Thenok @ P-Kong Club
Group Blog
 
All blogs
 

"ฝันร้าย" ตอน2

หลังจากนั้น ผม ยายนิล และโสภา ก็ไปทานข้าวด้วยกัน แทบทุกวัน
บางวันเป็นแค่ผมกับยายนิล บางวันเป็นผมกับโสภา บางวันก็โสภากับยายนิล ก็แล้วแต่ว่าวันไหนใครจะไม่ว่าง ติดงาน แต่ถึงยังไง ผมก็ไม่วายโดนหนุ่มๆ ในออฟฟิศแซวผมอยู่ดี

“เฮ้อ อิจฉาโว้ย อีกคนก็สวย อีกคนก็น่ารัก เลือกไม่ถูกเลยล่ะสิมึง” ไอ้โอ๋เพื่อนในแผนกของผม ซึ่งก็เป็นบางวันที่ผมก็จะหนีบมันไปกินข้าวด้วย แต่ก็ไม่บ่อย เพราะมันปากไม่ค่อยดี แถมยังแสดงออกนอกหน้าว่าชอบยายนิลอีก

“พูดอะไรว่ะ ผู้หญิงเค้าเสียหายนะโว้ย” ผมพูดครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่

“ใครว้า น้องสาวคนละพ่อคนละแม่ หรือว่าเพื่อนร่วมงานสาวสวย”

“ก็ทั้งสองคนนั้นแหละ”

“กูถามมึงจริงๆ มึงไม่กลุ้มใจบ้างเหรอว่ะ ว่าจะเลือกใครดี” ไอ้โอ๋ก็ถามผมเป็นประจำ ทั้งๆ ที่มันก็รู้ดีว่าคำตอบก็เหมือนเดิม ไม่มันโดนด่า ผมก็เลี่ยงไปทุกที
ก็จะให้ผมตอบยังไงล่ะครับ ยายนิลน่ะติดผมยังกะตังเม ยิ่งตอนนี้ผมมีคุณโสภาเข้ามาด้วย เธอก็ยิ่งติดผมหนัก ลามไปติดคุณโสภาไปด้วย
เอาเป็นว่าผมแทบจะไม่เคยได้ไปไหนกับคุณโสภาสองต่อสองโดยไม่มียายนิลติดสอยหอยตามไปด้วย
จะมีบางวันที่ยายนิลติดงานด่วนเท่านั้นแหละ ที่ทำให้ผมได้ไปทานข้าวกับโสภาเพียงลำพัง แต่ก็แทบจะนับครั้งได้ และนั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมสนิทอะไรกับโสภามากนัก ทั้งๆ ที่เจอกันทุกวัน
เรื่องโทรศัพท์ไม่ต้องพูดถึง ผมไม่กล้าโทรหาเธอหรอกครับ เพราะยายนิลดูผมอยู่ทุกฝีก้าว และเป็นยายนิลเองด้วยที่คอยโทรหาโสภา แล้วทำท่าส่งให้ผมคุย พอผมไม่คุยก็หัวเราะชอบใจใหญ่
เฮ้อ! ผมจะทำไงดี ผมเริ่มจะกลุ้มใจตามที่ไอ้โอ๋มันถามผมบ่อยๆ ซะแล้วสิ

.....................................

เวลาผ่านไปนานหลายเดือน ผมกับโสภาสนิทกันมากขึ้น ผมอาจจะเป็นผู้ชายคนเดียวในออฟฟิศล่ะมั้งครับที่เธอคุยด้วย ส่วยยายนิลก็ยังติดผมเป็นตังเมเช่นเคย

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร ผมเองก็พอใจสถานะเช่นนี้ เพราะถึงแม้ยายนิลจะเป็นเหมือนน้องสาวผม
แต่ผมก็อดดีใจไม่ได้ที่ยายนิลไม่สนใจผู้ชายคนไหน ซ้ำยังติดผม หวงผมซะอีก
โดยเฉพาะกับโสภา เธอพูดเสมอว่าไม่ยอมจริงๆ ด้วยถ้าผมชอบโสภา...
ส่วนโสภา เธอก็ยังคงเป็นเธอ ที่ไม่สนใจผู้ชาย ยกเว้นผมที่เธอให้ความสนิทสนมด้วยในฐานะ... นั่นสิฐานะอะไรกันนะ

แล้วโอกาสที่จะทำให้ผมได้พิสูจน์ก็มาถึง ผมได้ไปดูงานต่างประเทศเป็นเวลา 3 เดือน มันจะดีกว่านี้ถ้าโสภาจะได้ไปกับผมด้วย
แต่ก็ช่างเถอะผมจะใช้เวลา 3เดือนนี้ในการตัดสินใจ หรือเพื่อดูว่า โสภาคิดอย่างไรกับผมแน่
หากเธอมีใจ 3เดือนนี้เธอต้องคิดถึงผม แล้วเมื่อถึงเวลานั้นผมจะรู้ว่าผมคิดถึงใคร
และต้องการให้ใครมาอยู่ในฐานะคนรักของผม ระหว่างยายนิล กับโสภา.....


.......................................







 

Create Date : 04 สิงหาคม 2553    
Last Update : 4 สิงหาคม 2553 11:05:22 น.
Counter : 411 Pageviews.  

"ฝันร้าย" ตอน1

“ฝันร้าย”
นนท์กนก ((thenok))

โสภาเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย ถ้าดูไม่ผิดเธอต้องเป็นลูกครึ่งแน่ๆ มองไปมองมาคล้ายๆ นางเอกคนหนึ่ง อะใช่เธอคล้ายขวัญอุษามณีนางเอกคนโปรดของผมนั่นเอง ผมก็นึกอยู่ตั้งนานว่าเธอเหมือนใคร.....โสภามีผู้ชายเข้ามาพัวพันมากมาย แต่เธอกลับไม่สนใจใครเลย ผมว่าเธอดูเป็นคนแปลกๆ อยู่นะ

ก็มีใครบ้างที่ไม่อยากมีความรัก ผู้หญิงหลายคนบนโลกนี้ ไม่สิทุกคนเลยก็ว่าได้ที่ผมว่าน่าจะอยากมีใครๆ มารุมรักอย่างเธอ
ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าผู้ชายมันไม่ได้มีมากมายอะไร ขนาดสวยเลือกได้อย่างน้องพอลล่าก็ยังลืมพี่เก้าไม่ได้เลยนี่
คิดแล้วก็อดนึกถึงโฆษณาทางทีวีช่วงก่อนหน้านี้ไม่ได้ ที่มีผู้ชายมายืนเรียงกัน ((ที่สำรวจมาแล้วตามสำมะโนประชากรไทยว่ามีน้อยกว่าผู้หญิงตั้งครึ่ง))
ไหนจะเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วอีก
แล้วไอ้ที่มายืนเรียงๆ กันเนี่ย พวกหล่อๆ ก็ต้องดูดีๆ ส่วนมากเกย์ทั้งนั้น ขนาดแต่งงานมีลูกจนโต ยังเพิ่งมาเผยทีหลังว่าชอบไม้ป่าเดียวกัน จนต้องหย่ากับเมียก็เยอะแยะไป
แล้วไอ้ที่เหลือก็มีครอบครัวแล้วทั้งนั้น
สุดท้ายไอ้ที่เหลือโสดจริงๆ ก็เป็นพวกบ้างาน จิตไม่ปกติ อะไรทำนองนั้น ตอนดูก็ขำทุกที แต่พวกผู้หญิงคงขำไม่ค่อยออก.......

อย่างโสภาเนี่ย ไม่เข็ดกับความรัก ก็อาจจะเป็นทอมเป็นดี้ หรือไม่ก็อินไปกับโฆษณาที่ผมว่าจนไม่อยากคบใคร เธอคงเป็นประเภท เจ้าสาวที่กลัวฝนละมั้ง.......

“ พี่วิทย์ ไปกินข้าวกัน” เสียงใสๆ เรียกผมมาจากด้านหลังทำให้ผมหลุดจากผวังค์ จากการเฝ้ามองคนตรงหน้า
ซึ่งไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นยายนิลน้องสาวต่างมารดาต่างบิดา หรือเรียกง่ายๆ ว่าคนละพ่อคนละแม่กันเลยนะแหละ

ยายนิลโตมากับผม 20กว่าปีได้ ที่พ่อแม่ของผมเลี้ยงเธอมาราวกับว่าเป็นลูกของตัวเอง ผมซะอีกบางทียังคิดไปว่าน่าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อกับแม่ เพราะเวลาผมทะเลาะกับยายนิลทีไร ต้องเป็นผมที่ถูกว่า และต้องเป็นคนผิดทุกที แต่ผมก็ยอมแต่โดยดี เพราะผมรู้ว่าพ่อกับแม่สงสารยายนิลที่เธอต้องกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็กๆ แถมยังไม่มีญาติที่ไหน ผมเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน

“วันนี้อากาศดี พี่วิทย์เราข้ามไปกินร้านเปิดใหม่ตรงหัวมุมตึกฝั่งโน้นกันเถอะ”
ยายนิลพูดพลางดึงมือผมให้ลุกขึ้น โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้สายตาทุกคู่ในห้อง ที่มองมาโดยเฉพาะหนุ่มๆ ในออฟฟิศผม ไม่มีใครหรอกที่จะไม่สนใจยายนิล
ก็จะทำไมซะอีกล่ะครับ ก็ยายนิลน่ะ ถ้าเปรียบกับดารา เธอก็แพนเค้กดีๆ นี่เอง นี่ผมไม่ได้อวยน้องตัวเองนะ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไอ้ผมก็จำหน้าแม่กับพ่อเธอไม่ได้ซะด้วย ได้แต่คิดว่าแม่กับพ่อจริงๆ ของเธอคงจะสวยจะหล่อน่าดูลูกเกิดมาถึงได้หน้าตาดีวันดีคืนอย่างนี้ ...ซึ่งผิดกับผมซึ่งเป็นพี่ชาย
แต่ก็เอาเถอะถึงผมไม่ได้หล่อถึงขนาดเวียร์ ศุกลวัฒน์แต่ก็น่าจะพอไปวัดไปวาตอนสายได้บ้าง ไม่อย่างนั้นยายนิลคงไม่ติดผมแจ และภาคภูมิใจเป็นนักหนาเวลาเดินควงกับผม และมักจะเอาผมเป็นไม้กันหมาบ่อยๆ

“กินใต้ตึกนี่แหละ ร้อนจะตาย อากาศดีตรงไหน” ผมตอบพร้อมกับลุกขึ้นตามแรงดึงของเธอ

“นี่แหละอากาศดี ฝนไม่ตกแน่ น่านะฉันให้พี่เลี้ยง เอ๊ย! ฉันเลี้ยงพี่เอง แหะแหะ”
ที่จริงผมก็พูดไปอย่างนั้นเอง เพราะไม่ว่ายังไง สรุปแล้วผมก็ต้องตามใจยายนิลอยู่ดี เพราะผมไม่เคยขัดใจยายนิลสำเร็จ แถมผมก็ไม่เคยที่ต้องให้ยายนิลต้องควักเงินจ่ายเองเลยสักครั้งเดียว

“เห็นไม๊พี่...มัวแต่ช้าอยู่น่าน คนเยอะแยะเลย ต้องอร่อยแน่ๆ นี่เหลือโต๊ะเดียว ช้าอีกนิดไม่มีที่นั่งแน่”

“ก็ธรรมดา เห่อร้านใหม่กันทั้งนั้น”

“ดูพูดเข้า... เอ๊ะพี่วิทย์ นั่นคุณคนนั้น เค้าทำงานที่เดียวกับพี่ใช่ไม๊ เหมือนเค้าจะกำลังหาที่นั่งอยู่นะ ”

“อ๋อ คุณโสภา...ชะใช่ อ้าวเดี๋ยว” ผมยังไม่ทันตอบจบประโยค ยายนิลก็เดินไปจูงมือโสภามาที่โต๊ะ และจัดแจงให้นั่งข้างผมเสร็จสรรพ

“ขอบคุณมากเลยค่ะ...เอ่อ สวัสดีค่ะคุณวิทย์”

“เอ่อ ครับ เอ่อ ยินดีครับ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกับโสภาได้คุยกัน ทั้งๆ ที่เธอย้ายมาทำงานแผนกเดียวกับผมได้หลายเดือนแล้ว ....รู้สึกตื่นเต้นพิลึกแฮะ
แถมเธอยังรู้จักชื่อผมซะด้วยสิ ผมนึกว่าเธอไม่เคยสนใจด้วยซ้ำ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมามีแต่ผมละมั้งที่แอบมองเธออยู่บ่อยๆ แต่เธอสิแทบจะไม่เคยหันมามอง หรือแม้แต่ยิ้มให้ก็แทบจะนับครั้งได้

“พี่วิทย์ เหม่ออะไรอยู่ได้ สั่งอาหารเร็วๆ เลย หิวจะแย่อยู่แล้ว” ยายนิลเร่งให้ผมสั่งอาหารหลังจากที่โสภาทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง

“ดิฉันขอไปห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ” โสภาขอตัวไปห้องน้ำ ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่า เธอมีอาการเขินๆ อยู่นะ เอ๊ะ หรือว่าเธอเขินผม

“นี่พี่วิทย์ ถามจริงๆ เถอะ ไม่เคยคุยกันเหรอ ทำงานที่เดียวกันแท้ๆ”

“ก็ใช่...ไม่รู้สิ ไม่เคยคุยกันอ่ะ”

“แต่ฉันเห็นนะ พี่น่ะ แอบมองเค้าตลอดเลย สนใจเค้าละสิ”

“เฮ้ย เปล่า จะบ้าเหรอ” ผมรีบตอบ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เหงื่อการผมแตกทั้งๆ ที่ร้านนี้เป็นห้องแอร์แท้ๆ

“ไม่รู้ล่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันไม่ยอมจริงๆ ด้วย” ยายนิลพูดพร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้หน้าผม

“ฟุ้งซ่านน่า...นั่นคุณโสภามาแล้ว หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ”

“ปกติคุณโสมาทานข้าวกลางวันกับใครค่ะ” ยายนิลถามหลังจากที่เราเริ่มทานอาหาร

“ส่วนใหญ่จะมาทานคนเดียวค่ะ” โสภาตอบพร้อมชำเลืองมองผมเล็กน้อย

“งั้นต่อไปมาทานด้วยกันกับเรานะคะ”

“เอ่อ...ค่ะ” โสภาตอบ ไม่รู้สิผมว่าตอนที่เธอพูดว่าค่ะ เธอมองมาที่ผมอีกแล้วนะ

....................................................





 

Create Date : 04 สิงหาคม 2553    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2554 0:21:03 น.
Counter : 255 Pageviews.  


thenok
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มีนา...ตาพายายไปฮันนีมูน Photobucket ก่อนไปฮันนีมูน@Beijing แอร๊ยยย Photobucket Photobucket "รักนี้สีส้มเขียว" #ปก Photobucket ภาพประกอบตอน#2 "หวั่นไหว" Photobucket ภาพประกอบตอน#3 "เพ้อ" Photobucket
Friends' blogs
[Add thenok's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.