.....Time will never change my love to you.....
Group Blog
 
All Blogs
 

รำลึกความหลังครั้งงานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้ม Show Aof

รำลึกความหลังครั้งงานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้ม Show Aof
ณ โรงละครโจหลุยส์เธียเตอร์
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549

คราวนี้เป็นเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจมากๆ คืองานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้ม Show Aof อัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกของอ๊อฟที่ทำกับ UBC Fantasia หลังจากที่ชนะการแข่งขันในรายการ Academy Fantasia Season 2 มา



ไปถึงบริเวณงานก็ได้พบพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ AOFC ที่มาจับกลุ่มรอแสดงความยินดีกับอ๊อฟที่หน้าโรงละครอย่างอุ่นหน้าฝาคั่งเหมือนเดิม งานนี้คุณป๋าสุเทพ คุณแม่จอยและพี่เอกก็มาร่วมยินดีกับอ๊อฟด้วย เสียดายที่น้องโอ๊ตมาไม่ได้เนื่องจากติดเรียน คุยกันเองในหมู่ AOFC มั่ง คุยกับครอบครัวอ๊อฟมั่ง รอเวลาให้สื่อมวลชนที่มาทำข่าวลงทะเบียนและเข้าไปด้านในจนหมด จากนั้นทีมงานก็มาเชิญแฟนคลับเข้าไปร่วมฟังการแถลงข่าวด้านในด้วยกัน แต่ขอร้องว่าห้ามส่งเสียงดังรบกวน เพราะทีมงานอยากให้สื่อมวลชนได้ให้ความสนใจกับอ๊อฟและอัลบั้มของอ๊อฟอย่างเต็มที่ เพื่ออ๊อฟแล้วล่ะก็ เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว

เริ่มงานแถลงข่าวด้วยการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากกอ๊อฟให้ชม 3 เพลง เริ่มด้วยคลิก กิ๊ก กั๊ก ที่ออกมาพร้อมกับ dancer สาวในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยแบบที่เห็นกันไปแล้วใน MV เปิดตัว โยกย้ายส่ายสะโพกอยู่รายรอบ อ๊อฟเลยกลายเป็นดาวล้อมเดือน อ๊อฟเต้นได้ดี มีการเล่นกับ dancer ด้วย น่ารักเชียว ตอนถึงท่อนแรพที่อ๊อฟต้องร้องแบบหายใจทางเหงือก ทุกคนก็นั่งลุ้นกันตัวโก่งว่าอ๊อฟจะเอาตัวรอดได้ไหม แต่ด้วยความสามารถอันเยี่ยมยอดของอ๊อฟก็สามารถผ่านท่อนที่ยากที่สุดมาได้ จากนั้นก็เปลี่ยนอารมณ์มาที่เพลงช้าๆซึ้งๆอย่าง “อยากทำบุญข้างเธอ” ที่สามารถสะกดคนดูด้วยน้ำเสียงหวาน ก้อง กังวาน บวกกับความสวยงามจากนางรำในชุดสไบสีม่วงที่ออกมาร่ายรำประกอบเพลง ยิ่งเพิ่มให้เพลงมีเสน่ห์น่าดูน่าฟังมากยิ่งขึ้นไปอีก ระหว่างที่ออฟแสดงมินิคอนเสิร์ตอยู่ เพื่อนๆนักล่าฝันก็แอบออกจากหลังเวทีมานั่งดูและให้กำลังใจอ๊อฟอยู่ด้านนอกด้วย จนมาปิดท้ายด้วยเพลงลูกทุ่งหวานๆ ตามแนวถนัดของอ๊อฟ ในเพลง "หัวใจไร้นางเอก" ที่ไพเราะไม่แพ้เพลงก่อนหน้า เรียกว่าฟังอ๊อฟร้องให้ฟังสดๆจนเคลิ้มกันไปเลยทีเดียว

จบจากมินิคอนเสิร์ตก็เป็นการให้สัมภาษณ์กับพิธีกรสาวของงาน เปิดเผยเบื้องหลังการทำงาน การถ่ายทำ MV แต่ละตัว เริ่มจากเพลง “อยากทำบุญข้างเธอ” ที่เป็นการนำมาฉายให้แฟนๆชมกันแบบเต็มๆเป็นครั้งแรกก่อนที่จะนำมาฉายเปิดตัวให้ชมทางช่อง UBC17 ในเย็นวันเดียวกัน ระหว่างที่นั่งดู MV ไปทุกคนก็อมยิ้มแก้มปริกับความสวยงามของภาพ เนื้อเรื่อง และความน่ารักของ 2 พระ-นางใน MV ส่วนตัวเองแทบอยากส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังๆอยู่หลายครั้ง เพราะหลายฉากใน MV โดนใจมากๆและน้องอ๊อฟก็น่ารักมากๆเวลาที่อยู่ในชุดไทยเต็มยศอย่างนี้ แต่ก็ได้แต่กรี๊ดกร๊าดเบาๆ ในมุมมืดอยู่คนเดียว เนื่องจากต้องรักษาความสงบเรียบร้อยตามที่ทางทีมงานขอไว้ (อึดอัดจริงๆ - -") น้องอ๊อฟก็เปิดเผยเบื้องหลัง shot เด็ดใน MV ให้ฟังว่าฉากที่ต้องหอมมือนางเอกนั้นเกร็งและเขินมาก ต้องซ้อมอยู่หลายครั้งเพื่อให้ชิน และสิ่งที่พวกเราสงสัยก็ได้เปิดเผยกันในคราวนี้ว่ามือที่น้องอ๊อฟซ้อมหอมนั้น จริงๆแล้วก็คือ มือของนางเอกจริงๆ ไม่ใช่มืออ๊อฟ โดยอ๊อฟให้เหตุผลว่าได้ขออนุญาตนางเอกแล้ว และนี่ก็คือการแสดง จึงต้องซ้อมไว้เพื่อให้ชินและภาพออกมาสมจริง อ่ะจ้า...........ได้กำไรไปเต็มๆเลยนะพ่อคุณ อิอิ

จากนั้นก็มาต่อกันที่ MV เพลง “คลิก กิ๊ก กั๊ก”ที่อ๊อฟบอกว่าได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำ อย่างลงไปเต้นท่าตัวหนอนกับพื้น ทำท่าหกสูงซึ่งเป็นสาเหตุให้อ๊อฟต้องปวดหลังไปหลายวัน ปิดท้ายกันที่ MV เพลง “หัวใจไร้นางเอก” ที่ทีมงานเร่งตัดต่อมาเพื่อ surprise อ๊อฟในงานนี้โดยเฉพาะ แฟนคลับทั้งหลายที่ตามมาให้กำลังใจจึงพลอยได้รับอานิสงส์ร่วมชม MV นี้เป็นครั้งแรกก่อนใคร ถือเป็น MV อีกตัวที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เป็นเพลงลูกทุ่งแต่บรรยากาศไม่ใช่ลูกทุ่ง แต่เป็นการร้องเพลงลูกทุ่งให้ผู้ชมชาวต่างชาติฟัง ซึ่งถือเป็นการจำลองความฝันของอ๊อฟข้อนึงที่ว่าอยากเผยแพร่เพลงไทย เพลงลูกทุ่งให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ให้ออกมาเป็นภาพที่สมจริง และเราก็หวังว่าคงจะมีภาพอย่างนี้เกิดขึ้นจริงในอนาคต......สาธุ (-/\-) สำหรับ MV ตัวนี้มีฉากไฮไลต์อยู่ที่การเล่น human wave ซึ่งอ๊อฟจะต้องกระโดดลงไปในหมู่เพื่อชม เพื่อให้คนดูรับและส่งตัวอ๊อฟต่อๆกันไปเรื่อยๆ คล้ายๆเป็นการ “แห่นางอ๊อฟ” ยังไงยังงั้น แต่การถ่ายทำฉากนี้ก็ใช่ว่าจะผ่านไปได้ง่ายๆ อ๊อฟเล่าว่าต้องกระโดดลงจากเวทีอยู่หลายครั้ง และบางครั้งก็ลื่นล้มลงอยู่บนเวทีนั้นเอง กว่าจะผ่านไปได้จึงทุลักทุเลมากๆ

นอกจากนี้พิธีกรยังได้เล่าถึงการที่แฟนคลับรวบรวมกันสั่งจอง pre-order ซีดีของอ๊อฟมากถึง 2,000 แผ่น อ๊อฟก็บอกว่าถ้าเป็น 1,000 แผ่นอ๊อฟจะนั่งบนเก้าอี้แล้วยกมือไหว้ขอบคุณแฟนๆ แต่นี่มีถึง 2,000 แผ่น อ๊อฟจึงลุกลงมานั่งคุกเข่ากับพื้นเวทีแล้วก้มลงกราบงามๆ เพื่อขอบคุณ พิธีกรจึงถามต่อว่าถ้าถึง 10,000 แผ่น อ๊อฟจะทำยังไง อ๊อฟซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นอยู่แล้วก็รีบลงไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยแล้วก้มลงกราบงามๆ อีกหนึ่งที สร้างความประทับใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก นอกจากจะกราบขอบคุณแฟนๆ อย่างงามแล้ว น้องอ๊อฟยังมีของขวัญมอบให้แฟนคลับเป็นการขอบคุณอีกด้วย เป็นโปสเตอร์จากอัลบั้ม Show Aof ใส่กรอบอย่างดีพร้อมคำขอบคุณและลายเซ็น โดยมีตัวแทนจาก AOFC 5 คนขึ้นไปรับมอบบนเวที คือ แต่มีคนสุดท้ายคือพี่เอก ที่หลายคนสงสัยว่าแอบไปสมัครเป็น AOFC ตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ แต่ก็คนจะเป็นแฟนเพลงน้องชายตัวเองอ่ะ อิอิ อวยกันได้อีกค่า......... แล้วทั้งหมดก็ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ตามด้วยการถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหารจาก ชาเขียวโมชิ สปอนเซอร์ผู้ให้การสนับสนุนอัลบั้มชุดนี้ ผู้บริหารจาก UBC Fantasia และเพื่อนๆนักล่าฝันอีก 4 คน คือ พี่บอย พี่มาย โจ และมิว เพื่อนๆทุกคนที่ขึ้นมาต่างก็แสดงความยินดีกับอ๊อฟ โดยเฉพาะพี่บอยที่ขึ้นมาสวมกอดแสดงความยินดีกับน้องชายสุดที่รักอย่างจริงใจ โดยไม่กลัวจะเป็นข่าวใดๆ

หลังจากนั้นทางทีมงานก็ให้อ๊อฟได้ใช้เวลาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอย่างเต็มที่ และให้แฟนๆออกมาตั้งแถวรอด้านนอกเพื่อรอรับโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นจากอ๊อฟ ระหว่างที่รอ หลายคนก็ได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ รวมถึงรายการ True Moments บางท่านก็ให้ความเห็นเกี่ยวกับอัลบั้มของอ๊อฟ บางท่านก็อวยพรขอให้อ๊อฟประสบความสำเร็จ บางท่านก็ให้สัมภาษณ์อย่างเต็มใจ บางท่านพยายามหลบแต่ก็ยังถูกสัมภาษณ์ บางท่านเด็ดกว่าให้สัมภาษณ์แต่เอาป้ายรูปหน้าน้องอ๊อฟมาบังไว้แล้วให้สัมภาษณ์.....55 (สมัยนั้นยังเพิ่งเริ่มๆปฏิบัติการของคนรักอ๊อฟ ตอนนี้ไม่มีกลัวกันแล้ว กล้องอยู่ไหน มาเล้ยยย ^ ^ ) หลังจากรออ๊อฟให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายในโรงละครอยู่สักพัก อ๊อฟก็เดินออกมาพร้อมกับโบกมือ และไหว้ขอบคุณแฟนๆที่มาให้กำลังใจอยู่บนบันไดทางลง เรียกเสียงกรี๊ดได้พอสมควร ก่อนจะค่อยๆเดินลงมานั่งที่โต๊ะที่ทางทีมงานจัดเตรียมไว้ ทันทีที่อ๊อฟนั่งบรรดาช่างภาพจากกลุ่มแฟนคลับทุกสังกัดต่างก็รุมล้อมชักภาพทุกอิริยาบถกันอย่างไม่ยั้ง งานนี้อ๊อฟได้ของขวัญจากแฟนๆมากมายทั้งดอกไม้ และสายสะพายแสดงความยินดี แจกโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นไปก็พูดคุยกับแฟนๆไปพอหอมปากหอมคอ เซ็นเสร็จก็ยกมือไหว้ขอบคุณทุกคนที่มาเป็นกำลังใจให้ทีละคน ยังคงความอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ น่ารักมาก แต่เนื่องจากอ๊อฟต้องรีบเตรียมตัวไปอีกงานหนึ่งต่อ จากที่ตอนแรกถามชื่อแฟนๆ แล้วเซ็นให้ก็กลายเป็นเซ็นชื่อเฉยๆ แล้วก็เซ็นว่า Aof สั้นๆ จนเหลือแค่ได้แต่โปสเตอร์อย่างเดียว แต่อ๊อฟก็พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะแจกลายเซ็นให้ครบทุกคน แม้พี่ๆทีมงานจะมาเรียกตัวไปหลายรอบ อ๊อฟก็ยื้ออยู่จนสุดความสามารถเพื่อตอบแทนแฟนๆทุกคน

หลังจากที่อ๊อฟกลับเข้าไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า แฟนๆต่างก็แยกย้ายกันไป บางคนก็กลับไปทำงานหลังจากที่แว่บออกมาให้กำลังใจอ๊อฟ บ้างก็จับกลุ่มนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันตามประสาคนรักอ๊อฟ บ้างก็ไปรอส่งอ๊อฟที่รถตู้ที่มาจอดรอรับนักล่าฝันไปงานต่อไป แต่ไม่ว่าจบงานแล้วใครจะไปทำอะไรต่อไปอย่างไร สิ่งที่ทุกคนที่มาร่วมงานรู้สึกเช่นเดียวกันก็คือ ยินดีกับอ๊อฟที่เดินทางตามฝันมาจนถึงวันนี้ วันที่ได้อ๊อฟได้มีอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเอง ได้พิสูจน์ความสามารถอันหลากหลายของอ๊อฟให้เป็นที่ประจักษ์ ต่อจากนี้ไปเราก็ยังคงพร้อมที่จะสนับสนุนผลงานทุกๆชิ้นของอ๊อฟ รวมถึงอัลบั้มต่อๆไป และ ต่อๆไป ที่ทุกคนจะได้รับรู้ถึงตัวตนและซาบซึ้งไปกับเสียงเพลงจากหนุ่มน้อยคนนี้ “อ๊อฟ ศุภณัฐ”








 

Create Date : 26 มีนาคม 2550    
Last Update : 26 มีนาคม 2550 0:04:42 น.
Counter : 286 Pageviews.  

รำลึกความหลัง AOFC Meeting อย่างเป็นทางการครั้งแรก

รำลึกความหลัง AOFC Meeting อย่างเป็นทางการครั้งแรก

29 มกราคม 2549 ณ Sukhumvit 39 Complex

Meeting ครั้งนี้เริ่มมาจากที่หนุ่มอ๊อฟของเราได้เล่นละครเต็มตัวเป็นเรื่องแรก คือ เรื่อง “เพื่อนรักนักล่าฝัน” ออกอากาศเป็นครั้งแรกทางช่อง 7 วันที่ 29 มกราคม 2549 AOFC ทั้งหลายจึงได้มารวมตัวกัน ณ Sukhumvit 39 Complex เพื่อพบปะสังสรรและชมละครตอนแรกนี้ร่วมกัน

พี่หญิง (Duangthip) ผู้ใจดีให้ยืมสถานที่เพื่อใช้จัด meeting พร้อมอาหารอร่อยๆ อีกหลากหลายเมนู พี่ปิ๋ม (pimm) คุณหมอต้น (Fengyun) พี่กุ๋ย (starbucks_s) พี่แมว (Maew 553) และอีกหลายๆท่านก็นำอาหาร-เครื่องดื่มอร่อยๆมาร่วมสมทบ น้องมิ้ง (Ming_Davinci) พี่ฝ้าย (A Little Angel) พี่เปอร์โยต์ (นู๋เปอร์โยต์ค่ะ) เป็นแม่งานกิจกรรมจับฉลาก ส่วนพี่มุ (ค้างคาวกินกล้วย) พี่แอปเปิ้ล (ople) จัดเกมทดสอบแฟนพันธุ์แท้และเตรียมเพลงเชียร์ให้อ๊อฟ พี่ฝน (hook) พี่ตุ้ม (NaToom) พี่ตุ่ม (pa tumn) สนับสนุนของรางวัลและอื่นๆ พี่นัด (Nutth) พี่กอล์ฟ (Dorakung) จัดเตรียมสถานที่และเก็บภาพบรรยากาศภายในงาน AOFC อีกหลายๆท่านที่มาร่วมงาน ทั้งป้าแป๊ด พี่หลิว (HONDA) พี่มิตรและพี่หญิง (N’Green) ป้าแกะ พี่ปุ๊กปิ๊ก พี่จ๋อม (จ๋อมแจ๋มจ๋า) น้องเบน (benzawa) น้องพร้อม และอีกหลายๆท่าน (ขออภัยนะคะ ถ้าเอ่ยชื่อได้ไม่ครบทุกท่าน)

เริ่มงานราวๆ 11 โมง AOFC ทยอยมาร่วมงานกัน รวมแล้วประมาณ 40-50 ชีวิต ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ รุ่นใหญ่มาก พูดคุยทักทายกันตามประสาคนรักอ๊อฟ เจอหน้ากันเป็นครั้งแรกก็คุยกันไป ใครเป็นใคร ต่างกับที่จิ้นไว้ตอนที่คุยกันในรังแค่ไหน จากนั้นประมาณ 12.30 น. ก็เคลื่อนขบวนไปทานอาหารกลางวันก่อนจะมาดูอ๊อฟในบทไอ้จ๊อบด้วยกัน ได้เวลาละครมาก็ย้ายพลมาเฝ้าหน้าจออย่างด่วน จำได้ว่ายังทานกันไม่อิ่มดีด้วยซ้ำ ไม่เป็นไรดูละครก่อน เดื๋ยวค่อยไปทานต่อ แค่ไตเติ้ลก็กิ๊วก๊าวกันแล้ว ไอ้จ๊อบมีชื่อเป็นนักแสดงนำคู่แรกเลย ดูไปก็ยิ้มกันไป อ๊อฟน่ารักมากๆ



จบเบรคแรกจนมาถึงเบรคที่ 2 ก็มีหนุ่มน้อยคนนึงค่อยๆย่องมาด้านหลังพวกเรา..........อ๊อฟนั่นเอง........แอบมาเซอร์ไพรส์แฟนๆ ทั้งที่ตอนนั้นอยู่ในช่วงเก็บตัวทำอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองอยู่แต่ก็ยังปลีกเวลามาร่วมงานด้วยจนได้ หลายคนที่ไม่เคยเจออ๊อฟตัวจริงใกล้ๆ ก็ได้สมหวังกันในวันนี้เอง (รวมถึงตัวเองด้วยแหละค่ะ) งานนี้มาแบบหนุ่มน้อยน่ารักเป็นธรรมชาติ เสื้อแดง หมวกแดง รับบรรยากาศเทศกาลตรุษจีน ก็เป็นอันว่าอ๊อฟและแฟนคลับก็ได้นั่งดูละครด้วยกัน อ๊อฟดูไปก็ขำตัวเองไป ส่วนแฟนๆก็ปวดคอกันไป เพราะว่าเหลือบมองคนในจอที คนนอกจอที เกิดอาการเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว



ละครจบก็ย้ายพลไปทานอาหารกันต่อ อ๊อฟก็ทานด้วยกันพร้อมกับดูคลิปวิดีโอละครตอนแรกที่อัดไว้ช่วงที่อ๊อฟมาไม่ทัน ทานเสร็จก็ทักทายพูดคุยกับแฟนๆทั่วถึงทุกโต๊ะ แจกลายเซ็นบ้าง แต่ที่ประทับใจมากๆคืออ๊อฟใส่ใจแฟนๆทุกโต๊ะ เดินไปถ่ายรูป พูดคุยทำความรู้จักอย่างไม่ถือตัว จากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้อ๊อฟเป็นยังไงก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน น่าชื่นชมมากๆ …ไม่รักอ๊อฟแล้วจะไปรักใคร จริงป่ะ



อิ่มท้องทั้งอ๊อฟทั้งแฟนๆแล้วก็ย้ายมาทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆกันต่อ พี่ ople นำทีมร้องเพลงเชียร์อ๊อฟที่ตั้งใจแต่งมาเป็นพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ก่อนหน้าที่อ๊อฟจะมาก็ได้มีการซักซ้อมเพลงกันไปแล้ว เมื่ออ๊อฟมาร่วมงานก็เลยหยิบมาร้องโชว์ซะเลย อ๊อฟก็ให้คะแนนแต่ละเพลงด้วยว่าชอบเพลงไหนมากที่สุด แล้วก็ประกาศผลกันสดๆตรงนั้นเลย เพลงที่ได้คะแนนมากที่สุดก็คือเพลงที่ร้องยากที่สุด เนื้อเพลงยาวที่สุด และอ๊อฟยังกำชับทุกคนอีกว่าต้องจำให้ได้ด้วย......หึหึ แม้ว่ากระรอกน้อยในวันนั้นจะกลายเป็นกระรอกหนุ่มแล้วแต่ความแสบซนก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ชอบแกล้งแฟนๆซะจริงเชียว

คำกล่าวที่ว่าเวลาที่เรามีความสุข เวลามักจะผ่านไปเสมอ เวลาแห่งความสุขที่ได้พบและใกล้ชิดกับอ๊อฟก็หมดลงอย่างรวดเร็วตามนั้นเช่นกัน อ๊อฟขอตัวลาไปเข้าห้องอัดต่อ แฟนๆก็ได้แต่ถามไถ่ว่าเมื่อไรจะได้ฟัง อ๊อฟก็ยังไม่วายแกล้งแฟนคลับทิ้งท้ายก่อนไป เฉไฉตอบไปว่า คงจะได้ฟังกันเดือนตุลาคมโน่น แฟนๆก็บ่นกันยกใหญ่ รอนานขนาดนั้น AOFC คงอยู่ไม่ถึงมั้งค้าบบบ 55+ แต่สุดท้ายอ๊อฟก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ฮัมทำนองเพลง “อยากทำบุญข้างเธอ” ให้ฟังเล็กน้อย เรียกเสียงกรี๊ดลั่นร้านส่งอ๊อฟก่อนกลับกันเลยทีเดียว เพราะว่าแค่ได้ฟังทำนองยังเพราะเลย ถ้าได้ฟังเต็มๆเพลงยิ่งไม่ต้องพูดถึง อ๊อฟคงไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

แม้ว่าอ๊อฟจะกลับไปแล้ว แต่ AOFC ก็ยังคงทำกิจกรรมต่างๆต่อไป แข่งตอบคำถามแฟนพันธุ์แท้ที่ต่างก็กินกันไม่ลง เพราะแต่ละคนเป็นแฟนเหนียวแน่นกันทั้งนั้น ร่วมร้องคาราโอเกะเพลงในอัลบั้มเร่ขายฝันและเพลงต่างๆที่อ๊อฟใช้ร้องในบ้านแต่เป็นในสไตล์ของต้นฉบับ ทั้งเพลงทั้งรักทั้งเกลียด ใจเธอใจฉัน ฯลฯ แต่ละคนเสียงเพราะๆทั้งนั้นเลย ถ้าอายุน้อยกว่านี้หน่อย คงลงเข้าประกวด AF แน่ๆ อ๊อฟก็อ๊อฟเถอะ มีหนาวเหมือนกัน อิอิ นอกจากนี้ยังมีการจับฉลากแลกของขวัญกันโดยมีเงื่อนไขของราคา 44-444 บาท และต้องมีสีเขียว ฉลากก็ทำมาพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะเป็นรูปอ๊อฟในอิริยาบถต่างๆ ให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ด้วย

จบงานช่วงบ่ายถึงเย็นก็ยังมีสังสรรค์กันต่อในช่วงค่ำ คุณป๋า แม่จอย พี่เอก พี่โอ๊ตก็มาร่วมงานด้วย AOFC ก็แยกย้ายกลับกันไปบ้างบางส่วน ที่ยังไม่ยอมเลิกง่ายๆก็อยู่สังสรรกันต่อ เท่าที่จำได้ครอบครัวเฉลิมชัยเจริญกิจก็ร่วมร้องคาราโอเกะให้ฟังกันทุกคน สมเป็นครอบครัวบันเทิง เสียดายจังที่ไม่ได้อยู่ต่อถึงตอนนั้น

ถึงแม้ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขนี้จะผ่านมา 1 ปีแล้ว แต่ภาพบรรยากาศในวันนั้นยังคงติดในความทรงจำมาตลอดไม่มีวันลืม .......




 

Create Date : 26 มีนาคม 2550    
Last Update : 26 มีนาคม 2550 0:00:17 น.
Counter : 228 Pageviews.  

บันทึกบรรยากาศงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ "อ๊อฟ ศุภณัฐ...ชีวิตนี้ทำอะไรต้องเป็นที่หนึ่ง" (ฉบับโม้แหลก)

และแล้วอ๊อฟก็ได้ก้าวมาถึงอีกก้าวหนึ่งของชีวิตและหน้าที่การงานในสายบันเทิง นั่นคือการได้ออก pocket book เป็นของตัวเอง งานนี้พลาดไม่ได้เด็ดขาด งานสำคัญของอ๊อฟทั้งที ลาพักร้อนโลด.....วันลาเหลือเพียบเลย ต้องใช้ให้คุ้มในโอกาสสำคัญๆ อิอิ

20 ตุลาคม 2549 ฤกษ์ดีในการแถลงข่าวเปิดตัว pocket book ของอ๊อฟ ณ Infinity Hall ที่ Paragon Cineplex สยามพารากอน แฟนๆมากันอุ่นหนาฝาคั่งเช่นเคย แม้จะมีงานยุ่งยังไง แต่คนรักอ๊อฟก็สามารถหาเวลาปลีกตัวมาร่วมงานสำคัญในครั้งนี้ได้ เยี่ยมจริงๆค่ะ ตัวเองไปถึงตั้งแต่ตอนก่อนเริ่มงานพอสมควร เลยได้มีโอกาสเก็บภาพบรรยากาศ การเตรียมงานต่างๆ มาฝาก



เวลา 12.00 น. ทางสำนักพิมพ์ธันเดอร์ก็เปิดให้แฟนๆได้จับจองหนังสือกันพร้อมของกำนัลพิเศษเป็นหมอนรูปหัวใจสีแดงสำหรับ 100 ท่านแรกที่ซื้อหนังสือภายในงานนี้ แฟนๆมาเข้าคิวรอซื้อกันเยอะมากๆ ตั้งแต่ยังไม่เที่ยง จนเจ้าหน้าที่ต้องจำกัดให้ซื้อได้แค่ท่านละ 2 เล่มเท่านั้น ได้มีโอกาสเจอแฟนๆขาซุ่มหลายท่านเลยได้ทักทายกัน ได้พบคนไม่คุ้นหน้าเยอะเลยงานนี้ น่าจะประมาณครึ่งหนึ่งได้มั้ง ชื่นใจจริงๆ คนสนับสนุนอ๊อฟมามากมาย มีบางคนมาไม่ทันได้แค่หนังสือไปอย่างเดียวก็มี แหม! แฟนๆอ๊อฟเยอะจะตาย ถ้าจะให้พอต้องเตรียมมาแจกอย่างต่ำ 300 ใบนะคะสำหรับงานแถลงข่าวนี้งานเดียวเนี่ย

กว่าจะเริ่มงานแถลงข่าวก็บ่าย 2 ระหว่างนั้นแฟนๆก็ไปหาอะไรทานบ้าง พูดคุยกันไปบ้างตามประสาคนรักอ๊อฟ พอได้เวลาสื่อมวลชนก็มารอทำข่าวมากมาย แฟนๆที่มาร่วมก็ยืนให้กำลังใจอ๊อฟอยู่รอบๆพื้นที่จัดงาน เนื่องจากเก้าอี้จัดไว้เฉพาะสื่อมวลชนและแฟนๆบางส่วนที่ลงชื่อไว้ แต่แฟนๆของอ๊อฟมาร่วมงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งยืนกันจนล้นบริเวณงานเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีกำลังใจสำคัญอย่างคุณแม่จอยและพี่โอ๊ตมาร่วมแสดงความยินดีด้วย งานนี้จึงอบอุ่นไปด้วยบรรดาคนรักอ๊อฟจริงๆ

เมื่อได้เวลาเริ่มงานพี่โอ-วรุฒ วรธรรมพิธีกรของงานก็กล่าวทักทายสื่อมวลชนและบรรดาแขกที่มาร่วมงานและนำเข้าสู่การแถลงข่าวการเปิดตัว pocket book เล่มแรกในชีวิตของอ๊อฟ ศุภณัฐซึ่งมีที่มาจากการให้สัมภาษณ์ถึงประวัติเรื่องราวชีวิตของอ๊อฟและเส้นทางการเป็นศิลปินในรายการสะบัดช่อ ซึ่งแม้จะมีการบันทึกเทปและออกอากาศไปถึง 2 เทปแล้ว แต่เรื่องราวชีวิตของอ๊อฟยังมีรายละเอียดที่น่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคน พี่โอจึงได้เป็นตัวตั้งตัวตีผลักดันให้สำนักพิมพ์ธันเดอร์จัดพิมพ์หนังสือ “อ๊อฟ ศุภณัฐ.....ชีวิตนี้ทำอะไรต้องเป็นที่หนึ่ง” ออกมา



อ๊อฟให้สัมภาษณ์กับพี่โอเกี่ยวกับเรื่องราวที่บรรจุในหนังสือเล่มนี้ได้อย่างลื่นไหลมาก มีการรับ-ส่งมุขกับพี่โออีกต่างหาก ลื่นขึ้นเยอะ......เก่งจริงนะ ตัวแค่เนี้ย เนื้อหาที่ให้สัมภาษณ์ก็จะคล้ายๆกับที่ชมกันไปแล้วในรายการสะบัดช่อ มีร้องเพลงดรากอนบอล Cha la Head Cha la (เพลงนี้เค้าก็ร้องเป็นนะ อิอิ) แล้วก็สาธิตการออกกำลังกายแบบลิเก โดยให้พี่โอแสดงเป็นเสาให้ อ๊อฟเล่าเพลินไปหน่อยจนพี่โอต้องเบรคแล้วบอกว่าที่เหลือติดตามอ่านใน pocket book นะคร้าบบบ.......ขายของหน่อยจิอ๊อฟเอ้ย ระหว่างนั้นก็มีพี่ๆเพื่อนๆจาก AF2 มาร่วมแสดงความยินดีด้วย ทั้งลูกตาล มิว กุ๊กไก่ โจ รวมถึงผู้บริหารจากบริษทีวีธันเดอร์และ UBC Fantasia เสร็จสรรพก็ถ่ายรูปร่วมกันจากนั้นก็เป็นการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์และถ่ายภาพอ๊อฟ งานนี้ทั้งนักข่าวตัวจริงตัวปลอมต่างก็ขึ้นไปกันจนเต็มเวที.....เอาน่า เนียนๆเพื่อภาพอันสวยงามมาแบ่งปันกันในกลุ่มแฟนคลับ ขอขอบคุณนักข่าวตัวปลอมทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

จากนั้นก็เป็นการเปิดศึกชิงอ๊อฟ...เอ้ย...ม่ายช่าย....เปิดประมูลอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆในงานนี้มีทั้งป้ายรูปอ๊อฟขนาดเกือบเท่าตัวจริง และแบนเนอร์ต่างๆรวมทั้งหมด 4 ชิ้น เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ศึกการประมูลดุเดือดมากๆจากแรกๆแค่หลักพัน จนชิ้นหลังๆราคาพุ่งไปถึงหลักหมื่น ชิ้นไหนยังประมูลได้น้อยไปไม่พอไปทำบุญ เจ้ากระรอกก็เพิ่มมูลค่าสิ่งของสุดตัวทั้งเซ็น ทั้งประทับรอยจูบ ทั้ง........(จงเติมคำในช่องว่าง - -” ) เป็นที่เฮฮาสนุกสนานทั้งคนเชียร์ คนลุ้น และคนร่วมประมูล แถมตอนหลังคุณหนุ่ม – กิติกร เพ็ญโรจน์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท UBC Fantasia ยังโดดมาร่วมวงประมูลด้วย คุณหนุ่มประมูลรูปสุดท้ายไปด้วยเงินจำนวน 20,001 บาท พร้อมกับขอยกของที่ประมูลได้ให้กับแฟนคลับของอ๊อฟที่ประมูลของชิ้นนี้มาด้วยกัน ตอนที่คุณหนุ่มและแฟนคลับขึ้นมารับมอบของบนเวทีพร้อม พิธีกรบอกว่าอ็อฟมีของขวัญพิเศษจะมอบให้กับคนที่ประมูลของชิ้นนี้ได้เป็นการหอมแก้ม จึงถามแฟนๆว่าจะให้หอมใคร พี่หนุ่มหรือพี่ปิ๋ม แฟนๆตอบอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย......พี่หนุ่มมมมมมมมม ถามย้ำอีกทีแฟนๆก็ยังยืนยันคำตอบเดิม จนคุณหนุ่มถึงกับออกปากว่าเสียเงินแล้วยังต้องมาเสียตัวอีก.......555555 จบการประมูลอ๊อฟและแฟนๆได้เงินทำบุญร่วมกันประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท โดยทางสำนักพิมพ์ธันเดอร์สมทบทุนให้อีกเป็นเงินประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท ขออนุโมทนากับการทำบุญครั้งนี้ด้วยค่ะ

เสร็จสิ้นการประมูลก็เป็นการแจกลายเซ็นให้กับแฟนที่มาร่วมงานเปิดตัวหนังสือในวันนี้ ถึงจะเหนื่อยมาทั้งงานแต่อ๊อฟก็ยังคงยิ้มได้เสมอ ได้พูดคุย ถ่ายรูป แจกลายเซ็นให้แฟนๆที่มาร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ตากล้องทุกสำนักก็ตั้งกล้องตรงหน้าอ๊อฟยิงกันไม่ยั้ง นานๆเจ้ากระรอกจะนั่งนิ่งๆให้ถ่ายรูปซักที นับๆดูกล้องไม่น่าจะต่ำกว่ายี่สิบตัวได้ ฮอตจริงจริ๊ง อย่างนี้ถึงจะงานหนักยังไงก็หายเหนื่อยใช่ป่าว....แต่งานนี้รู้สึกว่าการจัดที่แจกลายเซ็นจะไม่ค่อยลงตัวยังไงก็ไม่รู้อ่ะ โอเค มีแค่เก้าอี้ตัวเดียวให้อ๊อฟนั่งหน้าซุ้ม presentation ของงาน จะทำให้แฟนๆได้ใกล้ชิดกับอ๊อฟมากๆ แต่ศิลปินต้องทนร้อนเพราะว่ามุมนั้นค่อนข้างอับ แถมยังมีคนมาห้อมล้อมเยอะๆอีก กลัวจะอ๊อฟเป็นลมเอาอ่ะจิ เจ้าหน้าที่เลยต้องมานั่งพัดให้อ๊อฟตลอด ถ้าจัดให้นั่งโต๊ะเป็นกิจจะลักษณะ ตรงโต๊ะลงทะเบียนหน้างานก็อาจจะดีกว่า แต่แฟนๆก็จะห่างจากอ๊อฟไปนิดเพราะมีโต๊ะมากั้นกลาง ได้อย่างเสียอย่าง คงต้องเลือกที่ทำแล้วได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด

ไปต่อคิวเข้าแถวกับเค้าก็รอนานพอสมควร เพราะคนเยอะมากๆ แฟนๆมากันอบอุ่น งานนี้เลยรอไปหยิบหนังสือมาเปิดอ่านไป ฆ่าเวลาแก้เมื่อยได้ดีมากๆ พอถึงคิวก็เลยอวดเจ้าของหนังสือซะหน่อย เพิ่งซื้อเมื่อตะกี้แต่อ่านไปได้ครึ่งเล่มแล้วน้า..... อ๊อฟก็ทำหน้าทึ่งๆแล้วถามว่าจริงเหรอครับ แต่อ๊อฟก็เชื่อเพราะบอกว่าเห็นหลายๆคนเปิดอ่านกันทั้งนั้นเลยตอนที่อยู่ในงาน ก็ของเค้าดีต้องรีบอ่านให้จบซิจ๊ะ กว่าจะแจกลายเซ็นครบหมดทุกคนก็ปาเข้าไปชั่วโมงกว่า แม้ว่าต้องรีบไปซ้อมร้องเพลงต่อสำหรับการแสดงในทัวร์ 10 ผับครั้งสุดท้าย แต่อ๊อฟก็ตอบแทนแฟนๆด้วยการใช้เวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้แจกลายเซ็นให้จนครบทุกคน น่ารักมากๆเลย



เมื่อได้เวลาที่ต้องไป อ๊อฟก็กลับไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวด้านหลังเวที แล้วก็กลับออกมาพร้อมถัง popcorn ใบยักษ์มากๆ ใครไปให้ตอนไหนหว่า.......อุ้มไปกินคนเดียวไม่แบ่งใครอีกต่างหาก กลิ่นมันหอมยั่วยวนนะ แล้วแฟนๆก็ยกขบวนตามไปส่งอ๊อฟที่รถตามธรรมเนียม ระหว่างทางที่เดินผ่านโรงหนัง ก็มีคนจำได้ กรี๊ดกร๊าดกันพอสมควร ปลื้มมมมมอีกแล้ว ก่อนส่งอ๊อฟลงลิฟท์ก็ต้องมีธรรมเนียมการส่งซะหน่อย นำโดยสาวๆแก็งค์หูกระรอก สมทบด้วยป้าๆกลุ่ม 18 กะรัต เอ้า.....123 “อ๊อฟน่ารัก เท่ห์มาก ทนไม่ไหวแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดด” เจ้าอ๊อฟได้ยิน 123 ก็รู้แกว เดินหนีห่างเลย ของเค้ารับประกันคุณภาพเรื่องเสียงจริงๆ 55+

เสร็จงานนี้แฟนๆก็แยกย้ายกันไป เพื่อเตรียมตัวเก็บเกี่ยวความประทับใจกับมินิคอนเสิร์ต ทัวร์ 10 ผับ Supanat’s Live Show in Bangkok ครั้งสุดท้าย ก่อนไปคอนตอนเย็นเลยขอใช้เวลาตะลุยอ่านหนังสือจนจบซักหน่อย พอได้อ่านแล้วรู้สึกว่าได้มองเห็นตัวตนของอ๊อฟมากขึ้นไปอีก รู้จักอีกแง่มุมของอ๊อฟ ความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะทำอะไรสักอย่างให้ได้ดี ประทับใจมากๆ จนบางครั้งรู้สึกว่า เอ....ถ้าเป็นเรา จะทำได้แบบน้องรึเปล่านะ ความคิดและการกระทำเป็นผู้ใหญ่เกินตัวจริงๆ

จะว่าไป pocket book เล่มนี้เหมือนเปิดเผยชีวิตของอ๊อฟแค่เสี้ยวเล็กๆเสี้ยวแรกให้เราได้รับรู้เอง เพราะเนื้อหาจะเกี่ยวกับการเลี้ยงดูของครอบครัว ความรักในเสียงเพลงตั้งแต่ยังเด็ก การประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆ จุดเริ่มต้นของการรักเพลงลูกทุ่งจนได้เข้าไปฝึกฝนและหลงรักลิเก เราว่ายังมีแง่มุมดีๆต่างในตัวอ๊อฟที่น่าเอามาเล่าอีกมาก ถ้าเป็นไปได้อยากให้ออกมาอีกสัก 2 เล่ม คือเล่มที่เปิดเผยเรื่องราวความรู้สึกของอ๊อฟในการประกวด Academy Fantasia ก่อนเข้าบ้าน ระหว่างแข่ง และความเปลี่ยนแปลงหลังออกจากบ้านใหม่ๆ กับอีกเล่มคือการทำงานหลังจากออกบ้าน Academy มาแล้ว ผลงานที่ได้ทำ การออกอัลบั้มต่างๆ เบื้องหน้าเบื้องหลังแต่ละคอนเสิร์ต ปัญหาอุปสรรคต่างๆ และการฝ่าฟันปัญหาเหล่านั้นของอ๊อฟ กระแสการตอบรับของคนทั่วไปในแต่ละที่ ถ้ามีออกเล่ม 2-3 มาอีกก็คงจะดี คงทำให้ได้รู้จักอ๊อฟอีกเยอะ หวังว่าคงมีเล่มต่อไป เพราะตอนนี้หนังสืออ๊อฟก็พิมพ์ครั้งที่ 2 แล้ว.....ขอให้หนังสือขายดิบขายดี พิมพ์เป็น 10 ครั้ง จะคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้อ๊อฟต่อไปเรื่อยๆ

ภูมิใจและดีใจที่ได้รักหนุ่มคนนี้............อ๊อฟ ศุภณัฐ




 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2549 19:45:37 น.
Counter : 203 Pageviews.  

รำลึกความหลังครั้งคอนเสิร์ตปฏิบัติการรัก 12 แบบ (Love Me Love My Dog Concert) ภาค 2

มาลงต่อจากภาค 1 ค่ะ จริงๆเขียนไว้นานมากแล้ว ลงไว้ที่รังกระรอก เรื่องราวก็เหมือนเดิมคะ ปรับแต่งเพิ่มเติมสำนวนบ้าๆบอๆของผู้เขียนนิดหน่อย

เชิญติดตามต่อได้เลยค่ะ

*************************************

จากนั้นประมาณบ่าย 3 โมงใกล้ได้เวลาแสดงแล้ว ก็เลยชวนพี่ๆเค้าไปขนอุปกรณ์ ขน bill board ป้ายรูปอ๊อฟไปตั้งซุ้มรวมพลกัน งานนี้ท่าจะผอมไปหลายขีด เพราะของหนักแล้วก็เยอะเหมือนกัน ขนจากตึกจอดรถ ลากลงมาตรงบริเวณสวนที่จัดงาน หอบเลย แล้วงานนี้ก็ทำให้เราได้ค้นพบสัจธรรมอันใหม่มา 1 ข้อ – “เป็นแฟนคลับอ๊อฟต้องอดทน” ไปถึงหน้างานก็เล็งทำเลเหมาะๆ ตั้งป้าย แต่แล้วฝนที่ไม่เคยมีทีท่าจะตกมาชาตินึงก็กระหน่ำลงมา วิ่งหาที่หลบฝนกันวุ่นวาย ในใจก็ภาวนาให้หยุดเร็วๆ ระหว่างรอก็คุยกับพี่เค้า รู้ว่ามีบัตรเหลือใบนึง รีบโทรไปชวนเพื่อนเราที่เป็น AOFC เหมือนกันให้มา แต่ไม่ยอมมาซะนี่บอกว่าขี้เกียจแล้ว จะดูแดจังกึมแทนซะงั้น -*- เราก็เลยโทรไปชวนน้องที่จะต้องมาพร้อมกับลุงกับป้ามารับเราอยู่แล้วให้มาดูด้วยกัน จับลากเข้ามาเป็น AOFC ด้วยคนซะเลย คราวที่แล้วพาไปตามถ่ายรูปพี่อ๊อฟมาทีนึง ติดใจ งานนี้ก็ชวนมาดูคอนเสิร์ตเป็นแฟนคลับเต็มตัวซะเลย 555...ผ่านไปราวชั่วโมงกว่า ฝนก็หยุด ไปทำงานกันต่อ จากนั้นก็ไปรวมพลกันที่ร้านอาหารซีฟู้ดใกล้ๆสวนนั่นแหละ ตั้งโต๊ะกินข้าวกันยาวเหยียด ยึดบริเวณร้านไปแถบนึง แต่ดีที่มันค่อนข้างหลบมุม เลยไม่ค่อยเกะกะเท่าไร สั่งอาหารมากินกัน แล้วก็แจกจ่ายเสื้อ อุปกรณ์เชียร์สีเขียวทุกอย่างที่เราเรียกกันว่า “ถุงสังฆทาน” เพราะว่าแพ็คกันมาเป็นชุดเลยทีเดียว น้องเราก็โดนจับเข้าขบวนการด้วย พอทุกคนเปลี่ยนเสื้อกันเสร็จปุ๊บ โห...ดูอลังการงานสร้างมากๆ มีพลังความสามัคคีขึ้นมาทันที ร้านนี้ก็น่ารักมากๆ พี่เค้าขอโต๊ะมาวางอุปกรณ์ เพราะว่ามีเสื้อและอุปกรณ์บางส่วนมาขายกันหน้างานด้วย เพื่อให้แฟนคลับอ๊อฟที่ไม่ได้เล่นเว็บที่สนใจได้ซื้อหากัน แล้วไปแสดงพลังกันในคอนเอาให้เขียวกันไปทั้งคอนเลย งานนี้เราก็ได้เป็นแม่ค้า พรีเซ็นเตอร์ ขายของกันหนุกหนานๆ ใกล้ได้เวลาก็เคลื่อนพลไปตรงซุ้มที่จัดไว้ ทางร้านก็ยกโต๊ะมาให้ยืมใช้ต่อ น่ารักมากๆ แล้วก็มีแจกจ่ายลูกโป่งหัวใจรูปสีเขียวสกรีนชื่อน้องอ๊อฟแจกจ่ายให้ลอยล่องโดดเด่นไปทั่วงาน เราก็ใช้แรงงานเหมือนเดิม ใช้ความสวยแจกจ่ายคนที่ผ่านไปผ่านมา เด็ก ผู้ใหญ่ แฟนคลับที่มาดูหรือคนเดินผ่านไปมาก็แจกหมด จะได้โปรโมทน้องเยอะๆ แจกแป๊บเดียวก็หมด ระหว่างรอประตูเปิด ฝนก็เทลงมาอีกรอบ แต่แฟนคลับก็ยังไม่ถอยหลบกันใต้ต้นไม้ ใต้เต็นท์ กางร่ม ใส่หมวก หลบฝนกันอยู่ใกล้ๆซุ้มของเราอย่างไม่กลัวเป็นหวัดกันเลย อย่างนี้สิถึงเรียกว่ารักกันจริง!

กว่าคอนเสิร์ตจะเปิดให้เข้าไปก็เกือบ 2 ทุ่ม ไปถึงก็จับจองที่นั่งกัน เขียวเด่นเป็นสง่าอยู่บนอัฒจันทร์ฝั่งขวามือ กองเชียร์ข้างๆก็มี แฟนคลับพัดชามาในเสื้อสีชมพูสดใสอยู่ทางซ้าย ด้านขวาเป็นกองเชียร์ของเปรี้ยวมาในชุดสีเหลืองออกส้ม ส่วนใหญ่แฟนคลับจะจับจองที่นั่งกันบนอัฒจันทร์เพราะสูงและเห็นชัด ไม่บังกันเหมือนนั่งบนพื้นราบและได้ใช้อุปกรณ์ที่ต่างก็เตรียมมากันอย่างเต็มที่ด้วย งานคอนเสิร์ตนี้ทุลักทุเลนิดหน่อยเพราะพิษฝน ต้องเล่นบ้าง หยุดการแสดงบ้างป็นช่วงๆ แต่แฟนคลับทุกคนก็ไม่มีทีท่าจะถอยกางร่มปักหลักรอการแสดงต่อไป มีช่วงนึงที่การแสดงหยุดไปนานเลย พวกเราก็เลยหากิจกรรมมาทำกัน ด้วยการร้องเพลง “เชื่อฉัน” ของอ๊อฟ แข่งกับกลุ่มพัดชาและเปรี้ยว งานนี้ก็มีสีสันของงานด้วยเป็นกลุ่มแฟนคลับที่มาในชุดหางเครื่องสีเขียวทั้งชุดมาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้ พร้อมท่าเต้นที่ครีเอทกันมาเองเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เรียกความสนใจจากคนในคอน และกล้องได้ไม่น้อย นี่ถ้าไม่ใช่เพื่ออ๊อฟ ไม่มีทางหลุดโลกกันได้ขนาดนี้นะเนี่ย แล้วก็ยังมีพี่เอก (พี่ชายคนโตของอ๊อฟ) ที่มานั่งดูในคอนเสิร์ตนี้พร้อมกับกลุ่มแฟนคลับด้วย มาเป็นคนนำเล่นเวฟให้ทั้งแฟนคลับอ๊อฟ พัดชาและเปรี้ยวได้เล่นกัน น้องโอ๊ต (พี่ชายคนรอง) งานนี้ก็มาในเสื้อแฟนคลับรุ่นใหม่เป็นตากล้องเก็บภาพบรรยากาศและรูปแฟนคลับด้วย จะติดเรามั่งป่าวไม่รู้ จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ทำอะไรบ้าคลั่งมากๆ ไปไม่ค่อยรู้ตัว หวังว่าคงจะไม่มีหลุดไปนะ - -; พอฝนหยุดการแสดงก็ดำเนินต่อไปจนถึงอ๊อฟที่ร้องเป็นคนสุดท้าย (ทุกที) มาในเพลง “มนต์รักลูกทุ่ง” ที่หวานจับใจมากๆ สะกดคนดูได้อยู่หมัดเลย แดนเซอร์ก็อลังการมากสมกับเป็นโชว์ที่ต้องรอคอยมานาน ตอนน้องร้องทุกคนเงียบกริบ แต่พอจบก็ได้รับเสียงกรี๊ดจากทุกคนดังกระหึ่ม สุดยอด....จากนั้นก็มามันกันต่อกับเพลง “เชื่อฉัน” แดนซ์กันกระจายลืมอายุไปเลย ทั้งแม่ยก พ่อยก พี่ยก น้องยกและแฟนคลับกลุ่มอื่นๆด้วย แต่ที่เสียดายคือ ไม่ได้ฟังอ๊อฟร้องเพลงในอัลบั้มใหม่อย่างที่มีข่าวออกมาในตอนแรก อุตส่าห์แกะเนื้อมาซะดิบดี อดเลย.....

พอจะจบคอนก็ถึงพิธีมอบรางวัลให้กับคนที่เขียนข้อความได้โดนใจนักล่าฝันแต่ละคน เสียใจ ไม่ได้ผ้าขาวม้ามาอ่ะ อันนี้ใช้งานจริงซะด้วย แหง่ว แหง่ว อยากได้ๆ งานเลิกคนก็แห่กันไปมอบของขวัญให้แก่คนที่ตัวเองชื่นชอบ อ๊อฟได้ของไปเยอะมาก ทั้งตุ๊กตา หมอนรูปหัวใจใบใหญ่ ดอกไม้ พวงมาลัยดอกมะลิ พวงมาลัยติดแบงก์ ฯลฯ ที่บรรยายได้ไม่หมด ก้มรับของจนปวดหลังเลย ไม่รู้ว่าน้องจะขนกลับหมดมั้ยเนี่ย เยอะซะขนาดนั้น

กลับถึงบ้านประมาณเที่ยงคืนก็สลบเหมือด เหนื่อยมากๆ ใช้พลังไปเยอะสุดๆ แต่ว่าวันรุ่งขึ้นคือ วันที่ 13 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา ที่บ้านจะไปไปทำบุญที่แปดริ้ว ก็เลยต้องตื่นมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า ระหว่างรอออกเดินทางก็แวะเข้าเว็บซะหน่อย ดูซิว่ามีใครมารายงานบรรยากาศเมื่อคืนไว้บ้างหรือเปล่า และแล้วก็ได้เจอ....น้องอ๊อฟมาโพสต์ข้อความขอบคุณแฟนคลับไว้ตอนตี 2! พร้อมกับรูปที่ถ่ายที่บ้านพร้อมกับบรรดาของขวัญที่แฟนคลับให้มา น่ารักสม่ำเสมอจริงๆ อย่างนี้ไม่รักไม่ได้แล้ว แถมจะไม่เลิกหยุดรักด้วยอีกต่างหาก...เอิ๊กกก.... จริงๆแล้วไม่อยากไปเลย เพราะวันนี้อ๊อฟมาโชว์ตัวที่ไบเทคบางนาตอน 10 โมงด้วย ใกล้บ้านเรามากๆ อยากไปจะตาย แต่แม่บอกไปดูมาเมื่อคืนแล้ว ไม่ต้องไปเลย ง่า….ไม่ไปก็ด้ายยย อีกอย่างวันนี้ UBC ก็มีเอาภาพคอนเสิร์ต Never Before Never Again concert ที่มีไปเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548 ที่ BEC Tero Hall มาฉายให้ดูตอน 10 โมงด้วย....ชวดอีก เฮ้อ....เซ็งสุดๆ วันนี้เลยไปทำบุญด้วยจิตใจห่อเหี่ยวมากๆ ไม่ได้ไม่ชอบไปวัดทำบุญนะ แต่ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยอ่า...มากระชุ่มกระชวยนิดนึงตอนที่เข้าไปไหว้พระในโบสถ์ เราถือโอกาสอธิษฐานขอพรให้อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของน้องอ๊อฟประสบความสำเร็จ ขายได้เป็นล้านแผ่น แล้วก็โด่งดัง เทปขายดีไปเรื่อยๆทุกชุดเลย….เพี้ยงงงง

จบละ หุหุ งานนี้ล่อไป 3 หน้า อ่านกันตาแฉะไปเลย ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าในการอัพ blog ครั้งหน้าที่มีเรื่องอ๊อฟ เราจะทำได้มากกว่า 3 หน้าหรือไม่ โปรดคอยติดตามชม......

ขอบคุณที่ตามอ่านมาจนจบด้วยค่า




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2549    
Last Update : 10 ตุลาคม 2549 0:20:50 น.
Counter : 192 Pageviews.  

รำลึกความหลังครั้งคอนเสิร์ตปฏิบัติการรัก 12 แบบ (Love Me Love My Dog Concert) ภาค 1

เอาบันทึกเล่มเก่ามาเล่าใหม่

รำลึกความหลังครั้งคอนเสิร์ตปฏิบัติการรัก 12 แบบ (Love Me Love My Dog Concert)
ณ Central Parc เซ็นทรัลพระราม 2
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2549


คำเตือน: เรื่องราวที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเพียงเรื่องเล่าบ้าๆบอๆของคนคนหนึ่งที่มีความรักในตัวอ๊อฟ ศุภณัฐ และความรักมันมีอยู่ล้นเหลือจนสาธยายได้ยาวมากกกกกกกกกก อ่านแล้วอาจตาแฉะได้ เราเตือนคุณแล้วนะ!!!

เรื่องราวที่จะเขียนในอาทิตย์นี้ก็คงไม่พ้น นี่เลยสดๆร้อนๆ....คอนเสิร์ตปฏิบัติการรัก 12 แบบ (Love Me Love My Dog Concert) ที่ Central Parc ซึ่งเป็นสวนสาธารณะอยู่ด้านหลัง Central พระราม 2....ไกลบ้านเรามากๆ ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปแล้ว เพราะต้องสมัครบัตร Central Plaza Plus Card ใช้จ่าย 1,500 ภายในวันเดียว แล้วก็แลกบัตรวันนั้นเลย แพงจัง แต่ว่ามันมีเรื่องประจวบเหมาะมายั่วให้เราต้องไป คือ รองเท้าคู่ละ 199 บาทมันพังพอดี ก็เลยกะว่าจะซื้อใหม่เอาแบบแพงๆหน่อยจะได้ทน แม่ก็บอกว่าให้ซื้อ 2 คู่เลย ใส่เปลี่ยนๆกันไปจะได้ไม่พังเร็ว เอาล่ะสิ รองเท้า 2 คู่ มันก็น่าจะถึง 1,500 นะ และแล้วก็มีเสียงพรายกระซิบให้ไปซื้อที่เซ็นทรัล ด้วยบัตร Central Plaza Plus Card แล้วก็แลกตั๋วมันซะเลย ก็เลยแบบ..เอาก็เอาวะ เราไม่ได้ตั้งใจจะไปน้า...แต่ว่ามันบังเอิญพอดี...หาข้ออ้างให้ตัวเองสุดๆ 555 เสร็จสรรพซื้อรองเท้าไป 1,700 บาท เหอะ เหอะ เกินงบที่ตั้งไว้อีก...จนเลย พอแลกเสร็จก็คิดว่า...แล้วตูจะไปไงวะ ไกลชิบ ตั้งพระราม2 พ่อจะให้ไปมั้ยเนี่ย แต่บัตรก็ได้มาแล้วนี่นา ไม่ให้ไปก็ไม่สนแล้ว จะไปซะอย่าง ห้ามเราไม่ได้ร้อกกกก

ระหว่างที่นั่งนับวันรอดูคอนเสิร์ต ก็ได้ข่าวมาว่าอ๊อฟจะร้องเพลงในอัลบั้มใหม่ให้ฟังกันในวันนั้นด้วย ก็เลยแบบ..โอ้ย...ชั้นตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่ไปงานนี้ ได้ฟังน้องอ๊อฟร้องเพลงใหม่ให้ฟังสดๆก่อนใครเลยด้วย เย้! แล้วก่อนหน้าคอนเสิร์ตประมาณ 1-2 อาทิตย์น้องก็ไปอัดรายการชิงร้อยชิงล้านเป็นปรัศนีในรายการ แล้วก็เปิดตัวปรัศนีกระรอกน้อยนี้ด้วยเพลงใหม่ 2 ท่อน พร้อมผมทรงกระรอกหยองสุดน่าร้ากกกก....กว่าเทปนี้จะได้ออกอากาศก็คงอัลบั้มใหม่ออกพอดี งานนี้มีแฟนคลับถ่ายวิดีโอเอาไว้ด้วย เราก็ไปโหลดมา แล้วก็เอามานั่งแกะเนื้อหลังขดหลังแข็ง กะว่าจะเอาไปช่วยน้องร้องในคอนเสิร์ต เอาให้กระหึ่มกันไปเลย ถึงจะ 2 ท่อนก็เหอะ เอาให้อ๊อฟปลื้มจนน้ำตาไหลไปเลย ^ ^

และแล้วก็มาถึงวันคอนเสิร์ตที่รอคอย เค้าเปิดให้จองที่นั่ง 3 รอบ – 10.00, 12.30 และ 14.30 น. แบ่งตามวันที่แลกบัตรมาตอนแรก เราอยู่รอบ 2 และให้แลกคนนึงได้ไม่เกิน 10 ที่ ตอนแรกที่เว็บแฟนคลับพยายามจัดการ book ที่ก่อนให้ได้นั่งเป็นกลุ่มแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยรวบรวมบัตรกันแล้วก็นัดรวมพลไปช่วยกันแลกจะได้นั่งใกล้ๆกัน เราไปถึงห้างตั้งแต่ 9 โมงครึ่ง ขนาดออกจากบ้านเกือบ 9 โมงแล้วนะ รถไม่ติดเลยถึงเร็วเกิน แต่โชคดีที่ไปถึงเจอพี่แฟนคลับคนนึงเค้าพาเข้าไปในห้างทางที่จอดรถ ไปถึงทักทายแฟนคลับคนอื่นๆพอหอมปากหอมคอ ฝากบัตรเค้าไปรวบรวมจองใกล้ๆกัน พี่เค้าก็น่ารักมากเลยเข้าไปจองที่ให้ทุกคน ทั้งหมดประมาณเกือบ 60 ใบได้มั้ง มีหลายรอบด้วย เค้าก็ไปนั่งปักหลักมันข้างในนั้นเลย ข้าวปลาไม่กิน กะว่าเอาให้นั่งได้ที่เดียวกันให้หมด แถมมีวางสนุ้ก กั๊กที่เป็นหย่อมๆไว้ไม่ให้ใครมาแทรกแบบที่นั่งในโรงหนังเดี๊ยะ สุดยอด..... สรุปพวกเราก็ได้นั่งด้วยกันหมดเลย เอาละ งานนี้สนุกแน่ เพราะก่อนหน้านี้ทางทีมงานในเว็บรวมพลกันทำอุปกรณ์เชียร์อย่างอลังการ มีหมวก พัด พู่ แท่งไฟเรืองแสง ป้าย เสื้อทีม ฯลฯ อย่างกับไปเชียร์กีฬาสีเลย งานนี้เริ่ดแน่ๆ แถมงานนี้น้องอ๊อฟก็น่ารักเหมือนเดิม นอกจากจะส่ง ส.ค.ส.ปีใหม่พร้อมกลอนสุดไพเราะให้แฟนๆถึงบ้านแล้ว วันวาเลนไทน์ยังมีของขวัญเป็นที่คั่นหนังสือพร้อมกลอนเช่นเคยมาแจกทุกคนอีก โอ้ย...จะน่ารักไปถึงไหนเนี่ย ถ้าใจมีมากกว่า 4 ห้องก็ยกให้หมดเลยนะเนี่ย น้องอ๊อฟจ๋า....

นี่ยังไม่ถึงคอนเสิร์ตเลยนะเนี่ย ปาไป1 หน้ากระดาษ A4 แล้ว ก็มันมีเรื่องให้บันทึกให้เล่าเยอะแยะไปหมดเลยนี่นา อ่ะ ต่อๆๆ อีกเรื่องนึงคือวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่มีละคร “เพื่อนรักนักล่าฝัน” ด้วย สั่งพ่อให้อัดวิดีโอไว้แล้ว แต่ทำยังไงเราจะได้ดูด้วยหว่า...และแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นร้านอาหารร้านนึงแถวที่จองที่นั่งนั่นแหละมีทีวีให้ดูด้วย....เสร็จเราล่ะ....พอใกล้เวลาเราก็ชวนแฟนคลับที่อยู่ด้วยกันแถวๆนั้นไปที่ร้านนี้ สั่งอาหาร-เครื่องดื่มเค้ากินนิดหน่อย แล้วก็ขอร้องแกมบังคับให้เปิดช่อง 7 แล้วก็ปักหลักนั่งดูมันอยู่นั่นจนจบเลย ดูไปก็หัวเราะ กรี๊ดกร๊าดกันไป มีฉากที่อ๊อฟต้องร้องลิเกด้วย แล้วอ๊อฟก็ยังทำได้ดีเหมือนเดิม คนเดินผ่านไปผ่านมาเค้าก็มองๆ มันดูอะไรของมันกันวะไอ้พวกนี้ แต่ก็ไม่สนใจ บ้ากันต่อไป 555...จบแล้วก็เคลื่อนพลกันไปชั้นล่างที่ซุ้มที่เค้ามี event ของคอนเสิร์ตนี้ คือ ในงานนี้จะมีการมอบของรักของทั้ง 12 คนให้ผู้โชคดีด้วย ที่ชั้นล่างนี้ก็เลยมีตู้โชว์ของเหล่านี้ให้ดูยั่วน้ำลายกันไป ของน้องอ๊อฟเป็นผ้าขาวม้าสุดรัก แล้วก็มีให้เขียน post – it บอกความในใจแก่นักล่าฝันให้แปะกันด้วย ข้อความไหนโดนใจนักล่าฝันก็เอาไปเลยของรักของหวงของเค้า ตอนนี้มีรายการทีวีของเซ็นทรัลมาขอสัมภาษณ์พวกเราด้วย แต่เราหลบไปก่อน ให้พี่คนอื่นรับหน้าไป...เสียใจนะจ๊ะ ไม่ได้เห็นหน้าเราในทีวีของเซ็นทรัลหรอก 55

โปรดติดตามต่อภาค 2 ค่ะ




 

Create Date : 04 ตุลาคม 2549    
Last Update : 4 ตุลาคม 2549 0:10:49 น.
Counter : 251 Pageviews.  


Nattypro
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กระรอกกับชินอิจิ....น่าร้ากกกทั้งคู่ ^ ^
Friends' blogs
[Add Nattypro's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.