ตอนที่สอง ยิ่งแย่กว่าเดิม
3 july 2010

จัดปาร์ตี้เด็กวันนี้สนุกมากนึกว่าต้องเครียดแน่เลยกลับไม่แม้แต่นิดเดียว แต่สุดท้ายก็ต้องมาเหนื่อยหลังจากงานจบ กลับบ้านสามทุ่มครึ่งเพราะอยู่ช่วยเค้า แล้วแวะไปเล่นคอม พอกลับมาตอนเกือบตีสามได้เค้าเดินมาส่งสวนกับลูกพี่ลูกน้องเลยถามไปไหนเค้าบอกกลับบ้าน ก็ไม่เอะใจนะพอตอนเดินเข้าบ้านมามีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ เราเริ่มกลัวแล้วหล่ะ แต่รีบเดินมาสองคนก็เหอะ น่ากลัว เค้าถามมีบุหรี่ไหมเรายิ่งกลัวเพราะมันเกิดขึ้นมาแล้วพอเข้าบ้านเราเลยให้เพื่อนชายมารอข้างบนพอสักตีห้าค่อยกลับมาเห็นน้าทั้งสองคนนั่งอย่าบอกว่าลูกพี่ลูกน้องเมาจะกลับบ้าน พอเค้าเมาแล้วเหมือนคนบ้า
เราเลยถามว่าบอกพี่วิยัง เลยรู้เรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย โจร ขึ้นบ้านเราตกใจมากแต่ตอนนี้ต้องส่งเพื่อนกลับก่อนเลยขอให้น้าช่วยลงไปเป็นเพื่อนเพราะก่อนหน้านี้เค้าเดินมาส่งเราแล้วเจอวัยรุ่นสี่คนมันเดินมาขอบุหรี่ เค้าบอกไม่มีมันเลยต่อยหน้าเค้าแล้วแย่งโทรศัพท์ไป ตอนนั้นเราไม่รู้พอขึ้นห้องแล้วมีสายเข้าเป็นเบอร์เค้าเราก็รับเรานึกว่าเค้าก็คุยด้วย มันบอกว่าเราเลิกกันเหอะ เราถามทำไมพูดงั้นมันรู้สึกแปลกสำเนียงไม่ใช่แต่ไม่คิดทางร้าย มันบอกว่าเธอดีเกินไป เราถามว่าอยู่ไหน มันบอกว่าเซเว่นเราได้ยินเสียงนึกเค้าไปซื้ออะไรกินแต่ไม่ มีเบอร์02...โทรมาเราเลยเริ่มคิดสิ่งร้ายขึ้น มันเป็นจริงเค้าโทรมาเล่าให้ฟังว่าโดนต่อยแล้วแย่งโทรศัพท์เรามือสั่นทำอะไรไม่ถูกบอกให้เค้ารออยู่หน้าร้านวีดีโอปากซอยเค้า รู้ไหมมันยิ่งเจ็บปวดเพราะไอ้เลวนั่นมันโทรมากวนเรา เหมือนตอกย้ำมากๆๆ แล้วเราโทรแจ้งตำรวจบอกว่าเค้าอยู่ตรงไหนตำรวจไปถึงก็สอบปากคำแล้วบอกว่า จะไปดูให้แล้วกัน แค่นี้เหรอที่พึ่งของเรา ตอนเช้าเรารีบออกจากบ้านเจอเค้ารออยู่เราถามว่าเป็นไงบ้าง เห็นรอยช้ำที่จมูกเค้าพูดแค่ว่าดีนะที่ตัวเองไม่อยู่ตรงนั้นถ้าอยู่แล้วมีเรื่องอะไรคงแย่ เรื่องนี้ผ่านมาสองปีแล้ว แต่มันยังอยู่ในหัวเราตลอดเราเป็นคนขี้ระแวงขี้กลัวไปหมด แต่ก่อนเราชอบเลิกงานดึกแล้วมีวันหนึ่งประมาณตีหนึ่งมั่งก็เดินกลับบ้านปกติอยู่มาก็เจ็ดปีแล้วแต่ก็ระวังมองตลอด ตอนเดินผ่านหน้าคาร์ฟู มันมีมอเตอร์ไซด์มาจอดแล้วคุยโทรศัพท์เสียงเหมือนตั้งใจให้ได้ยิน มันบอกเดี๋ยวเจอกันที่โรงพักแล้วกัน เรารีบเดินมันโผล่มาตรงตู้โทรศัพท์แล้วบอกว่าเป็นตำรวจตรวจยาเสพติดย์จะขอค้นตัว มีมาถามอีกนะว่าเหมือนน้องกลัวๆพี่ เราก็เลยบอกว่าใช่ แล้วตอนนั้นไม่มีรถผ่านสักคัน ไฟตู้โทรศัพท์ก็ไม่ติด ไม่มีคนเดินผ่านเลย หน้าประกันสังคม เราเลยให้มันค้นตัว รู้สึกมันจับตรงด้านข้างหน้าอก แล้วมีการพูดอีกว่ากลัวมีที่ซ่อนตรงนี้เราไม่เชื่อแต่ถ้าขัดขืนอาจอันตรายกว่าเดิม หลังจากนั้นเรารีบเดินกลับเข้าบ้า ล็อคลูกกรงเหล็กข้างนอกแล้วมันโผล่หน้ามาแล้วถามว่าอยู่ที่นี่เหรอ เลยตอบว่าค่ะ มันถามอยู่ก็คนก็เลยบอก พี่สาวพี่เขยน้าชายน้าสาวแล้วก็คนงานที่เป็นผู้ชายอีกสามคน มันก็เลยไป หลังนั้นเราโทรแจ้งตำรวจ เค้าถามเราว่าจำอะไรได้บ้างเรามองไม่ชัด มันมืดเราสายตาไม่ดีรู้แต่ร่างท้วมใส่ชุดดำรถสีดำไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร เค้าบอกว่าถ้าตำรวจค้นตัวผู้หญิงต้องเป็นตำรวจหญิงเท่านั้น เราโทรหาเค้า เค้าบอกว่าต่อไปนี้ตัวเองจะมีเค้าตลอด เรื่องทำให้เกิดเรื่องกับเค้าเพราะเค้ามาส่งเรา เราเลยขอให้น้าลงไปส่งดูจนเค้าข้ามถนนไปแล้ว โทรหาพี่สาวพี่บอกว่าพี่เขยไปงานวันเกิดลูกเพื่อน พี่กลับมาประตูบ้านเปิดเลยตกใจขึ้นไปดูของโดนรื้อค้นกระจายมันยกเซฟที่พี่ใส่ทองใส่เพชรไปทั้งอันดีนะที่เค้าไม่เจอโจร เค้ารีบโทรหาพี่เขย เค้าเครียดมาก น้องสาวที่นอนข้างๆก็ไม่รู้เรื่องบ่นอยู่ได้ว่าจะนอน เพราะเราเดินไปเดินมาหารีโมทโทรทัศน์เราต้องดูดูเดี๋ยวนี้ เราเครียดมาก น้องเลยบอกว่าจะนอน เราเลยว่าไม่รู้หรือไงว่าพี่สาวโดนโจรขึ้นบ้าน ทอง เพชร เกือบแสน มันขโมย สามหลัง รปภ มีหน้าที่เปิดประตูอย่างเดียวเราเครียดจนนอนไม่หลับโทรไปเล่าให้ใครฟังเค้าก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก ไม่เจอกับตัวไม่มีใครรู้หรอก ทุกอย่างมันเกิดติดๆๆกันมากเกินไปเราแทบรับไม่ไหวแล้ว เราทั้งโกรธทั้งเกลียดคนพวกนี้ บ้านเราอยู่ห่างจากสถานีตำรวจแค่ไม่ถึงกิโล หมู่บ้านพี่สาวก็ขายห้าล้านเศษถึงจะไกล แต่ความปลอดภัยหล่ะ จ่ายส่วนกลางก็ไม่น้อยตอนนี้ก็รอให้น้องจัดการเรื่องฟ้องร้อง เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ แทบจะไม่เคยช่วยอะไรใครได้เลยด้วยซ้ำ นั่นแหละที่เจ็บปวดที่สุด



Create Date : 05 กรกฎาคม 2553
Last Update : 10 กรกฎาคม 2553 9:40:03 น.
Counter : 180 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

N_shushi
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]