[บทวิจารณ์] Man United 1-4 Liverpool ..............ซับน้ำตา แล้วเดินหน้าต่อไป+ผลบอลเมื่อคืนครับ

แฟนผีทุกท่านครับ........


ทำใจได้กันหรือยังครับ?????


กับความพ่ายแพ้อย่างไม่น่าเชื่อ(ว่าจะมโหฬารขนาดนี้)..........

มายอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้กันเถอะครับ ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่สมควรจะชนะจากแมตช์นี้จริงๆ
กีฬาก็อย่างงี้นะครับ มีแพ้ มีชนะ
แต่ว่าถ้าเรายอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ เราจะไม่มีวันเป็นผู้ชนะที่ดีแน่นอนครับ

ปล. แฟนหงส์ครับ(ถ้าเผื่อมีหลุดมาอ่าน) ยินดีด้วยนะครับ ทีมของพวกท่านเล่นกันได้ดีจริงๆ

มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ

ก่อนเกมส์นี้นั้น หลายๆฝ่ายต่างคิดว่าน่าจะเป็นเกมส์ที่สนุก สุดยอด
เพราะทั้งคู่เพิ่งจะโชว์ฟอร์มเก่งกันมา(เมพขิงๆ อิอิ)ในแชมป์เปี้ยนลีคมานะครับ
ลิเวอร์พูลนั้นถล่มเรอัล มาดริดมาแบบกระจุยกระจายไป4-0ที่แอนฟิลด์ ส่วนแมนยูชนะอินเตอร์ไป2-0
ทำให้ทั้งสองทีมมีกำลังใจ มีความหึกเหิมก่อนเกมส์วันนี้ครับ

อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์หลายคนก็ยังเชื่อว่าแมนยูยังเหนือกว่าลิเวอร์พูลเล็กๆครับ
เพราะ 1.เล่นในบ้าน - ผลงานในบ้านของแมนยูดีมากๆครับ เสมอเพียงนัดเดียวแล้วที่เหลือชนะหมด
2.สถิติในลีคช่วงหลัง - แมนยูสถิติข่มอยู่ครับ เพิ่งจะมีนัดเมื่อต้นฤดูกาลนี่แหล่ะครับที่มีแพ้เอา2-1
และ 3.ลิเวอร์พูลกดดันครับ เพราะว่าถ้าจะยังลุ้นแชมป์ลิเวอร์พูลต้องชนะเท่านั้นเพื่อกดดันแมนยู

หลายฝ่ายจึงคาดกันว่าแมนยูน่าจะชนะไปแบบเฉียดฉิว หรืออาจจะออกเสมอ แต่โอกาสแพ้ก็มีครับ

11ตัวจริงของทั้ง 2 ฝ่ายมีดังนี้ครับ

Man United

Van der sar
O'Shea Ferdinand Vidic Evra
Ronaldo Carrick Anderson Park
Tevez Rooney

มีการปรับเปลี่ยนจากเมื่อกลางสัปดาห์ล่ะครับ ป๋าคงกะว่าจะใช้ความสด+พละกำลังเข้าสู้ล่ะครับ
เลยเลือกParkกับAndersonลงมา(ส่วนTevezผมไม่แน่ใจครับว่าBerbatovไม่สมบูรณ์เต็มร้อยหรือป่าว??)

Liverpool

Reina
Carragher Hyypia Skrtel Aurelio
Lucas Mascherano
Kuyt Gerrard Riera
Torres
ตอนแรกรายชื่อนี่แบ็คขวาเป็นของArbeloaครับ แต่ว่ามีปัญหาตอนวอร์ม จึงต้องส่งHyypiaลงมาพร้อมถ่างCarragherมายืนแบ็คขวา
ส่วนAlonsoนั้นมีข่าวว่าไม่ฟิตสมบูรณ์ครับ เลยต้องให้ลูคัส ลูกรักลงมาแทน(ผมเชื่อว่าเมื่อแฟนหงส์เห็นก็คงแอบด่าล่ะครับ เพราะผมเห็นผมก็หัวเราะอยู่ในใจ อิอิ)

เริ่มเกมส์มาในช่วงแรก แมนยูพยายามขึ้นเกมทางกราบครับ โดยใช้เจ้าหมูกับพาร์ครวมถึงการเติมของเอวร่าทางด้านซ้าย และโด้กับเตทางด้านขวา
และเราก็ได้เห็นแมนยูแบบฤดูกาลก่อนล่ะครับ คือ4ตัวหน้า (โด้-รูน-เต +กับปีกอีกคนสัลบตำแหน่งกันไปมา คนนึงฉีก อีกคนนึงสอดเข้าไปทำ)

ส่วนลิเวอร์พูลนั้นยังไม่กล้าที่จะบุกมากนัก เน้นต่อบอล ในแดนกลางเป็นหลัก อาจจะมีเล่นเร็วบ้างแต่ก็ยังไม่ผ่านแนวรับของแมนยูครับ

แต่แล้วความรัดกุมของลิเวอร์พูลก็ยังไม่ได้ผลครับ เมื่อแมนยูตัดบอลในแดนกลางได้
เตเวซลงต่ำลงมาล้วงบอลจากกลางสนาม ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ปาร์คที่สอดเข้าไปตรางกลางระหว่างคู่เซนเตอร์ ออกมาทางด้านซ้าย แล้วโดนเปเป้ เรน่ารวบล้มลงในเขตโทษ
ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันทีครับ

พูดถึงจุดโทษนี้ ผู้ตัดสินบางคนอาจจะไม่ให้ก็ได้ครับ ลูกลักษณะนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ตัดสินจริงๆ
เปเป้ เรน่าออกมาโดนปาร์คจริงครับ โดนจริงๆ แต่ตามจังหวะแล้วปาร์คอาจจะแตะหลบไปแต่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้ครับ

แต่ในเมื่อผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ เจ้าโด้ก็น้อมใจรับล่ะครับ และก็ยิงเข้าไปที่มุมถนัด
เปเป้เราน่าพุ่งถูกทางแล้วแต่บอลเร็ว+แรงมากครับ ทำอะไรไม่ได้ เรานำก่อน 1-0ครับ

แต่นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำเลยครับ ก็โดนตีเสมอโดยไม่ทันตั้งตัวซะแล้ว

เมื่อได้ประตูนำแล้ว เราก็พยายามกดแล้วเสียบอลพยายามเพรสซิ่งเข้าไป ซึ่งก็ได้ผลด้วยนะครับ
สเคอเทลจึงจำเป็นต้องเตะสาดขึ้นมา
ปกติบอลจะกระเด้งที่ริโอหรือวิดิชครับ แล้วคาร์ริคไปเก็บบอลมาเล่นต่อ

แต่มันไม่ปกติสิครับ!!!!!
ปกติทั้งริโอและวิดิชจะชัวร์มากในลูกกลางอากาศ
แต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ครับ ที่ทำให้เฮียวีไม่เล่นบอลจังหวะแรก แล้วให้เพื่อนร่วมทีมช่วยเก็บเอา ไปปล่อยบอลตกพื้นข้ามหัวล่ะครับ

ปกติใครเล่นเซนเตอร์จะรู้ดีนะครับ ว่าควรจะเล่นบอลจังหวะแรกเสมอครับ
ถ้าปล่อยบอลตกพื้นแล้วข้าวหัวไปนี่จะเสียเปรียบกองหน้าทันทีครับ
เพราะว่ากองหลังจะต้องใช้เวลาในการกลับตัวเพื่อไปเล่นบอล ผิดกับกองหน้าที่สปีดมาตรงๆเลย

แล้วกองหน้าคนนี้ก็มีชื่อว่า เฟอร์นานโด ตอร์เรสล่ะครับ ที่วิ่งตามไปฉกบอลจากเฮียวีของเรา แล้วไปดวลกับน้าซาร์โล่งๆ
ก็ไม่เหลือล่ะครับ มีทั้งพื้นที่ ทั้งเวลา หลอกยิงไปนิ่มๆ โดยน้าซ้าร์พุ่งมีขวางผิดทาง โดนตีเสมอเป็น1-1ล่ะครับ

โดนลูกนี้เฮียวีนี่ต้องเต็มๆเลยครับ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะว่าคนเรามันพลาดกันได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้น(ตอนนั้น)ถึงคิดว่าไม่เป้นไร เอาใหม่ได้ครับ

จากนั้นเกมส์ก็เริ่มเปิดล่ะครับ ผลัดกันรุกผลัดกันสวนตลอด

แมนยูพยายามจะให้โด้-รูนเป็นตัวคีย์เกมครับ แต่ว่าแนวรับลิเวอร์พูลก็คีย์2คนนี้ไว้เหมือนกันครับ
จะสังเหตุได้ว่าเวลา2คนนี้ได้บอลทีไรจะ มีผู้เล่นอย่างน้อย2คนมีรุม ช่วยกันซ้อนตลอด
เลยต้องพยายามให้เตกับปาร์คช่วยกันต่อบอลเข้าไปอยู่ตลอด ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไร่ครับ
ครั้นจะหวังการจ่ายบอลทะลุของคาร์ริคและแอนนี่ก็ไม่เป็นผลอีกครับ เพราะว่ากองหลังลิเวอร์พูลยืนกันค่อนข้างลึก
และแดนกลางของลิเวอร์พูลทั้ง5คนก็มาช่วยกันวิ่งบี้ไว้อีก(แอนนี่มีปัญหามากๆเลยครับ) จึงทำให้บอลสุดท้ายที่จะไปจบด้วยการยิงประตูเลยไม่ค่อยมี
คาร์ริคก็เลยต้องลากมายิงไกลได้ลุ้นอยุ่ที

ส่วนทางฝ่ายลิเวอร์พูลนั้น เน้นการขึ้นเกมจากด้านข้างและจ่ายเข้ากลางให้เจอร์ราดหรือตอร์เรสไปสร้างสรรค์จังหวะเอา(วิดิชแทบจะเอาตอร์ไม่อยู่เลย)
และอาศัยการโต้กลับเร็วซะส่วนใหญ่ โดยใช้เจิดและตอร์เป็นแกนหลัก โดนให้คนอื่นๆวิ่งตามกันขึ้นมาอีกทีครับ
ซึ่งเล่นกันอย่างงี้ไปเรื่อยๆก็ได้เรื่องเลยครับ

จากจังหวะที่กองหลังลิเวอร์พูลเตะสวนขึ้นมาตอร์เรสชิงโหม่งกับริโอแล้วเจิดได้บอล ตอร์ดึงจังหวะนิดนึง พร้อมกับจ่ายคืนให้เจิดที่วิ่งอ้อมเอวร่ามาทางขวา
ก่อนที่จะโดนพี่ติ๊กของเรารวบล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินก็ไม่ลังเลที่จะเป่าให้เป็นจุดโทษล่ะครับ - -

จังหวะนี้เป็นจุดโทษชัดเจนครับ เพราะว่าเอวร่าไปขวางจังหวะได้เสียของลิเวอร์พูลในเขตโทษจริง
ซึ่งถ้าไม่ทำฟาวล์ก็อาจจะทำให้เจิดหลุดไปทางด้านขวาแล้วจ่ายตัดเข้ากลางให้ริเอร่าซึ่งยืนอยู่โล่งๆได้
ลูกนี้โทษใครเฉพาะเจาะจงไม่ได้ครับ เพราะว่าเอวร่านั้นได้พยายามที่จะสกัดเต็มที่แล้ว(แต่เซ็งนิดนึงไม่ยอมไปทำนอกเขต+ทำไมริโอไปเสียท่ากลางอาการให้ตอร์ง่ายขนาดนั้น เหอะๆ)

ลูกนี้เจอร์ราดก็ไม่พลาดล่ะครับ น้าซาร์พุ่งถูกทางเหมือนกัน แต่ว่าไม่สามารถป้องกันได้

ทำให้ลิเวอร์พูลนำ2-1 จนจบครึ่งแรกครับ

พอจบครึ่งแรกนะครับ

สิ่งแรกที่ผมรู้สึกคือผมคิดถึงเฮียเบิร์บล่ะครับ

จริงอยู่ครับที่เตเวซกับรูนี่ย์มีลูกขยัน(มากถึงมากที่สุด)แต่ว่าจากเท่าที่ผมสังเหตุนะครับ
เวลาสองคนนี้ไล่ไปเวลาทีมตัดบอลได้แล้ว หลายๆครั้ง2คนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะพลิกเกมส์ได้ในทันที
ซึ่งผิดกับเบิร์บล่ะครับ เฮียแกอาจจะดูเหมือนไม่ค่อยวิ่งก็จริง แต่เฮียแกวิ่งแค่เท่าที่แกคิดว่าจำเป็นล่ะครับ(สถิติ10กิโลกว่าๆเมื่อเกมส์กับอินเตอร์นี่อันดับ2ของทีมเลยนะครับ) ซึ่งทำให้แกอยู่ในตำแหน่งที่เพื่อนจะจ่ายบอลให้ได้เวลาจะสวนกลับ แล้วเอาไปทำเกมส์รุกได้เร็ว

อีกทั้งวันนี้กองหลังลิเวอร์พูลยืนกันค่อนข้างต่ำทำให้รูนี่ย์กับเต(+โด้)ใช้ความเร็วเข้าทำไม่ค่อยได้ ไอ่ครั้นจะไปโยนด้านข้างก็ไม่มีใครโหม่งอีก ทำให้โดนกองหลังลิเวอร์พูลสกัดออกมาบ่อยๆ
ซึ่งถ้ามีเฮียเบิร์บอยู่ผมว่าน่าจะช่วยได้เยอะล่ะครับ แกอาจจะพิงกองหลังลิเวอร์พูลได้ หรือไม่ก็โหม่งลูกโยนทางกราบได้ดีว่าครับ

พอเริ่มครึ่งหลัง แมนยูก็พยายามลุยต่อครับ เปลี่ยนแทคติก
โดยการสลับตำแหน่งกันให้เจ้าโด้ยืนเป็นตัวเป้า ถอยเตเป็นหน้าต่ำ หมูยืนซ้าย ปาร์คยืนขวา
ส่วนลิเวอร์พูลก็เล่นแบบเดิมครับ คือตั้งรับค่อนข้างลึกแล้วเน้นจังหวะสวนกลับ

ช่วง20นาทีแรกของครึ่งหลังเนี่ยแหล่ะครับ เป็นการพับสนามบุกของแมนยู
แม้ว่าลิเวอร์พูลจะตัดบอลได้ จะเอามาทำเกมส์รุกใหม่ก็เจอหมู-เต-ปาร์ควิ่งไล่แย่งกลับมาบุกต่อทันที
บอลเลยเฉี่ยวไปเฉียวมาอยู่หน้าปากประตูของลิเวอร์พูลอยู่บ่อยครั้ง(เสียดายที่สุดตอนลูกที่เตไปเสียหลักอยู่หน้าประตู)ล่ะครับ
ทำให้ทางลิเวอร์พูลนั้นต้องหยุดด้วยการตัดฟาวล์หลายครั้ง (ส่วนใหญ่มาจากเจ้าหมูเวลาตัดเข้ากลาง) แต่ก็ไม่ใช่ระยะอันตรายเท่าไร่นัก ฟรีคิดเจ้าโด้เลยทำอะไรไม่ค่อยได้

ราฟาเห็นท่าไม่ดีล่ะครับเลยส่งดอสเซน่าลงมาแทนริเอร่า ซึ่งวันนี้ไม่มีบทบาทเอาซะเลย เพื่อมาเน้นเกมส์รับ ช่วยมาซ้อนกับออเรลิโอครับ
แต่แมนยูก็ยังทำอะไรไม่ได้ครับ บอลยังวนไปวนมาแต่หาจังหวะจบไม่ได้เช่นเคย

ป๋าเลยอยู่ไม่สุขล่ะครับ เปลี่ยนตัวลงมา3คนรวด เอาปาร์ค แอนนี่(ที่ไม่มีบทบาทกับเกม) คาร์ริค ออก พร้อมส่งเฮีบเบิร์บ น้ากิ๊ส์ แล่ะสโคลส์ลงมา หวังจะเอามาเน้นเกมส์รุกเต็มที่ล่ะครับ เอาน้ากิ๊กส์กับสโคลส์มาเล่นตรงกลาง
ถ่างโด้ออกไปทางขวาแล้วให้เฮีบเบิร์บยืนหน้าเป้า

แต่ว่าก่อนที่3คนนั้นจะเริ่มทำอะไรก็ได้เรื่องเลยครับ

จากจังหวะสวนกลับของลิเวอร์พูลล่ะครับ

บอลมาจากทางด้านซ้ายครับ เค้าท์(ไม่แน่ใจนะครับ ใครรู้มาคอนเฟิร์มอีกที)ชิงโหม่งชนะเอวร่าได้ทางด้านขวา บอลอยู่ตรงหน้าวิดิช
แต่เฮียวีไปรอบอลครับ เลยโดนเจอร์ราดโฉบตัดหน้าไป เลยทำให้เฮียวีต้องดึงเจอร์ราดล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกครับ เป็นprofessional foul เฮียวีเลยโดนใบแดง เราเลยเหลือผู้เล่นแค่10คนครับ

และจากฟรีคิกจังหวะนี้นี่เอง ออเรลิโอก็ปั่นโค้งด้วยเท้าซ้านเสียเสาไปอย่างงดงามโดนที่น้าซาร์ทำได้แค่มองเท่านั้น

ลิเวอร์พูลนำเราไปแล้ว3-1ครับ

พอเราเสียพี่วีไป แถมเสียประตูไปอีก ทำให้เราค่อนข้างเสียศูนย์เลยครับ
ผิดกับทางลิเวอร์พูลซึ่งยิ่งเล่น ยิ่งได้ใจ

เราบุกขึ้นไปเรื่อยๆ เค้าก็สวนขึ้นมาเรื่อยๆเหมือนกัน
ซึ่งก็เหมือนเดินครับ ว่าเราทำได้แค่เชี่ยวไปเชี่ยวมาอยู่หน้าประตู พอดีโอกาสก็มายิงแป้กกันไปอีก
ยิ่งแนวหลังเหลืออยู่3คน กองกลางทั้งสโคลส์และกิ๊กส์ก็ไม่ได้เด่นด้านเกมส์รับ ทำให้ลิเวอร์พูลสวนมาแต่ล่ะทีมีเสียวตลอด

แล้วก็มาโดนอีกลูกล่ะครับ หลังจากที่เปเป้ เรน่าขว้างบอลเร็วมาให้ดอสเซน่า ซึ่งวิ่งตีคู่มากับโอเชีย แล้วแปโด่งจังหวะเดียวข้ามหัวน้าซาร์เข้าประตูไป

กลายเป็นนำเราไป4-1แล้วครับ

จบเกมส์ก็ชนะเราไป4-1ครับ

จากเกมวันนี้นะครับ ที่เห็นกันได้ชัดๆเลยคือความผิดพลาดในเกมส์รับนะครับ
ไม่ใช่แค่พี่วี(ซึ่งน่าจะเป็นเกมที่แย่ที่สุดในชีวิตเค้ากับแมนยูไปแล้ว) แต่เป็นทั้งแผงเลยครับ
วันนี้เรารับมือกับลูกโด่งของลิเวอร์พูลไม่ได้เลยครับ อีกทั้งการประสานงานกันก็ดูไม่เนียนแบบแต่ก่อน
(เห็นมาตั้งแต่นัดฟูแล่ม รวมถึงอินเตอร์ด้วยครับ แต่ยังไม่เสียหายมาก)

กองกลางของเราก็ทำเกมส์กันไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะแอนนี่ครับ ด้วยความที่ยังขาดประสบการณ์ทำให้เวลาได้บอลแต่ล่ะที แกจะจ่ายสวนเร็วทุกครั้งไปซึ่งบางครั้งเพื่อนก็ยังไม่พร้อมที่จะเล่น ซึ่งน่าจะใช้เวลาเกลาซักนิดนึงครับ
คาร์ริควันนี้ก็เล่นได้ค่อนข้างต่ำกว่ามาตารฐาน

เกมส์รุกเองก็ทำได้ไม่ดีพอครับ ในจังหวะจบ ทำให้นึกถึงตอนต้นฤดูกาลล่ะครับ

ในขณะที่ผมเองกำลังนั่งซึมอยู่นะครับ

มีลูกค้าฝรั่ง(ซึ่งเป็นแฟนลีดส์)ในร้านอาหารของครอบครัวผม
(ที่บ้านผมเป็นร้านอาหาร+เกสท์เฮ้าส์ล่ะครับ ลูกค้าที่ร้านนี่ไม่มีใครเชียร์แมนยูเลย เหอะๆ)
เดินเข้ามาบอกผมว่า "C'mon, don't be so upset, you're still on the top of the league. you could still win all of the trophies"

ผมก็เลยคิดได้ครับ ว่าไม่ต้องเศร้าขนาดนั้นก็ได้ครับ ยังไงก็ยังนำอยู่
และการแพ้ครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการเตือนทีมเราด้วยครับ ว่าที่จริงเราไม่ได้เก่งกาจอะไรเว่อร์ๆแบบที่เค้าลือกัน จะได้มีเวลามาปรับแต่งทีมให้มีลุ้นยาวๆในอีก3แชมป์ที่เหลือได้ครับ

แล้วที่ผมภูมิใจอีกอย่างนึงสำหรับนักเตะทีมเราครับ คือแม้ว่าจะโดนนำอยู่3-1เหลือ10ตัว ทีมเราก็ยังพยายามสู้ ไม่มีใครท้อ
โดนนำต่ออีก4-1 เราก็ยังเปิดเกมส์รุกใส่หวังว่าจะเอาประตูคืนมาจงได้
ทำให้ผมดีใจอยู่ครับ ว่ายังไงสปิริต ความเป็นยูไนเต็ดที่จะสู้จนกว่าเสียงนกหวีดจะดังยังคงมีอยู่
คุณสมบัตินี้ล่ะครับที่ทำให้ผมและพวกเราหลายๆคนดีใจและภูมิใจที่จะได้เชียร์ทีมนี้

ถึงวันนี้ทีมจะแพ้ แต่ผมก็ภูมิใจครับว่าแพ้โดยทีมที่สมควรชนะ และแพ้โดยที่ใจยังสู้ไม่ว่าสถานการณ์จะแย่ขนาดไหน
และยังไงก็จะเป้นแฟนManchester Unitedตลอดไปครับ

ขอบคุณครับที่ตามอ่าน มีความเห็นยังไงก็แสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ จะกลับมาตอบเป็นระยะๆครับ
ขอขอบคุณอีกรอบครับ

~Kanet "The KiLLer" J~

ผลคู่อื่นๆนะครับ

Arsenal 4-0 Blackburn
Arshavin 2',65'
Eboue 87',90'(pen)

Bolton 1-3 Fulham
K.Davies 45' A.Johnson 42'
S.Davies 55',88'

Everton 3-1 Stoke
Jo 18' Shawcross 52'
Lescott 24'
Fellaini 90'

Hull City 1-1 Newcastle Utd
Geovanni 9' S.Taylor 38'

Middlesbough 1-1 Portsmouth
King 90' Crouch 30'

Sunderland 1-2 Wigan
Leadbitter 41' Watson 12'
N'Zogbia 45'




 

Create Date : 15 มีนาคม 2552   
Last Update : 15 มีนาคม 2552 11:43:52 น.   
Counter : 446 Pageviews.  


[บทวิเคราะห์] Man United 2-0 Inter Milan ............. We only got 4 minutes to save the world.....

Time is waiting
We only got 4 minutes to save the world
No hesitating
We only got 4 minutes, 4 minutes

อิอิ นึกถึงเพลงของMadonna feat. Justin Timberlakeเลยครับ(รายหลังก็แฟนแมนยูฯนะ อิอิ)

ที่ตั้งชื่อแบบนี้ก็คงจะรู้กันนะครับ ว่าประตูที่เราได้มาจากนาทีที่4 และนาทีที่49 4นาทีแรกของครึ่งหลังล่ะครับ
ทำให้เรายังอยู่ในเส้นทางของการลุ้น4+1แชมป์ต่อไป(Save Our Worldของเราล่ะครับ) รวมถึงตาม หงส์ สิงห์ที่เข้ารอบไปตั้งแต่เมื่อวาน และปืนที่ตามมาด้วยครับ

ก่อนเกมส์ในวันนี้ครับ มีการวิเคราะห์กันว่าจะยากก็ไม่ยาก จะง่ายก็ไม่ง่ายนะครับ จากที่ผลนัดแรกเสมอกันไป 0-0

ไอ่ที่ไม่ยากคือเล่นที่Old Traffordของตัวเองโดยการที่ยังไม่เพลี้ยงพล้ำให้กับอินเตอร์ในนัดแรก ขวัญกำลังใจนี่มีอยู่แล้วครับ
แต่ที่มันยากก็คือต้องเล่นให้ชนะครับ ถึงแม้ว่านัดที่แล้วนี่เราจะค่อนข้างOutclassอินเตอร์ก็ตาม แต่ก็ทำประตูไม่ได้
แต่ต้องไม่ลืมนะครับว่าอินเตอร์เป็นทีมที่ค่อนข้างเคี่ยว นักเตะแต่ล่ะคนประสบการณ์เยอะอยู่แล้ว
ยิ่งกว่านั้นมีกุนซือที่ชื่อว่า โฆเซ่ มูริญโญ่ อยู่ครับ
น้ามูเป็นกุนซือที่เคี่ยวจริงๆครับ ปรับเกมส์ปรับอะไรได้ค่อนข้างเร็ว และที่สำคัญ สถิติของน้ามูนี่ข่มป๋าอยู่ด้วยครับ ป๋าชนะได้แค่นัดเดียว(จากลูกโหม่งไซร์โค้งของเทพเฟร็ทช์)

แมตช์นี้จึงเป็นบิ๊กแมตช์ระหว่างแชมป์แห่งอังกฤษ และ แชมป์อิตาลีเลยครับ

เริ่มเกมส์ แมนยูเล่นในระบบ 4-4-2 ครับ

Van der Sar
O'Shea Ferdinand Vidic Evra
Ronaldo Carrick Scholes Giggs
Rooney Berbatov

ส่วนอินเตอร์มาในระบบนี้ครับ(ระบบใหม่ ซ้อมกันมากับเกมส์เจอกับเจนัวครับ)

Julio Caesar
Maicon Cordoba Samual Santon
Viera Cambiasso Zanetti
Stankovic Balotelli
Ibrahimovic
เป็นข่าวดีของอินเตอร์นะครับที่ซามูเอลกลับมาฟิตทันไม่งั้นอาจจะต้องใช้เนลวัน ริวาสที่เป้นบ่อในนัดแรก(เสียด๊าย เสียดาย มูไม่เอาลง)
หรือไม่ก็ถอยกัมบิอาสโซ่ลงไปเล่นเซนเตอร์ซึ่งที่ผ่านมาก็ดูโอเคแต่ว่าแมตช์นี้คู่ต่อสู้คือDefending Championครับ ซึ่งก็คงไม่ดีแน่
ส่วนทางริมเส้นก็เอาซาเน็ตติไปช่วยหนูซานตันในการดวลกับเจ้าโด้ล่ะครับ

เริ่มเกมส์มาตอนแรกแมนยูก็ใส่เร็วเลยครับ(ใส่ก่อนได้เปรียบๆ อิอิ) ใส่ตอนที่อินเตอร์ยังตั้งตัวไม่ติดล่ะครับ
แล้วก็มาได้เตะมุม2จังหวะติดกันครับ
แล้วก็ได้เรื่องทันทีในจังหวะที่2ครับ น้ากิ๊กส์เปิดมาให้วิดิชได้สะบัดเต็มหัวเสียบเสาสองเข้าไป

เย้ นำแล้วครับ(โว้ย!!!!!) 1-0

จากจังหวะนี้นะครับ ดูภาพช้านี่ความผิดวิเอร่าเต็มๆเลยครับ แต่จะเรียกความผิดก็ไม่ถูกนัก เรียกว่าสู้พี่วีไม่ได้มากกว่า
เจอพี่วีแกโยกหลอกซะจนขาตายเลยครับ(น่าจับเฮียแกไปเล่นเป็นTEเลยนะเนี่ย บล็อคก็ได้ รับลูกก็ได้ มุขอเมริกัน ฟุตบอลหน่ะครับ อิอิ)
แล้วอีกอย่างนึงที่ไม่เข้าใจเลยคือไม่มีตัวยืนคุมเส้นที่เสาสองของอินเตอร์ล่ะครับ
อันนี้เฮียมูน่าจะรู้ดี ว่าลูกเตะมุมของแมนยูก็อันตรายไม่เบา
แต่ด้วยความประมาทหรืออะไรก็แล้วแต่ การไม่มีตัวคุมเส้นก็ทำให้พื้นที่ที่ประตูนั้นว่างขึ้น และทำให้เฮียวีโหม่งเข้าไปครับ

นำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่4ครับ 1-0

เจอช็อตนี้เข้าไปนั้น ผู้เล่นอินเตอร์ถึงกับช็อคล่ะครับ ถึงกับเล่นกันแบบสะเปะสะปะไปพักใหญ่ๆ
จ่ายบอลขาดๆเกินๆ เสียบอลง่ายๆกันบ่อย จึงทำให้แมนยูนั้นได้ครองเกมส์ตลอด20กว่านาทีครับ

แมนยูนั้นเน้นขึ้นบอลทางริมเส้นล่ะครับ ทั้งเจ้าโด้ ทั้งน้ากิ๊กส์ รูนี่ย์ก็มีฉีกออกมาบ้างสลับตำแหน่งกับกิ๊กส์ไป เอวร่ากับโอเชก็มีเติมขึ้นมาบ่อยๆ
และเกือบจะได้หลายลูกเหมือนกันครับ จากจังหวะที่โด้จ่ายให้รูนี่ย์ที่จับบอลแล้วไม่เข้าจังหวะกับเบิร์บทำให้ยิงไปซะเบาหวิว
รวมถึงจังหวะที่น้ากิ๊กส์หลุดเข้าไปทางด้านซ้ายล่ะจ่ายหักเข้ากลางมาแล้วติดคอร์โดบ้าที่ล้มขวางไว้ได้ล่ะครับ

ส่วนทางอินเตอร์นั้นได้บอลแต่ล่ะที จ่ายต่อบอล ก็โดนสโคลส์กับคาร์ริคดักไว้ได้
ถึงพยายามแก้ด้วยการทิ้งบอลไปให้ซลาตันเก็บบอลเอา แม้ว่าซลาตันจะเก็บบอลไว้ได้ก็ตาม แต่ว่าไม่มีตัวส่งล่ะครับ บาโลเตลลี่กับสแตนโควิชยังไม่อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมสำหรับการรับบอลเท่าไร่ในช่วงนั้น
ทำให้ซลาตันโดนริโอ และวิดิช รวมถึงเอวร่า สโคลส์ คาร์ริค รุมกินโต๊ะ แย่งบอลไปบ่อยๆ(ซลาตันก็ซลาตันเหอะครับ เก่งขนาดไหน โดนรุม3-4คนรอบทิศทางแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน)

น้ามูเลยต้องแก้เกมส์ล่ะครับ โดยการดึงซลาตันลงต่ำลงมา รวมถึงโยกเอาบาโลเตลลี่และสแตนโควิชไปเล่นที่ริมเส้น

หมากนี้ค่อนข้างได้ผลล่ะครับทำให้เกมส์ของอินเตอร์นั้นกลับมาได้ลุ้นมากขึ้น สู้กับแมนยูได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ
ซลาตันเก็บบอลได้แล้วสามารถจ่ายให้เพื่อนเล่นได้ อินเตอร์ต่อเกมส์ได้มากขึ้น
ทั้งโอเชียและเอวร่าต้องพะวงกับเกมส์ริมเส้นมากขึ้น เติมได้ไม่ถนัดเหมือนเดิม
(บาโลเตลลี่นี่โดนเทพเช เตะเอา เตะเอา เตะเอาเพื่อหยุดเกมส์ล่ะครับ)

แล้วแมนยูก็เกือบจะเสียประตูเลยล่ะครับ จากจังหวะที่เอวร่าไปทำฟาล์วซลาตันล่ะครับ
ไมค่อนเปิดฟรีคิกเข้ามาให้ซลาตันพุ่งโหม่งกดลงพื้นกระดอนมาชนเสาอย่างน่าหวาดเสียวล่ะครับ
(ตอนแรกเห็นซลาตันโหม่งก็ทำใจไว้แล้วครับ พอชนเสาทีนี่ถึงกับโล่งอกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเลย)

จังหวะนี้ที่พลาดก็น่าจะเป็นริโอกับเฮียเบิร์บล่ะครับ ริโอที่พลาดก็คือกะจังหวะบอลพลาดทำให้บอลหลุดไปถึงซลาตัน
แต่เฮียเบิร์บนั้นพลาดตรงที่ไม่ตามซลาตันล่ะครับ ตอนคีย์ตัวประกบนี่เฮียเบิร์บประกบซลาตันอยู่ แต่ดันArtเกินไม่วิ่งตามซะงั้น - -" ทำให้ซลาตันนี่มาโล่งๆเดี่ยวๆเลยครับ แต่ยังโชคดีครับ ที่ไปชนคาน ทำให้เรายังนำอยู่1-0เหมือนเดิม

เกมส์ของแมนยูก็ยังต่อไม่ติดเท่าไร่ครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่สโคลส์กับคาร์ริค รวมถึงน้ากิ๊กส์เสียบอลค่อนข้างบ่อยเลยครับ
ทำให้เกมส์ของแมนยูขึ้นไม่ค่อยได้ แล้วโดนโต้กลับมาตลอด
สแตนโควิชได้ยิง จากการตัดบอลได้แล้วทำชิ่งกับซลาตันก่อนที่จะยิงไปติดปลายมือของน้าซ้าร์ออกไป (ถ้าไม่โดนมือนี่อาจจะเสียบมุมเสาสอง เข้าไปอย่างสวยงามก็ได้)

จากนั้นแมนยูก็ต้องแก้เกมส์ล่ะครับโดยการให้รูนี่ย์ กิ๊กส์ โด้นั้นสลับตำแหน่งกันไปมา เพื่อสร้างความหลากหลายในการเล่น
แล้วก็เกือบได้ผลล่ะครับกับการโยกน้ากิ๊กส์ไปไว้ด้านขวาแล้วจ่ายเข้ากลางให้รูนี่ย์ โดยมีเทพเชวิ่งสอดมาจากด้านขวา รูนี่ย์จ่ายตัดหลังให้เทพเชวิ่งตัดเข้ามา ยิงไปติดซีซาร์ไปอย่างน่าเสียดายครับ

ลูกนี้เล่นเอาเฮียเบิร์บเราหัวเสียพอสมควรเลยครับ เพราะถ้าเทพเชจ่ายให้นี่เฮียเบิร์บได้สะกิดบอลเข้าประตูแน่ครับ
แต่ลูกนี้โทษท่านเชไม่ได้หรอกครับ อาจจะไม่เห็นเฮียเบิร์บจริงๆ ลูกนี้ต้องชมเซซาร์มากกว่าครับ ที่ออกมาปิดมุมได้ค่อนข้างเร็ว ผู้บรรยายทางช่องespnยังบอกเลยครับว่าถ้าลูกนี้กองหน้าก็อาจจะไม่เข้าเพราะเซซาร์ออกมาดีมากจริงๆ

แต่แล้วกองหลังเราก็มีแอบรวนเหมือนกันครับ ริโอสกัดพลาดมาเข้าทางของบาโลเตลลี่ ชิ่งต่อจังหวะเดียวให้ ซลาตันหลุดไปยิง ฉีกเสาออกไปนิดเดียว
(ลูกนี้ทำเอาใจหายวาบอีกแล้วครับ พอบอลหลุดจากเท้าของซลาตันนี่ตามองบอลตลอดเวลา ดีนะที่หลุดออกไป ไม่งั้นนี่ครึ่งหลังตึงเปรี๊ยะแน่นอนครับ)

จบครึ่งแรกเสมอกันไป1-0ครับ

เริ่มครึ่งหลัง อินเตอร์มีการเปลี่ยนตัวครับ เอาวิเอร่าที่ไม่มีบทบาทในเกมส์เอาซะเลย(ยกเว้นช็อตโดนวิดิชสลัดไปโหม่งทำประตู)ออก แล้วส่งซาลี่ มุนตารี่ลงมา(เจ้าหมอนี่ยิงจุดโทษทำผีตกรอบFA Cupปีก่อนนะครับ จำได้ๆ ยังแค้นอยู่ หุหุๆ) แล้วเหมือนปรับให้บาโลเตลลี่กับสแตนโควิชสลับข้างกัน
แผงกลางอินเตอร์เลยมีหน้าตาแบบนี้ครับ

Cambiasso Zanetti
Balotelli Muntari Stankovic

ส่วนแมนยูป๋านั้นยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายครับ นอกจาสลับตำแหน่ง โด้-รูน-กิ๊กส์ไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลังมาแมนยูก็ลุยใส่เหมือนเดิมครับ แล้วก็มาได้ประตูในนาทีที่4ของครึ่งหลังเลยครับ
น้ากิ๊กส์ที่โยกไปทางด้านขวา ลากตัดกองหลังอินเตอร์เข้ามา แล้วจ่ายออกไปให้เจ้าหมูที่โยกออกไปอยู่ทางด้านซ้าย หมูดึงจังหวะก่อนที่จะบรรจงหยอดเข้ามาให้กับเจ้าโด้ที่แอบอยู่ในแผงกับดักล้ำหน้าของกองหน้าอินเตอร์(ดักเฮียเบิร์บไว้แล้ว) โหม่งสวนทางเซซาร์เข้าไป

Goal Goal Goal Goal!!!!!!!!!! 2-0แล้วครับ วู้!!!!!

ลูกนี้ต้องชมทุกคนล่ะครับ ทั้งคนลากตัด คนจ่าย คนยิง หรือแม้กระทั่งตัวหลอกที่ยืนเฉยๆทำให้เค้าตายใจว่าล้ำหน้า 55555555 (อย่าว่ากันนะเฮียเบิร์บ)
ลูกนี้เป็นลูกแรกในแชมป์เปี้ยนลีคฤดูกาลนี้ของนักเตะบัลลงดอร์ปีล่าสุดล่ะครับ เป็นสัญญาณว่าไอ่เจ็ทโด้คนเดิมที่เราเคยเห็นนั้นเริ่มกลับมาแล้ว

ส่วนทางอินเตอร์นั้นดูเหมือนว่าจะไม่มีสมาธิในช่วงต้นเกมส์เอาซะเลย จัดระเบียบเกมส์รับกันไม่ดีเลยไม่มีใครดูเจ้าโด้ซะงั้น เฮียมูแกคงเครียดเลยครับว่าลูกทีมแกไม่ละเอียด ไม่มีสมาธิ ทำให้งานของอินเตอร์อยากขึ้นเป็น2เท่าแล้วครับ

จากนั้นอินเตอร์ก็พยายามจะขึ้นบอลทางBalotelliล่ะครับ แต่ว่ามาทางขวาแทนแล้วก็ดวลกับEvra
แม้ว่าจะมีเทคนิกดี มีความเร็วแต่ความเก๋านี่สู้เอวร่าไม่ได้เลยครับ เอวร่าป้องกันไว้ได้หรือไม่ก็บังแล้วให้วิดิชเข้ามาเก็บกินต่ออีกทอดนึง
มุนตารี่ก็ไม่ค่อยจะมีบทบาทเท่าไร่
ส่วนอีกด้านนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยครับ สแตนโควิชเงียบหายจ๋อมไปเลยครับ โดนรัศมีเทพกลบมิด(555555) ซึ่งซลาตันก็ต้องกลับมาเล่นคนเดียว โดนรุมคนเดียวอีกครั้ง

น้ามูคงทนไม่ได้ล่ะครับ เลยต้องส่งเอาอาเดรียโน่ลงมาแทนสแตนโควิชเพื่อเพิ่มเกมส์รุกแล้วครับ เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้วพร้อมกับปรับหมากได้แบบนี้ครับ
Zanetti Cambiasso Muntari
Balotelli Ibrahimovic Adriano

และพออาเดรียโน่ลงมาก็เกือบได้เรื่องล่ะครับ
เริ่มจากรูนี่ย์กับสโคลส์ไปเล่นกันยาก บอลไปเข้าทางอาเดรียโน่ลากเข้าไปแล้วจ่ายให้คัมบิอาสโซ่ที่วิ่งเติมขึ้นมาก่อนจ่ายตัดเข้าไปให้อาเดรียโน่ได้กระโดดวอลเลย์ด้วยซ้ายเต็มๆ ผ่านมือหน้าซาร์แล้วแต่ไปชนเสาครับ
(เล่นเอาใจหายอีกแล้วววววว คานไปแล้วยังมาเสาอีก)
ลูกนี้ต้องโทษหมูกับสโคลส์ล่ะครับที่เล่นกันยากเกิน แต่ต้องชมทั้งกัมบิอาสโซ่ที่เติมขึ้นมาและอาเดรียโน่ที่หาที่ว่างไปวอลเลย์ ซึ่งถ้าลูกนี้เข้าขึ้นมาจะเป็นการประสานงานที่สวยงามมากครับ

จากนั้นก็มีการเปลี่ยนตัวของทั้งสองฝั่งล่ะครับ

น้ามูเสี่ยงครั้งสุดท้ายด้วยการส่งฟิโก้ลงมาแทนบาโลเตลลี่ที่เริ่มมีช็อตน็อตหลุดไปสอยเอวร่าเข้าให้ หวังจะใช้ประสบการณ์ช่วย

ส่วนป๋าส่งแอนนี่ลงมาแทนสโคลส์ที่เริ่มออกอาการเจ็บเล็กน้อย พร้อมกับปรับให้เจ้าโด้ไปยืนหน้าเป้า ใช้ความเร็วรอบอลจากการจ่ายของเบิร์บ กิ๊กส์ คาร์ริค และรูนี่ย์เอา

ฟิโก้ลงมาก็ทำผลงานได้ไม่แย่เลยครับ สามารถประสานงานกับไมค่อนได้ดีแต่ว่าปัญหาก็คือจังหวะสุดทายล่ะครับ ได้เปิด แต่ไม่มีเพื่อนร่วมทีมคนไหนที่จะเอาบอลไปเล่นได้ ส่วนแอนนี่ก็เอาลงมาเพิ่มความสดในแดนกลาง เอาลงมาไล่บี้กับกองกลางอินเตอร์ล่ะครับ ทำให้อินเตอร์นั้นทำเกมส์รุกได้ยาก ทำให้ต้องมาเน้นยิงไกลเอานอกกรอบเอาทั้งหมด
แต่มีใกล้เคียงอยู่แค่จังหวะเดียวเท่านั้นล่ะครับ จากการยิงของกัมบิอาสโซ่ซึ่งยิงได้แรงจริงๆน้าซาร์ทำได้แค่ทุบออกมา แต่ยังดีที่บอลไปตกหน้าแนวรับแมนยูเลยสกัดเอาไว้ได้

ส่วนแมนยูนั้นก็สวนมาได้หลายๆครั้งเหมือนกัน รูนี่ย์มีโอกาสยิงจากทางด้านซ้ายอยู่เนืองๆ เฮียเบิร์บก็ได้ไปซ้ำครั้งนึงแต่เซซาร์นัน้ยังไวพอที่จะมาขวางไว้ได้
แอนนี่ก็มีโอกาส แต่ยังยิงได้น่าผิดหวังเหมือนเดิม

จากนั้นท่านเซอร์ก็เปลี่ยนเอาพาร์คลงวิง่ไล่บอลมาแทนรูนี่ย์ครับ จากนั้นก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมส์แมนยูเลยเอาชนะอินเตอร์ไป2-0

วันนี้แทคติกของทั้งน้ามูกับป๋านี่ถือว่าสู้กันได้ดีครับ แต่ป๋านั้นชนะอาศัยโอกาสที่แนวรับอินเตอร์ยังไม่พร้อมในช่วงต้นเกมส์ล่ะครับ

ส่วนที่เอาทางรูนี่ย์ไปไว้ทางด้านซ้ายบ่อยๆนั้นเหมือนว่าจะเอาไว้กดไมค่อนล่ะครับ
เจ้าหมูนั้นวิ่งขึ้นวิ่งลงไม่มีหมดเหมือนกัน ทำให้หลายๆครั้งเกมส์ด้านขวาของอินเตอร์ถึงกับเล่นกันไม่ค่อยได้ ไมค่อนแทบไม่มีบทบาทในเกมส์รุกเลย รวมถึงการเอาพาร์คลงมาแทนหมูก็เหมือนเอามาไล่ไมค่อนอีกรอบนึงครับ

และดูเหมือนว่าแทคติกนี้จะใช้ผลได้ค่อนข้างดีกับเกมส์ยุโรปด้วยครับ
การให้เจ้าหมูไปอยู่ด้านซ้าย ให้น้ากิ๊กส์อยู่ตรงกลาง
เจ้าหมูนั้นสามารถวิ่งไปวิ่งกลับได้อย่างดี แถมยังสามารถลากตัดเข้าในไปยิงด้วยขวาได้อีก
น้ากิ๊กส์นั้น ด้วยความที่ตอนนี้น้าแกเล่นแบบเก๋าไปแล้ว ใช้การจ่ายบอลเอาจึงมีประโยชน์ในการเล่นตรงกลางเป้นหน้าต่ำมากเลยครับ เพราะว่าจะมีมุมมองในการจ่ายได้มากขึ้น หรือไม่ก็สามารถเลี้ยงแหวกโซนทำให้เกิดที่ว่างได้ครับ

วันนี้น้ากิ๊กส์เล่นได้เด่นจริงๆครับ มีส่วนร่วมกับเกมส์รุกขงแมนยูอยู่ตลอดเวลา เล่นอย่างงี้ก็น่าจะเล่นได้ไปยาวๆอีก2ปีเลยครับ
แนวหลังก็ยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม แม้แต่เทพเชที่หลายๆคนมองว่าเป็นบ่อก็
เล่นได้ดีพอตัว
ส่วนเจ้าโด้ก็กลับมาแล้วครับ

ที่เล่นต่ำกว่ามาตราฐานจริงๆก็มีแค่สโคลส์กับคาร์ริคล่ะครับ ที่ปั้นเกมส์จากแดนกลางไม่ได้เลย แต่2คนนี้ก็ลงไปช่วยแนวรับได้บ่อยๆ และแก้สถานการณ์ตอนโดนเพรสซิ่งได้ค่อนข้างดีครับ

ส่วนแทคติกของเฮียมูนั้นถือว่าไม่ได้ผลล่ะครับ โดยเฉพาะการส่งบาโลเตลลี่ที่ไร้ประสบการณ์ลงมาเจอกับเกมส์เคี่ยวๆของแมนยู นี่แทบไม่ส่งผลเลยครับ (อาจจะเรียกฟรีคิกได้จากเทพเชบ่อยๆ แต่ก็เป็นฟรีคิกในระยะที่ไม่อันตราย)
ส่วนทางสแตนโควิชกับวิเอร่านี่ก็หายไปเลยครับ ไม่มีส่วนร่วมกับเกมส์โดยสิ้นเชิง ซลาตันเลยค่อนข้างเหนื่อยในการโดนรุมกินโต๊ะอยู่บ่อยๆ

ที่ต้องชมก็คือเซซาร์กับซลาตันล่ะครับ เซซาร์นี่ปฏิกิริยายังเร็วเหมือนเดิม เซฟในจังหวะสำคัญๆได้เยอะ
ส่วนซลาตันนั้นถึงแม้จะยิงไม่ได้ แต่ก็มีส่วนร่วมกับเกมส์เยอะเลยครับ เก็บบอลได้ตลอดเวลา แต่ไม่ค่อยมีคนมารับบอลจากเค้า แล้วก็ไม่มีโชคด้วยครับ

หลังจบเกมส์นัดนี้ก็ทำให้ทีมจากอังกฤษเข้ารอบ8ทีมกันมาหมดอีกปีแล้วครับ
สวนทางกับทีมจากอิตาลีที่โดนทีมอังกฤษตัดตอนไปหมด เหลือจากลาลีกาอีก 2 (บาร์ซ่า บียาร์รีล) เยอรมัน(บาเยิร์น มิวนิค) โปรตุเกส(ปอร์โต้)

ซึ่งก็เห็นได้ว่าBig4ของลีคอังกฤษนี่มีมาตารฐานที่สูงขึ้นจริงๆ
แต่ว่ามาตราฐานของลีคโดยรวมนี่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าไร่ครับ
ยูฟ่าคัพ ทีมจากอังกฤษเหลืออยู่แค่ทีมเดียวคือแมน ซิตี้
จึงทำให้คำพูดที่ว่าลีคอังกฤษมีดีแค่Big 4จึงมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆล่ะครับตราบใดที่ถ้วยเล็กกับถ้วยใหญ่ผลงานยังสวนกันแบบนี้

พูดถึงแมตช์หน้าดีกว่าครับ ตอนนี้ทีมเราก็เป็นทีมเต็ง1(ไม่ทราบว่าร่วมกับบาร์ซ่าหรือป่าว)
ซึ่งแมตช์หน้าจะเจอกับใครก็ได้ครับในอีก7ทีม ซึ่งทางespnก็คิดว่ามีแค่บาร์ซ่าเท่านั้นที่จะพอสูสีกับทางแมนยูในตอนนี้
แต่ว่าพอถึงรอบนี้แล้ว แต่ล่ะทีมก็พิสูจน์มาแล้วว่ามีดีพอที่จะผ่านเข้ามาได้ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเจอใครก็คงจะเป็นงานหนักหมดทุกทีมล่ะครับ
และทีมที่จะเป็นแชมป์ก็ต้องชนะหมดทุกทีมเช่นกันครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลกันมากหรอกครับว่าจะเจอใคร ไม่ว่าจะเจอใครก็งานหนักหมดล่ะครับ

ขอบคุณครับที่ตามอ่านกัน มีความคิดเห็นยังไงสามารถแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ จะกลับมาตอบเป้นระยะๆ
ขอบคุณครับ

~Kanet "The KiLLer" J~






 

Create Date : 12 มีนาคม 2552   
Last Update : 13 มีนาคม 2552 3:35:05 น.   
Counter : 220 Pageviews.  


มาช้ายังดีกว่าไม่มา!!!! [บทวิเคราะห์]จากกองแช่ง(หงส์)มาเป็นกองเชียร์(ผี) Westham 0-1 Man United

สวัสดีครับ แฟนบอลทุกท่าน

จากบทความที่แล้วที่ผมวิเคราะห์เกมของ"Real Contender"อย่างลิเวอร์พูลไป(ในฐานะกองแช่ง)
มาถึงกระทู้นี้มาวิเคราะห์เกมของทีมรักในฐานะกองเชียร์บ้าง
แต่ก็จะพยายามมีอคติน้อยที่สุดล่ะกันนะครับ

เกมส์นี้Man Unitedก็ต้องการ3แต้มเช่นกันครับ
(อาจจะไม่มากเท่ากับหงส์ แต่ก็มี3แต้มก็ดีกว่านะครับ ในการจะกลับมายืนจุดเดิม)

แต่ว่าเกมส์นี้ก็ไม่ใช่เกมที่จะมาเอาสามแต้มได้ง่ายๆนะครับ
เพราะว่าเกมนี้เป็นเกมที่ต้องไปเยือน Westham ในUpton Park ที่2ปีหลังแมนยูฯ แพ้มาตลอด
(2ปีก่อนนี่ไม่เท่าไร่ ทำใจรับได้
แต่ปีก่อนนี่รับไม่ได้ครับ!!!!! โด้พลาดลูกโทษไม่เท่าไร่ เปลี่ยนช่องไปดูอะไรอย่างอื่นแป๊บเดียว เปิดกลับมาอีกทีโดนนำไป2-1แล้ว แล้วก็เร่งไม่ขึ้นซะงั้น อันนี้เซ็งมากมายครับ)
อีกทั้งทีมของGianFranco Zolaยังไม่แพ้ในบ้านให้กับLiverpool หรือ Chelseaเลย ไม่แน่ใจว่าArsenalด้วยหรือป่าว??
(ที่แน่ใจเพราะดูครับ นั่งแช่งอยู่ 555555)
เลยไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยครับ ที่จะมาเอาสามแต้มในนัดนี้

เกมส์นี้ Westham เปิดหน้ามาด้วยระบบ 4-4-2 ครับ
Green
Niel Collins Upson Ilounga
Behrami Parker Noble Collison
Di Micale C.Cole

ส่วน Man United จัดมาในระบบ 4-4-2 เช่นกันครับ
มีเซอร์ไพร์สเล็กน้อยครับที่ผู้เล่นที่มีข่าวว่าจะลงสนามได้อย่าง RooneyหรือEvra ไม่มีชื่อทั้งตัวจริงและตัวสำรอง
(คาดว่าน่าจะเก็บไว้ กลัวไปเจ็บในเกมส์อุ่นเครื่องทีมชาติล่ะมั้งครับ อิอิ)
Van der Sarr
Rafael Ferdinand Vidic O'Shea
Giggs Carrick Scholes Ronaldo
Berbatov Tevez

ซึ่งเกมส์นี้ถ้าน้าซาร์ไม่เสียประตูอย่างน้อย75นาทีจะทำลายสถิติเสียประตูนานที่สุดของเกาะอังกฤษของChris Wood(Celtic) ด้วยครับ

เกมส์นี้เริ่มมาก็เป็นอย่างที่คิดล่ะครับ ว่าเล่นยาก นักเตะเวสต์แฮมไล่บี้ บด ขยี้จนนักเตะแมนยูแทบจะต่อเกมส์ไม่ติดล่ะครับ

ช่วงแรกๆแมนยูจะเน้นการจ่ายออกข้างโดยเฉพาะ โรนัลโด้ เล่น ปั้นเกมตลอด

แต่ว่านัดนี้นั้น ทางกิ๊กส์เองก็ไม่ค่อยมีความเร็วแล้วครับ เล่นตอนนี้นี่เล่นอาศัยชั้นเชิงเอา และยิ่งมาเล่นในฝั่งที่เค้าไม่ค่อยจะถนัดด้วย ก็เลยปั้นเกมส์ไม่ค่อยจะได้

ส่วนทางเจ้าโด้นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ โดนล็อคตายตลอด เวลาที่โด้ได้ครองบอลแต่ล่ะที จะมีลูคัส นีลที่นัดไหนเล่นดีก็ดี เล่นแย่ก็แย่(แต่นัดนี้เล่นได้ดี)มาตามตลอด และจะมีมิดฟิลด์อย่างน้อยหนึ่งคน ไม่ว่าจะเป็นคอร์ริสัน พาร์คเกอร์ หรือไม่ก็ โนเบิล มาร่วมตอแยเจ้าโด้ตลอดเล่นเอาเจ้าโด้ไปแทบไม่เป็น
อีกทั้งแบ็คซ้ายเกมส์นี้คือโอเชียที่เล่นเกมส์รุกไม่ค่อยจะดีเท่าไร่ เล่นเอาเกมส์ทางซ้ายของแมนยูบอดไปเลยครับ
แล้วยังโดนสวนเกือบพังอีก จากจังหวะที่โนเบิล แทงทะลุช่องให้โคลไปยิงติดมือน้าซาร์ง่ายๆ

พอเล่นเกมส์ไปได้พักนึง

แมนยู พยายามเปลี่ยนแผนการเจาะล่ะครับ
โดยการให้กองหน้าอย่างเตเวซและเฮียเบิร์บ ถอยลงต่ำดึงตัวประกบออกมา
แล้วให้แดนกลางอย่างสโคลส์และคาร์ริคจ่ายบอลไปให้ตัวอื่นที่วิ่งสอดเข้ามา

แต่ก็ยังไม่เป็นผลอีกครับ นัดนี้แผนกลางของเวสต์แฮมทั้งแผนเล่นกันได้ดีจริงๆ วิ่งไล่สู้ฟัดกันจริงๆ(อย่างกะกินกระทิงแดงมาคนล่ะ3ขวด) เล่นเอา สโคลส์กับคาร์ริคแทบจะไม่มีเวลาคิดจนต้องเคาะไป เคาะมา แถมสวนมาแต่ล่ะทีนี่ก็มีเสียวๆทั้งนั้น(เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้องเลย ให้ตายสิ เฮ้อ)

แต่กระนั้นก็ยังเกือบมีเฮล่ะครับ จากจังหวะที่เฮียเบิร์บมาตวัดยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็ล้ำหน้าไปก่อนครับ เฮเก้อกันไป เหอะๆ

ซักพักนึงก็เริ่มตันเลยครับ ตันแบบตันเลย
จนต้องเน้นให้สโคลส์กับคาร์ริคลากไปยิงไกลเอาหลายๆที
มีลุ้นบ้างไม่มีลุ้นบ้างก็ตามแต่

แต่แมนยูก็มาได้ลุ้นในจังหวะเซ็ตเพลย์ล่ะครับ
จังหวะแรกกิ๊กส์เปิดลูกเตะมุมมาจากด้านขวา เจ้าโด้ได้โหมมาโขกเต็มๆแต่หลุดเสาไป
จังหวะถัดมาก็เป็นจากลูกฟรีคิกทางกราบขวาเช่นกันครับ กิ๊กส์ไหลเรียดมาให้สโคลส์มายิงไกลหน้ากรอบเขตโทษ เจ้าโด้ไปเปลี่ยนทางลูกใกล้จะเสียบคาน แต่โรเบิร์ต กรีนมาบินปัดไว้ได้
(จะเห็นว่าดีแล้วครับที่โด้ไปเปลี่ยนทาง เพราะวิถีของลูกมันไม่เข้ากรอบ)

ซักพัก เวสต์แฮมได้เริ่มครองบอลได้แล้วครับ
เริ่มบุก เริ่มโหม ของแมนยูมาเป็นระลอกๆ

เล่นไปซักพัก คาร์ลตัน โคลก็มีโอกาสได้ยิงในเขตโทษอีก แต่ว่าวิดิชไปตามบล็อคได้ทัน

พอจบครึ่งแรกผมก็ค่อนข้างเหนื่อยใจเลยล่ะครับ ว่าถ้าครึ่งหลังยังเป็นแบบครึ่งแรกก็คงจะชนะได้ยากเลยล่ะครับ

แดนหลังของเวสต์แฮมเล่นได้อย่างไม่มีหลุดครับ มีวินัย ช่วยกันซ้อนตลอด

ส่วนแดนกลางของเวสต์แฮมวันนี้เล่นได้ดีมากๆครับ พาร์คเกอร์-โนเบิล เล่นได้ดี ช่วยกันคุมเกมส์+บดขยี้แดนกลาง ได้อย่างดีเล่นเอาเกมส์ของแมนยูนั้นไปไม่เป็นเลย
(ผมแอบคิดถึงเฟร็ทเชอร์หรือแอนเดอร์สันเลยครับ ลงมาบู๊กันไปเลยช่วยพวกตัวเชิงอย่างสโคลส์กับคาร์ริคหน่อย)
ริมเส้นอย่าง เบห์รามี่-คอร์ริสันก็เล่นได้ดีโดยเฉพาะ คอร์ริสัน ที่เล่นงานหนูราฟาเอลได้บ่อยเหมือนกัน
ผมจับตา(คอร์ริสัน)มาตั้งแต่เกมส์ที่พบกับลิเวอร์พูลและเชลซีแล้วครับ
รู้สึกว่าหมอนี่เล่นได้วูบวาบ กล้าเล่น กล้าลุย ดูแล้วน่าจะมีอนาคตเลยนะครับ
(ใครทราบว่าหมอนี่เล่นกับทีมอื่นๆเป็นไงก็ช่วยเสริมหน่อยนะครับ ^-^)

ส่วนแดนหน้านั้น ผมคิดว่าดิ มิเคเล่กับโคลนั้นประสานงานกันก็พอได้อยู่นะครับ มีลูกตอก ลูกชิ่ง ป่วนเกมส์รับของแมนยูได้พอควร
แต่ที่เป็นจุดบอดของเกมส์รุกเวสต์แฮมในเกมนี้คือ จังหวะสุดท้ายครับ
โดยเฉพาะของคาร์ลตัน โคล
วันนี้โคลเล่นได้ค่อนข้างเด่นเลยครับ สร้างปัญหาให้ริโอกับวิดิชได้เหนื่อยเยอะเลย มีลูกล่อลูกชนเยอะ แต่ที่เค้าไม่สามารถจะเป็นศูนย์หน้าเกรดเอ(หรือ บีบวก)ของพรีเมียร์ลีคได้ซักทีก็เพราะจังหวะสุดท้ายนี่แหล่ะครับ

จังหวะที่หลุดเดี่ยวเลย น่าจะทำได้ดีกว่านี้ โอเค อาจจะมีริโอตามเบียดมาบ้าง แต่เค้าควรทำได้ดีกว่าการยิงไปให้น้าซาร์รับง่ายๆ

มีอีกจังหวะที่คอร์ริสันล็อกบอลทะลุเข้าเขตโทษ จ่ายคืนมาให้ดิ มิเคเล่ แล้วดิ มิเคล่แตะต่อให้คาร์ลตัน โคลที่อยู่โล่งๆในเขตโทษแล้วครับ แทนที่จะพลิกยิงตั้งแต่จังหวะแรก กลับล็อคเข้าทางเดิม ให้วิดิชเอาไปกินง่ายๆซะงั้น
(นัดเจอหงส์ก็เป็นครับ หลุดจ่อๆยิงไม่เข้า ทำเอากองแช่งอย่างผมนั่งเซ็งจิตไป 55555)

ซึ่งถ้า คาร์ลตัน โคลทำได้ดีกว่านี้ น้าซาร์อาจจะไม่ได้ทำลายสถิติของคริส วู๊ดแล้วครับ

เริ่มครึ่งหลัง เกมส์ก็เป็นแบบเดิมเลยครับ
กองเชียร์เซ็งจิตไปตามๆกัน

แล้วลูคัส นีลก็ได้ยิงก่อนด้วยครับ แต่เข้ามือน้าซาร์

แล้วเกมส์ของเวสต์แฮมก็ไม่ได้เป็นรองเลยครับ
ถึงบุกแล้วจะโดนแมนยูสวนก็ไล่ชะลอความเร็วของแมนยูทัน หรือไม่ทันก็ตัดเกมส์ซะงั้น
กลับกัน เกมส์สวนของเวสต์แฮมก็ยังสร้างปัญหาให้กับแมนยูอยู่เหมือนเดิม
แต่ก็ยังมีปัญหาที่จังหวะสุดท้ายเหมือนเดิม

จนแมนยูต้องมาลุ้นเอาจากลูกเซ็ทเพลย์แล้วล่ะครับ

และก็มาได้ประตูที่รอคอยอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าจะได้มาในลักษณะนี้ครับ(งงมากๆ เลยครับ บทจะเข้าก็เข้าซะงั้น)

จากจังหวะลูกเตะมุมด้ายซ้ายครับ น้ากิ๊กส์เปิดเตะมุมจากฝ่ายซ้าย กองหลังเวสต์แฮมเคลียร์ออกมาได้
เป็นสโคลส์ที่เก็บบอลจากแถวสองได้ก่อนที่จะเปิดย้อนมาที่น้ากิ๊กส์ที่วิ่งลงมาทันกองหลังเวสต์แฮมที่พยายามดันขึ้นมาดักล้ำหน้า
แล้วก็ได้เวลาที่กิ๊กส์โชว์เก๋าแล้วครับ อิอิ


น้ากิ๊กส์ได้บอลทางฝั่งซ้ายตั้งท่าจะเปิด

คาร์ลตัน โคลพุ่งเข้ามาทั้งตัว เพื่อที่จะขวางทางเปิดของน้ากิ๊กส์

แต่น้ากิ๊กส์กลับหักบอล!!!!หลอกคาร์ลตัน โคลไป

ทำท่าจะเปิดอีกครั้ง สกอตต์ ปาร์คเกอร์ วิ่งเข้ามาขวาง

แต่น้ากิ๊กส์หักเข้าใน!!! ก่อนจะยิงด้วยขวาหายเข้าไปในหมู่นักเตะเวสต์แฮม

และแล้วบอลก็ไปปรากฎตัวอีกทีในก้นตาข่าย!!!!!
Yeah!!!!!!!!

แมนยูนำแล้ว!!!!!

ลูกนั้นบอกตามตรงครับ ว่าผมแอบด่าน้ากิ๊กส์อยู่เหมือนกันครับว่าทำไมไม่เปิดจังหวะแรกน่าจะได้ลุ้นกว่า
เพราะ ริโอกับ วิดิชยังไม่ลง น่าจะลุ้นโหม่งทำประตูได้
(ขอโทษนะครับน้า)

ลูกนี้โทษโรเบิร์ต กรีนไม่ได้เลยครับ
ขนาดพวกเรามองเห็นในมุมที่สูงขึ้นมาหน่อยจากกล้องทีวี เรายังแทบไม่เห็นบอลเลยจนกว่าตาข่ายจะขยับ
เพราะฉะนั้นโรเบิร์ต กรีนก็คงทำอะไรไม่ได้หรอกครับ เพราะเห็นอีกทีก็ผ่านเส้นประตูเข้าไปแล้ว

เพราะฉะนั้นลูกนี้ต้องชมความเก๋าของน้าแกเลยล่ะครับ ^-^

เจอช็อตนี้เข้าไปเวสต์แฮมอยู่เฉยไม่ได้แล้วครับ ต้องเปิดเกมบุกแลกครับ

ส่วนแมนยูก็รับไปตามประสา คอยสวนเป็นพักๆแต่ก็ยังไม่มีปัญหาสำหรับเกมส์รับแมนยู

โซล่าเลยต้องเสี่ยงแก้เกมครับ โดยดึงมาร์ค โนเบิ้ลที่เล่นได้ค่อนข้างดีออก
แล้วเอาซาวิโอ ดาวเตะทีมชาติเยอรมัน(หรอนั่น????)มาช่วยเกมส์รุกริมเส้นฝั่งขวา
โดยหุบเบห์รามี่มาเล่นตรงกลาง

หมากนี้เป็นการเสี่ยงที่ค่อนข้างพลาดครับ เพราะซาวิโอยังเด็กเกินไปที่จะสร้างปัญหาให้กับเกมรับแมนยู
อีกทั้งยังใหม่อยู่กับเกมของเวสต์แฮมครับ เพราะเห็นหลายจังหวะที่เหมือนเค้าจะยังไม่ค่อยเข้าใจเพื่อน และเพื่อนไม่เข้าใจเค้าอยู่ครับ

แมนยูเลยเล่นสบายเลยครับ แดนกลางเมื่อไม่มีความคึกของมาร์คโนเบิลเลยเล่น ตี้ดชึ่งไปเรื่อยๆ ได้สวนอีกบ้างบางครั้ง

แล้วป๋าก็ส่งปาร์คลงมาแทนเตเวซที่วิ่งมาเยอะแล้วมาไล่บอลในแดนหน้าต่อครับ
(สงสัยลงมาเพื่อไล่จริงๆเพราะได้แตะบอลไม่กี่ครั้งเลย)

ส่วนโซล่าก็จัดการส่ง ดิเอโก้ ตริสตันลงมาแทนเบห์รามี่เพื่อเพิ่มกองหน้าเสริมเกมส์รุกอีกครับ
แต่มาอย่างงี้แมนยูยิ่งเล่นสบายไปอีกครับ ดิเอโก้ ตริสตันนั้นไร้พิษสงแล้วครับ ไม่ใช่ดิเอโก้ ตริสตันที่อยุ่กับ ลาคอรุนญ่า อีกต่อไป
ทำให้แมนยูประคองเกมส์ไปเรื่อยๆจนจบ

ทำให้ได้3แต้มในนัดนนี้ครับ

นัดนี้ต้องยอมรับเลยครับว่าหืดจับจริงๆ

ต้องชมเวสต์แฮมจริงๆว่าเล่นกันได้อย่างดีจริงๆ กองหลังแน่น กองกลางบู๊ สู้ได้ไม่เป็นรอง กองหน้าสร้างโอกาส สร้างปัญหาให้กับแมนยูได้
แต่อย่างที่บอกล่ะครับว่าจบไม่ลง ผิดกับแมนยูที่ได้โอกาสแล้วจบได้
ได้แต้มกับไม่ได้แต้มมันต่างกันแค่ตรงนี้จริงๆครับ

อีกคนที่ต้องชมเลยครับคือจิอันฟรังโก้ โซล่า
โซล่าเข้ามาเวสต์แฮมด้วยเงื่อนไขที่ค่อนข้างจำกัดและมีแต่ปัญหาครับ
ไหนจะเจ้าของถังแตกจะซื้อใครก็ต้องขายก่อน
ไหนจะปัญหาคาราคาซังกับเชฟฯยูฯที่ต้องต่อรองราคาค่าเสียหายที่ตกชั้น ฯลฯ

แต่โซล่าก็สามารถเข็ยเวสต์แฮมให้ขึ้นมาอยู่กลางตารางได้ โดยที่เล่นได้ดีในเกือบจะทุกๆนัดด้วย
จัดว่าจิอันฟรังโก้ โซล่าเป็นกุนซือหนุ่มที่มีอนาคตคนนึงเลยครับ
(ล่าสุดมีข่าวว่าจะให้ไปแทนสโคลารี่ที่เชลซี สโมสรที่เค้าเป็นตำนาน)

ส่วนแมนยูฯ ชนะเกมนี้แล้วทำให้เกมหนักๆในฤดูกาลนี้เหลืออีกไม่กี่นักล่ะครับและกลับมาเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง(แถมแข่งน้อยกว่าเพื่อนหงส์อีกตั้งนัดนึงแหน่ะ อิอิ)
ส่วนน้าซาร์ก็ทำลายสถิติของคริส วู้ดได้ เป็นสถิติไม่ยาวนานที่สุดในเกาะอังกฤษ
เป้าหมายต่อไปก็คือของทวีปยุโรปครับ ที่อดีตผู้รักษาประตูของแอตฯมาดริด ถือครองอยู่(ชื่ออะไรจำไม่ได้อ่ะครับ ไม่แน่ใจว่าเป็น อเบล เรซิโน่ที่เป็นกุนซือตอนนี้หรือป่าว)
ซึ่งแมตช์ต่อไปก็ไม่น่าจะยากเกินไปนัก เพราะว่าจะเป็นเกมตกค้างกับฟูแล่มในบ้าน วันที่18นี้ครับ
หวังว่าจะไม่เสียประตูไปยาวๆนะครับ น้าซาร์

ขอบคุณครับที่ติดตามอ่าน
~Kanet "The KiLLer" J~




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2552   
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2552 2:52:16 น.   
Counter : 202 Pageviews.  


"Dan Marino's record shouldn't suppose to be broken like that" Drew Brees

บอกไว้ก่อนเลยครับ ว่าผมดูกีฬาหลายประเภทมาก ทั้งฟุตบอล บาสฯ อเมริกันฟุตบอล ฯลฯ

NFLนั้น ทีมโปรดของผมก็คือ New Orleans Saintsครับ

แล้วนี่ก็คือยอดQuarterbackของผมครับ


เมื่อซักครู่ได้ดู Drew Brees ให้สัมภาษณ์ ทางNFL Network ก่อนเกมส์Pro Bowl ที่Hawaii ครับ

สำหรับคนที่ตามNFLก็จะพอทราบนะครับ ว่าBreesนั้นขาดระยะหลาเพียงแค่16หลาเท่านั้นเพื่อทำลายสถิติการขว้างของDan Marino 5,084หลาที่ทำไว้ในปี1984 ยากมากครับที่ใครจะทำได้(4,000 หลาต่อซีซั่นยังว่ายากเลย)
แต่Drew Breesเกือบทำสำเร็จ

ทางทีมงานได้สัมภาษณ์เค้าว่ารู้สึกยังไงที่พลาดไป16หลา เกมส์สุดท้ายของฤดูกาล
Breesบอกว่า ตอนเค้าอยู่ในสนาม เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เค้าขาดระยะอีกเท่าไร่ เป็นคนเดียวที่ไม่รู้ด้วยซ้ำ เค้าคิดอย่างเดียวว่าจะทำไงก็ได้ให้ทีมชนะ

เค้ายังกล่าวเพิ่มอีกว่า ถ้าถามว่าอยากได้สถิติไหม อยากได้สิ แต่คงไม่มีประโยชน์อะไรถ้าได้สถิติแล้วทีมไม่ชนะ

แล้วมีประโยคนี้ที่กินใจผมมากครับ

"If you Look at Dan Marino's record, it's a great one. His Record shouldn't suppose to be broken like that, by 8-8 team, can't even go to the playoff, last second of the game"

ผมว่าสิ่งที่Breesพูด เหมือนกับเป็นการส่งmessageให้เพื่อนร่วมทีมครับ ว่า "เฮ้ย ไม่ต้องไปเสียดายมันหรอก ปีหน้าค่อยทำใหม่แล้วเข้าplayoffก็ได้ จะได้break recordแล้วหล่อกว่าเดิม" ผมเป็นเพื่อนร่วมทีมผมก็จะสู้ตายล่ะครับ

มองอีกแง่นึงก็เหมือนกับเค้าเคารพ เทิดทูน สถิติของMarinoเหมือนกันนะครับ ว่าทีมแบบเค้ายังไม่คู่ควรที่จะทำลายสถิตินี้ ถ้าจะทำลายให้สมเกียร์ติกับสถิตินี้ ทีมเค้าต้องดีกว่านี้

ไม่เป็นไรครับ ตามเชียร์ตามลุ้นไปเรื่อยๆครับ ฤดูกาลหน้าทำให้ดีกว่าเดิมล่ะกัน

แต่วันนี้ลุ้นMan Unitedทีมรัก และยอดQuarterbackของทีมในPro Bowlต่อเลยล่ะกันครับ(ถึงจะสำรองก็เหอะ) อิอิ
ปล.มีJamal Brown LT ติดเป็นตัวสำรองด้วยครับ อิอิ



WHO ARE WE!!!!!!!!!!

SAINTS!!!!!!!!!!

WHO ARE WE!!!!!!!!!

SAINTS!!!!!!!!!!!




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2552   
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2552 17:28:21 น.   
Counter : 349 Pageviews.  


พี่เบ็คส์สมหวัง!!! คาเปลโล่เรียกตัวลุยสเปน

ย้ายมามิลานแล้วฟอร์มดี คาเปลโล่เลยจัดให้ครับ

เท่าที่สังเกตุมานี่ชุดนี้นักเตะวิลล่าเยอะจริงๆครับ

ผู้รักษาประตู : โรเบิร์ต กรีน(เวสต์แฮม),โจ ฮาร์ท(แมนฯซิตี้),เดวิด เจมส์(ปอร์ทสมัธ)

กองหลัง : เวย์น บริดจ์(แมนฯซิตี้),แอชลีย์ โคล(เชลซี),ริโอ เฟอร์ดินาด์(แมนฯยูฯ),ฟิล จาเกียลก้า(เอฟเวอร์ตัน),เกล็น จอห์นสัน(ปอร์ทสมัธ),จอห์น เทอร์รี่(เชลซี),แมทธิว อัพสัน(เวสต์แฮม),ลุย ยัง(แอสตัน วิลล่า)

มิดฟิลด์ : เดวิด เบ็คแฮม(แอลเอ กาแล็กซี่),แกเรธ แบร์รี่(แอสตัน วิลล่า),ไมเคิ่ล คาร์ริค(แมนฯยูฯ),สจ๊วต ดาวนิ่ง(มิดเดิลสโบรห์),แฟร็งค์ แลมพาร์ด(เชลซี),เจมส์ มิลเนอร์(แอสตัน วิลล่า),ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์(แมนฯซิตี้),แอชลีย์ ยัง(แอสตัน วิลล่า)

กองหน้า : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์(แอสตัน วิลล่า),คาร์ลตัน โคล(เวสต์แฮม),ปีเตอร์ เคราช์(ปอร์ทสมัธ),เอมิล เฮสกีย์(แอสตัน วิลล่า)

credit : //www.soccersuck.com




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2552   
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2552 13:45:15 น.   
Counter : 217 Pageviews.  


1  2  

~Kanet "The KiLLer" J~
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ~Kanet "The KiLLer" J~'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com