• ครอบครัวสุขสันต์ เที่ยวกันพร้อมหน้า
• กิจกรรมคุณลูก
• มุมคุณแม่

ให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก ไม่ต้องใช้เงินสักบาท การให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก หมายถึงการใช้เวลาอยู่กับลูก แบบตัวต่อตัว การให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก เกี่ยวกับเวลา ไม่ใช่เงิน การให้เวลากับลูก ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสักแดงเดียว หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า การให้เวลากับลูก หมายถึง การไปเที่ยวในที่ต่าง ๆ, ทำกิจกรรม หรือไปงานต่าง ๆ แต่การท่องเที่ยว การชอปปิ้ง และกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่ใช้เงิน ไม่ใช่สิ่งที่หมายถึงการให้เวลาที่มีคุณภาพแก่ลูก อะไรคือสิ่งที่ลูกต้องการจากคุณ นั่นก็คือ การได้รับความเอาใจใส่ ด้วยความรัก ทุก ๆ วัน ถึงแม้วัน ๆ หนึ่ง คุณจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม คุณจำเป็นต้องแบ่งเวลาที่มีคุณภาพให้แก่ลูกคุณ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ให้เวลาที่มีคุณภาพแก่เค้าอย่างน้อย สามสิบนาที ทุก ๆ วัน เวลาลูกนั่งเล่นที่พื้น ก็นั่งลงที่พื้นนั่นแหล่ะ เล่นกับลูก แล้วก็อ่านหนังสือให้เค้าฟังก่อนนอน (ถึงแม้จะมีคนโทรมา ก็ไม่ต้องรับ พวกงานบ้าน งานอื่น ๆ รอได้ เอาไว้ทำทีหลัง) การให้เวลาที่มีคุณภาพแก่ลูกนี้ เป็นโอกาสที่คุณได้ใช้เวลาอย่างใกล้ชิดกับลูก ช่วยให้คุณกระชับความสัมพันธ์กับลูกอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่คุณกับลูกใช้เวลาร่วมกัน เป็นโอกาสที่ลูกจะได้ - พัฒนาทักษะการพูด และทักษะต่าง ๆ อื่น ๆ - เล่าบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเค้าระหว่างวัน - บอกเล่าปัญหาของเค้า ถ้ามี - ลูกจะรู้สึกว่าเค้ามีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ข้อควรระวัง ช่วงเวลานี้ไม่ควรดูทีวี หรือเล่นคอมพิวเตอร์กับลูก อาจจะเป็นการใช้เวลาตัวต่อตัวกับลูกก็จริง แต่คุณกับลูก ต่างก็ให้ความสนใจไปที่จอสี่เหลี่ยม แทนที่จะให้ความสนใจแก่กันและกัน แทนที่จะดูทีวีหรือเล่นคอมพิวเตอร์ ควรทำกิจกรรมเหล่านี้แทน - เล่นของเล่นที่ลูกโปรดปราน - เล่นเกมส์ - ต่อจิ๊กซอ หรือ ปริศนาเชาว์ต่าง ๆ - วาดรูป หรือระบายสี ร่วมกัน การให้เวลาที่มีคุณภาพแก่ลูก ใช้เวลา ไม่ใช่เงิน จำได้ไหม ตอนที่เรายังเป็นเด็ก ๆ เราได้รับของขวัญอะไรบ้าง หรือพ่อแม่พาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง แทบจะจำไม่ได้เลย เช่นเดียวกันกับลูก กิจกรรมเล็ก ๆ น้อยที่กล่าวมาข้างต้น คุณอาจจะคิดว่า "มันไม่เห็นมีอะไรเลย" แต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกณจำได้เมื่อเค้าโตขึ้น มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเค้าทันที จำได้ไหม คุณช่วยพ่อคุณซ่อมรถหรือช่วยแม่คุณทำกับข้าว บางทีก็อ่านหนังสือด้วยกัน ไปปีนเขา ร้องเพลงในรถ คุณพ่อสอนคุณขี่จักรยาน หรือสอนว่ายน้ำ บางทีอาจจะเล่นไล่จับกัน อาบน้ำให้หมา ไปเล่นสระว่ายน้ำกัน หรือพ่อกับแม่พาไปกินไอติม หรือบางทีคุณแม่กับคุณอาจแอบแลกเปลี่ยนความลับกัน หรือเล่าเรื่องวัยเด็ก ๆ ของท่าน ให้คุณฟัง ถ้าคุณทำดีท่านชมเชย กอดคุณ หอมแก้มคุณ ทำให้คุณรู้สึกดีและรู้สึกคุณมีความสำคัญต่อท่าน นี่แหล่ะคือสิ่งดี ๆ ที่เราจำได้จากวัยเด็ก และตอนนี้ก็ถึงคราวที่คุณจะทำสิ่งนั้นแก่ลูกของคุณบ้าง "ทำไมไม่ฟังหนูเลย" ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนจำเป็นจะต้องฝึกทักษะการฟัง หลาย ๆ คน รู้ว่าควรถามคำถามอย่างไร แต่ไม่สนใจฟังคำตอบ "ทำไมไม่ฟังเลย" ใช้ได้กับทั้งสองฝ่าย ทั้งลูกและพ่อแม่ จะต้องรู้จักรับฟัง เรียนรู้การใช้คำที่ถูกต้องและวิธีที่ดีที่สุดในการพูดจากัน ซึ่งจะต้องใช้เวลา มั่นฝึกฝนและยึดมั่นกับวิธีนั้น ช่วงเวลาที่คุณให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก นี่แหล่ะ เป็นช่วงที่คุณและลูกสามารถ ฝึกฝน วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ คุณต้องแสดงให้เห็นว่าลูกมีความสำคัญ มองเค้าตลอดเวลาที่เค้าพูด ซึ่งนั่นหมายถึงคุณกำลังฟังเค้าจริง ๆ ถ้าคุณสื่อสารกับลูกได้ดี จะ - เป็นการสอนลูกว่า เค้าปลอดภัยที่จะมาหาคุณ เมื่อเค้ามีปัญหาหรือตกที่นั่งลำบาก - ช่วยคุณรู้คำพูดที่ควรพูดกับลูก เมื่อถึงเวลาคับขัน - ช่วยให้คุณช่วยลูกได้ทันท่วงที เมื่อมีบางอย่างผิดปกติ เกี่ยวกับเค้า - ช่วยให้ลูกรู้ว่าคุณรักเค้ามากแค่ไหน ไม่ว่าเค้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรจำ - พยายามอยู่ในระดับเดียวกันลูก ถ้าเค้านั่งกับพื้น ก็นั่งกับพื้นด้วย - ร้องรำทำเพลง เต้นแร้งเต้นกา โอบกอดเค้า และอ่านหนังสือให้เค้าฟัง - เล่นกับตุ๊กตา หรือรถถัง หรือของเล่นอื่น ๆ กับเค้า - ทำให้ลูกรู้สึกว่าเค้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและคุณใส่ใจเค้า - ทำอะไรบางอย่างที่คุณคิดว่าจะทำให้เค้ารู้สึกดี อย่างเช่น เขียนจดหมายรักถึงลูก อ่านให้เค้าฟัง แล้วเก็บไว้ในสมุดแห่งความทรงจำที่คุณทำไว้ให้เค้า แปลจาก ใบความรู้ของ Noodle Soup เรื่อง Positive parenting Quality time with children   Create Date : 24 มกราคม 2552     Last Update : 24 มกราคม 2552 4:23:16 น. Counter : 444 Pageviews.   5 comment Share Tweet

เกล็ดเล็กเกร็ดน้อย ในการสร้าง self-esteem ให้แก่ลูก กล่าวชมลูก ชี้ให้เห็นสิ่งดี ๆ ที่เค้าทำ อย่ากล่าวย้ำในสิ่งที่เค้าทำได้ไม่ดี ยอมรับ ไม่ว่าเค้าจะ สำเร็จหรือล้มเหลว ใช้คำพูดอย่างเช่น "ขอบใจจ้ะที่ช่วยคุณแม่" "หนูดีที่สุดเลย" "หนูเป็นคนพิเศษสำหรับแม่นะ" "วันนี้หนูดูดีจังเลย" "เก่งมาก ๆ เลยจ้ะ" หรือ "แม่ภูิมิใจในตัวหนูมากเลย" อย่าคาดหวังมากเกินไป ช่วยลูกวางเป้าหมายในสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ ไม่ล้อเลียน หรือ ทำให้ลูกรู้สึกต่ำต้อย ไม่ตัดสินลูกหรือทำให้ลูกกลัวที่จะบอกความรู้สึกอันแท้จริง ถกปัญหา โดยปราศจากการโยนความผิดให้ผู้ใดผู้หนึ่ง อธิบายกฏ ให้ลูกเข้าใจ และปฏิบัติตามนั้น แต่อาจจะหยวน ๆ ได้ ถ้าจำเป็นต้องทำ เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูก แสดงให้ลูกเห็นว่าคุณรู้สึกดีกับตัวคุณเองเช่นกัน อย่าบ่นเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีของตัวเองให้ลูกฟัง เช่น "ทำไมฉันอ้วนจังเลย" บลา บลา บลา ให้ลูกรับผิดชอบอะไรสักอย่าง เค้าจะรู้สึกว่ามีประโยชน์ และมีคุณค่า ให้เค้ามีส่วนในการตัดสินใจ รับฟังความคิดเห็นและตัดสินใจจากเหตุผลทั้งของคุณและลูก พร้อมเสมอตลอดเวลา สนับสนุนและอยู่ตรงนั้น เมื่อลูกต้องการคุณ ใช้เวลาร่วมกัน หากิจกรรมโปรดทำร่วมกันกับลูก ไปงานโรงเรียนของลูกเวลาเค้ามีกิจกรรม แสดงให้เค้าเห็นว่าทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างที่เค้าทำมีความสำคัญกับคุณ แสดงให้เค้ารู้ว่าคุณรักเค้าในสิ่งที่เค้าเป็น เค้าเป็นเด็กเก่งสำหรับคุณ ให้ความรักมาก ๆ และกอดเค้าเยอะ ๆ ที่มา: แปลจากแผ่นความรู้ของ Noodle Soup   Create Date : 22 มกราคม 2552     Last Update : 22 มกราคม 2552 8:35:22 น. Counter : 258 Pageviews.   3 comment Share Tweet

การสร้าง self-esteem ให้แก่ลูก Self-esteem หรือการเคารพในตนเอง คือความรู้สึกที่มีต่อตัวเอง เราในฐานะที่เป็นพ่อแม่ ก็มีหน้าที่ในการช่วยให้ลุกมีความเคารพในตนเอง เด็กที่มีความเคารพในตัวเอง * คิดว่า สามารถประสบความสำเร็จ * คิดว่า ตนเองดูดี * คิดว่า ตนเองเป็นคนที่คนอื่นมีความสุข เมื่ออยู่ใกล้ ๆ * ไม่กลัวที่จะลองทำ สิ่งใหม่ ๆ * เชื่อในตัวเอง และรักตัวเอง * รู้สึกปลอดภัยและกล้าที่จะแสดงความรู้สึกของตนเอง การที่เราปฏิบัติกับลูกมีผลกับตัวลูก ตั้งแต่ตอนเค้ายังเล็ก ๆ ทารก เรียนรู้ว่า ร้องไห้ กับยิ้ม ทำให้พ่อแม่มาใกล้ ๆ เมื่อพ่อแม่ปลอบเค้า หรือยิ้มตอบ ทารกจะรู้สึกดี เค้าจะมีความรู้สึกเชื่อใจและรู้สึกปลอดภัยและมีความสำคัญ สิ่งที่พ่อแม่ ควรพูดหรือไม่ควรพูด กับ ลูก วัย Toddlers ควรชมเชย ตักเตือน ยิ้มและแสดงความรู้สึก กอดเค้า ซึ่งจะมีผลกับเค้ามาก ๆ วัยเข้าเรียน ถ้าลูกมีความรู้สึกดี ๆ ต่อตนเอง เค้าจะสามารถเรียนรู้ได้ดีที่โรงเรียนและสามารถเข้ากับเพื่อนได้ เด็ก ๆ มักจะลองทำสิ่งที่ทำให้เค้ารู้สึกว่าเค้าประสบความสำเร็จ อีกทั้งหาแนวร่วมที่เค้าคิดว่าจะช่วยป้องกันเค้าจากความตึงเครียด และผุ้นั้นจะต้องรู้สึกดี ๆ กับเค้าด้วย ถึงแม้ว่าเค้าทำได้ไม่ดีก็ตาม ถ้าพ่อแม่ ตะคอกลูกมาก ๆ และทำให้เค้ารู้สึกแย่หรืออับอาย เด็กจะมี ความเคารพในตัวเองน้อยลง ธรรมชาติของเด็กเค้าไม่เคยคิดเลยว่า เค้าขี้เหร่ โง่ หรือขี้แพ้ หรือ ไม่มีใครรัก จนกระทั่ง ผู้คนที่อยู่รอบข้างทำให้เค้ารู้สึกอย่างนั้น พ่อแม่ต้องห้ามตัวเองจากการพูดในสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเด็ก อย่างเช่น "แกเป็นอะไรของแกนักหนา" "แกสมควรที่จะละอายตัวเองนะ" "แกนี่ โง่จริง ๆ เลย" "ทำไมไม่เคยทำอะไรให้มันถูก ๆ ซะทีนะ" "หุบปากไปเลยนะ" และหลีกเลี่ยง คำพูดเกี่ยวกับบุคลิกภายนอก คำพูดเหล่านี้ เจ็บปวด พอ ๆ กับตี หรือ ตบ ลูก ทีเดียว และจะทำให้เค้ารู้สึกแย่ ๆ กับตัวเค้า ไปอีกนานเท่านาน การเฉยเมย หรือไม่ใส่ใจ ลูก ก็เป็นอีกสาเหตุทำให้ ความเคารพในตัวเองของลูกลดลง เช่นเดียวกับการทำให้ลูก รู้สึกเศร้า หรือว้าเหว่ ในทางกลับกัน พยายามทำให้บ้านของคุณเป็นเหมือนกัน "เขตปลอดการขายหน้า" ทำให้บ้านเป็นที่ ๆ ปลอดภัยสำหรับลูกของคุณ ในการแสดงความรู้สึกของเค้า ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ที่เค้ารู้สึก   Create Date : 22 มกราคม 2552     Last Update : 22 มกราคม 2552 3:43:16 น. Counter : 384 Pageviews.   8 comment Share Tweet

• dentton
• หมวยน้อยร้อยชั่ง
• หลังคาดำแดง
• Napassawan
• orria
• ผู้ชายคิดบวก
• scorpionfish
• macdreamnurse
• Lawanwadee
• Webmaster - BlogGang

• ร้านของเราจ้า
• สอนลูกอ่าน
• BlogGang.com