++ บางเสี้ยว ของความทรงจำ.. ++ (มั่ง)
อันนี้ของคุงแม่น้องสมาร์ท ที่แอบติดตามผลงานมานานแล้ว อ่านแล้วเลยอยากมีกุ๊กกิ๊กซีนแบบนี้บ้าง จนสุดท้ายก็เกิดขึ้นจนได้ซิน่า ตามอ่านข้างล่างๆๆ

++ บางเสี้ยว ของความทรงจำ.. ++

อืมม.. มานั่งนึกถึงบางเสี้ยว ที่ฉันแอบเก็บเอาไปฝันหวานอยู่บ่อยๆ..

ทุกครั้งที่ฉันแวะมาที่กรุงเทพ.. ก็เหมือนเคย..ฉันนัดเจอเพื่อนๆ และแน่นอน.. ก็ต้องไปพักค้างที่ห้องเพื่อนน่ะสิ

สมัยนั้น...ความเป็นเพื่อนของเราน่ะ ไม่ได้แยกหญิงชายหรอก.. เพราะเราคือเพื่อน.. เพื่อนที่จริงใจและไม่เคยคิดที่จะล่วงล้ำก้ำเกินกัน

ดังนั้น ทุกครั้งที่แวะกรุงเทพ.. บ้านเช่าของพวกเพื่อนผู้ชาย จึงมักเป็นที่รวมและสุมหัว.. และที่พักของฉัน..และทุกครั้งนกก็มาค้างอยู่ด้วย..

มีอยู่หนนึง.. ฉันแวะ 2-3 วัน คืนแรกนกก็มานอนค้างด้วย.. ทั้งห้องซุกหัวนอนกันประมาณ 10 คน.. บนเตียงมั่ง ล่างเตียงมั่ง. แล้วแต่ว่า คุยกันจนดึก ใครง่วงก่อน ก็ยึดเตียงนอนไป.. ใครง่วงที่หลัง ก็ที่พื้น ล่างเตียงนั่นแหละ.. เวลากลางคืน จะตื่นมาเข้าห้องน้ำ ก็เดินระวังๆหน่อย เดี๋ยวไปเหยียบโดนพวกมัน..

แต่พอคืนที่สอง เจ้านกดันมีธุระ ต้องไปบ้านญาติ เพื่อนผู้หญิงบางคนก็จองตั๋วกลับบ้านเอาไว้แล้ว.. คืนนั้นฉันเลยต้องเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวในห้อง...

ยังไงก็ผู้หญิง.. แอบนึกกลัว.เลยบอกธีให้ค้างที่นี่ ไม่ต้องกลับบ้าน..อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อน.. เพราะยังไง ฉันก็ไว้ใจธี..

ฉันเลือกมุมนอนปลายเตียงมุมห้อง.. นอนอยู่ข้างๆธีนั่นแหละ.. ด้วยความเหนื่อยจากตอนกลางวัน ฉันเลยหลับไปก่อนที่ธีจะมานอนซะด้วยซ้ำ..

แต่พอสัก ตี2 เกือบๆตี 3 ฉันรู้สึกตัวตื่น แต่ยังไม่กล้าลืมตา.. เพราะรู้สึกว่า.มีใครบางคนมาจ้องหน้าอยู่น่ะสิ.. ฉันเลยแอบหรี่ตาขึ้นมาดู นิดนึง.. เป็นธีนั่นแหละ ที่นอนจ้องหน้า..

ธีคงสงสัยว่า ฉันรู้สึกตัวหรือป่าว.. เค้าก็เรียกชื่อฉันเบาๆ แต่ฉันทำเป็นนอนเงียบ.. ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ได้ตื่น.. ตาธีก็นอนมองหน้าฉันอยู่นั่นแหละ.. จะมองไปถึงไหนนะตาบ้า.. หัวใจชั้นเต้นโครมๆ จนจะหลุดออกมาอยู่แล้ว..

แล้ว.. แล้ว.. ฉันก็รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ใกล้เข้ามา.. ใกล้เข้ามา.. ใกล้เข้ามา.. ใกล้จน..จน...จน..

....


....


....


....


...จน.. ฉันทนไม่ไหว.. เลยลืมตาปิ๊งขึ้นมา.. พลางถามว่า.. “จะทำอะไร”

ธีคงตกใจมัง.. รีบบอก “ป่าว” แล้วต่างคนต่างก็เงียบ.. ฉันเลยลุกออกมาที่ระเบียงหลังห้อง.. อากาศเย็นๆ คงช่วยให้ใจฉันสงบลงบ้าง.. แต่..นั่งอยู่นาน.. เอ.. ทำไมมันไม่เหมือนในนิยายเลยฟระ.... ฉากแบบนี้ พระเอกน่าจะลุกตามออกมานะ..

จนสุดท้าย.. ฉันเดินกลับเข้าไปนอนต่อ.. อีตาธีดันนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว.. เฮ้อ..เซ็งเป็ด. รู้งี้.. ชั้นแกล้งหลับต่อก็ดี..

ซีนนี้.. คิดถึงทีไรก็ใจเต้นทุกที.. แต่คิดไปคิดมา.. ตอนนั้นอีตาธีคงจะเซ็งมากก็ได้เนอะ.. กำลังจะเล่นบทเป็นเจ้าชายจุมพิตเจ้าหญิงนิทราล่ะมัง องค์หญิงดันนอกบท ตื่นเอง.. ฮ่าๆๆๆ


_______________________________________________________

ต่อไปจะเป็นเรื่องของเราบ้างล่ะนะ

เรื่องมีอยู่ว่า ตอนเปิดเทอมปี 4 ใหม่ๆ ก็ได้เพื่อนใหม่มา จริงๆมันก็เดินวนเดินเวียนอยู่ในคณะนั่นแหละ แต่...ก็ได้แต่เคยปลื้มเค้าอยู่ห่างๆ เพราะในเวลานั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะปลื้มใครใกล้ๆได้

ก็ใช้ชีวิตร่วมกันกะเพื่อนอีก 3 คน ไปกินข้าว ไปเรียน ไปทำกิจกรรม จนความรู้สึกแปลกๆมันเริ่มเกิดขึ้น เป็นความรู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้เล่น ได้หยอกกะคนคนนี้

จนกระทั่งวันนึง ไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน 3 คน ช่วงนั้นข่าวไข้หวัด 2009 กำลังระบาดหนัก คณะปิดเรียน เฮ้...... (ขยันเรียนจริ๊ง.....ง นังนี่) ตอนนั้นก็หอบเอาหวัดไปเที่ยวด้วย แต่คงเป็นหวัดไม่ได้อัพเดตอ่ะ เพราะไม่มีอาการของ 2009 คืนแรกก็ไปค้างที่อัมพวา เช่าห้องเดียว นอนกัน 3 คน ชายหนึ่งหญิงสอง อยู่กันแบบไม่คิดอะไร หารู้ไม่ แม่งคิดกันไปหมดทั้ง 3 คน จนสุดท้ายเกิดเป็นโศกนาฎกรรมที่ไม่ขอเล่า จริงๆเขียนไว้ในความรักครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ แต่เรื่องมันดราม่าเกินไป ขอเก็บไว้อ่านคนเดียว

คืนนั้นตอนที่เพื่อนสาวเข้าไปอาบน้ำ เราก็นั่งดูทีวีอยู่ ชายหนุ่มรูปงอม(รูปงาม(หรอ)) ก็แกล้งเอาผ้าห่มคลุมหัวเรา เราก็ดิ้น ดิ้นไปดิ้นมาไปอยู่ในอ้อมกอดเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ (อยู่ภายใต้ผ้าห่ม รับรู้สัมผัสได้ด้วยใจ 5555) แอร้ย.............. เขิน เฮ้ย ไม่ใช่รูปนี้ แต่ก็พยายามดิ้นออก เพื่อไม่ให้ใจไปอยู่กะเค้ามากขึ้น

คืนที่ 2 ไปค้างที่กาญจน์ ไปนอนบ้านเพื่อนสาว เรานอนริมเตียง เค้านอนบนโซฟาติดเตียง หัวเค้าหันมาทางหัวเรา คืนนั้นอาการหวัดแย่มาก หายใจไม่ออก นอนตัวร้อน แล้วก็ไม่หลับจนตี 2 ระหว่างที่นอนไม่หลับ ก็แอบมีความรู้สึกเหมือนโดนมองอยู่ ใช่แล้ว........เค้าคนนั้น แอบมองเราอยู่เป็นระยะๆ ส่วนเราน่ะหรอ ก็แกล้งหลับให้หน้าสวยที่สุด เพื่อเค้าจะได้ประทับใจ 5555 ไม่ได้อายเร้ย.......... สักพักไอ่คนที่จ้องเราก็หลับพร้อมกับเสียง.....ครอกๆๆๆๆ เฮ้อ...ยิ่งนอนไม่หลับอยู่ ก็เลยทำให้เค้ารู้สึกตัวเพื่อที่จะได้ไม่กรน (ทำให้มันตื่นอ่ะแหละ 555) เค้าก็เอามือมาลูบหัวเรา.... อืม......หลับสิคับ.............อาการหวัดนี่แทบจะหายเลย หัวใจเต้นแทบทะลุออกมาข้างนอก เช้ามาก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้.........

คืนที่ 3 หลายคนคิดว่า"ยังมีอีกเรอะ" มีค่ะ เป็นจุดไคลแมกซะด้วย 555 วันนี้เป็นวันผู้หญิงๆ คือวันที่ผู้หญิงไม่สบาย วันที่ไม่สบายกันทุกเดือน เราก็เลยระเห็ดไปนอนอยู่ที่พื้น เค้าก็ลงมานอนที่พื้นเช่นกัน เพราะ...โซฟาปวดหลัง ใช่...เรานอนข้างๆกัน กั้นด้วยหมอนข้างหนึ่งอันเท่านั้นเอง แถม....หนุ่มเจ้ายังถอดเสื้อนอนอีก แอร้ย.......................ผิดอันอีกแล้ว ต้องรูปนี้

คืนนั้นเป็นคืนที่ปวดท้องประจำเดือนมากที่สุดในรอบ 3 เดือน เราก็เลยนอนไม่อยู่สุกเท่าไหร่ หนุ่มเจ้าก็ตื่นเพราะเราดิ้น สุดท้าย ก็เลยจับมือเราไว้..............เลิกดิ้น เขินแทน 55555 ก็ยังปวดอยู่ แต่สุขใจมากกว่า แล้วก็.........มีแวบนึงที่เค้าทำท่าเหมือนจะกอด แต่เราเป็นคนปัดมือเค้าออกไปเอง ก็เพราะว่าถ้าใจเรากะใจเค้าไม่ตรงกัน คนที่เสียหายก็คือเราเองนี่แหละ ถามว่าตอนนี้เสียใจมั้ยที่ทำแบบนั้น ตอบได้คำเดียวว่า "เสียใจ" เฮ้ยๆๆ "ไม่เสียใจ" ( เพราะถึงความรู้สึกของเราจะตรงกันก็จริง แต่....ก็ไม่สามารถที่จะสร้างตำนานต่อไปได้ )

พอกลับจากทริปนี้ ก็ได้รู้ความรู้สึกของเค้า แต่ก็มีสาเหตุบางอย่าง ที่ทำให้เราต้องห่างกันไป คงไม่อาจใช้คำว่ารัก ขอใช้เพียงคำว่า "เสี่ยวหนึ่งของชีวิตที่คิดถึง"



Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 11 มกราคม 2558 1:50:33 น.
Counter : 339 Pageviews.

4 comments
  
แค่ได้คิดถึง ก็เป็นสุขใจ
โดย: thi_noi วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:13:47 น.
  
ใช่ค่ะ แค่ได้คิดถึงก็เป็นสุขใจ
โดย: กระต่ายน้อยเซนทาโร่ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:11:47 น.
  
คนที่ชอบคุณ อ่านแล้วคงเจ็บเลย แต่มีบางครั้งที่เห็นคุณมีความสุข ก็คงดีใจแล้ว
โดย: ผู้ชายใต้แสงจันทร์ วันที่: 29 ธันวาคม 2555 เวลา:14:58:54 น.

ล็อคอินนี้ง่วงแล้ว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]