อเมริกา เตือนรับภัยซอมบี้ วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา หรือ “ซีดีซี” ออกประกาศเตือนสาธารณชนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจาก ซอมบี้ หรือบรรดาซากศพที่ถูกทำให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางซีดีซี เคยมีการออกคู่มือฉบับที่ 101 เตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจากซอมบี้ โดยยืนยันว่า การจัดทำคู่มือฉบับดังกล่าวไม่ใช่เรื่องตลก แต่ได้จัดทำขึ้นมาเนื่องจากข้อมูลและคำแนะนำต่างๆ ภายในล้วนมีประโยชน์สำหรับประชาชนหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ด้านนาย อา ลี  ข่าน หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของซีดีซี ซึ่งอยู่เบื้องหลังการจัดทำคู่มือดังกล่าวระบุว่า ประชาชนชาวอเมริกันควรจัดหาน้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า วิทยุที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ ชุดปฐมพยาบาล มาเตรียมไว้ให้เพียงพอ รวมถึงควรรวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ คำแนะนำต่าง ถูกจัดทำขึ้นสำหรับช่วยให้ชาวอเมริกัน เพื่อนำไปใช้ในการเอาชีวิตรอด ในยามที่ซอมบี้ออกอาละวาด จนกว่าแต่ละครอบครัวจะสามารถเดินทางออกไปยังค่ายผู้อพยพของรัฐบาล ซึ่งเป็นเขตปลอดซอมบี้ นอกจากนี้ นายเดฟ  เดเกิล  โฆษกของซีดีซี ระบุว่า คู่มือดังกล่าวที่มีการนำไปโพสต์ไว้ในบล็อกของซีดีซี ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก และทางซีดีซีเองก็เชื่อว่า การออกคู่มือเกี่ยวกับการเตรียมตัวรับมือซอมบี้ สามารถเรียกความสนใจจากประชาชนได้มากกว่าการออกคำแนะนำธรรมดาๆ กรณีเกิดภัยพิบัติ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คำแนะนำต่างๆ ในคู่มือฉบับนี้ก็มิได้แตกต่างจากคำแนะนำในการรับมือภัยธรรมชาติทั่วไปแต่ อย่างใด ที่มา: //crime.tnews.co.th/content/109987/ ที่มา //www.thairath.co.th/content/172653 ภาพจาก ซีรีส์ The Walking Dead   Create Date : 08 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 8 ตุลาคม 2557 20:50:41 น.     Counter : 1195 Pageviews.   Share Tweet

สรรพากร เตรียมเรียกแม่ค้าเน็ต หารือเสียภาษี กรมสรรพากร เตรียมเรียกผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตเข้าหารือถึงความเป็นไปได้ ในการจัดเก็บภาษี นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรจะเรียกผู้ประกอบการที่ทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-คอมเมิร์ซกว่า 500,000 ราย เข้าหารือและรับฟังข้อมูลในการยื่นเสียภาษีในช่วงปลายเดือนนี้    การเรียกเข้ามารับฟังข้อมูลในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการรับทราบถึงข้อมูลการเสียภาษีที่ถูกต้อง เพราะหากถึงเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ แต่ไม่เสียภาษี หรือ เสียภาษีไม่ถูกต้อง จะได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งแนวทางการดำเนินงานของกรมเน้นทำความเข้าใจให้กับผู้ที่เข้าข่ายเสียภาษีอย่างละเอียด และถูกต้อง หากยื่นเสียภาษีไม่ถูกต้อง อาจสร้างความเสียหายต่อธุรกิจได้ และยังถือเป็นการป้องกันการผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นให้กับผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการ อี-คอมเมิร์ซ เข้าข่ายการเสียภาษีของกรมสรรพากร แบ่งเป็นภาษีบุคคลธรรมดา และ หากจัดตั้งเป็นบริษัทต้องเสียภาษีนิติบุคคล เมื่อมีรายได้ตามที่กรมกำหนดไว้ โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) หากผู้ประกอบการซื้อขายและมีรายได้เกินกว่า 1 ล้าน 8 แสนบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนเสียภาษีแวตด้วย บริษัท PwC Consulting (ประเทศไทย) คาดว่าในปี 2557  มูลค่าตลาดช้อปปิ้งออนไลน์จะมากกว่า 100,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 90,000 ล้านบาท ส่วนสินค้าออนไลน์ที่คนไทยนิยมสั่งซื้อมากที่สุด คือ สินค้าแฟชั่นและสินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เป็นต้น ที่มา: //money.sanook.com/221561/สรรพากร-เตรียมเรียกแม่ค้าเน็ต-หารือเสียภาษี/   Create Date : 07 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 7 ตุลาคม 2557 21:33:16 น.     Counter : 948 Pageviews.   Share Tweet

หินถล่มใส่สำนักถ้ำพระนอนนาขวาง ถูกสาวรัสเซียที่มาปฏิบัติธรรมดับอนาถ เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 6 ตุลาคม 2557 ร.ต.ท.ญ.สุนิสา นาคฉาย พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รับแจ้งเกิดเหตุ หินถล่มลงมาทับคนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณสำนักถ้ำพระนอนนาขวาง หมู่ที่ 2 ต.นายาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา และรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชรธรรมสถานและเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลชะอำ ร่วมให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล โดยบริเวณที่เกิดเหตุ อยู่ติดกับเขาถ้ำพระนาขวาง มีร่องรอยของหินก้อนใหญ่จำนวนหลายก้อน ตกลงมาจากยอดเขา ลงมาทับที่ห้องน้ำ พังเสียหาย 2 ห้อง ต้นมะขามหักโค่นมาทับรถของวัด และกุฏิพังยับเยิน ไปอีก2 หลัง นอกจากนี้ยังมีรถเก๋ง สีแดง หมายเลขทะเบียน 2 กว 8731 กทม. ถูกก้อนหินทับพังยับเยินแทบไม่มีชิ้นดี นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 รายเป็นหญิงชาวต่างชาติ ทราบชื่อคือ นาง BAKIBVA ALSIYA หรือ ไลล่า อายุ 36 ปีเป็นชาวรัสเซีย อยู่ในอาการสาหัส มีร่องรอยถูกกระแทก บอบช้ำไปทั้งตัว ที่ศีรษะด้านซ้ายมีบาดแผลฉีก เป็นร่องลึก ส่วนอีก 1 รายเป็นบุตรสาวของนางไลล่า ชื่อ Alek. Vovobjeva อายุ 6 ขวบ 9 เดือน ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย เจ้าหน้าที่พยาบาลได้รีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำทั้ง 2 คนไปรักษาต่อยัง รพ.ชะอำเป็นการด่วน แต่ นางไลล่าทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วนเด็กต้องนำส่งไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลพระจอมเกล้า โดยเบื้องต้นยังรู้สึกตัวดี แต่ยังอยู่ในอาการตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบถาม นายโสภณ แสนมี อายุ 40 ปี เป็นช่างที่มารับก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ภายในวัดดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ มีฝนตกและลมแรงมาก จู่ๆ เกิดเสียงดังสนั่นบริเวณยอดเขา ตนและคนอื่นๆตกใจ จึงได้รีบหนีออกมาจากบริเวณนั้น และเห็นว่าได้มีก้อนหินขนาดใหญ่ ตกลงมาจากยอดเขา ลงมากระแทกห้องน้ำและพุ่งเข้าใส่บริเวณที่รถของตนจอดอยู่ โดยใกล้ๆกันจะเป็นกุฏิที่พักของนางไลล่า ที่มาปฏิบัติธรรมได้ประมาณ 10 กว่าวันแล้ว ซึ่งหลังจากเหตุการณ์สงบลง ตนพร้อมพระอาจารย์ไซม่อน ที่เป็นพระลูกวัด ได้รีบเข้าไปดูที่กุฏิดังกล่าว ปรากฏว่า รถของตนถูกก้อนหินทับพังเสียหาย ส่วนกุฏิข้างๆ พังยับเยิน และเห็น นางไลล่านอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ ส่วนเด็กน้อยที่เป็นบุตรสาวนอนทับอยู่ จึงรีบเข้าไปช่วยนำตัวออกมา แล้วโทรแจ้งไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานขอรถพยาบาลมาทำการช่วยเหลือในทันที แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของนางไลล่าเอาไว้ได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯนำร่างของนางไลล่า ไปเก็บรักษายังวัดถ้ำแก้ว อำเภอเมือง เพชรบุรี และจะประสานไปยังสถานทูตรัสเซีย เพื่อนำศพและ เด็กที่ได้รับบาดเจ็บกลับไปยังประเทศรัสเซียตามขั้นตอนต่อไป  ที่มา: //www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE1qVTVPVFExTUE9PQ==   Create Date : 06 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 6 ตุลาคม 2557 22:01:14 น.     Counter : 1342 Pageviews.   Share Tweet

ล้อมคอกสังหารโหดเกาะเต่า ให้ต่างชาติสวมริสแบนด์ตามตัว-เคอร์ฟิวปาร์ตี้ชายหาด รอยเตอร์ - กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประกาศแนวคิดต้องการให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติสวมริสแบนด์ติดตามตัวในระหว่างที่พักในไทยเพื่อความ ปลอดภัย และอาจจะออกเคอร์ฟิวปาร์ตี้ชายหาดซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติเพื่อความ ปลอดภัยหลังเกิดเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนที่เกาะเต่ากลางเดือนกันยายน และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย        กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬาเผยแนวคิดเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันนี้(30)ว่า ได้มีการติดต่อไปที่ผู้ประกอบการโรงแรมเพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยแจกริสแบน ติดตามตัวนักท่องเที่ยวที่จะบรรจุข้อมูลสำคัญในยามที่เกิดเหตุร้าย หรือหลงทาง        “เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเช็กอินกับทางโรงแรม แผนกต้อนรับจะแจกริสแบนด์ที่มีซีเรียลนัมเบอร์ตรงกับเลขไอดีของผู้เข้าพัก พร้อมกับแสดงข้อมูลติดต่อของโรงแรมที่ได้เข้าเช็กอินเพื่อในกรณีที่ชาวต่างชาติร่วมงานปาร์ตี้จนดึก เกิดมึนเมาเนื่องจากการสังสรรค์หรือหลงทาง จะได้สามารถช่วยเหลือได้ง่าย” รมว.กอบกาญจน์ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์        “และในขั้นต่อไปจะมีเป็นอุปกรณ์อิเลกทรอนิกติดตามตัว แต่ในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นพูดคุยในรายละเอียด” รมว.กอบกาญจน์แถลงต่อ        อย่างไรก็ตามเจ้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬายอมรับว่า แนวคิดแจกริสแบนด์นักท่องเที่ยวนั้นได้รับเสียงต่อต้านจากบางส่วน “คนส่วนใหญ่เห็นชอบกับแนวคิดนี้ แต่มีผู้ประกอบการโรงแรมบางส่วนไม่เห็นด้วยเพราะไม่คิดว่า นักท่องเที่ยวจะสวมริสแบนนี้”รมว.กอบกาญจน์กล่าว        นอกจากนี้ทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬายังมีแนวคิดที่จะกำหนดเวลาจัด งานรื่นเริงในสถานที่ตากอากาศบนเกาะซึ่งที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ต่างชาติ รวมไปถึงกำหนดว่าสถานที่ใดบ้างที่สามารถจัดงานปาร์ตี้ชายหาดได้ อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ไม่น่าจะเป็นที่ยอมรับในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ อายุน้อยที่ส่วนใหญ่แบกเป้มาเพื่อร่วมฉลองฟูลมูนปาร์ตี้ซึ่งจัดข้ามวันข้าม คืนของไทย        ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไทยวิตกว่าเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวอังกฤษ 2 คนบนเกาะเต่านั้นได้กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย ซึ่งทำรายได้เข้าประเทศเกือบ 10% ของจีดีพี และประกอบกับไทยยังอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกที่เริ่มประกาศใช้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา และมีการทำรัฐประหารในที่สุด ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเดินทางมาเที่ยวในไทย        นอกจากนี้อุตสหกรรมการท่องเที่ยวไทยยังไม่ฟื้นตัวดีจากเหตุประท้วง ทางการเมืองร่วมครึ่งปีที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 30 คน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยลดลง 11.9 % ในเดือนสิงหาคมล่าสุดเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้านั้น และหล่นไปที่ 10.9 % ในเดือนกรกฎาคม 2014 ที่มา: //www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000112532   Create Date : 01 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 1 ตุลาคม 2557 7:53:03 น.     Counter : 903 Pageviews.   Share Tweet

แฟนกีฬาหลายชาติ โพสต์เพจเอเชียนเกมส์ ด่าเกาหลีขี้โกง แฟนกีฬาหลายชาติ โพสต์เพจเอเชียนเกมส์ ด่าเกาหลีขี้โกง             แฟนกีฬาหลายชาติ รุมโพสต์เพจเอเชียนเกมส์ ด่าเกาหลีไอ้ขี้โกง หลังไม่พอใจคำตัดสินของกรรมการที่เอื้อต่อเจ้าภาพ รวมถึงแฟนฟุตบอลไทยด้วย     ภายหลังจากที่ทีมฟุตบอลชายไทย แพ้ เกาหลีใต้ 0-2 ในศึกเอเชียนเกมส์ 2014 รอบรองชนะเลิศ ท่ามกลางข้อกังขาของการตัดสินของผู้ตัดสิน เช่น จังหวะที่เกาหลีใต้ได้จุดโทษ นำไปสู่ประตู 2-0 ก็น่าจะเป็นการฟาวล์นอกเขตโทษ หรือแม้กระทั่งจังหวะแฮนด์บอลในเขตโทษของเกาหลีใต้ ซึ่งผู้ตัดสินก็ยืนอยู่ตรงจุดนั้นพอดี แต่ก็ไม่ได้ให้จุดโทษแก่ไทย ทำให้ชวดโอกาสไล่มาเป็น 1-2             ด้วยเหตุนี้ แฟนฟุตบอลไทยหลายคน จึงเข้าไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก 2014 Incheon Asian Gamesซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของเอเชียนเกมส์ 2014 ครั้งนี้ เพื่อตำหนิถึงการตัดสินของผู้ตัดสิน ที่โน้มเอียงไปทางเจ้าภาพ จนเป็นการตัดโอกาสที่จะทำให้เกาหลีใต้พ่ายแพ้ในเกมการแข่งขัน             นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กในชาติอื่น ๆ เช่น อิหร่าน มองโกเลีย อินเดีย ยังได้โพสต์แสดงความไม่พอใจถึงการตัดสิน และการเป็นเจ้าภาพของเกาหลีใต้อีกด้วย พร้อมกับโพสต์คำว่า โกง (Cheat) เต็มเพจไปหมด ที่มา: //hilight.kapook.com/view/108908 ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก 2014 Incheon Asian Games   Create Date : 01 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 1 ตุลาคม 2557 7:44:03 น.     Counter : 1097 Pageviews.   Share Tweet