ความเป็นมา
จากจุดสนใจเล็กๆ เพียงกล้วยไม้สกุลหวายเพียงไม่กี่ต้น แขวนไว้ตามใต้ต้นไม้บ้าง ชายคาบ้านบ้าง พอเริ่มรู้จักสกุล แอสโคเซนด้า ก้อเริ่มหันมาสนใจไม้ป่าจำพวก ฟ้ามุ่ย, เอื้องต่าง ๆ , เข็ม, กุหลาบ และช้าง แต่ก้อยังไม่โดนใจซะที สุดท้ายมาจบที่ไม้สายพันธ์ต่างประเทศ บ้านเราไม่มีไม้ป่าพันธ์แท้ แต่สามารถนำมาเลี้ยงได้ดีในบ้านเรา นั่นคือ กล้วยไม้สกุล แคทลียา ไม้ดอกใหญ่ ซึ่งอาจจะพูดได้ว่าเป็นกล้วยไม้สกุลที่ดอกใหญ่ที่สุด มีสีสันหลากหลาย รูปแบบมากมาย กลิ่นหอมกระจายไปไกล จนขนานนามกันว่าเป็น ราชินีแห่งกล้วยไม้ เท่าที่จำได้ ในช่วงที่เริ่มสะสมใหม่ ไม่กล้าซื้อไม้กอเพราะราคาสูงมาก ต้องซื้อไม้หั่นลำ ขนาด ลักกี้ สไตร์ค หั่นลำ 2 ลำ ยังราคา 350.00 บาท กรีนวิช 3 ลำ 400.00 บาท แต่นั้นนานมาแล้ว หลังจากนั้น เริ่มสะสมแต่แคทลียามาเรื่อย ๆ จนจากแขวนตามใต้ต้นไม้ ตามชายคา ต้องเริ่มหาเรือนเล็ก ๆ ให้อยู่ ต่อมาก้อมากขึ้น มากขึ้น จนถึงวันนี้ ได้สะสมกล้วยไม้สกุลแคทลียาไว้จำนวนมาก มีทั้งสวย และไม่สวย ทั้งดอกใหญ่ และ ดอกเล็ก PRY Orchids เริ่มยกระดับเป็นสวนในช่วงปลายปี 2549 เน้นการปลูกเลี้ยง และพัฒนากล้วยไม้ในสกุลแคทลียาเป็นหลัก สำหรับในส่วนของแวนด้า , ช้าง มีการปลูกเลี้ยงบ้างแต่จำนวนไม่มากนัก ก่อนหน้านี้ PRY Orchids ได้มีการสะสมไม้หลัก เพื่อนำมาเป็นแม่ไม้โดยตลอด ปัจจุบัน PRY Orchids เริ่มทยอยนำลูกไม้ชุดใหม่ ๆ มาจำหน่าย ในช่วงเริ่มต้นจะจำหน่ายในส่วนของไม้ถ้วยนิ้ว และไม้ที่นำมาจำหน่ายทั้งหมด เป็นลูกไม้ใหม่ที่พัฒนาโดยนักพัฒนาสายพันธ์กล้วยไม้ระดับแนวหน้าของเมืองไทย อาทิ คุณหยวย แซ่ลิ้ม (KY Orchid) , คุณนิเวศย์ บูรณพันธ์ , คุณสยาม น้อยสุวรรณ ฯลฯ สำหรับในส่วนของลูกไม้ที่พัฒนาโดย PRY Orchids จะเริ่มทยอยออกมาอวดโฉมกันได้ในปี 2551