Bloggang.com : อยู่ว่างว่าง - ไปดู Brussels ต่อกันนะ...

Bloggang.com : weblog for you and your gang

ไปดู Brussels ต่อกันนะ...


	เดินผ่านไปทางแกลเลอรี่ St. Hubert จะไปโบสถ์ Saints-Michel-et-Gudule de Bruxelles เจอเจ้าสี่ขาน่าสงสาร...โดนเจ้าของมาจับนั่งขอตังค์ สงสารนะแต่ไม่ได้ให้เพราะไม่สนับสนุน (คิดผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้) คนยากจน เร่ร่อนแถวยุโรปแยะมาก ยิ่งฝรั่งเศส ที่เป็นประเทศเสรี รับคนทุกเชื้อชาติ...ปัญหาว่างงานมีมาตั้งแต่ก่อนเจอพิษเศรษฐกิจซะอีก คนไม่มีที่อยู่ต้องนอนใต้สะพาน รัฐมีที่ให้นอนก็ไม่ไปเพราะพวกเค้ากลัวคนเร่ร่อนด้วยกันเอง เจออากาศหนาวๆช่วง Hiver ก็ตายกันเป็นว่าเล่น...เฮ้อ กรรมจริงๆ ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน (นั่นถึงเป็นเหตุผลที่สำนึกผิดตอนหลัง) มาบ่นอะไรเนี๊ยตรู โบสถ์ Saints-Michel-et-Gudule de Bruxelles ไม่ได้เข้าไปชมเลยเสียดายเหมือนกัน มีตึกทันสมัยเชียวตั้งอยู่ข้างๆ แล้วก็มาหยุดตรงนี้ ไม่รู้ที่ไหน ความจริงคุณสามีบอกแล้วล่ะแต่จำไม่ได้...ที่เสียดายคือ มีลายลักษณ์อักษรของคนมือบอนเต็มไปหมด ถึงตอนนี้...ไปต่อไม่ไหวแล้ว ขอกลับไปตั้งหลักก่อน...คุณสามีต่อรองว่าไปดู Manneken-Pis ก่อนมั๊ย เออ เออ! เอาก็เอาว่ะ ระหว่างทาง...เริ่มเข้าสู่ย่านชุมชนแออัดอีกแล้ว เค้ามุงดูอะไรกันอ่ะ แล้วเราก็แหวก แหวก ตามประสาพี่ไทยจะไปมุงด้วย ..... ฮ่า ฮ่า เจอแล้ว Petit Julien (ในภาษาฝรั่งเศส) เอาไม้บรรทัดไปวัดดู คุณ Manneken-Pis สูงแค่ 61 เซนติเมตรเองอ่ะ (ล้อเล่นค่ะ ไปยืมข้อมูลเค้ามา) Manneken Pis สัญลักษณ์ของเสรีภาพทางความคิด ของชาว Brussels ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 1619 โดย Jerome Duquesnoy l'ancien ช่างฝีมือในสมัยนั้น โดยการบุกรุกของชาวฝรั่งเศส ในปี ค.ศ 1695 รูปหล่อได้ถูกซ่อนและรักษาไว้เป็นดี แต่โชคร้าย ในที่สุดรูปหล่อได้หายสาปสูญไปในปีค.ศ 1960 ที่เราเห็นเป็นรูปหล่อที่สร้างขึ้นมาแทนค่ะ มีเรื่องเล่าของรูปหล่อ Manneken Pis อยู่สามที่มาด้วยกัน คือ เป็นภาพเหตุการณ์เด็กชายที่พยายามดับชนวนระเบิดที่ข้าศึกได้จุดเพื่อหวังทำลายเมือง... อีกอันก็คือเศรษฐีชาว Brussel ได้พบลูกชายที่หายตัวไปในสภาพนั้น และสุดท้ายก็คือ ภาพเหตุการณ์ของเด็กชาย ที่ทำเซอร์ไพร์ Leopold ที่1 ของ Bruxelles ในปี 1841 ในงานเดินขบวน แปลกๆเหมือนกันเนอะ เพราะมันตั้ง 222 ปีให้หลังแน่ะ (ขอบคุณข้อมูลจาก Wikipedia ค่ะ) คนญี่ปุ่นเยอะทุกที่ เข้าไม่ไหว และด้วยความขี้เกียจ ก็เอามันตรงนี้แหละ ยอดของสถานที่ที่จตุรัส โผล่มาให้เห็นเหมือนปราสาทในเทพนิยาย ขากลับไปโรงแรมก็ผ่านทางจตุรัสอีกนั่นแหละ (ไม่คุ้มก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว) ไปเจอคนเค้ามุงดูปฏิมากรรมชิ้นนี้ เค้าสวด สวด อธิษฐาน แล้วก็ลูบๆคลำๆไปด้วย คงเหมือนหลายสถานที่ ที่เชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อกราบไหว้ สักการะบูชา ถ้าขอพรก็จะสมหวัง