Serum กระชับรูขุมขนบนใบหน้า สุดยอดในดวงใจ

คนไทยส่วนใหญ่จะมีรูขุมขนที่ใบหน้าค่อนข้างใหญ่เพราะสภาพอากาศบ้านเราค่อนข้างร้อน เห็นเพื่อนๆ ที่มาจากชาติอื่นที่สภาพภูมิอากาศบ้านเค้าค่อนข้างหนาว ผิวหน้าเค้าละเอียดมากเลย เห็นแล้วเป็นที่อิจฉายิ่งนัก  ข้อดีของการมีรูขุมขนที่เล็กลง มันก็จะทำให้หน้าเรามันน้อยลง จะได้ไม่ดูหน้าเหมือนน้ำมันทอดไข่ เวลาแต่งหน้าก็ไม่ต้องโบ๊ะหรือฉาบอะไรเพื่อปกปิดรูหนังหน้าเรามากนะ Smiley


สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องกระชับรูขุมขนที่เคยใช้ มีด้วยกัน 2 ตัวค่ะ


Estée Lauder 'Idealist' Pore Minimizing Skin Refinisher



มาดูส่วนผสมของเซรั่มนี้กัน (อันนี้แปลมาจากเว็บของ Estee  นะจ๊ะ)


Chestnut Extract (เกาล้ดนั่นเอง)
ปกป้องจากความแห้งกร้าน, หม่นหมอง ไม่สดใส


3X more Glucosamine
 เพิ่มปริมาณ Glucosamine เป็น 3 เท่าจากสูตรเดิม ช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายหรือเสื่อมสภาพให้หลุดออก และช่วยเร่งการสร้างผิวใหม่ให้มีความกระชับ


Mulberry and Scutellaria Extracts
ช่วยทำให้ผิวหน้าสว่างกระจ่างใส และลดเลือนจุดด่างดำ


มาดูเนื้อของเซรั่มนี้กัน


เนื้อเซรั่ม สีออกขาวๆ ขุ่นๆ ไปทางเหลือง


(กลิ่นเหมือน A Perfect World ของ Origin เลย ถ้านึกไม่ออก ก็เหมือนกับกลิ่นส้มอ่อนๆ)




ซึมและแห้งให้ความรู้สึกเหมือนมีแป้งบางๆ มาฉาบหน้า



ใช้มาขวดที่สองแล้ว ถือว่าโอเคนะ รูขุมขนที่หน้าเล็กลง แต่จะให้เนรมิตแบบรูหนังหน้าใหญ่แล้วกลายเป็นหน้าเนียน อันนี้ไม่คงไม่ใช่ 


ราคา  30 ml.   36 ปอนด์


         50 ml.    49 ปอนด์ 


ตัวที่สอง


Clarins Pore Minimizing Serum



มาดูส่วนผสมของเซรั่มนี้กัน (แปลมาจากเว็บของ Clarins )


Hibiscus extract and Salicylic acid: ป้องกันการเกิดสิวอุดตัน

Ultra-fine powders : ผงแป้งอนูละเอียด ดูดซับความมันส่วนเกิน

White Dead Nettle and Soft Wheat proteins : กระชับรูขุมขน

Chrysin : ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า

Alpine Willow Herb, Zinc and Vitamin B6: ปรับความละเอียดของพื้นผิวบนใบหน้าและทำให้หน้าไม่มัน

Glistin : เป็นกรดอะมิโนที่อยู่ในรูปของ dipeptide ที่ปกป้องเส้นใยปลายประสาทของผิวหนัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกายในการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน


มาดูเนื้อของเซรั่มนี้กัน


เนื้อเซรั่ม ค่อนข้างใสกว่า Estee สีออกเขียวๆ  กลิ่นหอมอ่อนๆ



 


 



ซึมและแห้งเร็วดีทีเดียว




ราคา  30 ml.  19.50  ปอนด์


อันนี้ก็ใช้มาขวดที่สองแล้วเช่นกัน  คำถามคือ ถ้าหมดจะซื้ออันไหนต่อเป็นขวดที่ 3 ?  คำตอบคือ จะซื้อ Clarins ต่อ เพราะว่า รู้สึกว่ามันไม่แรงกับหน้า เนื่องจากเป็นคนไม่ชอบใช้กันแดดที่หน้า บางทีถ้าทา estee แล้วไปโดนแดด มันจะรู้สึกเหมือนคันๆ ยิบๆ ยังไงไม่รู้ ในด้านราคา Clarins ถูกกว่าเยอะ แล้วดูส่วนผสมแล้วมันเหมาะกับใบหน้าอันมันเยิ้มและสิวกระจายของเรามากกว่า เพราะว่ามันช่วยดูดซับความมัน


 










Create Date : 19 สิงหาคม 2552
Last Update : 19 สิงหาคม 2552 20:04:12 น. 6 comments
Counter : 5839 Pageviews.

 
ตัวไหนใช้ดีกว่ากันหรอค๊า


โดย: iMcOoLAe วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:13:44:03 น.  

 
อยากใช้อยู่พอดีเลยค่ะ

Clarins น่าสนใจดีเนอะ
เพราะเราเป็นคนหน้ามันเหมือนกันค่ะ

Estee ได้ตัวเทสเตอร์มา
แต่ยังไม่ได้ใช้เลยค่ะ กลัวแพ้อ่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ


โดย: tempurafamily วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:15:58:17 น.  

 
น่าสนใจจังเลยค่ะ ไว้จะเก็บเป็นทางเลือก เพราะตอนนี้รูขุมขนหย่ายมากกก


โดย: แบแบ วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:18:37:33 น.  

 
ราคาต่อขวดเท่าไหร่คะ


โดย: ตอง ตอง IP: 125.26.231.198 วันที่: 23 เมษายน 2554 เวลา:22:54:33 น.  

 
ไม่ทราบราคาจึงไม่กล้าสั่งซื้อ


โดย: โดนัส IP: 111.84.239.148 วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:59:42 น.  

 
ไม่ทราบราคาจึงไม่กล้าสั่งซื้อ


โดย: โดนัส IP: 111.84.239.148 วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:02:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

trendymeplease
Location :
- United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add trendymeplease's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com