ช่วงนี้กระแส 300 กำลังมาแรงก็อยากจะพูดถึงผลงานของ Frank Miller หน่อยแต่พอดีผมไม่ค่อยชอบสงคราม + กับเรื่องราวของทหาร 300 นายที่ยกทัพไปเจอทหารนับแสนแต่จะมาพูดถึง The Dark Knight Returns ดีกว่าอีกหนึ่งผลงานที่เรียกว่าขึ้นแท่นไปเป็นหนังสือที่เหล่าสาวกค้างคาวต้องเก็บไว้ได้แล้วล่ะมั้ง(แต่ผมไม่มีอ่ะไม่มีตัง = =)
เรื่องราวคร่าวๆ ของ DKR(เรียกย่อๆ Dark Knight Returns) เป็นเรื่องราวของ Bruce Wayne (แหงล่ะ)ที่ผันตัวไม่อยากปราบเหล่าอธรรมอีกต่อไปแล้วตั้งแต่ Robin 2/Jason Todd ตายไปเขาได้ทิ้งชุด ค้างคาว ไปนานถึง 10 ปีโดยช่วง 10 ปีที่เขาไม่อยู่นั้น Gotham ที่ปราศจาก Batman ก็ถูกเหล่าแก๊งค์อัธพาลใส่แว่นสีแดงยังกะไซครอป ชื่อกลุ่ม Mutants มาควบคุมโลกใต้ดินนี่แทนตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ในสภาพที่เมืองเสื่อมโทรม (เพราะโลกของ DKR นั้นไม่มี Robin 3 / Tim Drake และพวก Birds of Prey)กับจิตใจของ Bruce ที่พยายามหนีชีวิต Batman โดยเขามารู้ตัวเองอีกทีเขาก็หนีมันไม่พ้นต้องกลับมาสวมชุด Batman อีกครั้ง
Frank Miller
DKR วาดและเขียนบทโดย Frank Miller ออกวางขายในปี 1986 ซึ่งในปีนี้ถือว่าเป็นขาขึ้นของ DC เลยล่ะมั้งเพราะ Watchmen ก็ออกจำหน่ายในปีเดียวกันถือได้ว่าปี 1986 มี Comic ที่ปฏิวัติวงการ Superhero ถึง 2 เรื่องเชียว และ DRK ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆล้นหลาม
ครั้งแรกนั้นจะอยู่ใน Batman The Animeted Series จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆแฝงในตอน Legends of the dark knight ซึ่งจะเป็นตอนที่ต้องการนำเอาเรื่องราวใน Comic มาดัดแปลงเป็นอนิเมชั่น ผ่านการเล่าเรื่องของเด็ก 2 คนที่เล่าเรื่องต่างกันโดยเด็กคนแรกจะเล่าเรื่องของลุงของเขาอยู่ในเหตุการณ์ที่ Joker มาขโมยของ ดัดแปลงมาจากเรื่องราวที่แต่งโดย Bill Finger กับ Dick Sprang ในยุค 50 แต่นำเสนอแบบอนิเมชั่นในยุค 60
ยุค 60 ภาพก็อย่างงี้แหละ = =
ส่วนอีกคนหนึ่งจะเล่าเรื่องว่าที่จริง Robin เป็น ผู้หญิงและ Batman อายุก็ 50 กว่าๆตรงนี้แหละคือในส่วนของ DKR จะยกเรื่องราวในเล่ม The Dark Knight Triumphant มาเรียกได้ว่าเอามาแบบเกือบ shot ต่อ shot
ครั้งที่สองนั้นไม่นานจากตอนนี้เท่าไรกับ The Batman อนิเมชั่นที่จะเปิดมุมมองใหม่ของ Batman โดยออกแบบตัวละครซะใหม่จนแถบไม่เหลือเค้าเดิมจนผมอยากจะเรียกมันว่า Batman ภาค Teen Titans ของ Cartoon Network จริงๆเอาล่ะเข้าเรื่อง ตอนนี้ของ The Batman จะเรียกว่ายังไงดีเอา Theme ของ DKR กับ Batman Beyond ผสมกันแล้วเขียนเรื่องขึ้นมาใหม่แต่เห็นได้ชัดว่ามีวัตถุดิบจาก DKR ไว้มากไม่ว่าจะตัว Batman เองที่ร่างกายใหญ่โต Batmobile ที่เป็นรถถัง โดยเนื้อเรื่องจะสลับไปมาระหว่างปี 3027 กับ 2027 ช่วงห่างกัน 1000 ปี ซึ่งในยุค 3027 จะเป็นเรื่องราวของกลุ่มทหาร(รึเปล่าไม่แน่ใจ) ที่มาขุคหาถ้ำค้างคาวเพื่อหาวิธีในการกำจัด Mr.Freeze แล้วก็จะย้อนไปในปี 2027 ยุคที่ Batman เริ่มแก่ตัวลงแต่ก็ยังมี Oracle กับ Nightwing คอยช่วยเหลือ
ฉากนี้ Mr.Freeze จะพูดคำว่า "The Dark Knight Returns"
เอาล่ะเข้าเรื่อง Comic ต่อ จนในปี 2001 DKR ก็กลับมาอีกครั้งกับภาคต่อที่ชื่อว่า The Dark Knight Strikes Again โดยคราวนี้ Miller ไม่ได้แต่งบทคนเดียวเอา Lynn Varley ซึ่งเป็นภรรยามาช่วยแต่งด้วย
ถ้าจะเอ๋ยถึง Series ฮอตฮิตในลักษณะของ Super Hero คงไม่มีใครไม่เอ๋ยถึง Smallville ซีรีย์ยอดฮิตที่ดึงเอาปูมหลังของ Man Of Steel มาเล่น Superman ซึ่งผมเองก็ไม่มีโอกาสได้ดูเต็มๆกับเขาซะทีรู้อย่างเดียวว่าลานา น่ารัก :-) และด้วยความประสบความสำเร็จของ Smallville ก็มี ซีรีย์ที่หยิ บเอา Super Hero มาทำตามรอยเช่นกัน
ย้อนกลับไปปี 2002 ทาง Warner ก็ได้ส่งซีรีย์ที่มีชื่อว่า Birds of Prey ถ้าคนที่ไม่ได้ตามเรื่องราวของ Super Hero มากหนักอาจจะมองผ่านๆว่ามันเป็นแค่ ซีรีย์ Action เรื่องหนึ่งแต่ถ้าติดตามซักนิดจะรู้ได้ว่าซีรีย์เรื่องนี้เกี่ยวพันกับ Dark Knight มนุยษ์ค้าวคาว Batman แน่ๆ โดยซีรีย์นี้หยิบเอาชีวิตของ Helena Kyle ลูกสาวของ Batman และ Catwomen โดยที่เธอเติบโตมากับแม่ของเธอโดยที่พ่อของหล่อนก็ไม่รู้ว่ามีลูกสาว(ผู้ชายนี่มันชอบไข่ทิ้งไว้จริงๆ55)ต่อมา Selena ก็โดนแทงตายซะงั้น แล้ว Batman ก็หายตัวไปโดยการเนรเทศตัวเองออกจากเมืองหลังจากนั้น Helena ก็โดนรับเลี้ยงโดน Babara Gordon ซึ่งในตอนนั้นโดน Joker ยิงเดี้ยงจนกลายเป็น Oracle
Batman ภาคแรกที่กำกับโดย Tim Burton ออกฉายในปี 1989 ตอนนั้นผมยัง 2 เกือบจะ 3 ขวบ ได้มั้งแต่เข้าฉายปีไหนในเมืองไทยนี่ก็จำไม่ได้แล้วแต่ที่จำได้แน่ๆไปดูที่ The Mall ท่าพระ ตอนนั้นห้างนี้ใกล้บ้านสุดแล้วซึ่งแน่นอน.... ดูไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไปดูกับครอบครัวทั้งที่ไม่รู้เรื่องนั้นแหละ แต่มันให้ความรู้สึกว่าโอ้วววไอ้ตัวหูตั้งนี้ มันน่ากลัว เวลามันกางปีกยิ่งน่ากลัวใหญ่ ยิ่งฉากแรกบนดาดฟ้าตึกที่เราจะเห็นเงาหัวของ Batman แว็บๆ ช่วงนั้นรู้สึกจะกลัวเป็นพิเศษ แล้วพอถึงท้ายเรื่อง Joker ตกลงไปตายแต่ยังหัวเราะไม่หยุดทำให้กลัวหนังเรื่องนี้ไปเลย แต่ไปๆมาๆกลับมาชอบเจ้าตัวละครนี้ได้ไงไม่รู้ จนมาถึงปัจจุบันก็ยังไม่เสื่อมคลายความชอบจน เก็บสะสมเทป มันมาได้ทั้งหมด 6 ม้วน มาดูกันที่ Batman ที่ฉายในปี 1989 ไม่มีหน้าปกเพราะมันเป็นของเถื่อน - -" ชื่อใน Label นั้นก็ลางๆอ่านได้ประมาณนั้นแหละ
Batman Return เรื่องนี้ตอนนั้นนอนซมอยู่ในโรงพยาบาลเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่พอออกจากโรงบาลได้วันแรกก็รีบไปดูเลยทั้งที่อาการยังไม่ค่อยดี ฺ Batman Forever ที่เอ่อ...ยังพอดูได้
ฺBatman & Robin ถ้าคุณยังอยากเห็น คนเพี้ยนสองคน แย่งผู้หญิงที่มีญาติเป็นต้นไม้ก็ดูซะนะ
Batman: Mask of the Phantasm เป็น Batman หนังการตูนเรื่องแรกที่ฉายในโรงภาพยนต์ แต่รายรับไม่ดีเท่าไรพอออกมาในรูปแบบ VHS กลับทำรายได้งดงาม หลังจากนั้น Batman TAS(The Animated Series))ภาคต่อๆมาเลยโดนจับยัดลง VHS หมดจนถึงทุกวันนี้ แถมเรื่องนี้มีตัวร้ายที่ผมชอบมากๆทั้งสองตัว บวกกับจะมีตัวละครบางตัวไปผูกเรื่องใน Batman Beyond อีก
จำได้ว่าเล่มแรกที่ได้เป็น Batman Year One แต่ตอนนี้เหลือแต่เล่มนี้.... เอวังเหลือแต่เล่ม 4 รู้สึกเสียดายมากๆที่มันหาย - -" แต่ยังไงก็ตามมันยังไม่เสียดายเท่าที่ Death in the Family หายน่ะเซ่ ต่อมาเป็นตอนที่ชอบที่สุดในบรรดา Year ทั้งหมด Batman Year Two แต่ก็เหลืออยู่แค่เล่มนี้.... หายอีกละ แต่ไอ้อันที่พอผ่านตาได้ก็ดันมีครบไม่หายซะนิ เอาละครับพอแค่นี้สำหรับค้างคาว มาดูทางด้าน Superman กันหน่อยที่ไม่ค่อยจะได้อ่านเลยแบบว่าขี้เกียจอ่าน Superman ตอนนี้ชื่อภาษาไทยให้ว่า ความลับแตก หรืออีกนัยหนึ่ง "รู้ทันคลาก เคนท์ นี้เอง"(ฮา) คลากก็หน้าเหลี่ยม เล็กซ์ก็หน้ากลม มันช่างเข้ากับช่วงนี้จริงๆ เอามาให้ดูเล่มสุดท้ายกับภาพ Superman ห้อยหมดแรงอยู่ในมือ Darkside เอาละครับที่ถ่ายมามีเยอะกว่านี้แต่ถ้าเอาลงอีกคงจะไม่ไหว ขอลากันตรงนี้ไปดื่อๆแหละ
.JPG)
.JPG)
.JPG)
แต่ก็ไปดูกับครอบครัวทั้งที่ไม่รู้เรื่องนั้นแหละ แต่มันให้ความรู้สึกว่าโอ้วววไอ้ตัวหูตั้งนี้ มันน่ากลัว เวลามันกางปีกยิ่งน่ากลัวใหญ่ ยิ่งฉากแรกบนดาดฟ้าตึกที่เราจะเห็นเงาหัวของ Batman แว็บๆ ช่วงนั้นรู้สึกจะกลัวเป็นพิเศษ แล้วพอถึงท้ายเรื่อง Joker ตกลงไปตายแต่ยังหัวเราะไม่หยุดทำให้กลัวหนังเรื่องนี้ไปเลย
โดยที่จะส่งมารายสัปดาห์
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
