All Blog |
Singapore Trip day2-3
มาแล้ว มาแล้ว สิงคโปร์มาแล้วหลังจากที่ไม่มีเวลาอัพ แต่มีเวลาอ่านไดพร้อมทั้งยุ่งเรื่องออฟฟิสใหม่ก็เลยช้ามากๆ ด้วยประการทั้งปวงไม่พูพร่ำทำเพลง ไปดูรูปกันเลยเอาแบบว่ารวมสองวันเลย เพราะว่า ขี้เกียจถ่ายรูป รูปเลยน้อยเริ่มวันที่สองด้วยถนนสายช้อปปิ้ง เราก็เดินกันที่ถนนนี้แบบว่านานมากๆ ทั้งซื้อ ทั้งดู ขอบอกว่าร้าน กับห้างเยอะมากๆนั่งพักที่หน้าสถานฑูตไทยรถจอดอยู่หน้าโรงแรมปารีส เอ้ย ไม่ใช่โรงแรมฮิลตันองเห็นร้านกระเป๋าสุดโปรดด้วยแล้วตัดความมาตอนเย็นเลย ไปหาอะไรกินที่ เมืองจีนบรรยากาศทั่วไปอีกรูปไม่กินกันตั้งนั้น จะไปกินกันตรงโน้นศูนย์อาหาร Maxwellน่าตาของอาหารที่กินข้าวหน้าไก่ กับก๋วบเตี๋ยวผัดอร่อยไหม ก็โอเค แต่ไม่ซูเปอร์กินพร้อมกับน้ำอ้อยปั่นอีกสักรูปต่อด้วยวันที่สามกันเลยรูปนี้ เป็นที่พักอาศัยของคนที่นี่ใกล้กับสถานีรถไฟสถานีรถไฟ กำลังจะไปสนามบินแล้วแวะซื้อของทอด อันขึ้นชื่อ ก็เป็นพวกลูกชิ้นทอด อะไรพวกนั้นแหละอร่อยดีนะ กินทุกวันไปคืนตั๋วกันก่อน ด้เงินคืนมาใบละ5S$ทางเดินระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากับสนามบินคล้ายบ้านเราแหละตู้ขายตั๋วในรถรางที่บริการระหว่างอาคารหอวิทยุการบิน(มั้ง)ถึงแล้ว Terminal 1การตกแต่งของสนามบินอีกรูปงง จริงๆเลย เพราะว่าก่อนหน้าที่จะเข้าไปข้างในเหมือนว่าถ่ายรูปไว้เยอะกว่านี้แต่ก็นะ เข้าไปแล้ว ไปนั่งนวดซะหน่อยฟรีจ้า ฟรีตัดบทมาขึ้นเครื่องแล้วดูวิวของสิงคโปร์จากบนเครื่องเบลอหน่อยนะเพราะว่าถ่ายรูปไม่ค่อยเป็นไวเหมือนโกหก เราได้มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัยรูปแบบว่าเบลอมากๆ แต่อยากลง ฮาฮาสุดท้ายแล้วจ้าทริปนี้จบแล้วไว้ค่อยมาดูกันอีกที ว่าทริปหน้าจะไปไหนSingapore trip day1
แต่ไม่ได้อะไรเลย โอเค เริ่มเลย แล้วกัน เราเช็คอินแล้ว เพิ่งนึกได้ ลืมถ่ายรูป เราไปกับสายการบินประหยัดค่ะ jetstar เราเช็คอิน เป็นคนแรกๆ โชคดีมากๆ เพราะว่าหลังจากนั้น ก็เป็นกรุ๊ปทัวร์ค่ะ ไม่งั้น รอนานแน่ๆ เขียนใบอิมเมเกรชั่นอยู่
แล้วเราก็เข้าไปข้างใน
ช้อปบ้างเล็กน้อย ่วนใหญ่เพื่อนฝากซื้อ แล้วเราก็เดินไปขึ้นเครื่อง ดูชัดๆ เครื่องที่เราจะขึ้นไปด้วย ไว เหมือนโกหก ประมาณ สองชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาถึง สิงคโปร์
เข้าแถว เพื่อเช็คพาสปร์ต คนไทย ไม่ต้องขอวีซ่า เค้าให้เลย 30 วันจ้า
แล้วก็ไปเข้าโรงแรมก่อน รอบนี้ เราพักแถว เกลลัง เป็นย่าน redlight ของสิงคโปร์ ถามว่าโอเคไหม ก็โอเค สมราคา แต่ว่าไม่ค่อยชอบเวลากลางคืน เสร็จแล้ว ก็เลยออกไปลุยกันเลย เห็นอะไรไกลๆไหม เค้าเรียกตึกทุเรียน ชัดๆ แถวนี้ เป็นย่านที่สุดฮิต ตอนกลางคืน โรงแรม ที่เก่าแก่ ขอบอกว่าใหญ่มากๆ เดินไปเรื่อยๆ แถวๆนั้นแหละ อันนี้เป็น พิพิธภัณฑ์เอเชียน อะไรสักอย่าง แถวๆนี้นะ มีแต่ตึกที่เป็นสำนักงานของธนาคารต่างๆ ท่านเซอร์สแตมฟร์อด ที่เป็นผู้ค้นพบสิงคโปร์ เห็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไหม รูปสุดฮิต ใครไปก็ถ่าย ชิงช้า อีกสักรูป แล้วเราก็ใกล้แล้ว ใกล้ที่จะถึงสัญลักษณ์ของสิงคโปร์แล้ว ก่อนอื่นต้องเนี่ยเลย ตึกทุเรียนอีกสักรูป โอเค แค่เดินบันไดลงไป ก็เจอกับ Merlion ตัวที่ 1 ตัวนี้เล็กๆนะ โอเค ตัวนี้ตัวใหญ่ จริงๆมีอีกตัว ซึ่งตัวใหญ่กว่านี้ แต่ว่าอยู่ที่เกาะเซ็นโตซ่า ซึ่งเราไม่ได้ไป โอเค เรามีหลักฐานแล้ว ว่าเรามาถึงสิงคโปร์ เดี๋ยวกลับโรงแรม ขึ้นเครื่องกลับเลยดีกว่า ฮาฮา ถ่ายรูปป้าย มายืนยัน อันนี้ถ่ายจากฝั่งตรงกันข้าม ตึกข้างหลัง เป็นออฟฟิส เห็นทุเรียน สองลูกแบใกล้ๆ อันนี้ แค่ถ่ายให้คนที่ไปด้วย เพราะเค้าก็จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ช่วงเดือนกันยายน เดินไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แต่ว่าไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร หลบฝนเข้าไปใต้ดิน ก็เจอเด็กแนว คล้ายๆกับที่อยู่ตรงมาบุญครองบ้านเราแหละ รูปไม่ค่อยชัด เบลอสุดๆ พักเหนื่อย เพราะว่ารอให้ลูกค้ามารับไปกินข้าว แต่เราก็เติมพลังไปก่อน เป็นน้ำผสมวิตามิน กับมันบด จากเซเว่นอีเลเว่น จริงๆแล้ว พอลูกค้ามารับ เรากะจะไปดูน้ำพุ แห่งโชคลาภ แต่ว่าคนมันโชคดี เค้าปิดปรับปรุง แล้วก็เลยไปกินข้าว เป็นอาหารจีน ขอบอกว่าอร่อยมากๆๆๆๆ แต่ว่าเกรงใจลูกค้า ไม่กล้าถ่ายรูปอ่ะ อันนี้ กินเสร็จแล้ว กำลังจะไปขึ้นรถไฟ กลับที่พัก ตึกอะไรไม่รู้ เป็นตึกที่ร้านอาหารที่เรากินกัน ตั้งอยู่ เป็นรูปสุดท้ายของคืนนี้ ไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะไปเดินถนนสายช้อปปิ้ง จบวันที่หนึ่งกันแล้ว เหนื่อยมากๆ เดินเยอะสุดๆ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อวันที่สองจ้า |
witanee
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] |