::ปลาวาลเจ้าเล่ห์&กามนิตสาว กับการผจญภัยเหนือจินตนาการ::

porschezz
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add porschezz's blog to your web]
Links
 

 
วันดีดีที่หลีเป๊ะ [วันที่1]

เรื่องมันมีอยู่ว่า...
ผมได้ยินเรื่องราวจากเพื่อนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เค้าได้เล่าให้ฟังถึงเกาะหลีเป๊ะ มันบอกว่าเป็นมัลดีฟเมืองไทยเลยนะ
ฟังแล้วตาโตเลยครับพี่น้องครับ ยิ่งได้เห็นรูปที่มันเอามาให้ดูแล้วอยากไปใจจะขาด ในที่สุดเมื่อต้นเดือนธันวาที่ผ่านมาก็ได้โอกาสเดินทางไปเที่ยวเสียที หลังจากที่ตั้งตารอกันมานาน
Blogนี้ผมจะบรรยายประสบการณ์ที่ผมได้พบเจอมาจากหลีเป๊ะ ทริปท่องเที่ยวในครั้งนี้ใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ผมจะมาเล่าให้ฟังเป็นวันๆละกันนะครับ เอาล่ะเรามาเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะกันเลย...Let's Go!!

...ณ วันแรก

ด้วยความเหนื่อยของเย็นวันก่อนเดินทางทำให้ผมเผลอหลับเป็นตาย(และน้ำก็ไม่ได้อาบ) ทำให้คืนนั้นผมไม่ได้จัดกระเป๋าเตรียมไปเที่ยว ตื่นมาตอนเช้าต้องรีบกันน่าดู เปิดกระเป๋าจัดของเท่าจะที่คิดออกจัดใส่ด้วยความรวดเร็ว เพราะตอนนั้นเพื่อนที่จะไปส่งเค้ามารออยู่หน้าบ้านแล้ว ลืมบอกไปทริปนี้ไปกันสองคนคือผมและเพื่อนสาวผู้ปราดเปรียว(รวดเร็วและซุ่มซามดั่ง กามนิตสาว)

เมื่อมาถึงหาดไหญ่เราก็เดินทางไปยังหน้าสถานีรถไฟตามแผนการที่วางเอาไว้ทันที แต่ปรากฎว่าที่หาดใหญ่เค้าย้ายรถตู้ทุกสายไปรวมกันที่ขนส่งรถโดยสารขนาดเล็ก(ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกเค้าจะเรียกกันว่า "ตลาดเกษตร")
รถตู้ขบวน หาดไหญ่ - ท่าเรือปากบารา ก็ย้ายไปอยู่ที่นั้นแล้วเช่นกัน แย่แล้ว! แต่โชคดีมีฝรั่งคนหนึ่งตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับเรา จึงได้เหมาตุ๊กตุ๊กกันไปที่ขนส่ง(รถตู้)ราคา 60 บาทจากหน้าสถานีรถไฟไปถึงขนส่งก็ซื้อตั๋วเรียบร้อยรอไม่นานรถก็ออก ในรถจากที่สังเกตมีเพียงพวกผม 3 คน(ผมกับเพื่อนและฝรั่งคนนั้น)ที่จะไปลงเรือที่ปากบารา ส่วนที่เหลือเป็นชาวบ้านส่วนใหญ่จะลงที่อ.ละงู ระหว่างนั่งรถฝรั่งคนเดิมหันมาถามผมว่าเพลงที่กำลังเปิดอยู่นี้เป็นเพลงของใคร ฟังคำถามตอนแรกเป็นงง จนเค้าเหล่าให้ฟังว่าเค้าเที่ยวมาเกือบทั่วประเทศแล้ว เค้าได้ยินเพลงนี้ฟังแล้วเค้าชอบเค้าอยากรู้ว่าเป็นเพลงของใคร เค้าจะได้ไปซื้อซีดีมาฟัง ผมก็เลยถึงบางอ้อ เพลงที่กำลังเปิดอยู่นั้นเป็นเพลงลูกทุ่งชื่อ เพียงสองเรา ของบิว กัลยาณี ผมก็ตอบเค้าไป เค้าก็ยังหันมาถามอีกว่าผมชอบรึเปล่า ฟังแล้วก็ตลกดีฝรั่งต่างแดนแต่กลับมาชอบเพลงลูกทุ่งบ้านเรา คุณละเคยฟังเพลงนี้แล้วหรือยัง?
ส่วนค่ารถจากหาดใหญ่ไปท่าเรือปากบารา 100 บาท เอาละตอนนี้เราก็มาถึงท่าเรือปากบารากันเรียบร้อย ลงถึงก็จะมีพนักงานจากบริษัททัวร์เข้ามาติดต่อเราทันทีว่าเราได้จองเรือและที่พักไว้แล้วยัง ก่อนการเดินทางผมได้โทรจองปากเปล่ากับเอเจ่นเรื่องเรือสปี๊ดโบ๊ทไปเกาะหลีเป๊ะและได้จองห้องพักที่หลีเป๊ะไว้แล้ว แต่...ความซวยของผมก็บังเกิดขึ้นจนได้ เพราะโทรหาเอเจ่นคนนั้นที่จองเรือไว้ไม่ติด เอาไงล่ะตูซวยแล้ว ยืนแงะงะอยู่ตรงท่าเรือทำอะไรไม่ถูก ดีที่พี่ของบริษัทเรือเดินเข้ามาถามเรื่องเรือ ผมก็บอกไปว่าจองไว้แล้วแต่ไม่ได้ถามชื่อเรือและชื่อคนที่ผมจองไว้ทางโทรศัพท์ (อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างน่ะครับ) พี่เค้าก็ใจดีเช็คให้ว่าเป็นลูกค้าของพี่เค้ารึเปล่า ปรากฏว่ามีชื่อผมจองอยู่เดชะบุญโชคดีจริงๆ มีรอยยิ้มเกิดขึ้นในใจ แต่ทว่าเอเจ่นคนนั้นเพิ่งโทรมาบอกเมื่อตอนเช้าแต่เรือมันเต็มแล้ว โอ้ยๆๆๆๆๆ อ้าวซวยแล้ว นึกว่าจะโชคดี แต่ต้องขอบคุณพี่คนนั้นมากที่ไปตามคนขายตั๋วเรือเฟอรี่มาให้ เราจะได้นั้งเฟอรี่ไปเกาะแทนสปี๊ดโบ๊ทของพี่เค้า ราคาของเรือเฟอรี่ขาไปเที่ยวเดียวคนละ 550 บาท ส่วนขากลับผมเลือกที่จะกลับกับสปี๊ดโบ๊ท พี่เค้าคิดให้เราคนละ 550 บาท ลดให้คนละ 100 บาท เฮ้อ...ได้ตั๋วเรือกันเสียทีหลังจากที่ให้ต้องลุ้นระทึกกันอยู่นาน เหลือบไปดูเวลา ยังพอมีให้เราได้แวะทานข้าวกัน เสร็จแล้วก็ขึ้นไปรอบนเรือพร้อมเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ
เกี่ยวกับเรือที่จะไปเกาะหลีเป๊ะนั้นมี 2 แบบคือ 1. สปี๊ดโบ๊ท และ 2. เรือเฟอรีี่ เรื่องราคาจากที่บอกไปแล้วไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ แต่แเวลาที่ใช้ี่ สปี๊ดโบ๊ทใช้เวลา 1 ชม. 45 นาที - 2 ชม ส่วน เรือเฟอรี้ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง เฟอรี่จะช้ากว่าแต่จุคนได้เยอะกว่า ที่นั่งเป็นเบาะเหมือนรถทัวร์ หรือใครอยากนั้งที่บนดาดฟ้าก็ได้ ส่วนใครจะเลือกแบบไหนก็แล้วแต่ชอบครับ
ส่วนผมชอบสปี๊ดโบ๊ทมากกว่าเพราะเร็วกว่าและความนิ่มอยู่ในเกณ์ที่พอรับได้

เอาละตอนนี้เราขึ้นมาอยู่บนเรือเรียบร้อยขึ้นไปตอนประมาณบ่ายโมงกว่าๆ แล้วรอให้คนเต็ม กว่าเรือจะออกก็ประมาณบ่ายสองโมง เรือค่อยเคลื่อนตัวออกจากท่าไปอย่างช้าๆ ไปอย่างนี้เรื่อยๆ นิ่มๆ หลับสบายแค่ตื่นมากี่ทีก็มีเพียงคำถามเดียว ยังไม่ถึงอีกเหรอ!!! ผมแอบสงสัยว่าเรือลำนี้แอบบรรทุกเกลือไปถมทะเลรึเปล่า เพราะมันช่างช้าเฉกเช่นเดียวกับเรือเกลือในสุภาษิตโบราณ แต่ก็เอาเถอะช้าแต่ชัวร์คิดอย่างนั้นในใจทำให้ข่มตาหลับอีกรอบ ตื่นมาอีกทีได้เห็นของดีเข้าจนได้ ฝรั่งคู่ที่อยู่ตรงข้างหน้าของเราเค้าจูบกัน ก่อนจูบเค้าหันมาดูพวกเราด้วยว่ามองอยู่รึเปล่า พวกผมก็ทำเป็นไม่สนใจแต่พอเค้าจูบกันแล้วค่อยแอบมองอยู่เป็นระยะ อิอิอิ เรื่องชาวบ้านเป็นงานของเราเสียจริงๆ หลังจากหลับและแอบดูฝรั่งจูบกันมาระยะหนึ่งชักเบื่อเลยตัดสินใจขึ้นไปเดินเล่นกันตรงดาดฟ้าเรือ

ตอนนั้นเวลาซักประมาณบ่ายสี่โมงเย็น เรือได้หยุดถ่ายคนตรงตะรุเตาเรียบร้อย แล้วค่อยๆแล่นผ่านไปยังจุดหมายของเราบน"เกาะหลีเป๊ะ" (ผมใช้คำว่าค่อยๆ) ถึงเวลานี้ไม่รู้จะทำอะไร พอดีนึกขึ้นมาได้ว่ามีขนมที่เราซื้อตุนไว้ จะช้าอยู่ไยล่ะ ว่าแล้วก็หยิบออกมากินยั่วฝรั่้งบนดาดฟ้าเรืออย่างสนุกสนาน ในที่สุดประมาณหกโมงเห็นเราก็เห็นเกาะหลีเป๊ะแล้ว เรือกำลังแล่นไปจอดเพื่อที่จะให้เรือรางยาวมารับเราไปส่งต่อที่ฝั่ง
แต่ทันใดนั้น...เองกามนิตสาวของผมก็ออกอาการเมาเรืออย่างรุนแรงทั้งที่ตอนนั้นอีกไม่เกิน 15 นาทีเรือก็จะจอดแล้ว จริงๆเธอมีอาการมาซักพักแล้วแต่เห็นกล้ำกลืนฝืนทนมาได้ตั้งนาน ไม่น่า่มาตกปลาวาฬตายอยู่หน้าเกาะ เป็นการเรียกน้ำย่อยให้ออกมาพบกับอากาศภายนอก แต่ก็โชคดีอาการไม่หนักมากอ๊วกพอเป็นกระสัย ในที่สุดเรือก็จอดสนิทพี่คนเรือใจดีก็ช่วยเรียกเรือหางยาวให้เราไปส่งที่รีสอทร์ ในความคิดผมทีแรกกะจะจ้างให้พี่คนขับเรือวนรอบเกาะซักรอบ แต่พี่เค้าแนะนำว่าอย่าเลยเพราะน้ำมันจะกระเด็นแล้วพี่จะเปียกป่าวๆ(พี่เค้าเรียกผมว่าพี่) ตอนแรกผมก็งงกับคำเตือนของพี่เค้าแต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร แต่พอเรือออกไปซักพักน้ำก็กระเด็นเข้ามาให้โดนหน้าโดนตากันพอสมควร
มาถึงแล้วเกาะหลีเป๊ะภาพแรกที่เราเห็นคือน้ำทะเลสีอ่อนๆแต่ยังบอกไม่ได้ว่าสีอะไรเพราะตอนนั้นค่อนข้างมืดแล้ว เห็นร้านอาหารและรีสอร์ทบนหาดพัทยา2วางอยู่เรียงรายตามชายหาด บรรยากาศกำลังเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืน
ไปถึงก็เช็คอินเข้าห้องพัก ผมพักที่หลีเป๊ะรีสอร์ท ห้องพัก ราคา 1100 บาท เป็นห้องพัดลม ไม่มีทีวี ห้องพักสะอาดดีแต่การออกแบบยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
หลังจากพักผ่อนกับการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ฤกษ์หาข้าวเย็นกินกันเป็นอาหารมือแรกบนเกาะหลีเป๊ะ เราตัดสินใจเดินดูหลายๆร้านๆบริเวณหาดพัทยา สุดท้ายก็เลือกมากินที่ร้านอาหารของหลีเป๊ะรีสอร์ทฃ
เค้าจัดร้านสวยน่านั่ง ปูเสี่อริมหาดตั้งโต๊ะญี่ปุ่นแล้วจุดไฟดีไลน์ให้แสงไฟอ่อนๆ บรรยากาศดีครับสบายๆชิลๆดีแท้หนอ ณ.ที่นี่คุณจะได้พบกับเด็กเสริฟสาว 3 นางมาเป็นเซ็ตเดียวกัน หน้าเรียวขาวสวยหุ่นดีแต่เป็นผู้ชาย ความสวยนั้นยังคงอยู่ตราบใดที่เธอยังไม่อ้าปากสิ่งใดออกมา เหมือนโฆษณาเมื่อก่อนที่ว่า "บอย ไม่ดื่มค่ะ!!"
ที่นี่คนมากินค่อนข้างเยอะทำให้บริการไม่ทั่วถึงซักเท่าไหร่ และเด็กเสริฟกระทิง(กระเทย)สาวทั้งสามนางดูไม่เป็นมืออาชีพซักเท่าไหร่ถามอะไรก็ตอบไม่ค่อยได้
อาหารที่มีกับเมนูไม่ตรงกันเท่าไหร่หลายๆอย่างสั่งไปแล้วไม่มีต้องมาเปลี่ยน รสชาติอาหารอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนราคาถ้าเทียบกับร้านอื่นๆก็แพงกว่านิดหน่อย
กินไปซักพักน้ำทะเลขึ้นมาเกือบถึงตรงเรานั่งกิน โชคดีตอนนั้นอิ่มกันพอดี ค่าอาหารมื้อนั้น 690 บาท บรรยากาศในวันแรกสบายๆชิลๆ เหนื่อยกับการเดินทางนิดหน่อย

ช่วงที่ไปตรงกับช่วงเทศกาลพอดีแต่คนก็ไม่เยอะมากจนถึงขั้นที่เรียกกว่าแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวซะทีเดียว ยังมีช่องว่างให้หายใจอยู่บ้าง จากที่สังเกตบนเกาะในวันนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งถึง 60% คนไทยประมาณ 40%
วันนั้นกลับไปถึงห้องพักหลับเป็นตาย กะว่าพรุ่งนี้เช้าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดฝั่งหมู่บ้านชาวประมง ติดตามเช้าวันแรกบนเกาะหลีเป๊ะได้ในตอนต่อไป...




ภาพแรก...เรากำลังออกจากท่าเรือปากบารา




บรรยากาศริมท่าเรือ





ระหว่างทาง...กลางทะเล




Create Date : 16 ธันวาคม 2550
Last Update : 20 ธันวาคม 2550 9:51:00 น. 2 comments
Counter : 222 Pageviews.

 
อ่านและดูภาพแล้วก็อยากไปบ้างนะครับ เพื่อนไปหลีเป๊ะมาก็บอกว่าหาดทรายขาวละเอียดมากๆราวกับแป้ง วันนี้เห็นภาพก็จริงครับ อยากไปบ้างจังเลย


โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 16 ธันวาคม 2550 เวลา:16:05:54 น.  

 



ส่งความสุขรับปีใหม่ครับ


โดย: zunzero วันที่: 26 ธันวาคม 2550 เวลา:20:56:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.