|
ความพึงพอใจอันไร้ประโยชน์
เมื่อครั้งยังเด็กผู้เขียนเคยอ่านบทความเรื่องการใช้เงินของบรรดาเศรษฐี-เศรษฐินี ความฟุ่มเฟือย, ฟุ้งเฟ้อของคนมีอันเหลือจะกิน คนเขียนหัวข้อนั้นต้องการสื่อว่า เงินที่เอาไปลงกับความสุขชั่วคราวเหล่านั้น สามารถนำไปจุนเจือคนที่ไม่มีความสุขในชีวิตได้หลายคน
การตีค่าว่าสิ่งใดมีค่าราคาสูง อยู่ที่ความหายากหรือความลำบากในการได้มาซึ่งสิ่งนั้น ดอกไม้ที่ผลิดอกพันปีครั้ง ย่อมดูมีค่าน่านิยมกว่าธรรมดาพฤกษาที่เบ่งช่อปีละครั้ง หรือดอกไม้ริมทางที่ส่งกลีบให้เห็นทุกวี่วัน นั่นคือการนับค่าของมนุษย์
เมื่อยิ่งหายาก ราคายิ่งสูง เมื่อราคายิ่งสูง ยิ่งแลกมาเป็นเจ้าของได้ยาก นี่คือวงจรง่ายๆของมัน
ผ้าแพรที่นุ่มใส่สบายที่สุดในโลก ย่อมราคาสูงที่สุดในโลก นักออกแบบที่เก่งที่สุดในโลก ย่อมมีค่าตัวต่อผลิตภัณฑ์สูงที่สุดในโลก ถ้านักออกแบบเสื้อผ้าที่เก่งที่สุดในโลกคนนี้ใช้ผ้าแพรที่ใส่สบายที่สุดในโลกมาตัดเย็บเป็นชุดนอน..... ก็แน่นอนว่าชุดนอนตัวนี้มันต้องเป็นชุดนอนที่แพงที่สุดในโลก
แล้วใครจะใส่ชุดนอนที่แพงที่สุดในโลก... อาจจะไม่ใช่คนที่รวยที่สุดในโลกก็ได้ที่ซื้อมันไป แต่อาจเป็นคนที่ชอบชุดนอนมากที่สุดในโลก นี่คือวิถีง่ายๆของมัน
คิดถึงคนที่ไม่มีเงินแม้แต่จะหาอะไรประทังชีวิตไปชั่วโมงๆ (ใช้คำว่าวันอาจยาวนานเกินไปสำหรับความหิว) สิ่งที่หาได้มาอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด หายากที่สุด ราคาแพงที่สุด แต่มันก็ทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และนั่นก็เกินพอ
คำว่าพอคืออะไร? ชีวิตที่พอเพียงคือแค่ไหนและอย่างไร?
คำๆนี้คนที่มีทรัพย์สินเหนือความผู้อื่นคงไม่เข้าใจ แม้แต่คนที่มีฐานะเฉลี่ยว่าปานกลางก็ไม่เข้าใจ
คนที่ไม่มีจะกิน เมื่อวันหนึ่งมีอันจะกินขึ้นมาก็หลงลืมมันไป
คำว่ารวยมักถูกพ่วงด้วยคำว่าฟุ่มเฟือย ...ในขณะที่คนฐานะปานกลางเมื่อได้เบี้ยเลี้ยงก็ฉลองกินดื่มสารพัด ...ในขณะที่คนฐานะยากจนก็กินเหล้าเมายาประชดความมีน้อยกว่าคนอื่น แล้วอย่างนี้เรียกว่าความฟุ่มเฟือยไหม?
ชีวิตทุกคนย่อมเห็นแก่ตน ช่วยเหลือตัวเองก่อน ทำให้ตัวเองสบายก่อน สร้างความสุขให้ตัวเองก่อน มองคนที่มีมากที่สุดและฝันลมๆแล้งๆว่าอยากมีเหมือนเขา ถึงคราว แม้จะพูดคำมั่นสัญญาอะไรไว้ ก็เปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ของตน
และนี่คือวงจรง่ายๆของมัน
Create Date : 11 เมษายน 2552 |
Last Update : 12 เมษายน 2552 23:00:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 283 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|