|
|
No connection คืออะไร แล้วทำไมเป็นแบบนั้น
| No connection คืออะไร แล้วทำไมเป็นแบบนั้น
เราจะเห็นได้ว่า เมื่อเราเปิดโปรแกรมขึ้นมาบางครั้งจะมีเสียงแจ้งเตือนแล้วเมื่อเรามองไปมุมล่างขวาของโปรแกรมก็จะสั่งเกตเห็นว่ามีไอคอนการเชื่อต่อป็นสีแดงและไม่มีการวิ่งของการใช้ข้อมูล นั่นหมายถึง No connection
อาจกล่าวง่ายๆได้ว่า โปรแกรมใช้งานยังไม่ได้ ซึ่งก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน
1. เกิดจากการใส่ข้อมูลพวก Username หรือ Password รวมไปถึงการเลือก Server ผิด ซึ่งคุณก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าคุณใส่ข้อมูลได้ถูกต้อง ส่วนก็จะเจอประมาณว่ารหัสเป็นภาษาอังกฤษแต่ลืมเปลี่ยนภาษาก็ทำให้คุณพลาดได้เช่นกัน
2. สัญญาณอินเทอร์เน็ตของคุณมีปัญหา ในบางครั้งคณจะเห็นว่าคุณยังมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตอยู่หรือเชื่อต่ออยู่ แต่นั่นอาจยังใช้ไม่ได้ เพราะที่คุณเห็นแบบนั้นก็เพราะเราน์เตอร์ของคุณนั้นปล่อยแค่สัญญาณออกมากแต่ อินเทอร์เน็ตยังไม่ได้เข้ามาซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ISP หรือผู้ให้บริการทางอินเทอร์ของคุณนั้นมีปัญหา เช่น สายอินเทอร์เน็ตขาด หรือมีปัญหาอื่นๆ อีก
3. โปรแกรมเกิด Error ซึ่งอาจเกิดจากการติดตั้งที่ไม่สมบูรณ์เราสามารถถอนการติดตั้งและทำการติดตั้งใหม่ได้
4. เกิดจากเครือข่าย ซึ่งจะมีหลายเซอร์เวอร์ที่ทำงานร่วมกันอาจทำงานผิดพลาดได้แต่ก็เป็นไปได้น้อย ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสและเราในฐานะผู้ใช้ก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ
5. ส่วนมากที่เจอกันบ่อยๆก็คือข้อ 1 และ 2 ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบเบื้องต้นให้ได้ และเพิ่มเติมการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น อาจเปิด ปิดโปรแกรมใหม่ หรือรีสตาร์ทเครื่องใหม่ก็ได้
|
ตลาดฟอเร็ก คืออะไร
| ตลาดฟอเร็กคืออะไร
ฟอเร็กซ์ Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange เป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งเป็นตลาดที่ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยมีโบรกเกอร์เป็นตัวกลาง สำหรับการซื้อขายนั้นเกิดขึ้นจากโบรกเกอร์ Inter Bank ซึ่งมีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงวันจันทร์ - ศุกร์ โดยตลาดมีหลายตลาดแต่จะไม่ได้เปิดเวลาเดียวกัน โดยจะมีการเปิดตามลำดับดังนี้ Sydney, Tokyo, London, Europe และ New York ซึ่งนักลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์อาศัยปัจจัยในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างช่วงเวลาในการวิเคราะห์และตัดสินใจทำการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ และที่สำคัญในตลาดฟอเร็กนั้นมีความผันผวนมากซึ่งความผันผวนนั้นก็เป็นโอกาสสำหรับเทรดเดอร์ในการเกร็งกำไรในตลาดฟอเร็ก
กล่าวสั้นๆคือ การเทรดฟอเร็กนั้น เป็นการเร็งกำไร ค่าเงิน ทอง น้ำมัน สกุลเงินดิจิทัล โดยมีการซื้อและขาย สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดทำการจันทร์ - ศุกร์ โดยคำสั่งการซื้อขายนั้นจะผ่านตัวกลางซึ่งเรียกว่าโบรกเกอร์ เปรียบเทียบง่ายๆ เช่น เราเทรดทอง โดยออกคำสั่งการซื้อที่ราคา 1550.40 หลังจากนั้น ราคาทองวิ่งขึ้นไปแตะที่ราคา 1551.00 ในตอนนี้เราก็จะได้กำไรที่ 0.60 หากเราพอใจในราคานี้เราก็กดขาย แล้วเราก็จะได้กำไร 0.60 แต่อย่างไรก็ตามราคาก็จะมีขึ้นมีลงต่างกันไป
ถ้าถามว่าแล้วเราจะรู้อย่างไรว่าราคาจะขึ้นหรือลงหรือมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องลองศึกษาตามบทความนี้ครับ อะไรบ้างที่มีผลกับราคาทองคำ?
อย่างไรก็ตามการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงและโอกาสที่จะได้รับ “การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ทุกความเสี่ยงก็เต็มไปด้วยความสำเร็จ”
|
Bull Market และ Bear Market
| ขอสั้นๆ กับ Forex : Bull Market และ Bear Market
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า หลายๆคนที่เข้ามาศึกษาหรือเตรียมลงทุนในตลาดฟอเร็กนั้น ส่วนมากไม่ได้รู้ถึงพื้นฐานของฟอเร็กด้วยซ้ำ หรืออาจกล่าวง่ายได้ว่า ไม่รู้คำศัพท์เฉพาะฟอเร็ก เช่น Sideway, Lot, Spread, Bid, Ask, scalping และอื่นๆอีกมากมาย และถามว่าคำศัพท์เหล่านี้จำเป็นไหมที่จะต้องรู้ ผมบอกเลยว่ามันจำเป็นอย่างมาก เพราะมันก็เหมือนกับคุณขับรถนั่นแหละ ถ้าคุณไม่รู้ระบบเกียร์คุณก็ไม่สามารถขับมันไปได้ งั้นวันนี้ผมจะนำเสนอสั้นๆกับคำศัพท์ฟอเร็ก Bull Market และ Bear Market
Bull Market (ตลาดกระทิง) ซึ่งหมายถึง ตลาดที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หรือเรียกง่ายๆว่า Up Trend ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับกระทิงนั้นก็เหมือนกับว่ากระทิงขวิดราคาขึ้น เพราะลักษณะท่าทางของกระทิงนั้นมีการขวิดหัวขึ้น
Bear Market (ตลาดหมี) ซึ่งหมายถึง ตลาดที่อยู่ในแนวโน้มขาลง หรือเรียกง่ายๆว่า Down Trend ซึ่งถ้าเปรียบเทีนบกับหมีนั้นก็เหมือนกับว่าหมีตบราคาลง เพราะลักษณะของหมีนั้นมีการใช้กงเล็บอันแหลงคมตบเหยื่อลง
แล้วถ้าถามว่า อ้าว..แล้วถ้าไม่มีการขึ้นหรือลงหละจะเรียกว่าอะไร แน่นอนอยู่แล้วว่าทุกคนอ่านมาถึงจุดนี้แล้วก็ต้องคิด ถ้ามันไม่ได้อยู่ในแนวโน้มทางขึ้นหรือลงที่ชัดเจน เราขจะเรียกมันว่า Sideway พูดง่ายๆคือราคาอยู่ระดับเดิมไม่มีการวิ่งขึ้นหรือลงมากเท่าที่ควร แต่มีการขยับบ้างแต่ไม่มาก
|
ข้อดีของ Foxex
ถ้าจะพูดไปแล้วการเทรดฟอเร็กก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วทุกอย่างบนโลกใบนี้ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนที่ตกลงจะเลือกนั้นยอมรับมันได้มากน้อยแค่ไหน และคำว่ามากหรือน้อยของแต่ละคนมันก็วัดไม่ได้ เพราะแนวความคิดคนก็ไม่เหมือนกันไปอีก ฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะมองฟอเร็กว่ายังไง จะดีหรือเสียมากกว่ากันหรือยอมรับได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณ
สำหรับวันนี้เราจะนำเสนอข้อดีของการเทรดฟอเร็กก่อนละกัน
ฟอเร็กถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นักลงทุนชอบเข้ามาในตลาด เนื่องจากฟอเร็กสามารถเทรดได้ 24 ชั่วโมง เงินขั้นต่ำในการลงทุนค่อนข้างน้อยมากซึ่งทำให้ทุกคนสามารถเข้ามาในตลาดได้ง่าย เอาหละถ้าจะพูดแบบนี้คงจะไม่เห็นภาพที่ชัดเจนเดี๋ยวเราจะบอกเป็นข้อๆ เลยละกัน
1. ในตลาดฟอเร็กนั้นสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะตลาดนั้นจะเปิดไม่พร้อมกันและจะปิดไม่พร้อมกันซึ่งจะมีทั้ง Sydney, Tokyo, London, Europe และ New York
2. สามารถซื้อขายได้ทั้งในช่วงตลาดที่เป็นขาขึ้น และ ขาลง (Buy - Sell) อีกทั้งมีหลายสกุลเงิน ตราสาร
3. ต้นทุนการซื้อขายต่ำ ผู้คนสามารถเข้าถึงง่าย ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่องมือเทรด แต่จะมีแค่ใช้จ่ายในการซื้อขาย คือ ค่าสเปรด
4. ในหลายๆโบรกเกอร์ที่มี Leverage ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการใช้เงินทุนเท่าเดิมแต่มีเลเวอเรจเข้ามาช่วยจะทำให้เกิดกำไรที่สูงกว่า ซึ่งการใช้ Leverage ก็ต้องระมัดระวังมันก็คือดาบสองคมดีๆนี่เอง
5. เงินฝากสำหรับการลงทุนน้อยในหลายๆโบรกเกอร์เปิดโอกาสให้ฝากเงินลงทุนขั้นต่ำตั้งแต่ $1 ซึ่งก็ง่ายในหลายๆคนที่อยากจะเข้ามาลองศึกษาในตลาด Forex
6. ในตลาดฟอเร็กนั้นมีบัญชีทดลองให้ทำการศึกษาก่อนได้ นั่นคือ การเปิดบัญชีทดลองฟรี (Demo) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการฝึกฝนเทรดเดอร์มือใหม่ ที่ไม่ต้องลงทุนและสามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้
 สำหรับหรับลูกค้าท่านใดที่สนใจอยากลองศึกษาในตลาดฟอเร็กสามารถเปิดบัญชีกับเราได้ที่นี่  คลิกเลย!!
สมัครกับ World Forex โบรกเกอร์ชั้นนำ เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และรับสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
|
อะไรบ้างที่มีผลกับราคาทองคำ?
| อะไรบ้างที่มีผลกับราคาทองคำ? 
1.Demand & Supply
ถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับสิ่งที่ต้องการซื้อขายหรือเกร็งกำไร เพราะถ้าหากสิ่งนั้นหายากหรือมีน้อย ราคาก็จะ “ราคาสูง” แต่กลับกัน ถ้าหาง่ายหรือมีมาก “ราคาก็จะถูก” ซึ่งตัวอย่างนั้นก็คือ ทองคำนั่นเอง
2.Economic Data
ในส่วนนี้ก็จะเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลกว่าจะดีหรือไม่ดี
แล้วถามว่ารู้ได้ไงว่าดีหรือไม่ดีเอามาจากไหน? ในแต่ละประเทศหรือหน่วยงานก็จะมีการประกาศตัวเลขต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเติบโตหรือการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศหรือหน่วยงานนั้นๆ
ถ้าหากเศรษฐกิจดี ราคาทองคำก็จะลดลง เพราะนักลงทุนจะเอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นหรือไปทำอย่างที่ได้ผลตอบแทนดีกว่าทอง ถ้าหากเศรษฐกิจไม่ดี ราคาทอทงคำก็จะพุ่งสูงขึ้น เพราะในตลาดหุ้นหรือสภาวะเศรษฐกิจมีความเสี่ยงทำให้ได้ผลตำแทนที่น้อยและทำให้คนมาสนใจทอทงคำเพิ่มมากขึ้น
3.Monetary Policy (นโยบายการเงิน)
เอาง่ายๆเลยมันเป็นเรื่องนโยบายการเงินทั่วโลก แต่จะส่งผลต่อราคาทองคำอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเทศหลัก เช่น USD, EUR เป็นต้น ประมาณว่าหากอัราดอกเบี้ยเพิ่มสูงคนก็เริ่มจะเอาเงินไปลงทุนเกี่ยวกับการซื้อพันธบัตรหรือฝากธนาคาร จากนั้นราคาทองคำก็ลดลง เพราะคนขายทองคำแล้วนำเงินมาฝาก ประมาณนั้น
4.US Dollar movement
ราคาทองคำขึ้นตรงต่อเงิน US Dollar (USD) เพราะมีการใช้สกุลเงินนี้ซื้อขายเป็นหลัก หาก USD อ่อนค่า ราคาทองก็สูง และก็หาก USD แข็งค่า ราคาทองก็จะลดลง
5.Inflation (เงินเฟ้อ)
ถ้าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็จะทำให้ราคาสินค้าที่มีอยู่ในทั่วโลกเพิ่มขึ้น แล้วถ้าเป็นทองคำหละ? ไม่ต่างกัน
6.Uncertainty (ความไม่แน่นอน)
สังเกตง่ายๆของความไม่แน่นอน เช่น ช่วงที่ราคาทองมีการเหวี่ยงขึ้นลงมากๆ นั้น มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ดูแล้วคงเยอะเลย เช่น เมื่อเกิดความไม่แน่นอน ก็จะประมาณว่า มีการก่อการร้าย วิกฤตทางการเงิน การเมือง ที่สำคัญๆ ราคาทองคำมักจะสูงขึ้น เนื่องจากทองคำนั้นเป็น Safe heaven พูดง่ายๆคือทรัพย์สินที่ปลอดภัยนั่นเอง
มาถึงข้อสุดท้ายที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ นั่นก็คือเรื่องของ Uncertainty หรือความไม่แน่นอนของโลกใบนี้นั้นเอง
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed 
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
