สเปรย์ตัวนี้จะช่วยป้องกันเกี่ยวกับมลภาวะ ฝุ่นละออง เพราะจะช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ
เป่าผมด้วยไดร์ให้แห้งสนิท ใช้ลมความร้อนปานกลางก็เพียงพอมิควรร้อนจี๋จนเกินไปผมเสียแย่
เสร็จสรรพครบทั้ง 4 ขั้นตอนน่าจะกินเวลาไปชั่วโมงกว่า แน่นอนหากเป็นผมสั้นจะเร็วกว่าผมยาว
พี่เป้กำชับว่า ควรทำทรีตเมนต์เดือนละ 2 -3 ครั้ง ก็โอแล้ว
ควรทำทรีตเมนต์หลังจากผมทำสีใหม่ๆ ยิ่งทำยิ่งดี ไม่ต้องรอเวลาให้ผมเสียก่อนค่อยทำ การทำทรีตเมนต์ ไม่มีข้อห้ามใดๆ ทั้งสิ้น แต่หากบำรุงผมจนดีแล้ว ผมว่าเดือนละสองครั้งกำลังดีเลยครับ
หลังจากไดร์ผมเป่าให้แห้งแล้ว เรารู้สึกว่า สุขภาพผมน้องนางแบบดีขึ้นจริง ไม่ชี้ฟูเหมือนเมื่อครั้งแรกเจอ และเมื่อเราได้ลองสัมผัสด้วยมือรู้สึกทันทีเลยว่า นิ่ม ขึ้นจริงค่ะ
ด้านน้องนางแบบกล่าวเป็นเสียงเดียวกับเราว่า
รู้สึกผมที่เคยฟูๆ แห้งๆ กลับตรงขึ้น แถมเงาอีกด้วย จับผมแล้วนิ่มกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ แต่รู้สึกเหนียวผมนิดๆ ค่ะ
นั่นเป็นเพราะครีมที่เข้มข้นของทรีตเมนต์
ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับการทำทรีตเมนต์ครับ พี่เป้สรุปข้อสงสัยของน้องและเรา
อ้อ! ขอแอบกระซิบบอก การทำโปรแกรมทรีตเมนต์ในครั้งนี้ มูลค่า 2,700 บาทจ้า สาวผมเสียท่านใดสนใจลองแวะโฉบไปใช้บริการได้ที่ Qi Shiseido Salon and Spa สยามพารากอน ชั้น 2 (นอร์ธ ล็อบบี้) หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02 610 9619 -20 และอีกสาขาที่ ดิ เอ็มโพเรี่ยม ชั้น 2 เบอร์โทร 02 664 8543-4
| Create Date : 28 กันยายน 2553 |
| Last Update : 28 กันยายน 2553 11:46:16 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 2403 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: koreacosmetics (loveyoupantip  ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:14:12 น. |
|
|
|
| โดย: pest (loveyoupantip ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:2:39:44 น. |
|
|
|
| โดย: register (loveyoupantip ) วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:2:29:40 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [