เจ้าอาวาสวัดอ่างทอง จ.ประจวบฯ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 4 ล้าน - เตรียมสมทบทุนสร้างเจดีย์ เจ้าอาวาสวัดอ่างทอง จ.ประจวบฯ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 4 ล้าน - เตรียมสมทบทุนสร้างเจดีย์  เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวข่าวสดรับแจ้งจากชาวบ้านว่า เจ้าอาวาสวัดอ่างทอง หมู่ที่ 1 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2557 เป็นเงิน 4 ล้านบาท หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่วัดดังกล่าว พบพระอธิการมนิตย์ ยติกโร เจ้าอาวาสวัดอ่างทอง กำลังนั่งสนทนาอยู่กับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จึงได้เข้าไปนมัสการ ก่อนสอบถามถึงข่าวเรื่องถูกรางวัล ซึ่งพระอธิการมนิตย์กล่าวรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง พร้อมกับนำลอตเตอรี่ หมายเลข 662842 ชุดที่ 57-58 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2557 ที่ถูกรางวัลที่ 1 ออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู  พระอธิการมนิตย์กล่าวว่า ลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ดังกล่าว เมื่ออาทิตย์ก่อนมีผู้ซื้อถวาย จากแผงใกล้ๆ กับวัดสระเกศ ที่กรุงเทพฯ ขณะเดินทางไปบอกบุญญาติโยมที่มีจิตศรัทธา เพื่อหาปัจจัยมามาทอดผ้าป่าที่วัดในวันที่ 30 ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยก่อนเดินทางกลับได้เข้าไปสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ พร้อมทั้งเดินเที่ยวชมวัด ต่อมาโยมที่ร่วมเดินทางไปด้วยได้ซื้อลอตเตอรี่มา 2 ใบหมายเลข 662842 และ 662824 ก่อนจะนำมาให้ตน 1 ใบ โดยตั้งใจว่าหากถูกรางวัล จะนำเงินมาร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ศรีประจวบที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง  เจ้าอาวาสวัดอ่างทองกล่าวว่า หลังจากหวยออกได้นำลอตเตอรี่ออกมาตรวจกับหนังสือพิมพ์ พบว่าตรงกับหมายเลขรางวัลที่ 1 คือหมายเลข 662842 จึงได้โทรศัพท์หานายชลิต เพชรดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 และญาติโยมมาที่วัด เพื่อให้ช่วยดำเนินการ เมื่อข่าวแพร่ออกไป ชาวบ้านต่างมาแสดงความยินดีกันจำนวนมาก  พระอธิการมนิตย์ยังกล่าวอีกว่า ในการถูกรางวัลครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นเพราะอานิสงส์ของหลวงปู่เขียว ธัมมสโร และพระครูประกิตสังวรคุณ อดีตท่านเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้ว ดลบันดาลให้ถูกรางวัล ซึ่งที่ผ่านมาได้เดินทางบอกบุญญาติโยมตลอด และภาวนาตลอดเวลา เพื่อนำปัจจัยมาก่อสร้างพระมหาเจดีย์ศรีประจวบให้เสร็จเรียบร้อยภายในปี 2560 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะทรงครบรอบ 90 พรรษาในปีดังกล่าว และการที่ได้รับรางวัลที่ 1 ในครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นเงินส่วนหนึ่งในการก่อสร้าง  ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาในช่วงสายพระอธิการมนิตย์ได้เดินทางมาขึ้นเงินที่กองสลาก เพื่อได้นำสลากที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินเรียบร้อยแล้ว โดยได้รับเงินหลังหักภาษีแล้ว เป็นเงิน 3,980,000 บาท ซึ่งจะแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน โดยครึ่งหนึ่งจะนำไปใช้ก่อสร้างพระมหาเจดีย์ศรีประจวบ ส่วนอีกครึ่งเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายกิจการต่างๆ ภายในวัดต่อไป //www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd09ETTJOakF3TkE9PQ==&subcatid=   Create Date : 18 สิงหาคม 2557     0 comment Last Update : 18 สิงหาคม 2557 20:11:25 น.     Counter : 1318 Pageviews.   Share Tweet

ข่าวตึกถล่มล่าสุด ที่จ. ปทุมธานี กู้ภัยยังค้นหาอย่างต่อเนื่อง ข่าวตึกถล่มล่าสุด ทีมกู้ภัยยังดำเนินการค้นหาอย่างสุดความสามารถ และได้ช่วยชีวิตคนที่ติดอยู่ในซากตึกมาได้แล้ว 1 คน แต่การค้นหาเป็นไปได้ความยากลำบาก มากเลยทีเดียว ถึงแม้จะได้เครื่องมือหนักเข้ามาช่วยมากมาย แต่ก็ต้องอยู่ในความระมัดระวังมากที่สุด เนื่องจากไม่รู้ว่าซากตึกอาจจะถล่มลงมาซ้ำอีก  กรณีเหตุระทึกขวัญ คอนโดมิเนียมหรู สูง 6 ชั้นในพื้นที่ หมู่ 2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มทับคนงานได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตและมีผู้ที่ติดคาอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคาร เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ16.20น.ของวันที่ 11 สิงหาคม2557ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ22ราย เสียชีวิต3 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าเมื่อเวลา10.30 น. วันที่ 12 ส.ค. ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) พร้อมคณะได้เดินทางตรวจสอบซากอาคารที่พังถล่ม พร้อมพูดคุยสอบถามรายละเอียด จากผู้รับเหมา วิศวกร รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากความบกพร่อง 3 สาเหตุคือ 1.การออกแบบแปลนก่อสร้าง 2.วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง และ 3.ขั้นตอนการก่อสร้าง โดยพบว่าพื้นปูนได้พังทลายลงมาในระนาบเดียวกันซึ่งแสดงว่าไม่สามารถรับน้ำหนักตัวเองได้ ในขณะที่วิศกรควบคุมการก่อสร้างตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง อย่างไรก็ตามในเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ตนและผู้ที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงสาเหตุของการถล่มของคอนโดที่เกิดขึ้น ที่ชั้น 4 หอประชุม 1ตึกวสท. ต่อมาเวลา16.30 น. วันเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจำนวน 2 จุดอย่างหนัก หลักจากเมื่อคืนที่ผ่านผู้รอดชีวิตได้ร้องขอความช่วยเหลือและพูดคุยโต้ตอบ กับเจ้าหน้าที่ตลอดคืนกระทั่งผ่านไปครบ 24 ชั่วโมง จึงเงียบไป ส่วนอีก 1 เสียงยังคงตอบรับอยู่ จากการสอบถามทราบว่าผู้ที่ติดค้างอยู่คือนายกล้าณรงค์ ปราบภัย อายุ 24ปี เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำเครื่องมือขุดเจาะ พร้อมใช้รถเครนขนย้ายซากปรักหักพังเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกมาอย่างเร่งด่วน และกู้ศพผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในตัวอาคารออกมาด้วย โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ กำลังใช้ความพยายามช่วยชีวิตอยู่นั้น ได้มีนางประทีพ อรุณศรี แม่ของ นายกล้าณรงค์ ได้เดินทางจากบ้านเกิดในจ.ชลบุรี เพื่อตามหาบุตรชาย เมื่อได้รับแจ้งว่า บุตรชายยังมีชีวิตอยู่ แต่ติดอยู่ใต้ซากหักพังของอาคาร ก็มายืนรอลุ้นให้เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิต ลูกชายเป็นผลสำเร็จ พร้อมเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า นายกล้าณรงค์ ได้เดินทางมาทำงานเป็นช่างสลิงกับผู้รับเหมาเมื่อ2-3 วันที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งเมื่อทราบว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ก็ได้แต่ภาวนาให้เจ้าหน้าที่ช่วยลูกได้สำเร็จ ถือเป็นของขวัญวันแม่ที่ล้ำค่าที่สุดแล้วในเวลานี้ ล่าสุดเวลาประมาณ18.45 น. ความพยายามที่จะช่วยชีวิตนายกล้าณรงค์ ตลอด 27 ชั่วโมงก็สัมฤทธิ์ผล โดยเจ้าหน้าที่สามารถนำร่างของหนุ่มดวงแข็งออกจากใต้ซากอาคารสู่โลกภายนอกได้เป็นผลสำเร็จ ก่อนนำส่งรพ.ปทุมธานี อย่างเร่งด่วน โดยนายกล้าณรงค์ ผู้ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่านอนทับร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย โดยศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งแล้ว เชื่อว่าในจุดใกล้เคียงที่ติดคาอยู่ จะมีผู้เสียชีวิตถูกแผ่นปูนทับอีก 4-5 ราย ไม่สามารถนำออกมาได้ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูอยู่ระหว่างใช้ความพยายามที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย ออกมาให้ได้โดยเร็ว ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันเวลา 20.30 น. นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผวจ.ปทุมธานี พร้อมด้วย พลโทธีรยุทธ ศศิประภา เจ้ากรมแพทย์ทหารบก นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกอบจ.ปทุมธานี นายผาชัยโปรียานนท์ นายอำเภอคลองหลวง อาสาสมัครร่วมกตัญญูหน่วยกู้ภัยทุกหน่วยงาน เจ้าที่ทหาร ได้ตั้งโต๊ะร่วมกันประกาศยุติการค้นหาผู้รอดชีวิต โดยนายพงศธร กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้คุมคนงานว่า มีแรงงานก่อสร้างที่ปฏิบัติหน้าทั้งหมด 33 คน ขณะที่ทางหน่วยกู้ภัยได้ให้ความช่วยเหลือออกมาได้แล้ว ทั้งที่ติดในซากปรักหักพังอาคาร รวมทั้งหมด 25 คน ถูกลำเรียงส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงซึ่งแพทย์พยาบาลทำการปฐมพยาบาลให้กลับ บ้านได้ 19 คน โดยมี 6 คน ที่อาการสาหัสนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เสียชีวิตแล้ว 3 ราย และคาดว่ายังมีผู้ติดค้างภายในซากปรักหักพังอีก 5 ราย โดยล่าสุด ไม่มีสัญญาณชีพจากผู้รอดชีวิตด้านใน อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (13 ส.ค.) ทางทหารช่างพัฒนา จะนำเครื่องจักรกลหนัก มาช่วยค้นหาอีกแรง โดยเฉพาะจุดที่เป็นห้องติดกับลิฟท์ ทราบว่า มีคนงานนอนพัก ไม่ได้ทำงานจำนวนหนึ่งด้วย สำหรับรายชื่อผู้ที่ยังติดค้างในซากปรักหักพังนั้น ประกอบไปด้วย ชาวไทย 4 คนได้แก่ นายใกล้รุ่ง ทับครบุรี , นางเพียบ ทับครบุรี , นายสิทธิโชค แกมมะณี และ นายธนากร ตรีเมฆ ส่วนแรงงานกัมพูชา ที่ติดอยู่อีก 1 คนก็คือ นายอิมเครือ ขณะที่ผู้เสียชีวิตขณะนี้ มี 3 ศพได้แก่ นางอ้วน (ไม่ทราบนามสกุล) กับ บุตรชายวัย 4 ขวบ และ นายเชษฐา กัมพูชาติ ช่างวางลวดสลิง ชาวจ.บุรีรัมย์ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามอาการของ นายกล้าณรงค์ หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ. ปทุมธานี พบมารดาและญาติพี่น้องให้กำลังใจกันพร้อมหน้า โดย นพ.ปรัชญา โชติยะ แพทย์ผู้ตรวจดูอาการคนไข้ กล่าวว่า อาการโดยรวมไม่มีปัญหา แค่บาดเจ็บที่ช่วงขาทั้งสองข้าง กระดูกเชิงกราน และเจ็บในช่องท้องเท่านั้น ทั้งนี้ นายกล้าณรงค์ เปิดใจ ถึงช่วงเวลา 26 ชม. ที่รอดตายมาได้ว่า ตนเองเป็นช่างสลิง ช่วงเกิดเหตุนอนหลับอยู่ชั้นล่าง เมื่อตื่นขึ้นมารู้สึกมึนงงและไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้น พบตัวเองติดอยู่ในซอกแท่งปูน เพื่อนร่วมงานเสียชีวิตอยู่ข้าง ๆ พยายามทบทวนเหตุการณ์อยู่นานกระทั่งพบว่า ตึกที่ทำงานถล่ม ได้แต่ภาวนาขอให้พระที่ห้อยติดตัว คือหลวงพ่อคูณคุ้มครองให้ปลอดภัย รู้สึกดีใจเหมือนตายแล้วเกิดใหม่   Create Date : 13 สิงหาคม 2557     0 comment Last Update : 13 สิงหาคม 2557 21:58:52 น.     Counter : 1163 Pageviews.   Share Tweet

ตึกถล่ม เจ้าหน้าที่ออกหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ข่าวตึกถล่มคลอง6 ศาลธัญบุรีอนุมัติหมายจับแล้ว 5 ราย เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อาคารก่อสร้างย่านคลองหกถล่ม มีทั้งวิศวกร-ผู้รับเหมา ล่าสุด ล็อกแล้ว 1 ราย เมื่อวันที่ 13 ส.ค. พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้เปิดเผยความคืบหน้า กรณีอาคารก่อสร้างยูเพลสคอนโดมิเนียม คลองหก ถล่ม จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้เก็บหลักฐานทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งสำนวนยื่นฟ้องดำเนินคดีผู้กระทำผิด ซึ่งศาลธัญบุรีได้อนุมัติออกหมายจับแล้วรวม 5 ราย ซึ่งประกอบด้วย นางเพ็ญศรี กิติไพศาลนนท์ เจ้าของอาคาร นายศักดิ์สิทธิ์ อินทร์ทอง วิศวกร นายชานัยชนม์ เกิดเทศ เจ้าของบริษัทปลูกแปลง ผู้ก่อสร้าง นายจิระ ขันมั่น โฟร์แมน นายเดียว ปราบโจร ผู้รับเหมา ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายเดียว ผู้รับเหมา ได้แล้ว 1 ราย ส่วนที่เหลือมีบางรายได้ให้ทนายติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว.   Create Date : 13 สิงหาคม 2557     0 comment Last Update : 13 สิงหาคม 2557 21:56:51 น.     Counter : 1459 Pageviews.   Share Tweet

ดราม่ารางวัลลูกกตัญญู ชาวเน็ตกังขา บางรางวัลมีคนเหมาะกว่า ดราม่ารางวัลลูกกตัญญู ร้อนฉ่า ชาวเน็ตสับแหลกในโซเชียล ถามใช้เกณฑ์อะไรตัดสิน ชี้บางรางวัลมีคนที่เหมาะกว่า           วันที่ 13 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานควันหลงวันแม่ที่กลายเป็นดราม่าในโลกโซเชียลไปซะแล้ว เมื่อมีคนตั้งคำถามเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัล "ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่" ซึ่งผู้รับรางวัลนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ แต่ดูเหมือนว่าในส่วนคนดารา ศิลปิน คนดัง ที่ได้รับรางวัล อาทิ เจมส์ จิรายุ, เสก โลโซ, โบว์ สาวิตรี, ซี ฉัตรปวีณ์ ฯลฯ ก็ไม่วายถูกจับผิดว่า บางรางวัลนั้นไม่เหมาะสม             โดยใน เว็บเพจ สังคมตอแหล ได้มีการโพสต์ภาพ ๆ หนึ่ง เป็นภาพที่แบ่งออกเป็น 2 ช่อง โดยที่ช่องด้านซ้ายนั้น เป็นรูปของ เจมส์ จิรายุ และคุณแม่ ซึ่งเจมส์เป็นผู้เข้ารับรางวัลลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ และได้รับโล่เกียรติคุณ ในขณะที่ภาพในช่องด้านขวา เป็นภาพของเด็กชายนิรนามคนหนึ่งที่ดูแลคุณแม่ที่นอนป่วยอยู่บนที่นอน แต่เด็กคนนั้นไม่ได้รางวัลใด ๆ เลย           และผลจากการโพสต์ภาพนี้ ทำให้มีหลายคนที่เข้ามากดไลค์ภาพดังกล่าวในเพจกว่า 13,000 ครั้ง และแชร์เรื่องนี้ออกไปจำนวนมาก พร้อมกับตั้งคำถามว่า ทางคณะกรรมการ ใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินรางวัลลูกกตัญญู หรือเพียงเพราะเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีละครและงานโฆษณา ก็ทำให้ได้รับรางวัลนี้เลยหรือ อีกทั้งในวงการบันเทิงยังมีดาราอีกหลายคนที่เหมาะสมกว่า เช่น หญิง รฐา ที่ช่วยปลดหนี้ให้แม่น้อย โพธิ์งาม ร่วม 10 ล้านบาท หรือ แพท ณปภา ที่ดูแลคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์           อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวเน็ตอีกกลุ่มที่มองว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีการมอบรางวัลลูกกตัญญูให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมต่อไป และการมอบรางวัลในครั้งนี้ก็ไม่ได้เพียงแต่ศิลปินดารา แต่ยังมีบุคคลในวงการอื่น ๆ อีกว่า 97 คน ทั้งทั้ง นักเรียน นักศึกษา, ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ, นักร้อง นักแสดง ศิลปิน, สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป  ขอขอบคุณ   Create Date : 13 สิงหาคม 2557     0 comment Last Update : 13 สิงหาคม 2557 21:49:30 น.     Counter : 906 Pageviews.   Share Tweet

เหรียญ 10 บาท 2533 กรมธนารักษ์ ยันแล้ว ผลิต 100 เหรียญจริง เหรียญ 10 บาท 2533 กรมธนารักษ์ ยันแล้ว ผลิต 100 เหรียญจริง ชี้ ทำสะสมเป็นกรณีพิเศษ เพื่อโชว์ให้รู้ว่า ประเทศไทยมีเหรียญ 10 บาทแล้ว           หลังจากที่ นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้เปิดเผย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2557 ว่า ในปี 2533 มีการซื้อเหรียญสิบบาทสำเร็จรูปจำนวน 50 ล้านเหรียญ ดังนั้น ข่าวที่ว่ามีการผลิตเหรียญสิบบาทจำนวน 100 เหรียญ จึงไม่เป็นความจริง           โดยในวันเดียวกัน นายนริศ ได้เปิดเผยอีกครั้งว่า การผลิตเหรียญสิบบาทจำนวน 100 เหรียญ มีความเป็นไปได้ หากมีการสั่งผลิตเหรียญเอาไว้ก่อนหน้า และไม่ต้องผลิตเต็มจำนวนในปีถัดไป เพราะบางกรณีสามารถชดเชยผลิตเหรียญราคาอื่นได้ ทำให้เรื่องดังกล่าว กรมธนารักษ์ ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลงานผลิตเหรียญกษาปณ์ ติดราชการที่ต่างประเทศ           อย่างไรก็ตาม เรื่องการซ์้อเหรียญสิบบาทจำนวน 100 ล้านเหรียญในปี 2532 และ 20 ล้านเหรียญในปี 2533 นั้นเป็นความจริง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า การผลิตเหรียญจำนวนนั้นมีการตีตราผลิตว่าเป็นปีใด โดยตัวอย่างที่ผลิตเหรียญสิบบาท 100 เหรียญที่เป็นไปได้ ได้แก่ ในปีนั้นต้องผลิตเหรียญ 1 ล้านเหรียญ แต่ว่าการผลิตขาดไป 100 เหรียญ ก็เลยผลิตเหรียญสิบบาทเพิ่มเติมเข้าไปอีก           ต่อมา นายนริศ ได้เปิดเผยในช่วงค่ำของวันเดียวกันอีกครั้งว่า หลังจากสอบถามอดีตรองอธิบดีฝ่ายเหรียญขณะนั้น สามารถยืนยันได้ว่า มีการผลิตเหรียญสิบบาทในปี 2533 ที่ 100 เหรียญจริง ๆ เพราะนำไปแจกให้ผู้ร่วมงานเหรียญกษาปณ์ในประเทศอังกฤษ และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า ประเทศไทยผลิตเหรียญสิบบาทแล้ว เพราะในขณะนั้นยังมีการใช้ธนบัตร 10 บาทกันอยู่ ด้วยเหตุนี้ทำให้เหรียญสิบบาทผลิตในปี 2533 หายากในประเทศไทย แล้วไปอยู่ในมือนักสะสมต่างประเทศกันหมด ขอขอบคุณ   Create Date : 12 สิงหาคม 2557     0 comment Last Update : 12 สิงหาคม 2557 21:17:52 น.     Counter : 1379 Pageviews.   Share Tweet