เรื่องอะไรดีๆที่รู้มาก็จะมาบอกต่อละกัน
 

เข้าโรงพยาบาลกับการเป็นหูชั้นกลางอักเสบของอ๊อตโต้

เกิดจากอาการ..ไอเรื้อรัง มานานกว่า 3 อาทิตย์ (ไอแบบมีเสมหะ)

ไข้มันมาเมื่อไหร่น้า วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม อ๊อตโต้มีอาการประหลาด ด้วยความที่มันยังพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แม่มันเลยงงๆโง่ๆไม่สนใจลูก
ไอ้อาการประหลาดก็คือ ไอ..(เรื้อรังแบบเบาๆมากว่า 3 อาทิตย์ พร้อมมีเสมหะที่เด็กน้อยยังไม่สามารถขากกกกกกกกกกกกก..ถุยออกไปได้) แต่คราวนี้บอกแม่ว่าปวดท้องด้วย

เกิดความกังวลใจขึ้นมาเล็กๆ แต่แอบคิดว่าลูกเราโตแล้วเลยไม่ได้รีบตาลีตาเหลือกพาไปหาหมอเหมือนตอนเล็กกว่านี้มากๆ

พอตกกลางคืน ประมาณตี 1 พอดิบพอดี ก็ไออย่างน่ากลัว รุนแรงแบบลูกกะตาจะถลน
ทั้งแม่และพ่อและยายไม่เป็นอันนอนกัน เพราะห่วงมากมาย จนอยู่ๆก็อ้วกออกมา สิ่งที่ออกมาก็มีแต่เสมหะข้นๆเป็นฟองใสๆเหมือนน้ำมูก..ก็โอ๋เอ้กันจนหลับไปอีก 1 รอบ ช่วงกลางคืนมีไข้ต่ำๆ

ตอนเช้ามา มีไข้สูงกว่าเดิมแต่ไม่มากนัก คุณแม่ทำงานๆๆๆลูกนอนซมอยู่ข้างๆ โดดเรียนตามเคย
แล้วก็เจ็บหู
แม่..โอ๊ย เจ๊บๆๆๆๆๆหูคร้าบ พอเราเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าที่หูลูกมี(สารคัดหลั่ง)ภาษาบ้านเราเรียกน้ำหนองนั่นเอง
ไหลออกมาแบบเบาๆ พอประมาณ ไม่มาก

เจ้าตัวดีก็นอนทั้งวัน มีไข้ต่ำๆ แต่มันหมดแรง ไม่ทานข้าว ทานน้ำ เลยตัดสินใจกันว่าจะพาไปหาหมอดีกว่า แอดมิทมันซะเลย
เนื่องจากเราทำประกันสุขภาพกันไว้ แต่มันกำลังจะหมดอายุต้องต่ออีก 5 วันข้างหน้า ทำให้เราเกิดความกังวลขึ้นมาว่าจะเป็นไรเปล่าว้า..แต่เพื่อลูก เอาว่ะ จ่ายตังค์เองก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ




สาธุ..อย่าเป็นอะไรมากนะเจ้าหมาน้อยของแม่

และแล้ว..
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล "แม่ กลับบ้าน กลับบ้าน" เสียงมันก็ดังก้องทั่วโรงพยาบาล ตลอดเวลา
ทั้งดุ ทั้งขู่ ทั้งปลอบ ก็ยัง งอแง สะอืนสะอึกตลอดเวลา ขนาดยังไม่เจอของจริงเลยนะเนี่ย

พอถึงเวลาแอดมิทจริงๆ เราก็บอกคุณหมอว่า ขอเจาะน้ำเกลือที่เท้าแล้วกันนะคะ คราวที่แล้วคุณพยาบาลก็เจาะที่มือไม่สำเร็จ ต้องเจาะเท้าอยู่ดี คุณหมอก็โอเค...แต่

คุณพยาบาลอาจไม่ได้รับคำสั่งนั้นหรือยังไงไม่ทราบ หลังจากสู้รบปรบมือกับเจ้าตัวแสบ ที่ยังมีฤทธิ์เหลืออยู่ตั้งเยอะ ก็พามาส่งพร้อมกับสายน้ำเกลือระโยงมาจากมือน้อยๆเขียวๆของมันอ่า
แล้วยังไง..
สรุปว่า ด้วยความซ่า ความแสบ ความซนและความดื้อของลูกชายช้าน
สุดท้ายอีก 1 ชั่วโมงถัดมา ก็ต้องเจาะที่เท้าอยู่ดีเอ่อ..คุณพยาบาลค่ะ รู้แล้วว่ามืออาชีพ แต่เชื่อแม่มันบ้างก็ดีค่ะ ลูกอิชั้นของแรง
ก็เลยโดนไปประมาณ 4-5รูจากการเจาะน้ำเกลือ
แล้วหลังจากผลการตรวจเลือดและน้ำมูกแล้ว คุณหมอก็เข้ามาให้ความสบายใจว่า
ไม่ได้เป็นไข้เลือดออกกับไข้หวัดใหญ่อย่างที่กลัวนะครับ แต่..
เม็ดเลือดขาวสูงมาก แสดงว่าติดเชื้อนะครับ จากอาการหูอักเสบ..ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ
การให้ยาฆ่าเชื้อถ้าเป็นยาฉีดก็ระยะเวลา 3 วัน หากเป็นยากินก็ 2 อาทิตย์
พ่อกะแม่มันเลย ฉีดเลยค่าคุณหมอ

เข้ารพ.วันที่ 10มีนาคม2555 ตอน 2 ทุ่มกว่า เสร็จเรื่องเสร็จราว สี่ทุ่มกว่าๆ ไปปากคลองตลาด
11 มีนาคม 2555 เก็บของขึ้นรถ ไปจันทบุรี(งานเช่าของ) นอนมณีจันทร์รีสอร์ท
หมดค่าน้ำมันไป 4000 บาท(เฮ้อ)
12 มีนาคม 2555 ออกจากโรงพยาบาลถึงบ้าน 10.00 น.





 

Create Date : 13 มีนาคม 2555    
Last Update : 13 มีนาคม 2555 20:17:09 น.
Counter : 171 Pageviews.  

วันเกิดน้าเล็ก ปี54 ฉลองกันที่ทะเลระยองเพื่อเอาใจหลานโดยเฉพาะกันเลยทีเดียว

เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

โอ้
แล้วทำไมเพิ่งจะมาอัพเอาตอนนี้กับหล่ะเนี่ย ฮ้า

แม่ยุ้ย: ขอโทษนะครับอ๊อตตโต้ คุณแม่งานยุ่งม้าก มาก
อ๊อตโต้ : ไม่เป็นไรครับทีหลังอย่าทำอีก



ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 5 คน มีคุณพ่อ คุณแม่ คุณอ๊อตโต้ คุณน้าก้อง และคุณน้าเล็ก

ขับรถไปกันเองตามคำบอกทางของอากู๋ (คือว่าอากู๋บอกทางได้แต่ไม่สามารถลงรายละเอียดสภาพถนนอ่ะเจ้าค่ะ)
เราขับรถไปตามเส้นทางมอเตอร์เวย์ แล้วก็ออกบ้านนาแล้วก็ตรงเข้าแยกแกลงก่อนค่อยเลี้ยวขวา ตามหาทางเข้าถนนข้างๆหาด แล้วก็ไปเรื่อยๆๆๆๆ
หาป้ายค่ะ เปิดน้องจีพีเอสในโทรศัพท์ก็ช้ากว่าใจ ช้ากว่ารถ พอโหลดได้ก็เลยเสียแล้ว

เลยแล้วก็เลยไปที่หาดแหลมแม่พิมพ์หาอะไรทานกันเลยดีกว่า
ไปเจอะเอาร้านอาหารแบบชายหาด มีร่มชายหาดและเตียงผ้าใบเรียงรายเต็มหาด เอ...จะกินร้านไหนดีน้า

วัดดวงเลือกได้ 1 ร้าน จากสัญลักษณ์เที่ยวทั่วไทยของเรา (หลวงปู่วัดปากน้ำ) ถือว่า เป็นศิษย์ครูเดียวกัน

ร้านนั้นมีชื่อว่า ร้านหนูแดง...คร้าบผม
อาหารอร่อยมากมาย สด และใหญ่ (จานใหญ่) ที่สำคัญคือมันถูกด้วยๆๆๆ

ทานอาหารกันจนเกือบเย็นก็เดินทางกลับโรงแรม
ปาล์มมาลีบีชรีสอร์ท
(รีวิวเล็กๆ+++ก็ใช้ได้นะคะ กับราคาห้องละ 1600 บาท เราจองผ่านagoda ห้องพักสะอาดพอสมควร สภาพโรงแรมก็มีความเก่าเข้ามาแผ้วพานบ้างไรบ้างตามอายุ...สระว่ายน้ำสะอาดและยังมีบริการผ้าเช็ดตัวริมสระด้วย ส่วนอาหารเช้าที่มากะห้องพักก็เป็นแบบABFจ้า จัดเต็มอิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า แถมหมาสามสี่ตัวเพื่อสร้างบรรยากาศนิดหน่อย)

พาเจ้าตัวเล็กว่ายน้ำแบบมันมีความสุข แต่แม่กะน้าและพ่อ เหนื่อยสายตัวแทบขาด

อาบน้ำอาบท่ากันเสร็จก็เย็นย่ำค่ำลงพอดี พากันออกไปหาอะไรกินอีกล่ะ
กินอะไรดี ก็ถามท่านอากู๋ผู้รอบรู้ไปหมดทุกอย่าง
ได้ความตามกันไป ว่าไปร้านอาหารระเบียงไม้กันเลยดีกว่า

ร้านอาหารระเบียงไม้ ขออภัยไม่มีรูป
(รีวิวเล็กๆ++อาหารอร่อยแบบพอประมาณ คะแนนเต็มสิบให้ซัก 6 แล้วกัน ไม่ได้แตกต่างจากอาหารตามร้านที่กรุงเทพโดยทั้วไปนัก น้ำจิ้มซีฟู้ดทำโดยเครื่องปั่นทำให้ไม่หอม สรุปรวมๆสูหนูแดงไม่ได้เลยเอาไปแค่6คะแนนพอที่สำคัญราคาก็แพงกว่าเท่าตัวเลยค่ะ ส่วนบรรยากาศก็สบายๆ ลมทะเลโชยๆ ดนตรีขำๆ แล้วก็พนักงานเสริฟที่พยายามบริการเราอย่างดีจริงๆ)

กลับจากร้านอาหารก็นอนค่ะ (เพราะว่าเหนื่อยกันการเล่นน้ำกะลูกมากๆจริงๆ)

ตอนเช้าตื่นมาก็เริงร่ากะอากาศที่สดชื่นแบบทะเลทั่วไป
อาหารเช้าของโรงแรมอย่างที่บอกว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว
มีสนามเด็กเล่นเล็กๆหน้าหาด ทำให้เราทานอาหารได้อย่างมีรสชาติกว่าเดิมเยอะเลย ปล่อยลิงไปเล่นก่อน

แล้วเจ้าตัวดีก็มีความสุข..ฮิ้ว








กว่าคุณน้าจะตื่นมาเล่นกะผมอ่่า


ก่อนกลับบ้าน แวะทานอาหารร้านที่เราติดใจกันอีก 1 รอบ รอบนี้เล่นเอามึนอาหารทะเลกันเลย เพราะทานกันตั้งแต่เที่ยง จน บ่าย 4 โมงเย็นถึงเคลื่อนทัพกลับบ้าน
งานนี้ปล่อยให้ลูกเล่นนน้ำทะเลอย่างสนุกสนานคนเดียวได้เลย ไว้ใจได้ เพราะโต๊ะทานข้าวก็อยู่ห่างชายหาดแค่สองก้าว แถมเจ้าลิงก็ขี้กลัว เลยเล่นทรายปริ่มชายน้ำเท่านั้น
แม่มันเลยกินปูปลาหอยสบายอารมณ์ไปเลย

สรุปว่าทริปนี้จัดหนักไปทางหอยนะค่ะ หอยสามอย่าง
1. หอยแครง
2. หอยแมลงภู่
3. หอยกระต่าย
หน้าตามันตลกๆดี เดี๋ยวหารูปมาให้ดูอีกทีถ้าใครไม่รู้จัก




 

Create Date : 07 มีนาคม 2555    
Last Update : 7 มีนาคม 2555 15:30:09 น.
Counter : 247 Pageviews.  

วันนี้เมื่อสามปีที่แล้ว(ภาคสอง)

หลังจากที่โดนคุณหมอสาวสวย พยาบาลใจดี ไล่ให้ไปนอนแล้ว ว่าที่คุณแม่ก็ต้องทำตามค่ะ เดี๋ยวโดนดุ ...กลัว
แล้ว...ขอโทษนะคะ จะหลับตาลงไปได้อย่างไร้.....
ในเมื่อ
คุณเตียงข้างๆ ร้องโหยหวน แบบไม่เกรงใจใครหน้าไหนทั้งนั้น (ไม่ได้อยากจะว่าเค้านะ)
ร้องจนเราคิดว่า โห ถ้าถึงคิวเราปวดระยะนั้นแล้วเราจะทนไหวมั้ยเนี่ย ยิ่งเป็นคนที่ความอดทนต่ำอยู่ด้วย ...กลัวอีกแล้ว
ข่มตานอนดีกว่า

ตีสี่กว่าๆ.....
โอ๊ยๆๆ เจ็บๆๆๆๆ หมอค่า เจ็บๆๆๆๆๆ โอ๊ยๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วค่า
เปล่านะ..ไม่ใช่เสียงแม่ยุ้ย เป็นเสียงเตียงข้างๆเจ้าเก่าเจ้าเดิม คุณเธอน่าสงสารมาก เพราะว่าคงปวดสุดๆ เห็นว่าร้องมาตั้งแต่เที่ยงคืนแล้วด้วย ไม่ได้หยุดเลย..
เราก็เลยโอ๊ยมั้งดีกว่า...โอ๊ยๆๆปวดฉี่..อิอิ แล้วก็เดินลงจากเตียง ไปฉี่ค่ะ...รอบที่ 1
หลับต่อท่ามกลางเสียงโหยหวน

ตีห้านิดๆ
โอ๊ยๆๆ เจ็บๆๆๆๆ หมอค่า เจ็บๆๆๆๆๆ โอ๊ยๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วค่า (มันมาอีกแล้ว...)
เอ..ไหงเรายังไม่เจ็บท้องเลยอ่ะ หรือว่าจะคลอดค่ำๆอย่างที่คุณหมอสาวสวยบอก
อืม ช่างเถอะ ตื่นแล้วไปฉี่ดีกว่า.....ว่าแล้วก็ลงจากเตียงไปฉี่...รอบที่สอง
สะลึมสะลือหลับต่ออีกครั้ง..

หกโมงนิดๆ
อืม มันเริ่มปวดมาแล้วเว้ย เหมือนปวดท้องอึ เป็นประจำทุกเช้า หรือว่ามันจะค้างอยู่ถ่ายไปเมื่อคืนไม่หมดแน่เลย..
คิดได้ก็เลยกลัวลูกออกมากะก้อนทองของเรา จะเป็นความอับอายไปตลอดชีวิต(ไม่รู้ว่าของเราหรือของลูก)
อึไม่ออกอย่างน้อยก็ไปฉี่...เหลียวซ้ายแลขวา คนเริ่มหนาแน่น สงสัยจะมาเปลี่ยนเวรกันรึเปล่า ว่าแล้วก็ลงจากเตียง
เข้าห้องน้ำ อึไม่ออก แต่ก็ได้ฉี่ดั่งใจหวัง...รอบที่สาม
พอเดินขึ้นเตียง คุณพยาบาล...คนใหม่รีบเดินเข้ามาหา "ไปไหนมาค่ะ" ก็ตอบเสียงใสสุดชีวิต"เข้าห้องน้ำค่ะ ไปฉี่"
"ไม่ได้นะคะ จะเข้าห้องน้ำก็บอกได้เลยค่ะ เดี๋ยวต้องจัดการที่เตียงเลย"
"ค่ะ" (คำถามเต็มหัวเลย ทำไมหล่ะคะ แค่นี่เอง ยังเดินได้อยู่นะ ไม่ได้เป็นอะไรเลย ก็ปวดอ่ะ ให้ทำไงหล่ะ แล้วตอนกลางคืนไม่เห็นมีใครบอกเลย....บลาๆๆๆ)
นอนต่อดีกว่าาาาาา

แปดโมงเช้า
มันมาแล้วๆๆ ปวดจริงๆๆ สงสัยนี่คืออาการปวดท้องคลอด "สัมมา อรหัง" ท่องไปเรื่อยๆ อย่าไปคิดถึงมัน เดี่ยวดีเอง เดี๋ยวก็หาย
แล้วก็จริงๆด้วย มันช่างเหมือนคำที่ยายต๋อยเปรียบเปรยว่า มันปวดแบบคลื่นกระทบฝั่งจริงๆ เพราะเดี๋ยวซักพักมันก็หายไป
เดี๋ยวมันก็มาใหม่ แต่เอ... ก็พอทนได้นะ แอบอยากร้องเหมือนเตียงข้างๆนิดนึง ..แต่ ก็รู้สึกว่ามันพอทนได้อ่ะเนอะ..งง ร้องทำไม
สามสี่เตียงข้างๆ มีหมอ พยาบาล และนักเรียนหมอเดินเข้าออก ถามกันขวักไขว่ ผิดกับเตียงของเราช่างเงียบเหงาซะจริงๆ ของคนอื่นเค้าตรวจปากมดลูกว่าเปิดกี่เซนต์แล้ว
มีการรายงานให้ว่าที่คุณแม่ฟังตลอดทุกๆชั่วโมง ยกเว้นของแม่ยุ้ยคนเดียวอ่ะ (เค้าบอกว่าเป็นเคสฝากพิเศษของอาจารย์หมอ เลยเว้นไว้)
มีแค่นักเรียนหมอคนเดียว มาวัดขนาดท้องแล้วก็ประเมินน้ำหนัก แล้วก็ถามโน่นนี่นั่น...อยู่ได้...เค้าปวดท้องแล้วนะ

เก้าโมงเช้า
ทรมานจริงๆนาฬิกาอยู่ตรงหน้าเนี่ย โทรศัพท์ก็ไม่มี จะคุย จะเม้าท์กะใครก็ไม่ได้ เบื่อๆๆ เซ็งๆๆๆ ท้องก็ปวดๆหายๆ โอ๊ย เช้าแล้ว อยากเม้าท์อ่ะ..
อาจารย์หมอมาถึงแล้ว "สบายๆนะครับ ปวดมากมั้ย เป็นงัยบ้าง"ถามอาการโน่นนี่ ดูชาร์ทแล้วก็บอกว่า
"อืม ปากมดลูกเปิด 1เซนต์ สงสัยน่าจะคลอดประมาณ สอง-สี่ทุ่มนะครับ ถ้างั้นหมอไปประชุมก่อนน่าจะทัน"
ไอ้เราก็ยิ้มๆบอกไปว่า "ค่ะ" ทำไมหมอไม่ดูเวลาบ้างค่ะว่ามัน 1 เซนต์ตอนกี่โม้งงงงง....

เก้าโมงครึ่ง
ปวดท้องอึ๊ม้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขี้จะออกแล้ว...คุณหมอ พยาบาล ช่วยด้วย....(เสียงตะโกนในใจดังม้าก)
ลุกขึ้นมาเหลียวหาไม่เจอใครเลย หายไปไหนกันหมดน้า ปวดขี้ม้ากกกกกกก

เก้าโมง สี่สิบห้านาที...
มีเหยื่อหลุดเข้ามา 1 คน คุณพยาบาลหน้าโหดใจดี ชื่ออะไรจำมิได้แล้ว
"พี่ค่ะ พอดีว่าอยากเข้าห้องน้ำมากเลยค่ะ ช่วยพาไปด้วยนะคะ"
พี่เค้าก้อบอกว่า "เดี๋ยวนะคะ ขอตรวจก่อน" แล้วก็สวมถุงมือ แล้วล้วง......เข้าไป
"โอ๊ย..เข้าไม่ได้แล้วหล่ะคะ หัวมันจะออกมาแล้วค่ะ" (ก็ใช่หน่ะสิค่ะ จะราดอยู่แล้ว..เดี๋ยวก็ราดใส่มือคุณพี่ซะเลย..ฮึ)
"ทางนี้ค่ะ เปลี่ยนเตียง เตียงสามเข้าห้องคลอดค่ะ ด่วนๆ หัวดันออกมาแล้ว"คุณพี่พยาบาลตะโกนบอกเพื่อนร่วมอุดมการณ์ แล้วก็หันมาดุเรา
"คุณอย่าเพิ่งเบ่งนะคะ เดี๋ยวลูกติดเชื้อจริงๆด้วย อันตรายนะ อย่าหาว่าไม่เตือน อย่าเพิ่งเบ่งนะคะ"
(เฮ้อ เจ้าตัวน้อยมันจะออกมานั่นเองไอ้เราก็นึกว่าปวดท้องอึอยู่ตั้งนาน..เอ้า อั้นไว้นิดนึง)

สิบโมง....นิดหน่อย
ณ ห้องคลอดโรงพยาบาลรามาธิบดี
บรรยากาศอบอุ่นมากๆจริงๆ มีทั้งนักเรียนหมอ พยาบาล และใครก็ไม่รู้เยอะแยะ มีคุณแม่ที่กำลังคลอดพร้อมๆกันซักสามสี่เคส(รวมทั้งเตียงข้างๆที่ร้องโหยหวนด้วย)
พอถึงคราวเตียงคลอดเข็นเข้ามาได้ที่ปั๊บ กลุ่มคนมากมายก็เข้ามารุมล้อม สอนเราหายใจ.. รอลมเบ่ง (อาการปวดท้องอึ) ไอ้เราก็ สัมมา อรหัง เต็มที่ ..กลัว..แต่ฮึด
เสียงเชียร์เต็มไปหมด พอลมเบ่งมา ก็สิบเสียงที่ช่วยเราเบ่ง (เหมือนช่วยลูกเบ่งอึ เค้าส่งเสียงดังกว่าเราอีก ฮึฮึ) ช่วยเราหายใจ
เบ่งอยู่ 3 รอบ...ก็มีคนเพิ่งสังเกตว่าคุณแม่มือใหม่คนนี้เบ่งผิดที่
คือ
เบ่งเอาแรงเบ่งขึ้นที่หน้า ที่หัว ไม่ได้เบ่งเหมือนเบ่งอึ ที่เบ่งลงล่าง ทำให้หัวที่น่าจะออกตั้งนานแล้ว ไม่ออกมาซักกะที
เอาใหม่ค่ะ
เบ่งอีกที เปลี่ยนจุดส่งพลัง (5555 พิมไปขำไป) ทีเดียวเลย ออกมาทั้งหัว โอ้โห โล่งเหมือนอึออกมาหมดทั้งใส้
คุณหมอ ดูดน้ำที่คั่งค้างในปาก จมูกลูกตัวน้อย แล้วก็บอกให้คุณแม่ขาเบ่งอีกรอบค่ะ มันก็หลุดออกมาอย่างง่ายดาย
แล้วเค้าก็เอาอ๊อตโต้มาวางแปะไว้บนพุงเหี่ยวๆของเรา
แว๊บแรก (ทำไมมันหน้าตาน่าเกลียดจังอ่ะ ตัวก็สีเทาๆ มันจะดำมั้ยเนี่ย)
แว๊บที่สอง โดนเอาตัวไป แม่มันก็เงยหน้าไปดูเค้าเอาอ๊อตโต้ไปล้างเนื้อล้างตัวแถวๆด้านบนหัว (หัวก็หยิก ตัวก็เทา ตายหล่ะหว่า ลูกใครว่ะ5555)
แว๊บที่สาม (มันไปไหนแล้ว)
แล้วพยาบาลก็เอาเจ้าตัวน้อยๆหน้าตาน่าเกลียดมาแปะไว้อีกที ที่นมแม่มัน แล้วก็ให้มันงับๆๆ ดูดๆๆ มันก็ลืมตาแป๋วๆมา งับๆ ก็ไม่โดน555ขำดี

ไม่ขำก็ตอนเย็บแผลนี่แหล่ะคับพี่น้องเจ็บโคตรๆ

สิบโมงครึ่ง
(โรงบาลนี้มันมีนาฬิกาเรือนใหญ่ๆไว้ให้ทรมานใจทุกห้องเลยหรือไงเนี่ย)
โดนเข็นไปห้องพักรอ ลูกหายไปให้น้าๆยลโฉม พ่อมันโทรมาก่อนเราคลอดนิดเดียว ตอนเก้าโมงกว่าๆว่ากะลังจะขึ้นเครื่องแล้วน้า
ยังไม่ทันเห็นลูก..อิอิ
ในห้องพัก โดนบังคับ ให้กินข้าว ที่ไม่อร่อยอย่างแรง....ก็เหนื่อยๆให้กินข้าว มันก็กินไม่ลงอ่ะดิ ทีตอนเช้าขอกินไม่ให้กิน

ชักอยากเจอหน้าลูกชายตัวน้อยหน้าตาน่าเกลียดของเราแล้วอ่ะ

ต่อพรุ่งนี้คับ




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2554    
Last Update : 20 มิถุนายน 2554 21:12:50 น.
Counter : 132 Pageviews.  

วันนี้เมื่อสามปีที่แล้ว

Smileyอ๊อตโต้รู้มั้ยครับว่า ในวันนี้เมื่อสามปีที่แล้ว มีคนร้องไห้เพราะหนูกี่คนSmiley




 ย้อนๆๆไปซักกะนิดส์...Smiley




19 มิถุนายน 2551  ....คุณหมอนัดตรวจที่คลินิคผาติเวช นัดปรกติ คุณแม่ก็นั่งแท๊กซี่ไปเองค่ะ คุณหมอที่น่ารักของเรา ตรวจท้อง ตรวจภายใน และอื่นๆอีกมากมายตามปกติSmiley




Smileyคุณหมอ // "คุณแม่สบายใจได้นะครับ ยังไม่คลอดเร็วๆนี้หรอก น่าจะอีกสองอาทิตย์ เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาหาหมออีกทีนะครับ"


Smileyคุณแม่ // "ยังใช่มั้ยค่ะ แหมดีเลย.." (จะไปแรดต่อนั่นเอง)




ด้วยความที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวค่ะ คุณพ่อยังติดงานอยู่ที่ภูเก็ต คุณน้าเล็กติดงานอยู่แถวๆภาคกลางนี่แหล่ะ ส่วนคุณยายก็อยู่เตรียมงานตักบาตรพระ 11,111 รูปที่โคราช 


คุณปู่กับคุณย่าก็นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมที่ภูเรือจ.เลย




พอได้คำรับรองจากคุณหมอก็โทรรายงานทุกๆท่านที่เกี่ยวข้องค่ะ เรียบร้อย


และแล้วว่าที่คุณแม่ตัวดีก็โทรหาเพื่อนจ๋าค่ะ เดินเล่นเซ็นทรัลลาดพร้าว พร้อมข้าวเย็น 1 มื้อ(ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น โออิชิราเม็ง) 


บทสนทนากับคุณเพื่อนที่น่ารักพูดอย่างเป็นห่วงมากมาย


Smileyเพื่อนจ๋า "แก ท้องใหญ่ใกล้คลอดแล้วยังมากระโดดโลดเต้นไหวอีกเนอะ"


Smileyเพื่อนยุ้ย "โอ๊ย สบาย หมอบอกว่าจะคลอดอีสองอาทิตย์โน่น"


Smileyเพื่อนจ๋า "แล้วเพื่อนไม่ปวด ไม่เมื่อย ไม่...โน่นนี่นั่น" (จะเม้าท์ทำไม๊ ชั้นก็เดินกะแกอยู่เนี่ย)


Smileyเพื่อนยุ้ย "เก่งป่ะหล่ะ"




ว่าแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ว่าที่คุณแม่เดินทางโดยรถใต้ดิน ต่อด้วยรถไฟฟ้า ต่ออีกทีด้วยแท๊กซี่


กลับบ้าน อิ่มข้าวแล้ว นอนอ่านหนังสือ แล้วก็นอนดีกว่า




ตีสอง....... Smiley




เฮ้ย  !!!!  ฉี่รดที่นอนเปล่าว่ะ....หรือว่าน้ำเดิน......เอาไงดี อยู่คนเดียวนอนต่อดีกว่า


อีกสิบนาทีต่อมา  อ้าว ไม่ได้ฉี่นี่นา  อย่างนี้สงสัยน้ำเดิน มั้ง ทำไมไม่ปวดท้องเลยอ่ะ


Smileyโทรหาแม่ดีกว่า


ตรู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีคนรับ    แหน่ะ..ไหนว่าให้โทรได้ตลอดเวลาอ่ะ


Smileyโทรหาที่รักก้อด้ายยยยย   


ตรู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ   ไม่รับ  เอาใหม่  ตรู๊ดๆๆๆๆๆ  หา..ว่าไงค่ะ  (บราๆๆ)


"โทรไปโรงบาลเดี๋ยวนี้เลยยุ้ย ชัวร์"


"หนายว่ะเบอร์โรงบาล"


"สวัสดีค่ะ ห้องคลอดเหรอค่ะ คืออย่างนี้ค่ะ......."


"อ๋อค่ะ คุณแม่มาโรงพยาบาลด่วนเลยนะคะ ใกล้คลอดแล้วค่ะ"


ตึงๆๆๆ  อึ้งๆๆๆ


โทรบอกที่รักอีกทีว่าเค้าไปโรงบาลนะ หมอบอกว่าต้องไปด่วน


วางโทรศัพท์ปุ๊บ โทรบอกน้องนุ้ย    "นุ้ยคับไปเรียกแท๊กซี่นะ พี่จะไปคลอดน้องแล้ว แต่ไม่ต้องรีบเดี๋ยวอาบน้ำก่อน"


น้องเราก็ตื่นเต้นออกไปเรียกแท๊กซี่


คุณแม่ก็ชิวมากนะลูก อาบน้ำแต่งตัวสวยเสร็จแล้วก็เดินลงมาข้างล่าง (ตอนนั้นอยู่ชั้นสาม)


แท๊กซี่ก็จอดรออยู่ อย่างตื่นเต้น คนขับนะตื่นเต้น แม่เปล่า..


จากพระรามสอง...ถึงโรงพยาบาลรามาธิบดี อย่างรวดเร็ว (ขนาดบอกว่าไม่ต้องรีบนะพี่ ไม่ปวดเท่าไหร่ หมอให้รีบไปเฉยๆ)




ตีสาม......Smiley




มาคลอดใช่มั้ยครับ (บุรุษพยาบาลผู้ให้บริการรถเข็น ณ จุดฉุกเฉิน) นั่งเลยครับๆ พร้อมเข็นมาให้เสร็จสรรพ


ไอ้เราก็เขิลๆ เกิดมาไม่เคยนั่งรถเข็น "เอ่อ เดินไปเองก็ได้ค่ะ" (ก็ยังเดินไหวอ่ะเนอะ)


ไม่ได้หรอกครับ เชิญนั่งดีกว่า  (นั่งก็ได้ฟร่ะ รถเข็นเย็นเจี๊ยบ แอร์ก็เย็น มืดก็มืด น่ากลัว)


เมื่อถึงห้องตรวจ "ญาติรอข้างนอกค่ะ" (แอบสงสารน้องนิดส์นึง มืดจริงๆอ่ะ)


พยาบาลเค้าก็บอกให้เราขึ้นเขียง เอ้ย ขึ้นเตียงตรวจ  ก็..ต้องทำตามค่ะเพราะว่าเราไม่เค้ย ไม่เคย


ตรวจเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็....คลอดได้ค่ะ.....(บอกทำมาย ก็จะมาคลอดอ่ะ)


ก็ให้เราเปลี่ยนชุดโรงบาล เค้าบอกให้ถอดให้หมดด้วยนะ ชั้นนงชั้นในเอาใส่ถุงกระดาษกลับบ้านให้หมด


โทรศัพท์ กระเป๋าตังค์ ไม่ให้เอาอะไรไว้เลยอ่ะ (แล้วจะโทรบอกสรรพญาติยังไงอ่ะ ญาติเยอะม้ากอยู่ด้วย)


สุดท้ายก็หมดหนทางค่ะ เพราะว่าเราต้องเชื่อฟังเค้าเลยต้องทำตัวดีๆไว้ก่อน




ตีสามครึ่ง.........Smiley




หลังจากโดนโกน โดนสวน โดนโน่นนี่นั่น ทุกสิ่งทุกอย่าง  ก็โดนไล่ให้ไปนอนค่ะ  นอนค่ะนอนยังไม่คลอดง่ายๆหรอกค่ะ ประมาณ 10-12 ชั่วโมง


โห ไอ้เราก็ตื่นเต้น บอกให้รีบมา รู้งี้นอนต่อที่บ้านก็ดี......




ต่อภาคสองดีกว่าเนอะลูกเนอะ มีอีกเยอะเลย








Free TextEditor




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2554    
Last Update : 20 มิถุนายน 2554 19:55:27 น.
Counter : 269 Pageviews.  

จะวันเกิดครบสามขวบแล้วครับผ้ม

วันที่ 20 มิถุนายน ก็จะครบรอบ 3 ขวบของอ๊อตโต้ครับ




วันแรกที่เกิดมา ตาแป๋วซ๊ะ



พยายามที่จะให้นมลูกเอง ให้ลูกเรอ กลับกลายเป็นเหมือนจะทำลูกหายใจไม่ออก ไม่น่าเชื่อว่าตอนที่ลูกเกิดมาจากท้องเรา มันจะตัวเล็กๆๆๆๆขนาดนี้ได้

พอมันโตขึ้นเรื่อยๆๆๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะอออกมาจากท้องเรา เคยนอนขดตัวดุ๊ดดิ๊ก

ตอนออกมาก็ร้องไห้แงๆๆๆ

เลี้ยงลูกไปๆมาๆไม่นาน เวลาผ่านไปเดี๋ยวไว เดี๋ยวช้า
สรุปว่า วันนี้มันจะ 3 ขวบแล้วค้าบ

วันเสาร์นี้ก็คงประเดิมพาลูกชายสุดที่เลิฟไปทำบุญๆๆถวายภัตตาหาร ปล่อยโค ปล่อยปลา เฉลิมฉลองวันเกิดซะหน่อย แล้วก็...

กินเลี้ยงอะไรดีน้า


วันเกิดลูกกิน..จิ้มจุ่มดีก่า




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2554    
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 17:05:03 น.
Counter : 329 Pageviews.  

1  2  
 
 

otto&mom
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add otto&mom's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com