ก่อนใครจะหามฉันไปที่ชอบที่ชอบ ฉันขอทำสิ่งที่ชอบที่ชอบ และชอบธรรมก่อน ละกัน
Group Blog
 
All Blogs
 
Sakonnakhon U-TURN 60s

เพลงสากลยุค 60s ไม่ใช่แค่เพลงโบราณ

ฉบับนี้ขอโสเหล่กันเรื่องเบาๆบ้างนะครับ ขอเอาเหตุการณ์จากกิจกรรมกึ่งมหกรรมดนตรี กับการแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆของ “ไทสกล” ที่ใช้ชื่อว่า “SAKONNAKHON U-TURN 60s” จัดโดย “ชมรมคนรักดนตรีร่วมสมัยสกลนคร” เมื่อคืนวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ บริเวณลานรวมใจไทสกล หรือสวนสาธารณะของกรมทางหลวงหน้าประติมากรรมหนองหารหลวง หรือ ที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า ประตูเมืองสกลนคร มาเป็นประเด็นการโสเหล่
การจัดแสดงดนตรีชื่อก็บอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าเป็นการจัดแบบยูเทิร์น หรือ หันกลับ หรือ ย้อนกลับ ไปยุคปี ค.ศ. ๑๙๙๐ - ๑๙๘๐ – ๑๙๗๐ - ๑๙๖๐ ประมาณนั้น ที่ต้องใช้ ค.ศ.หรือคริสต์ศักราช เพราะเจตนาให้รู้ว่าเป็นการแสดงดนตรีเพลงสากลย้อนยุคล้วนๆ ส่วนเหตุผลของการจัดก็มีอยู่หลายประการ
บ้างก็ว่า ทั้งคนเล่น และคนร้องเพลงยุค 60 ที่ว่านั้น นับวันจะเหลือน้อยลงทุกที หากไม่รีบจัดเดี๋ยวจะหาคนฟังคนร้องคนเล่นไม่ได้ ประการที่หนึ่ง
ประการที่สอง คนฟัง คนร้อง ล้วนมากด้วยอายุ โอกาสที่จะได้เจอกันก็มีแต่ในงานแต่งงานของลูกหลาน งานสวดอภิธรรมศพ เพื่อนญาติพี่น้อง หรืองานพิธีการต่างๆเท่านั้น เมื่อยังพอมีเรี่ยวมีแรงก็น่าจะมาร่วมกันกิน ร่วมกันร้องเพลงเต้นรำ(ดิ้น) ในบรรยากาศแบบเมื่อสมัยยังเป็นหนุ่มเป็นสาวให้สนุกสนานลืมแก่ลืมเฒ่าสักวัน
สำหรับนักดนตรีก็ให้เหตุผลว่า ดนตรีทุกวันนี้มันไม่ได้ใช้ฝีมือจริงๆ เพราะเอาเทคโนโลยีมาช่วยมากกว่าการแสดงออกถึงอัจฉริยะภาพของนักดนตรีอย่างสมัยก่อน ดนตรีทุกวันนี้จึงขาดจิตวิญญาณไร้อารมณ์ความรู้สึกของคนเล่น ซึ่งก็คล้ายๆกันกับคนที่เป็นนักร้องรุ่นเก่าที่บอกว่านักร้องทุกวันนี้ร้องเพลงไม่ได้เรื่อง แต่ดังได้เพราะค่ายเพลงเขายัดเยียดให้ฟังตามสื่อต่างๆ จนสุดท้ายคนฟังคุ้นชินจนดูไพเราะไปเอง
ด้วยเหตุผลข้างต้นเป็นอย่างน้อย ทำให้คนเล่นดนตรี คนร้องเพลง และคนฟังเพลงได้สรุปร่วมกันว่า อย่ากระนั้นเลย เรารีบมาก่อตั้ง “ชมรมคนรักดนตรีร่วมสมัยสกลนคร” กันเถอะ และหาวันจัดแสดงครั้งแรกให้ได้ก่อนในปีนี้ จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยสิ่งที่จะได้แน่ๆ ก็คือการได้เรียนรู้ร่วมกันของคนเล่น คนร้อง และคนฟัง จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมดนตรีดังกล่าว สมาชิกชมรมทั้งหมดไม่มีใครเคยจัดการแสดงมาก่อนทั้งสิ้น มีแต่เคยไปเล่น ไปร้อง และไปฟังในงานที่มีคนอื่นคณะอื่นเขาจัดไว้แล้ว หากจะไปจ้างออร์กาไนเซอร์จัดให้ ก็ไม่มีเงินทุนมากพอ ทุกอย่างเลยลุยกันเอง
ช่วงที่จัดงานนี้นั้น เป็นเทศกาลงานคริสต์มาสของสกลนครที่มีงานโด่งดังอลังการมากงานหนึ่งคืองานประเพณีแห่ดาวของชาวคาทอลิกในสกลนคร และเทศกาลงานเนื้อโคขุน ฯ เมืองสกลนครจึงคึกคักมากเป็นพิเศษกว่าทุกๆปี และก็ทำให้ งาน U-TURN 60s เป็นงานเด็กๆไปเลย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นักดนตรีและผู้ชมรวมกันแล้วมีเพียง 200 กว่าคนเท่านั้น และ 90% ของคนร่วมงานเป็นหนุ่มสาวเมื่อ 40 ปีที่แล้วทั้งสิ้น คืนนั้นอากาศไม่หนาวแค่เย็น ๆ แบบเป็นใจให้ทั้งผู้จัดและผู้ชม เพราะหากหนาวมากไปก็ลำบากสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องนั่งดูนั่งชมกลางแจ้งอย่างนั้น
ตั้งแต่หัวค่ำพอแดดร่มลมโชย บนเวทีขนาดใหญ่ที่มีฉากหลังเป็นแผ่นแบนเนอร์ขนาดยักษ์ บอกชื่องานพร้อมภาพกราฟฟิคลวดลายสวยงามบ่งบอกถึงสีสันของยุคสมัยที่บุบผาชนกำลังเบ่งบาน วง Mango Blues ที่เป็นวงอุ่นเครื่องก็เริ่มบรรเลงเพลงเบาๆเป็นการโหมโรง ผู้ชมผู้ฟังเริ่มทยอยเข้ามาในงาน ส่วนใหญ่ก็ใส่เสื้อยืดสกรีนสัญลักษณ์งานที่ซื้อก่อนหน้านี้มาด้วย บางคนก็ใส่ชุดคาวบอยเพราะมาจากงานเทศกาลเนื้อโคขุนฯ
ต่อจากวงอุ่นเครื่องก็ตามด้วยวง The Shadows Sakon ซึ่ง เป็นการโชว์ดนตรียุค 60 จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงบรรเลงเร้าอารมณ์อย่างเพลง Apache ของวง The Shadows หรือเพลง Pipeline, Hawii Five O ของวง The Ventures หรือเพลงของนักร้องอมตะอย่าง Elvis Presley และเมื่อเริ่มบรรเลงไม่ทันไร แอลกอฮอล์ในเลือดที่มาจากเบียร์ก็เริ่มอยู่ในระดับได้ที่ ทำให้หลายคนนั่งไม่ติดเก้าอี้ต้องลุกขึ้นโยกย้ายส่ายสังขารกันข้างโต๊ะ และบางคนก็ออกเต้นหน้าเวทีกันเลยทีเดียว
ถัดจากวง The Shadows Sakon ยังมีอีกสองวงคือ วง 2496 ซึ่งชื่อวงก็บอกเป็นนัยอยู่แล้วว่า สมาชิกในวงนี้เกิดปีใด เป็นวงที่เล่นในสไตล์ Pop Rock ที่ถูกใจคอเพลงสุภาพสตรีเป็นอย่างยิ่ง ปิดท้ายด้วยวง The Park ในสไตล์ Heavy Rock ทั้งสองวงนี้เล่นดนตรีทั้งยุค 70 ถึงยุค 80 ที่ถูกใจทั้งคนเล่นและคนฟัง ไม่ว่าจะเป็นเพลงของ The Beatles, Bee Gees, Santana, Bad Company, Scorpions หรือประเภท Hard Rock หรือ Heavy Metal อย่าง Uriah Heep และ Deep Purple ยิ่งดึกความร้อนแรงของดนตรีย้อนยุคยิ่งกระชากวัยผู้เฒ่าหลายคนให้กลับมาคึกคักอย่างออกนอกหน้า จนถึงเวลาเลิกลาตอนสองยาม
หลังจบงานผู้ฟังหลายคนร้องบอกให้จัดอีก บางคนบอกว่ากว่าสามสิบปีแล้วที่ไม่เคยออกจากบ้านมาคึกคักในบรรยากาศอย่างนี้มาก่อนเลย จุดเด่นของนักดนตรีวัยดึกเหล่านี้เท่าที่สังเกตเห็น น่าจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ แทรกการแสดง เช่นบอกที่มาที่ไปของเพลง บางเพลงเกี่ยวข้องกับบรรยากาศเหตุการณ์ของโลกในช่วงนั้นเช่นกรณีสงครามเวียดนาม นักดนตรียังบอกเล่าเรื่องราวค่านิยมในยุคสมัยนั้นๆ หรือความแตกต่างของธุรกิจบันเทิงในยุคนั้นกับยุคปัจจุบัน หลากหลายเรื่องราวถูกบอกเล่าสู่ผู้ฟังให้ได้รับรู้หรือเพื่อทบทวนความทรงจำได้อย่างน่าสนใจ
ประเด็นที่เขียนเรื่องนี้มิใช่เพียงแค่เอาเรื่องของคนวัยแก่ที่มีความทรงจำกับอดีตอันหอมหวานมาเล่าสู่ฟังเท่านั้น เพราะในสองร้อยกว่าคนที่มาร่วมงานนั้น มีวัยรุ่นที่ตามพ่อแม่หรือตามพี่มาได้สะท้อนอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมต้องหยิบยกเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่ท่านผู้อ่าน เด็กยุคปัจจุบันไม่เคยได้มีโอกาสรับรู้เลยว่าดนตรียุคพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นอย่างไร ในคืนนั้นเขาเห็นคนรุ่นเก่าสนุกสนานอิ่มเอมอย่างที่เขาไม่เคยเห็น เขาได้เห็นลีลาการเล่นดนตรีการร้องเพลงที่ใช้ฝีมือและฝีปากมากกว่าการใช้เครื่องมืออีเล็กโทรนิกส์สร้างสรรค์ผลงานที่เขย่าอารมณ์ความรู้สึก ได้ฟังเพลงที่มีเนื้อหามีความหมายเกี่ยวข้องกับสังคมประวัติศาสตร์และการเมืองในช่วงนั้น ได้เข้าใจดนตรีที่เป็นมากกว่าสิ่งบันเทิงเริงอารมณ์ในเรื่องรักเรื่องใคร่เป็นหลักอย่างที่พวกเขาคุ้นชินในยุคนี้ บางคนกลับจากงานก็เอาไปเล่าสู่พ่อแม่ที่ไม่ได้มาให้ได้ฟังได้รับรู้ และพ่อแม่ก็บอกว่าเสียดายที่พลาดโอกาส อย่างนี้เป็นต้น
การแสดงดนตรีเก่าเกินห้าสิบปีหากดูเผินๆก็ไม่น่ามีอะไรมาก แต่หากฟังดนตรีและเพลงนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์แล้ว ความรู้สึกก็คงไม่ต่างจากการชมอาคารสถานที่โบราณ ที่สามารถสืบค้นเรื่องราวที่มีคุณค่าของคนในยุคสมัยนั้นๆได้ในหลายๆ มิติ ทุกเรื่องราวหากเปิดใจรับรู้รับฟังอย่างตั้งใจด้วยความเคารพในสิ่งที่บรรพชนได้สร้างสรรค์ขึ้นมา เราก็จะมีความรักในมรดกทุกอย่างที่ท่านเหล่านั้นได้มอบไว้ให้ทั้งด้วยความตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ตาม ทั้งมีมูลค่าที่ตีเป็นราคาค่างวดได้และไม่ได้ หากเราซาบซึ้งในคุณค่าเหล่านั้น เมื่อรำลึกนึกถึงคราใดก็จะยังความชุ่มชื่นหัวใจอยู่เสมอครับ.



Create Date : 11 มกราคม 2554
Last Update : 11 มกราคม 2554 13:46:43 น. 0 comments
Counter : 681 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

4+4=Dd
Location :
สกลนคร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add 4+4=Dd's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.