• ท่องเที่ยว
• ความงาม
• sexercise
• เพลง

IPL เป็นนวัตกรรมใหม่ในการรักษาผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด IPL เป็นนวัตกรรมใหม่ในการรักษาผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยการนำพลังงาน คือ คลื่นแสงธรรมชาติ ความเข้มสูงลงสู่ใต้ผิวหนังเพื่อทำให้เกิดการผลัดผิวใหม่ (skin renewal) อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้เกิด บาดแผลบนใบหน้า ไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัยและเห็นผลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้น รอยหมอง คล้ำและ ริ้วรอยแห่งวัยลดลง ผิวเรียบเนียนขึ้น IPL สำหรับทรีทเมนต์หน้าใส IPL แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ? ผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด ( Sun Damage) ซึ่งก่อให้เกิดกระ ฝ้า และจุดด่างดำบนใบหน้า ใบหน้าหมองคล้ำ ริ้วรอยแห่งวัย ( Aging) หรือริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งเกิดจากภาวะความเครียด และแสงแดด ความผิดปกติของเส้นเลือดบนใบหน้า ( Vascular Irregularity) ซึ่งทำให้เกิดรอยแดง หรือเห็นเส้นเลือดชัดเจนบนใบหน้า ผิวไม่เรียบ ( Rough Skin Texture) IPL ช่วยทำให้หน้าใส ไร้ริ้วรอย ได้อย่างไร ? คลื่นแสงของ IPL Technology จะเข้าไปช่วยฟื้นฟูสภาพผิวอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ โดยคลื่นแสง IPL จะปล่อยพลังงานในผิวชั้นใน เพื่อกระตุ้นเซลล์ในการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และลดเม็ดสี (เมลานิน) ลง ทำให้ริ้วรอยจาง ๆ เลือนหายไป ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์และขาวใสขึ้น ดูแลผิวหน้าหลังการทำทรีทเม้นท์หน้าใสอย่างไร ? หลังการทำทรีทเม้นท์หน้าใส ลดริ้วรอย สามารถปฏิบัติตัวหรือแต่งหน้าได้ตามปกติ หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด 2 สัปดาห์หลังทำ และควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่า 30 IPL ช่วยลบเลือนกระ (Freckles) ได้อย่างไร ? คลื่นแสง IPL จะปล่อยพลังงานในผิวชั้นในเพื่อไปทำลายเม็ดสีเมลานินที่มีมากผิดปกติเช่นบริเวณที่เป็นกระ ทำให้กระค่อย ๆ จางหายไป ดูแลผิวหลังการทำทรีทเม้นท์ลบเลือนกระอย่างไร ? หลังการทำทรีทเม้นท์อาจจะเป็นสะเก็ดแผลที่บริเวณกระได้ ห้ามแกะสะเก็ดที่เกิดขึ้นหลังจากทำทรีทเม้นท์ ต้องปล่อยให้หลุดเอง บริเวณหน้าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ลำตัวประมาณ 2 สัปดาห์ หากมีการเข้มขึ้นของเม็ดสีบนผิวหน้า 2-3 วันแล้วไม่จางลง ไม่ต้องตกใจ ให้มารับบริการทรีทเม้นท์ตามปกติ แล้วเม็ดสีที่เข้มขึ้นจะค่อยๆ จางลงหรืออาจหายไป ระยะเวลาของการทำทรีทเม้นท์เป็นอย่างไร ? ควรทำทรีทเม้นท์อย่างต่อเนื่อง 5 ครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 15-30 นาทีต่อครั้ง ในแต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลาห่างกันประมาณ 3-4 สัปดาห์   Create Date : 29 สิงหาคม 2549     Last Update : 29 สิงหาคม 2549 7:43:12 น. Counter : 407 Pageviews.   0 comment Share Tweet

อะไรคือ Dearma Lift คงไม่มีใครอยากผ่าตัดดึงหน้า เพราะการผ่าตัดดึงหน้านอกจากจะเจ็บตัวแล้ว ยังใช้ระยะเวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน และยังทิ้งร่องรอยแผลเป็นให้เห็นอีกด้วย ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านความงามใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี DermaLift หรือ Face Lift จะทำให้ทุกท่านสามารถยกกระชับใบหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัดแล้วช่วยให้เรามีใบหน้า ที่อ่อนเยาว์ได้อย่างใจปรารถนา อะไรคือ Dearma Lift ? เป็นวิทยาการรุ่นล่าของการยกกระชับหน้า โดยใช้เครื่องมือที่ควบคุมด้วย คอมพิวเตอร์ส่งความถี่ต่ำุลงไปใต้ผิวหนังในปริมาณที่พอเหมาะ และลึกพอที่จะทำให้กล้ามเนื้อกระชับตัวขึ้น ทันที และยัง มีผลต่อเนื่องให้มีกระชับผิวขึ้นมาใหม่ ซึ่งช่วยให้ริ้วรอยลดลง ผิวกระชับแข็งแรงขึ้น และยังไม่มีร่อง รอยหรือบาดแผล จาก การทำอีกด้วย Derma Lift ทำงานอย่างไร ? Derma Lift จะเป็นตัวควบคุมปริมาณของพลังงานความถี่ต่ำุ (Low Frequency) ให้ส่งพลังงานไปยังชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ ใต้ผิวหนัง หลักการใช้ "พลังงาน" นี้ จะช่วย "กระตุ้น" ให้กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังได้ขยับตัวเป็นอย่างดี ผลลัพธ์ ก็คือ รูปหน้า ที่ยกกระชับไร้ริ้วรอย คิ้วและ หางตายกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะกล้ามเนื้อจะถูก "ดึง" ด้วยวิธีการกระตุ้นกลไกธรรม ชาติ เดอร์มาลิฟท์จึงถือเป็นวิทยาการ "ดึงหน้า" ที่ปลอดภัยและใช้เวลาน้อยที่สุดในขณะนี้ ปลอดภัยไหม ? เดอร์มาลิฟท์ เป็นที่รู้จักในต่างประเทศมาได้ราว 15 ปี และได้รับการพัฒนามาจนทำให้มีประสิทธิภาพสูง จึงได้รับความ นิยมมากในปัจจุบัน และยังได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (FDA) และผ่านการรับรองจากยุโำำรปอีกด้วย เห็นผลเมื่อไหร่ ? / นานแค่ไหน ? จากผลการศึกษาหลังจากการใช้ เดอร์มาลิฟท์ ผลที่ได้รับคือ ผิวจะกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และดีขึ้นหลังจากรับการทรีท เม้นทเพียงหนเดียว โดยใช้ระยะเวลารักษาตั้งแต่ 60 นาที จนถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง   Create Date : 29 สิงหาคม 2549     Last Update : 29 สิงหาคม 2549 7:39:34 น. Counter : 256 Pageviews.   0 comment Share Tweet

คลินิกตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง การบริการตรวจสุขภาพเพื่อค้นความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเป็นการตรวจสุขภาพ สำหรับ ผู้ที่ไม่มีอาการผิดปกติ ใด ๆ และเมื่อตรวจพบว่าเป็นผู้เสี่ยงต่อโรคมะเร็งชนิดใด จะส่งเข้ารับการตรวจในคลินิกเฉพาะ โรค เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องต่อไป เช่น คลินิกเต้านม คลินิกตับและทางเดินอาหาร คลินิกนรีเวช เป็นต้น การตรวจประกอบด้วย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ การตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ-ปัสสาวะ การตรวจด้วย X-ray ปอด การตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า การตรวจเซลล์มะเร็งปากมดลูก การตรวจร่างกายโดยแพทย์ และการซักประวัติ รายการตรวจสำหรับผู้หญิง ลำดับ รายการ ประโยชน์ เบิกได้ เบิกไม่ได้ ราคารวม (ตามระเบียบกระทรวงการคลัง) 1* หมู่เลือด (ABO Grouping) ให้ทราบหมู่เลือดเพื่อประโยชน์ของตนเอง 30 0 30 2 ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ดูภาวะโลหิตจางและผลแทรกซ้อน 60 30 90 3 ระดับน้ำตาลในเลือด (Glucose) เพื่อค้นหาโรคเบาหวาน 30 0 30 4 ยูเรีย (BUN) เพื่อดูการทำงานของไต 30 0 30 5 ครีเอตินิน (Creatinine) เพื่อดูการทำงานของไต 30 0 30 6 กรดยูริค (Uric Acid) เพื่อดูภาวะความเสี่ยงต่อโรคเกาท์ 60 0 60 7 ไขมันคลอเรสเตอรอล (Cholesterol) เพื่อดูไขมันในเลือดที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ 50 0 50 8 ไขมัน เอชดีแอล (HDL-Cholesterol) เพื่อดูไขมันในเลือดที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ 0 60 60 9 ไขมัน แอลดีแอล (LDL-Cholesterol) เพื่อดูไขมันในเลือดที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ 0 60 60 10 ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) เพื่อดูไขมันในเลือดที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ 60 0 60 11 โปรตีนรวม (Total Protein) เพื่อดูภาวะความผิดปกติของตับ, ตับอักเสบ 0 40 40 12 อัลบูมิน (Albumin) เพื่อดูภาวะความผิดปกติของตับ, ตับอักเสบ 0 40 40 13 บิลิรูบินรวม (Total Bilirubin) เพื่อดูภาวะความผิดปกติของตับ, ตับอักเสบ 0 40 40 14 บิลิรูบิน (Direct Bilirubin) เพื่อดูภาวะความผิดปกติของตับ, ตับอักเสบ 0 40 40 15 การทำงานของตับ (SGOT) เพื่อดูการทำงานของตับ, ตับอักเสบ 40 0 40 16 การทำงานของตับ (SGPT) เพื่อดูการทำงานของตับ, ตับอักเสบ 40 0 40 17 การทำงานของตับ (Alkaline Phosphatase (ALP) เพื่อดูการทำงานของตับ, ตับอักเสบ 40 0 40 18 ตรวจเซลล์ปากมดลูก (Pap smear) เพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก 60 0 60 19 เอ็กซเรย์ปอด (Chest: PA.) เพื่อดูความผิดปกติทางปอด 120 0 120 20 ตรวจอุจจาระ (Stool Exam) ตรวจหาพยาธิ, ความผิดปกติของอุจจาระ 30 0 30 21 ตรวจเลือดในอุจจาระ (Stool Occult Blood) ดูภาวะการณ์มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร 0 40 40 22 AFP (Alpha Fetoprotein) ตรวจหามะเร็งตับระยะเริ่มแรก/ดูภาวะของมะเร็งตับ 0 200 200 23 HBsAg ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี 0 150 150 24 VDRL, TPHA ตรวจหาเชื้อ ซิฟิลิส 0 30 30 25 ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพื่อดูสภาวะการทำงานของหัวใจ 0 200 200 26 ตรวจปัสสาวะ (Urine Examination) เพื่อดูการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ 40 0 40 1,650 หมายเหตุ : ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 35 ปีเบิกได้ 380 บาท อายุมากกว่า 35 ปี เบิกได้ 760 บาท (รายการที่ 1 เฉพาะผู้ป่วยใหม่) รายการตรวจสำหรับผู้ชาย ลำดับ รายการ ประโยชน์ เบิกได้ เบิกไม่ได้ ราคารวม (ตามระเบียบกระทรวงการคลัง) 1* หมู่เลือด (ABO Grouping) ให้ทราบหมู่เลือดเพื่อประโยชน์ตนเอง 30 0 30 2 ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ดูภาวะโลหิตจางและผลแทรกซ้อน 60 30 90 3 ระดับน้ำตาลในเลือด (Glucose) เพื่อค้นหาโรคเบาหวาน 30 0 30 4 ยูเรีย (BUN) เพื่อดูการทำงานของไต 30 0 30 5 ครีเอตินิน (Creatinine) เพื่อดูการทำงานของไต 30 0 30 6 กรดยูริค (Uric Acid) ภาวะความเสี่ยงต่อโรคเกาท์ 60 0 60 7 ไขมันคลอเรสเตอรอล (Cholesterol) เพื่อดูไขมันในเลือดที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ 50 0 50 8 ไขมัน เอชดีแอล (HDL-Cholesterol) เพื่อดูไขมันในเลือดที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ 0 60 60 9 ไขมัน แอลดีแอล (LDL-Cholesterol) เพื่อดูไขมันในเลือดที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ 0 60 60 10 ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) เพื่อดูไขมันในเลือดที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ 60 0 60 11 โปรตีนรวม (Total Protein) เพื่อดูภาวะความผิดปกติของตับ, ตับอักเสบ 0 40 40 12 อัลบูมิน (Albumin) เพื่อดูภาวะความผิดปกติของตับ, ตับอักเสบ 0 40 40 13 บิลิรูบินรวม (Total Bilirubin) เพื่อดูภาวะความผิดปกติของตับ, ตับอักเสบ 0 40 40 14 บิลิรูบิน (Direct Bilirubin) เพื่อดูภาวะความผิดปกติของตับ, ตับอักเสบ 0 40 40 15 เอ็นไซม์ (SGOT) เพื่อดูการทำงานของตับ, ตับอักเสบ 40 0 40 16 เอ็นไซม์ (SGPT) เพื่อดูการทำงานของตับ, ตับอักเสบ 40 0 40 17 เอ็นไซม์ (Alkaline Phosphatase (ALP) เพื่อดูการทำงานของตับ, ตับอักเสบ 40 0 40 18* สารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA , Total) เฉพาะเพศชายอายุเกิน 40 ปี ตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากระยะเริ่มแรก(เฉพาะชาย) 0 300 300 19 HBsAg ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี 0 150 150 20 สารบ่งชี้มะเร็งตับ AFP (Alpha Fetoprotein) ตรวจหามะเร็งตับระยะเริ่มแรก/ดูภาวะของมะเร็งตับ 0 200 200 21 VDRL, TPHA ตรวจหาเชื้อ ซิฟิลิส 0 30 30 22 เอ็กซเรย์ปอด (Chest: PA.) เพื่อดูความผิดปกติทางปอด 120 0 120 23 ตรวจอุจจาระ (Stool Exam) ตรวจหาพยาธิความผิดปกติของอุจจาระ 30 0 30 24 ตรวจเลือดในอุจจาระ (Stool Occult Blood) ดูภาวการณ์มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร 0 40 40 25 ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพื่อดูสภาวะการทำงานของหัวใจ 0 200 200 26 ตรวจปัสสาวะ (Urine Examination) เพื่อดูการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ 40 0 40 1,890 หมายเหตุ : ผู้ชายอายุต่ำกว่า 35 ปีเบิกได้ 280 บาท อายุมากกว่า 35 ปี เบิกได้ 660 บาท รายการที่ 1 เฉพาะผู้ป่วยใหม่ การขอรับบริการ 1. ผู้รับบริการทั้ง เก่าและใหม่ ขอนัดตรวจด้วยตนเอง หรือให้ผู้อื่นมานัดแทน ที่ห้องนัดตรวจ (หมายเลข B8) ชั้น 2 ตึกดำรงนราดูร ในเวลาราชการ 08.00-16.00 น. (เว้นวันหยุดราชการ) 2. ผู้รับบริการทั้ง เก่าและใหม่ ขอนัดตรวจทางไปรษณีย์ โดยส่งจดหมาย จ่าหน้าซองถึงสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และส่งแสตมป์ (3 บาท) โดยไม่ต้องส่งซองจดหมายมา พร้อมเขียนที่อยู่ของตัวท่านเองหรือผู้ที่ท่านต้องการให้ส่งเอกสารไปให้ มาพร้อมจดหมายขอนัดตรวจด้วย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (ห้องนัดตรวจ) 268/1 ถนนพระราม 6 ราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ผู้ป่วยเก่า : เขียนชื่อนามสกุลให้ชัดเจน โปรดระบุหมายเลขบัตรประจำตัวโรงพยาบาล และระบุวันที่ต้องการนัดตรวจ ผู้ป่วยใหม่ : เขียนชื่อนามสกุล อายุ เพศ ที่อยู่ที่ติดต่อได้ ให้ชัดเจน และระบุวันที่ต้องการนัดตรวจ ** สถาบันมะเร็งฯ จะดำเนินการส่งเอกสารไปให้ท่านภายในเวลา 2 สัปดาห์ ** หากไม่ได้รับตอบกลับ ให้ติดต่อที่โทรศัพท์หมายเลข 3547028-35 ต่อ 1104 3. ผู้รับบริการเก่า (ที่มีบัตรโรงพยาบาลแล้ว) ขอนัดตรวจทางโทรศัพท์ หมายเลข 02-3547025 ต่อ 1203, 1104 เวลา 13.00-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการ) โดยท่านต้องแจ้ง ชื่อ-นามสกุล และหมายเลขประจำตัวผู้รับบริการของสถาบันฯ (HN) ด้วย 4. ระบบนัดตรวจผ่าน website นี้ (จะเปิดบริการในเร็ววันนี้) การบริการ วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 7.30 น. - 12.00 น. คลินิกพิเศษ วันเสาร์ เวลา 7.30 น. - 12.00 น. วันพุธ เวลา 16.30 - 20.30 น. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากวันราชการ 300 บาท   Create Date : 27 กรกฎาคม 2548     Last Update : 27 กรกฎาคม 2548 10:06:27 น. Counter : 196 Pageviews.   4 comment Share Tweet

• SoCuteBoy
• SoCuteBoy
• Webmaster - Bloggang