• ทักทาย บ้านบ้าน
• Excel บ้านบ้าน
• เทคนิค บ้านบ้าน
• Access บ้านบ้าน
• การเดินครั้งใหม่ ออกจากบ้าน(บ้าน)

DIY รูปดอกไม้สไตล์บ้านๆ อะฮ้าพอดีเจอหัวข้อ DIY ... ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเราก็มี DIY เหมือนกัน ขอเขียนซะหน่อย สำหรับ DIY ของผมขอเขียนเอาไว้เป็นไอเดียละกันเพราะไม่ได้ลงรูปลงอะไรและมันกันอธิบายกันเข้าใจ แล้วอะไรละ DIY ของแกนะ ครับเคยเห็นรูปดอกไม้ อย่างเช่นรูปดอกกล้วยไม้สวยที่อยู่ในกรอปรูปแบบไม่มีขอบไหมครับ จะมีมากแถวร้านอาหาร และ สวนจตุจักร ตอนที่ผมเดินเล่นที่สวนลุมไนท์ ถามเขาว่าอันเท่าไหร่ครับ... 150 เป็นคำตอบ ปิ๊ง ไอเดียผุดเข้ามาในหัวสมอง เดี๋ยวเราไป search ดอกกล้วยไม้สวยๆจาก internet ดีกว่า เอาแบบดอกเดียว ที่มีพื้นหลังเป็นสีขาว หรือว่าจะเอาดอกลีลาวดีก็ได้ ... หาเจอแล้วก็ไปเอากล่อง cd แบบกล่องพลาสติกสีดำ ราคาขายปลีกกล่องละไม่เกิน 5 บาท (3 กล่องกำลังดี) พอนึกภาพออกหรือยังครับ เอาภาพที่ search ได้สั่งพิมพ์สีเลยครับ พิมพ์ให้พอดีกลับขนาดกล่อง cd นะครับ เออลืมบอกไปอย่างผมใช้ printer สีที่ office เลยไม่ได้เสียตังค์ แต่ใครที่ใช้ printer ส่วนตัวก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ หลังจาก print เสร็จก็เอาใส่กล่อง cd แล้วหาที่ติดได้เลยครับ ภาพดอกไม้ DIY ราคาถูกก็เสร็จแล้วครับ ผมเอาติดไว้ที่โต๊ะทำงาน ดูดีไม่แพ้กรอบไม้ที่ซื้อจากสวนจตุจักรเลยครับ   Create Date : 05 พฤษภาคม 2551     Last Update : 5 พฤษภาคม 2551 20:39:51 น. Counter : 558 Pageviews.   2 comment Share Tweet

Check Digit ที่ผิดเพี้ยน (เลขบัตรประชาชนไทย) อ่านไม่ผิด และผมก็ไม่ได้พิมพ์ผิดด้วย สำหรับชื่อหัวข้อ Check Digit ที่ผิดเพี้ยน ก่อนที่จะเสียเวลาอ่านต่อ ผมขอบอกเลยว่าสิ่งที่คุณจะได้รู้ต่อจากนี้ไปมันคืออะไร... จะบอกว่าแฉดีหรือไม่นี่... ก็ไอ้เจ้าเลขที่บัตรประชาชนของคนไทยเรานี่สิครับ มันมีสูตรเช็คดิจิตที่ไม่ถูกต้องนะสิครับ เรามาดูกันครับว่ามันผิด หรือ มันเพี้ยนอย่างไร ก่อนอื่นนะครับ ต้องรู้ก่อนว่า check digit คืออะไร ดูได้จากที่นี่ครับ //krumontree.212cafe.com/archive/2007-12-21/digit-algorithm/ ถ้ารู้กันแล้ว ก็มาดูว่าสูตร check digit ที่ใช้อยู่ของเลขที่บัตรประชาชนไทยในปัจจุบันมันเป็นอย่างไร ก็เหมือนเดิมนะครับ ผมไม่ชอบเขียนอะไรที่มีคนเขียนไว้อยู่แล้ว รู้สึกว่ามันเป็นขยะนะครับ อ่านดูได้จากlinkเดียวกัน //krumontree.212cafe.com/archive/2007-12-21/digit-algorithm/ แต่สิ่งที่ผมจะบอกอย่างที่ได้เกริ่นไว้แล้วว่าสูตรเช็คดิจิตที่ใช้ อยู่ในปัจจุบันมันใช้เช็คดิจิตไม่ได้ 100% นะสิครับ ทำไมนะหรือครับ... ขออธิบายเพิ่มนิดสนึงว่า การเช็คดิจิตที่นำมาใช้ในการตรวจสอบเลขที่บัตรประชาชน อีกอย่างนึงก็คือ การป้องกันการใส่เลขที่ผิดพลาด สมมุติเราพิมพ์เลขทีบัตรประชาชน 13 หลัก ถ้าบังเอิญเราพิมพ์เลขผิดไปหลักใดหลักหนึ่ง สูตรเช็คดิจิตจะช่วยบอกเราได้ว่า เลขที่ที่เราพิมพ์ลงไปไม่ถูกต้อง ... แต่สูตรเช็คดิจิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ไม่สามารถ ตรวจสอบได้ หากเลขที่เราพิมพ์ผิดอยู่ในหลักที่ 3 (นับจากซ้ายมือ) อย่างไรนะหรือ ... ? ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่าสูตรที่เช็คดิจิตจะผิดพลาด แต่ก็ได้ลอง พิมพ์เลขบัตรประชาชนที่ถูกต้องลงไป แล้วลองเปลี่ยนเลขหลักที่ 3 เป็นเลขอื่นดู โดยไล่เรียงตั้งแต่ 0-9 ผลปรากฎว่าสูตรเช็คดิจิตนั้นคืนค่าออกมาว่าถูกต้องทั้งหมด อ้าวไหงเป็นงั้นหละเนี่ย ...ผมต้องกลับไปเปิดสูตรเช็คดิจิตดู และได้ไล่ดูการคำนวนในแต่ละขั้นตอน หลังจากที่ได้ตรวจสอบดูสูตรเช็คดิจิตแล้ว ก็พบว่าในตำแหน่งที่สามนั้นมีข้อผิดพลาดจริง... ถ้าคุณลองกลับไปเปิดสูตรเช็คดิจิตที่ผมทำลิงค์ไว้ให้ด้านบน จะพบว่าในขั้นตอนแรกสุด คือการคูณ เลขบัตรประชาชนแต่ละหลัก ด้วยเลขประจำตำแหน่ง ซึ่งเลขประจำตำแหน่ง ก็คือ 13,12,11,10 ... ไล่ถ่อยหลังลงไปเรื่อย ตัวอย่าง สมมุติเลขบัตร 5341590005552สูตรก็จะเป็น 5 x 13 3 x 12 4 x 11 1 x 10 ... ไล่ไปเรื่อยๆนะครับ ซึ่งตามตัวอย่างด้านบนจะเห็นได้ว่าหลักที่ 3 คูณด้วย 11 ใช่ไหมครับ หลังจากนั้นจะมีการใส่สูตรเข้าไปอีกดูตาม link เอานะครับ แต่ผมขอให้สังเกตุสูตรในขั้นตอนที่ทำการ mod ผลลัพธ์ด้วย 11 ครับนี่แหละครับคือคำตอบ... ถ้าเพื่อนๆที่เขียนสูตรเช็คดิจิตใช้กัน ลองไล่สูตรดูก็จะรู้ว่า การคูณด้วย 11 ที่หลักที่ 3 แล้วมา mod ด้วย 11 ในขั้นตอนเกือบสุดท้าย เพื่อนๆก็จะรู้ว่ามันไม่มีค่าอะไรเลยในเลขหลักที่ 3 ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นเลขอะไรก็ตาม ผมก็เขียนมาเยอะแล้วเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าจะอธิบายให้เพื่อนๆที่ยังไม่เคยใช้งานสูตรเช็คดิจิตให้เข้าใจได้ลำบากเหมือนกัน เอาเป็นว่าเพื่อนๆต้องลองเอาไปทำกันดูครับ ทำตามแบบ link ที่ผมได้ให้ไว้แล้วลองเช็คดูว่ามันผิดจริงหรือไม่... หมายเหตุ : ผมไม่ได้ว่าสูตรเช็คดิจิตที่เจ้าของ link เขาเขียนไว้ให้มันผิดพลาดนะครับ เพราะสูตรนั่นเป็นสูตรที่ใช้เช็คดิจิตบัตรประชาชนไทยจริงๆ... ตอนแรกผมก็คิดว่า อาจมีสูตรอื่น แต่ก็ได้ลองเข้าไปที่ web site เสียภาษี (rd.go.th) แล้วลองยื่นภาษีดูเพื่อให้ระบบของกรมสรรพกร ตรวจสอบเลขที่บัตรประชาชนดู ปรากฎว่ายอมให้ผ่านครับ ถ้าในหลักที่ 3 ผมคียผิด ยังไม่พอครับผมได้ลอง view source code ที่ทางกรมสรรพกร ใช้ check digit ปรากฎว่าเป็นสูตรเดียวกันนั่นแหละครับ เกร็ดความรู้ : เลขหลักที่ 2 และ 3 หมายถึงจังหวัด ประเทศเรามี 76 จังหวัดเพราะฉะนั้นหลักที่ 3 มีโอกาศเป็น 0 - 9 ได้อยู่แล้ว เป็นไปได้ว่าสูตรเช็คดิจิตอาจถูกต้องอยู่แล้ว แต่ถึงจะถูกต้องอย่างไร มันก็ไม่ถูกต้องตามหลักการเช็คดิจิตหรอกครับ ข้อเตือนใจ : ใครที่รู้สูตรเช็คดิจิต ก็อย่าเอาสูตรเป็น gen เลขบัตรปลอมๆขึ้นมาเพื่อเอาไปสมัครเกมส์ออนไลน์ หรือสมัคร web site อะไรที่เขามีการตรวจสอบเลขบัตรประชาชนละกันนะครับ ให้เอาไปใช้ในถูกที่ควรละกัน...   Create Date : 29 เมษายน 2551     Last Update : 30 เมษายน 2551 22:15:50 น. Counter : 3407 Pageviews.   5 comment Share Tweet

ภาษาอังกฤษใน office (#2) มาเล่าให้ฟังต่อครับเกี่ยวกับเรื่องการใช้ภาษา english ใน office จากความเดิมตอนที่แล้ว ภาษาอังกฤษใน Office ตอนที่ 1 ... สองเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก หนุ่มน้อยหน้ามนยังคงทำงานใน office ที่เดิมอยู่ และก็ได้เจอกับเหตุการ์ณที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการเบิกอุปกรณ์สำนักงานอีกแล้ว... วันนั้นเป็นวันที่เราทุกคนจะได้รับของที่เบิกมา แล้วผมก็เห็นว่าในกล่องที่เขาเอาของที่เบิกมาส่งให้ มันมีหนังสติ๊กถุงใหญ่อยู่ 1 ถูง ... ผมก็ถามเพื่อนๆว่าใครเบิกหนังยางบ้างครับ... ถามไปถามมาก็ไม่มีคนแสดงความเป็นเจ้าของ เอ้าใครเบิกไว้ก็หน้าจะมาเอานะครับ... คนนู้นคนนี้ก็เอาของที่ตัวเองเบิกไปกันจนหมดแล้ว เออว่าแล้วก็มีเพื่อนผมที่เป็นผู้หญิงคนนึงพูดขึ้นมาว่าๆ เบิกยางลบไป ไม่เห็นได้เลย ใครเอาไปหรือเปล่า ผมก็เลยทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี โดยดูสำเนาใบเบิกที่ติดมาอยู่ในกล่องให้ เผื่อว่าเพื่อนจะลืมติ๊กลงไปในใบเบิก... ผมเรียกเพื่อนมาแล้วบอกเธอไปว่า ไหนเธอเบิกอันไหน เพื่อนผมชี้ให้ดูนี่ไงช่องนี้ไง ฉันติ๊กไปแล้วนะ จริงแล้วผมก็ไม่รู้จักไอ้คำศัพท์คำนี้มาก่อนเหมือนกัน แต่พออ่านไปแล้ว ก็จับต้นชนปลายคลี่คลายคดีได้ทันที ช่องที่เพื่อนผมมันติ๊กไปก็คือ rubber band หรือแปลทับศัพทแบบตรงๆว่า ยางวง หรือหนังกะติ๊กนั่นเอง ผมหยิบถุงหนังสติ๊กให้เพื่อนผมแล้วบอกไปว่า อะเอาไปยางลบที่เธอเบิกไป ฮากันทั้งห้องหลังจากเรื่องนี้ถูกเฉลย ก็ทำไงได้ละครับก็ตอนเด็กเรียนมาว่ายางลบมันคือ rubber แล้วไอ้เจ้า rubber band นี่คงเป็นยางลบอะไรสักอย่างนึงแหละก็คงลบได้เหมือนกัน หมายเหต: ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าหนังสติ๊กเขาเรียกกันว่าอย่างไร หรือเรียกแบบที่บริษัทผมเรียกถูกต้องแล้ว   Create Date : 07 เมษายน 2551     Last Update : 7 เมษายน 2551 11:27:26 น. Counter : 4033 Pageviews.   3 comment Share Tweet

ภาษาอังกฤษใน Office พอดีได้ไปอ่านบทความ ของคุณ boonblue (//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=box-x&month=02-2008&group=18&date=25&gblog=13) แล้วก็เลยนึกถึงตอนที่ทำงานใหม่ๆ ที่แบงค์ฝรั่งแห่งหนึ่ง ก็เจอปัญหาการทับศัพท์ภาษาอังกฤษนี่แหละครับ วันดีคืนดีเจอเข้าให้ หัวหน้าเดินมาที่โต๊ะท่าทางยุ่งพร้อมปึ้งกระดาษ แล้วบอกผมว่าพี่ขอสเต๊ปเพิล(staple) หน่อยสิ ...เอาหละสิ หัวหน้าจะเอาอะไรวะ ในใจคิดว่า สเต๊ป สแต๊ม อะไรวะ หรือว่าจะเอาสแตมปตรายางหว่า ...เลยบอกหัวหน้าไปว่า เดี๋ยวเอาไปให้ที่โต๊ะครับ สักเดี๋ยวนึกขึ้นได้ว่า อ๋อเหมือนคุ๊นๆว่าเคยเบิกของ(ลูกแม็ก)แล้วเพื่อนคนนึงเคยบอกว่าเรียกว่า staple ทันใดนั้นก็แมชตกันได้ทันทีเลยว่า หัวหน้าต้องการเครื่องเย็บกระดาษนั่นเอง ซึ่งที่บริเวณโต๊ะเราจะมีแม็กซอันใหญ่เป็นพิเศษ... ก็จบลงด้วยการหยิบไปให้หัวหน้าได้ถูกต้อง แต่เท่านั้นยังไม่จบครับ... อีก 2 วันผ่านไปหัวหน้ามาใหม่ คราวนี้ไม่ได้มาถามผมแต่ถามโต๊ะที่นั่งติดกับผมซึ่งเข้ามาทำงานก่อนผมประมาณหกเดือน ด้วยคำถามเดียวกับผม เพื่อนผมทำท่างงๆ... และใช้ทางออกเดียวกับผมคือบอกหัวหน้าว่าเดี๋ยวผมหยิบไปให้ครับ แต่โชคไม่ช่วยเพื่อนผม ไอ้เจ้า staple พอดีมันอยู่บนโต๊ะของเพื่อนผมพอดี หัวหน้าผมเอื้อมมือไปหยิบแล้วบอกนี่ไง ผมก็ได้แต่นึกขำในใจ แต่ไม่ได้ขำในความไม่รู้นะครับ ขำในความที่ว่าเออมันก็เป็นโรคเดียวกับผมเหมือนกัน...   Create Date : 25 มีนาคม 2551     Last Update : 25 มีนาคม 2551 23:32:29 น. Counter : 2323 Pageviews.   2 comment Share Tweet

การล็อคโฟลเดอร์ ภาคประยุกต์ใช้ (apply lock folder) พอดีผมอ่านบทความเกี่ยวกับการล๊อดโฟลเดอร์มาจากที่ที่นึง(ที่ไหนคงไม่สำคัญเพราะผมไปเจอมาหลายที่) วิธีการล๊อกโฟลเดอร์ก็คือการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ ให้เป็นชื่อพิเศษ หลังจากเปลี่ยนเสร็จไอ้เจ้าโฟลเดอร์ของเรามันจะแปลงล่างเป็น My Computer ครับ คนที่ไม่รู้มา double click ที่ Folder ของเราที่อยู่ในร่าง (My Computer) ก็จะคิดว่ามันเป็น My Computer เพราะมันจะเปิดหน้า My Computer ขึ้นมา โชว์ drive C: , drive E: เหมือนอย่างกลับคลิ๊ก icon My Computer ที่หน้า Desktop เลยครับ แต่เดี๋ยวก่อน... สิ่งนี้มันเป็นความรู้ที่แพร่หลายในโลก Internet อยู่แล้วนี่ แล้วผมจะมาเขียนใหม่ให้เสียเวลา เสียspace เสียทรัพยากรทำไมเล่า ทำแค่ลิงค์ไปก็คงพอแล้วมั๊ง... ไม่อย่างนั้นหรอกครับ ผมขอเอามันมาดัดแปลงให้สะดวกใช้งานนิดนึงและทำให้มันดูเนียนมากขึ้น... เกริ่นซะยาวเลย ไม่เริ่มซักที เออเอาเป็นว่า เดี๋ยวไปเขียนแบบ offline ก่อนแล้วจะเอามา post ให้   Create Date : 06 มีนาคม 2551     Last Update : 9 มีนาคม 2551 11:15:42 น. Counter : 2528 Pageviews.   17 comment Share Tweet

• แดนน้อย
• กลับมาแล้วเหรอ เก่งมาก ๆ เลย
• คนควน
• mitrapap
• amitada
• ครูเอก
• เกลือจืด
• boonblue
• absoluteaommy
• Mr.Terran
• jidapar
• ปฐมเชทย์
• kittymintz
• Leverage
• Webmaster - BlogGang

• แบไต๋ไฮเทค
• oknation.net/blog/excel
• ไทAccess
• Microsoft Access Training
• Sample Access Link
• BlogGang.com