FREEDOM
Group Blog
 
All blogs
 
ไม่หวังเงินอนาคตลดความทุกข์ได้ดีที่สุด

ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่กำลังมีปัญหาด้านการเงินทำงานหาเงินมาใช้จ่ายอย่างไม่มีความสุข เราต้องยอมรับความจริงให้ได้เสียก่อนว่า....เราเป็นคนใช้เงินเก่ง บริหารเงินไม่เป็น มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ
และเรากำลังคาดหวังเงินอนาคตที่ยังมาไม่ถึง!!!!!
ที่เราเป็นทุกข์กันอยู่บ่อยครั้ง อาจจะมาจากเหตุผลที่เราคอยแต่คาดหวัง ต่อไปเราจะงินเท่าไหร่ เราต้องซื้ออะไรอีก อะไรที่ยังไม่มี เราก็จะต้องซื้อมาเป็นเจ้าของให้ได้ วันนี้เงินในกระเป๋ามีเพียงเท่านี้ แต่ฝันหรูที่จะเอาเงินในอนาคตออกมาใช้จ่ายก่อน
เรากำลังอยู่กับความสุขที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
พูดง่าย ๆ ว่าในขณะนี้เราพยายามจะบริหารเงิน พยายามที่จะใช้เงินในกระเป๋าในตอนนี้ให้พอเหลือพอใช้ แต่พอเราเผลอฝันไกล เอาเงินอนาคตมาวาดระบายเสียจนทำให้เราลืมตัวใช้จ่ายเงินในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว เพราะเราคิดกันแค่ว่า เดี๋ยวก็มีใช้ เดี๋ยวก็มีเงินในอนาคตมาทดแทน มาสำรองจ่ายได้ เอาเงินตอนนี้ใช้ไปก่อน คงไม่เป็นไรหรอก
แล้วถ้าเกิดว่าเงินในอนาคตมันลอยหายไปต่อหน้าต่อตาล่ะ !? …
มีคนหลายคนที่ใช้เงินแบบชักหน้าไม่ถึงหลัง สุดท้ายก็ต้องเดือดร้อนชาวบ้านเขา ต้องเป็นหนี้เป็นสิน และก็หนีวงจรที่ต้องคอยแต่คาดหวังเงินในอนาคตต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่หลุดไม่พ้น
เราจะต้องพูดประโยคที่ว่า “เดี๋ยวก็มี เดี๋ยวก็ได้แล้ว เดี๋ยวเอามาคืนให้” ไปอีกนานแค่ใหน ไม่เหนื่อย ไม่ทุกข์ใจ และไม่เจ็บปวดกับสภาพที่เราเป็นบ้างหรือไร
ลดอัตราการฟุ่มเฟือยก็เป็นอีกหนึ่งวิธืของการรักตัวเองได้เช่นเดียวกัน
“คนหลายคนหลงคิดว่า
ยิ่งเรามีเงินมากขึ้น ก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้น
เรายอมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อหาเงิน
โดยที่ต้องเอาความสุขของครอบครัว
และสุขภาพของเราเองไปสังเวย
ปัญหาก็คือ เราไม่รู้ตัวว่า ถึงเราหาเงินมาได้มากเท่าไร ก็ไม่รู้จัดพอ” (ริชาร์ด อิสเตอรีน)
และเมื่อเราต้องทำงานเพื่อหาเงินอนาคตมาใช้จ่าย มาทดแทนเงินที่เราหยิบยืมมันไปใช้ก่อน เราก็ต้องทำงานหนักขึ้น บนภาวะแรงกดดันที่ทำงานเท่าไร เงินก็ไม่เหลือ ไม่พอใช้ และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราทำงานอย่างไม่มีความสุข และทำให้เรามองไม่เป็นเป้าหมายในชีวิตว่าเราจะสุขสบายขึ้นมาได้อย่างไร
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า
“การทำงานคือการอยู่แบบถังแตก ลูกจ้างทำงานพอที่จะไม่ให้ถูกใล่ออก และนายจ้างก็จ่ายค่าจ้างพอที่จะไม่ให้ลูกจ้างลาออก ผลลัพธ์ก็คือ ลูกจ้างไม่เคยก้าวไปทางใหนได้ไกล พวกเขาจะติดอยู่กับความมั่นคงของงาน เงินเดือนและผลตอบแทน ซึ่งเป็นเพียงรางวัลระยะสั้น แต่อาจเป็นปัญหาระยะยาว”
เพราะฉะนั้นแล้ว ลองคิดดูซิว่า ระหว่างเก็บเงินไว้เพื่อลดทอนความทุกข์ กับเงินเพื่อซื้อความสุข อย่างใหนจะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น และละมุนละไมหัวใจได้มากกว่ากัน
อย่าใช้ชีวิตอย่างคนอมทุกข์ต่อไปอีกเลยดีกว่า ถ้าที่ผ่านมาเราใช้จ่ายเกินตัว และมัวแต่รอเงินในอนาคตอย่างกระวนกระวายใจ ตั้งต้นการใช้เงินไหม่ เก็บเงินในบัญชีให้เพียงพอจนกว่าเราจะรู้สึกอุ่นใจว่าเราไม่ต้องลำบากและติดขัด เมื่อนั้นเวลาแห่งการอดออมจะค่อย ๆ สอนให้เราอดทน
แล้ววันนั้น เราจะรู้สึกว่าการออกไปทำงานไม่ใช่แค่เรื่องทำเพื่อแลกอะไรมาจุนเจือความต้องการ แต่เรากำลังออกจากบ้านเพื่อไปทำสิ่งที่มีค่า และเงินจะเป็นเพียงผลพลอยได้ที่ตามมา เพื่อให้เรารู้ว่า มันคือสิ่งที่เราควรจะได้รับอย่างภาคภูมิใจ เพราะ....เราเป็นเจ้าของและบริหารจัดการเงินได้อย่างมีความสุข


ขอขอบคุณ......ชีวิตยังทีทิศตะวันออก (ทาโร)



Create Date : 15 มิถุนายน 2551
Last Update : 15 มิถุนายน 2551 19:15:23 น. 2 comments
Counter : 403 Pageviews.

 
yes


โดย: xx IP: 118.174.195.125 วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:20:25:17 น.  

 
พยายามเข้ามาอับบล๊อกหน่อยไอ้น้องรัก


โดย: นายตั้งหลัก วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:56:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thana_Champ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thana_Champ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.