สะเก็ดเงิน คืออะไร
บางคนอาจจะสงสัยว่าตัวเองเป็นสะเก็ดเงินหรือไม่ ถ้าศึกษาจากเวบไซต์ต่างๆแล้ว ควรจะไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูบริเวณที่เกิดอาการคล้ายสะเก็ดเงินนะคะ  เรามาทำความรู้จักสะเก็ดเงินกันดีกว่า

สะเก็ดเงิน คืออะไร
ในภาษาอังกฤษ อาการสะเก็ดเงินมีชื่อว่า Psoriasis พบเจออาการของโรคทั้งในไทยและต่างชาติ (ฝั่งยุโรปก็มี อเมริกาก็มี) มีการรวมกลุ่มของผู้มีอาการสะเก็ดเงินที่เอาไว้คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ลองค้นหาดูกันนะคะ

สะเก็ดเงินคือ สภาพผิวนี้เกิดผื่นแดงหนาเป็นหย่อมมีเกล็ดสีขาวและสีเงิน ชนิดที่พบได้ทั่วไปคือชนิดผื่นหนา
สะเก็ดเงินสามารถเกิดได้ทั่วทั้งร่างกาย แต่ที่พบบ่อยจะอยู่บริเวณหนังศีรษะ ข้อศอก หัวเข่า และเอวด้านหลัง ไม่ติดต่อกันเมื่อเราไปสัมผัสผิวหนังของผู้ที่มีอาการ สามารถพบสะเก็ดเงินในเด็กได้ แต่จะพบมากขึ้นในวัยผู้ใหญ่


อาการของสะเก็ดเงิน
เมื่อเริ่มเป็นสะเก็ดเงิน จะพบตุ่มนูนแดงเล็กๆบนผิวหนัง ตุ่มนี้อาจจะขยายขนาด และหนาขึ้น จากนั้นจะมีเกล็ดขาวๆด้านบน
แผ่นสะเก็ดอาจจะขยายขนาดใหญ่จนปกคลุมบริเวณกว้างของผิวหนังในร่างกายได้ ผื่นนี้จะทำให้คันและรู้สึกไม่สบายตัว ถ้าเกาหรือแกะบริเวณเป็นผื่นจะทำให้เลือดออกได้ง่ายๆ

สะเก็ดเงินที่เล็บ
เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีอาการสะเก็ดเงินบนผิวหนัง จะพบอาการสะเก็ดเงินที่เล็บด้วย ซึ่งจะทำให้เล็บมีสีค่อนข้างเหลืองเข้มไปถึงแดง
ผิวเล็บจะมีรอยแตก เริ่มเป็นหลุม เป็นร่อง หรือมีลายเส้นๆ สำหรับผู้ที่มีอาการสะเก็ดเงินบนเล็บเกือบทุกคนจะพบสะเก็ดเงินบนผิวหนังด้วย


โรคข้ออักเสบจากสะเก็ดเงิน
บางคนที่มีอาการสะเก็ดเงินอาจจะพบอาการของโรคข้ออักเสบจากสะเก็ดเงินร่วมด้วย อาจจะมีอาการบวมและเจ็บตามข้อต่อ ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากขึ้น
โรคข้ออักเสบจากสะเก็ดเงินเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย แต่จะพบมากในช่วงอายุ 30-50ปี

สาเหตุของอาการสะเก็ดเงิน
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจเรื่องสาเหตุของอาการสะเก็ดเงิน แต่อาการสะเก็ดเงินเชื่อมโยงต่อกับปัญหาของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งร่างกายกำลังต่อสู้และป้องกันจากเชื้อโรค
ถ้ามีอาการสะเก็ดเงินเกิดขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันจะโจมตีผิดที่ ไปยังผิวที่สุขภาพดี เหมือนกับกำลังโจมตีส่วนที่มีการติดเชื้อ ร่างกายของเราจะตอบสนองด้วยผลิตเซลล์ผิวหนังขึ้นมาใหม่ทุกๆ 2-3วัน ซึ่งปกติจะต้องผลิตทุก 4สัปดาห์ เซลล์ผิวหนังที่สร้างขึ้นใหม่จะสร้างขึ้นบนชั้นบนของผิว และก่อตัวกันเป็นผื่นหนาขึ้นมา


ตัวกระตุ้นอาการสะเก็ดเงิน
การกระตุ้นอาการสะเก็ดเงินในบางครั้ง ที่พบกันได้บ่อยๆ คือ
  • เกิดการบาดเจ็บหรือติดเชื้อที่ผิวหนัง
  • ภาวะความเครียด
  • จากยาบางชนิด
  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มแอลกอฮอล์

การอยู่กับอาการสะเก็ดเงิน
เป็นเรื่องปกติธรรมชาติที่อาการผื่นของสะเก็ดเงินจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในสังคม สิ่งสำคัญในการรักษาสภาพผิวแม้ว่าจะทำร้ายความมั่นใจของตัวเอง อย่าเลี่ยงการออดเดท งานสังคมต่างๆ หรือการสัมภาษณ์งาน ถ้ารู้สึกว่ากำลังกดดันตัวเอง ให้ลองคุยกับคุณหมอ หรือคนที่เราสามารถปรึกษาได้

การวินิจฉัยอาการสะเก็ดเงิน
ปกติแล้วแพทย์จะวินิจฉัยอาการสะเก็ดเงินด้วยการตรวจผิวหนังทั่วไป หนังศีรษะ และเล็บ แพทย์อาจจะตัดชิ้นส่วนของเซลล์ผิวหนัง แล้วนำไปส่องด้วยกล้องไมโครสโคป (Microscope) เพื่อยืนยันการวินิจฉัย
ถ้ามีอาการบวมและปวดบริเวณข้อร่วมด้วย แพทย์อาจจะเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อทดสอบและเอ็กซเรย์เพื่อตรวจหาโรคข้ออักเสบเพิ่มเติม

การรักษาด้วยออยเมนท์ (Oilment เนื่อครีมจะข้นประมาณขี้ผึ้ง)
ถ้ามีอาการของผื่นสะเก็ดไม่มากนัก อาจจะรักษาด้วยการทาครีม ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบ อาการคัน และลดอัตรการผลิตเซลล์ผิวใหม่ลง
ตัวอย่างบางส่วน เช่น ครีมที่มีสเตียรอยด์, มอยซ์เจอไรเซอร์, กรดซาลิไซลิค (Salicylic acid), แอนทาลิน (Anthralin), เรตินอยด์, แคลซิโพไทอีน (Calcipotriene) ในรูปของวิตามินดี และน้ำมันดิน (Coal tar) แชมพูทาร์มีส่วนช่วยได้มากกับสะเก็ดเงินบนหนังศีรษะ

การรักษาด้วยการฉายแสง
ถ้ามีอาการผื่นสะเก็ดเงินปานกลางถึงรุนแรง แสง UVB จะช่วยรักษาได้ วิธีนี้จะช่วยรักษาได้เมื่อผิวหนังได้รับแสงอัลตร้าไวโอเลต ซึ่งสามารถทำได้ที่คลินิก โรงพยาบาล หรือที่บ้านโดยใช้อุปกร์ฉายแสงไฟ
PUVA (Photochemotherapy) คือการฉายแสง โดยใช้ systemic psoralens ร่วมกับ UVA 
การรักษาด้วยการฉายแสง PUVA และ UVB จะช่วยลดอาการสะเก็ดเงินลงได้ แต่ผลข้างเคียงคือจะมีอาการปวดหัว อ่อนเพลีย และอาเจียนได้ ซึ่งในการรักษาด้วยการฉายแสงอาจจะทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังตามมาได้

การรักษาด้วยเลเซอร์
แสงเลเซอร์เป็นการรักษาด้วยการฉายแสงแบบใหม่ ซึ่งจะใช้ลำแสงที่มีความเข้มสูง โดยแพทย์จะสามารถรักษาไปที่รอยผื่นได้โดยตรง โดยไม่ทำให้กระทบกับผิวส่วนที่ดีอยู่แล้ว
การรักษาด้วยเลเซอร์อาจจะมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง แต่มีความเสี่ยงน้อยที่จะทำให้เกิดมะเร็วผิวหนัง เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยการฉายแสงแบบเดิม


การรักษาด้วยการทานยา
แพทย์อาจจะแนะนำให้รักษาด้วยการทานยา เป้าหมายของยาคือระบบภูมิคุ้มกัน
ตัวยา Methotrexate และ Cyclosporine ทั้งสองมีผลข้างเคียงสูง ควรได้รับยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์ การทานเรตินอยด์ก็สามารถช่วยรักษาอาการสะเก็ดที่รุนแรงได้
ยาตัวใหม่คือ Otezla (apremilast) (เพิ่มเติม : เป็นยากินตัวแรกที่ได้รับอนุมัติจาก US FDA ให้ใช้รักษาโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน) ซึ่งก็มีผลข้างเคียง แต่ไม่มากนัก

การรักษาด้วยยา ไบโอโลจิกส์ (Biologics)
ไบโอโลจิกส์ เป็นวิธีที่ค่อนข้างใหม่ในการรักษาอาการสะเก็ดเงิน ยาชนิดนี้ผลิตจากเซลล์ที่มีชีวิต ซึ่งยานี้จะเข้าไปเปลี่ยนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
สามารถรับยาไบโอโลจิกส์ได้ด้วยการฉีด ทานยา หรือรับผ่านเส้นเลือดดำ ซึ่งจะทำงานโดยการชะลอระบบภูมิคุ้มกัน อาจจะทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงขึ้น

การรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด
โดยการให้บริเวณผื่นสะเก็ดเงินได้รับแสงแดด ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ป่วยบางรายอาการดีขึ้น สิ่งสำคัญคืออย่ารับแสงแดดจนมากเกินไป แสงแดดที่แรงมากไปจะทำให้ผื่นสะเก็ดเงินแย่ลงกว่าเดิม และแสงแดดที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
ธรรมาชาติบำบัดวิธีอื่นๆ เช่น ว่านหางจระเข้ ทีทรีออยล์ และการผสมข้าวโอ๊ตในน้ำอาบ จะช่วยบรรเทาอาการคันได้  ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าอาหารจะช่วยรักษาอาการสะเก็ดเงินได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดนัก

การบำบัดด้วยบรรยากาศ
มีคนอ้างว่าการไปทะเลเดดซีในอิสราเอลจะช่วยรักษาสะเก็ดเงินได้ แสงแดด น้ำทะเลที่เค็มกว่าน้ำทะเลปกติถึง10เท่า เชื่อว่าการผสมผสานจะช่วยรักษาได้
หลักฐานทางวิทยาศาสตร์เห็นว่า รูปแบบของการบำบัดด้วยบรรยากาศแบบนี้สามารถเห็นผลได้จริง ในการศึกษา 80%-90% ของคนที่มีอาการสะเก็ดเงินจะดีขึ้นเมื่อได้ไปเยือนทะเลเดดซี คนเกือบครึ่งหนึงพบว่ารอยผื่นได้หายไปใน2-3เดือนต่อมา

การลดความเครียด
ความเครียดทำให้อาการของสะเก็ดเงินแย่ลงได้ ดังนั้นลองใช้เทคนิคความคุมเพื่อให้ผ่อนคลายและลดการกระตุ้นผื่น ทุกๆเทคนิคที่จะช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็น เล่นโยคะ หายใจเข้าลึกๆ หรือเดินไกลขึ้น อาจจะช่วยลดอาการสะเก็ดเงินลงได้

การสนับสนุนจากคนรอบข้าง
อาจจะมีบางวันที่รู้สึกจอยากะอยู่ที่บ้าน แต่อย่าเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์ หรือกิจกรรมที่ทำให้มีความสุข การแยกตัวออกจากสังคมอาจจะนำไปสู่ความเครียดและความหดหู่ได้ ซึ่งจะส่งผลให้อาการของสะเก็ดเงินแย่ลงไปอีก
พยายามพูดคุยกับเพื่อนๆและครอบครัว หรืออาจจะลองดูในมูลนิธิผู้ป่วยสะเก็ดเงิน (
https://www.psoriasis.org/) หรือกลุ่มที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยสะเก็ดเงินอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เราได้พบเจอกับคนที่เข้าใจเรา

ขอบคุณข้อมูลดีๆ อ้างอิงจาก : 
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/psoriasis/ss/slideshow-psor-overview



Create Date : 18 มิถุนายน 2563
Last Update : 18 มิถุนายน 2563 17:05:35 น.
Counter : 5297 Pageviews.

0 comment
7 เคล็ดลับดูแลผิวเป็นสะเก็ดเงิน จาก WebMD
เอกสารเรื่องโรคสะเก็ดเงินในเวอชั่นภาษาไทยอาจจะมีไม่มาก เข้าใจว่าผู้ที่มีรอยโรคมักจะกังวลและอยากหาข้อมูลเพื่อนำมาทดลองและช่วยให้ตนเองหายจากโรคเสียที ซาหริ่ม บล็อก เลยหาบทความภาษาอังกฤษมาแปลเพื่อให้ทุกคนได้อ่านเพิ่มพูนความรู้กัน
สะเก็ดเงิน เกาๆแกะๆ 
สะเก็ดเงิน คันๆแกะๆเกาๆ

7 เคล็ดลับดูแลผิวเป็นสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินสามารถรักษาได้ การปรับเปลี่ยนง่ายๆในกิจวัตรประจำวันของคุณสามารถช่วยในการรักษาและสงบลงของรอยโรคสะเก็ดเงิน

1.รักษาความชุ่มชื้นของผิว

ข้อนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ง่ายและเห็นผลที่สุด ที่ช่วยดูแลอาการระคายเคืองของผิว ซึ่งจะช่วยรักษาผิวให้ดีขึ้นและลดอาการผิวแห้ง ลดการคัน ลดรอยแดง ลดความเจ็บปวด และลดขนาดรอยโรค
เลือกมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ตามระดับความแห้งของผิวของตนเอง
  • ออยเมนท์ (เนื้อประมาณขี้ผึ้ง) จะหนา หนัก และช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
  • โลชั่น จะบางกว่า และซึมผิวได้ง่าย
  • หรือ ทุกคนสามารถเลือกครีมที่เนื้อเข้มข้นระหว่างออยเม้นท์และโลชั่น อย่าลืมของไม่แพงไม่ได้ดีที่สุดเสมอ และลองมองหามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ตัวที่ไม่ผสมน้ำหอมนะ
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จใหม่ๆเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่จะทาผิวเบาๆ สามารถทาเพิ่มได้ตลอดทั้งวันและเมื่อเปลี่ยนชุด ทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มในวันที่อากาศเย็นและแห้ง

อีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ คือการมีเครื่องทำความชื้นไว้ในบ้าน โดยเฉพาะวันที่อากาศร้อนและแห้ง เมื่อเปิดเครื่องทำความร้อน ให้เปิดเครื่องทำความชื้นคู่กันไป จะช่วยให้ผิวเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น (ไทยเราคงใช้เมื่อเปิดแอร์เย็นๆแทนนะคะ)

2.ปลอบประโลมผิวด้วยการอาบน้ำอุ่น

การอาบน้ำอุ่นในทุกๆวันและใช้สบู่ที่มีความอ่อนโยน จะช่วยปลอบประโลมผิวจากอาการคันและสามารถทำให้ผิวที่แห้งๆหลุดออกไปได้
(สำหรับการแช่น้ำในอ่าง) แช่ในน้ำอุ่น 15นาที ซึ่งสามารถใส่น้ำมัน ข้าวโอ๊ตบดละเอียด เกลือ Epsom เกลือเดดซี เพิ่มลงในน้ำได้ แต่ต้องระวังรักษาความอ่อนโยนในน้ำและสบู่ น้ำที่มีอุณหภูมิร้อนเกินไปและการใช้สบู่ไม่อ่อนโยนจะไม่ส่งผลดีกับผิวของเราที่บอบบางอยู่แล้ว

พยายามอย่าใช้ผ้าเช็ดตัวถูผิวให้แห้ง ลองซับผิวให้แห้งแทนดู เพราะการถูแรงๆจะทำให้อาการเจ็บแดงแย่ลง อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดรอยแดงใหม่ได้ด้วย จากนั้นตามด้วยการทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ตามทันที
ถ้าไม่มีเวลาอาบน้ำ สามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวหรือประคบเย็นที่บริเวณรอยโรคได้

3.รักษาด้วยแสงแดด

แสงอัลตร้าไวโอเลต (UV) จากแดดสามารถทำให้เซลล์ผิวเจริญเติบโตช้าลง ดังนั้นแสงแดดปริมาณน้อยยังเป็นส่งผลดีในการรักษารอยแผลสะเก็ดเงิน แม้แต่แสงแดดส่องภายในอาคารยังทำให้เห็นความแตกต่างได้

พยายามออกมารับแสงแดดสัปดาห์ละ 2-3ครั้ง และทาครีมกันแดดในบริเวณผิวที่สุขภาพดี แต่ถ้ารับแสงมากเกินไป จนเกิดอาการไหม้แดดอาจจะก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ซึ่งจะทำให้แย่ลงกว่าเดิม (แดดเช้าหรือเย็น น่าจะเหมาะสำหรับในไทย)
ปรึกษาหมอก่อนที่จะทำการรักษาด้วย UV เป็นประจำ ลองทำตารางการตรวจสุขภาพผิวเพื่อให้มั่นใจว่าผิวเราจะไม่ได้รับแสงแดดมากเกินไป

4.ทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่ายๆ

จากการศึกษา ความเครียดจะส่งผลต่อรอยโรคสะเก็ดเงินและทำให้อาการคันเพิ่มขึ้น ในบางคนรอยโรคจะลามเพิ่มขึ้นหลังจากผ่านสนามความเครียด เราสามารถลดอาการเหล่านี้ได้โดยลดความกังวลลง
การลดความเครียดมีหลากหลายวิธีที่จะช่วยได้ เพื่อนและครอบครัวอาจจะเป็นเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับเรา ลองคิดว่าอะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา แล้วก็ใช้เวลาสิ่งนั้นสักหน่อย การเล่นโยคะ ทำสมาธิ และการหายใจลึกๆก็ช่วยได้ แม้กระทั่งการเดินเล่นไปรอบๆก็ช่วยได้นะ

วิธีอื่นๆ ที่ช่วยลดความเครียด
  • กินอาหารดีๆ
  • ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราสู้กับการกระจายของรอยโรคได้

5.ใช้อะไรที่สบายๆกับตัวเรา

หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ไม่อ่อนโยนต่อผิว เช่นโลชั่นที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สบู่ผสมน้ำหอม กรดต่างๆ (Glycolic, Salicylic และ กรด Lactic) หรือแม้กระทั่งผงซักฟอก สิ่งเหล่านี้อาจะทำให้ผิวที่บอบบางของคุณอักเสบได้ ผิวสัมผัสจากเสื้อผ้าที่ซื้อมา ลองดูในแน่ใจว่าเนื้อผ้านิ่มและสวมใส่สบาย หลีกเลี่ยงผ้าขนแกะและผ้าขนสัตว์ซึ่งจะทำให้ระคายเคืองบริเวณที่มีการอักเสบอยู่แล้ว

6.ไม่แกะไม่เกา

รู้กันดีอยู่แล้ว เมื่อมีอาการคัน ก็อยากจะเกา แต่การเกานั้นจะทำให้ผิวหนังฉีกขาด และจะเป็นช่องทางของการติดเชื้อได้ การเกาจะทำให้เห็นรอยแดงที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ตัดเล็บให้สั้นเสมอ ทายาแก้คันเมื่อมีอาการ
การแกะรอยสะเก็ดเงินจะทำให้มีการติดเชื้อ เมื่ออยากจะแกะให้หลับตาลง หายใจลึกๆ ทาด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เบาๆแทน

7.หยุดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่จะไปกระตุ้นการเกิดโรค ลองปรึกษาคุณหมอให้ช่วยแนะนำวิธีการเลิกบุหรี่และแอลกฮอล์ ในบางคนการแปะแผ่นนิโคตินจะทำให้สะเก็ดเงินแย่ลง

การดื่มแอลกอฮอล์หนักๆ ก็เป็นตัวกระตุ้นโรคชั้นดี แถมยังอันตรายมากถ้ามีการทานยารักษาโรคสะเก็ดเงินบางตัวอยู่ ถ้ายังเป็นนักดื่ม ให้ลดขนาดลง ผู้หญิงอาจจะดื่มได้วันละแก้ว ส่วนผู้ชายวันละ 2 แก้ว

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/psoriasis/psoriasis-skin-care-tips

บางข้ออาจจะเหมาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ประเทศเมืองหนาว ทุกคนลองปรับใช้ดูได้นะคะ
 



Create Date : 16 มิถุนายน 2563
Last Update : 16 มิถุนายน 2563 16:51:46 น.
Counter : 1916 Pageviews.

0 comment

Sarimisagirl
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อยากเที่ยวทุกวัน แต่เงินไม่อำนวย >.,<