|
ล้างหน้า สวย ใส แบบถูกวิถี (วันนี้คุณล้างหน้าถูกวิธีกันหรือยัง)
มารู้จักวิธีล้างหน้าแบบถูกวิธีกันเต๊อะ 
" รู้หรือไม่ว่าการล้างหน้าเป็นพื้นฐานการดูแลผิวหน้าที่สำคัญที่สุด การกำจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออก คงไว้ซึ่งผิวที่สะอาดบริสุทธิ์ เป็นหนทางนำไปสู่การมีผิวสวย มาเรียนรู้วิธีการล้างใบหน้าอย่างถูกขั้นตอน เพื่อให้ผิวสวยกำเนิดขึ้นบนใบหน้าคุณ "
การล้างหน้าซึ่งทำเป็นประจำทุกวันนั้นทำให้ลืมความ สำคัญที่แท้จริงไป สิ่งสกปรกที่ชะล้างออกไปไม่หมด เหลือตกค้างอยู่บนใบหน้า ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมาได้มากมาย การล้างหน้าที่กระทำอย่างถูกวิธีจะทำให้ระบบการผลัดเซลล์ผิวดำเนินได้อย่าง ราบรื่น ทำให้ผิวคงความเนียนสวยไว้ได้
ระบบการผลัดเซลล์ผิวหมายถึงการที่เซลล์ผิวใหม่ๆกำเนิด ขึ้นจากชั้นล่างสุด แล้วลอยตัวขึ้นมาเป็นชั้นๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ชั้นบนสุดของผิว และจะหลุดลอกออกไปกลายเป็นขี้ไคล หรือเซลล์ผิวเก่าๆ ที่ตายแล้ว ผิวที่เกิดใหม่จะขึ้นมาแทนที่ วงจรที่ดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้จึงเป็นรากฐานของผิวสวย ทำให้ผิวแลดูชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง มีสุขภาพดีนั่นเอง
ในทางกลับกันการล้างหน้าที่ไม่พิถีพิถันพอ ทำให้สิ่งตกค้างสะสมบนใบหน้าหรืออุดตันแน่นตามรูขุมขน จึงเป็นอุปสรรคต่อการผลัดเซลล์ผิว เกินปัญหาผิวกระด้าง สิวอุดตัน สิวเสี้ยน หรือปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำได้ในที่สุึด นอกจากนี้เซลล์ผิวเก่าที่ตกค้างอยู่มักจะขาดความชุ่มชื่น ทำให้ใบหน้าแห้งและเป็นต้นเหตุของการเกิดริ้วรอยได้
การล้างหน้าในทุกๆ วันจึงเป็นการจัดให้ระบบการผลัดเซลล์ผิวดำเนินไปอย่างปกติ ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้ผิวสวยและแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผิวพร้อมรับสารบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้ดีขึ้นด้วย
สิ่งสกปรกบนหน้า คือ???? สิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้าเกิดได้จากหลายๆปัจจัย ตามปกติผิวหน้าจะมีการขับน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกมาเคลือบผิวชั้นนอกเอาไว้ เพื่อรักษาความชุ่มชืนภายในผิว แต่เมื่อน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวเหล่านี้เกิดการเปลี่ยนแปลงถูกออกซิไดซ์ไป จะก่อให้เกิดสารที่เป็นอันตรายต่อผิวได้ สิ่งสกปรกภายนอกไม่ว่าจะเป็นผุ่นละออง ควันท่อไอเสียหรือรอยเครื่องสำอางที่เช็ดทำความสะอาดออกไม่หมด เมื่อสะสมบนใบหน้านานๆ เข้าก็ทำให้ระบบการทำงานของเซลล์ถูกระทบเช่นกัน
ข้อสำคัญคือหมั่นล้างทำความสะอาดใบหน้าทั้งเช้าและเย็น โดยเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวและใช้เพียงฟองครีมสัมผัสใบ หน้าอย่างอ่อนโยน

ประเภทของสิ่งสกปรกบนหน้าของเรา ><" จากภายในไขมัน มีหน้าที่ในการรักษาระดับความชุ่มชื่นและช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม แต่ถ้าตกค้างอยู่บนใบหน้านานเกินไป จะเปลี่ยนสภาพและเป็นสาเหตุให้ผิวร่วงโรยเร็วขึ้นเหงื่อ เป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แต่ถ้ามีมากเกินไปจะทำให้เสียสมดุล pH ของผิวได้ เซลล์ผิวเก่า ระบบผลัดเซลล์ผิวที่ดำเนินไปอย่างไม่ปกติ เป็นสาเหตุให้เกิดการตกค้างของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวแลดูหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื่นอันเป็นต้นเหตุของปัญหาสิวและริ้วรอย แบคทีเรียบนผิว ช่วยป้องกันผิวจากเชื้อแบคทีเรียภายนอกต่างๆ แต่ถ้าทำปฏิกิริยากับไขมันที่ตกค้างบนใบหน้าจะเป็นสาเหตุให้เกิดสิวอักเสบได้ ฝุ่นละออง ควัน ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว ทำให้เกิดการอักเสบหรือแพ้ต่างๆ แบคทีเรีย เชื้อรา ต้นเหตุของโรคที่เกิดกับผิว เครื่องสำอาง ตกค้างอยู่บนใบหน้าเนื่องจากการทำความสะอาดออกไม่หมดจะไปขัดขวางการทำงานของ ระบบผลัดเซลล์ผิว สิ่งสกปรกต่างๆ เมื่อตกค้างอยู่บนผิวหน้าจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา อันจะก่อให้เกิดปัญหาสิว ผิวหมองคล้ำ หรือปัญหาริ้วรอยเป็นต้น จึงควรทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจดอยู่เสมอ สิ่งสกปรกนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Water - base และ Oil - base สิ่งสกปรกจำพวก Water - base สามารถทำความสะอาดออกได้ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า แต่สิ่งสกปรกจำพวก Oil - base เช่น เครื่องสำอางหรือครีมกันแดดจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกคลีนซิ่งทำความสะอาด ใบหน้าเสียก่อน จึงค่อยเข้าสู่กระบวนการล้างหน้าในขั้นตอนต่อไป

ล้างหน้าด้วยโฟม แบบถูกวิธี วิธีการล้างหน้าด้วยฟองสบู่นั้นเชื่อกันว่ามีประสิทธิภาพมากและล้าง สิ่งสกปรกออกได้อย่างหมดจด ยิ่งฟองครีมละเอียดเล็กเท่าไร พื้นที่ผิวในการดักจับสิ่งสกปรกก็จะเพิ่มมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามฟองสบู่ที่ใหญ่จะมีพื้นผิวสัมผัสกับสิ่งสกปรกได้น้อยกว่า จึงอาจชะล้างออกไม่หมด และฟองสบู่ใหญ่ๆ ยังมีข้อเสียคือแตกง่ายอีกด้วย จึงควรถูให้เกิดฟองครีมเล็กละเอียดจนมีปริมาณมากพอ ผิวหน้าเปราะบางและละเอียดอ่อนมาก อ่อนไหวได้ง่ายกับสิ่งกระตุ้นต่างๆ จึงควรใช้ฟองสัมผัสอย่างเบามือ การขัดถูใบหน้าแรงๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจก่อให้เกิดรอยเล็กๆ บนผิวหน้าซึ่งอาจเป็นช่องเปิดให้ความชุ่มชื่นระเหยไป ทำให้ใบหน้าแห้งได้ง่ายขึ้น ไวต่อการถูกกระตุ้นจากรังสียูวีมากขึ้น ในกรณีที่ผิวหน้าถูกขัดถูเป็นประจำซ้ำไปซ้ำมาจึงทำให้เกิดการสะสมตัวของเมลา นินเป็นจุดด่างดำบนใบหน้าได้ วิธีที่ถูกต้องทำได้โดยไม่ต้องออกแรงขัดถู เพียงใช้ฟองครีมอันละเอียดอ่อนเป็นเหมือนตัวกลางระหว่างมือกับผิวหน้าและถู ให้ฟองสบู่กลิ้งไปมาเพื่อเป็นตัวจับเอาสิ่งสกปรกออกมาแทนนั่นเอง

เติมความชุ่มชื่นให้หน้าทันที
ภายหลังการล้างหน้า สิ่งที่สำคัญก็คือควรเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหน้าทันที เพราะสารเคลือบผิวตามธรรมชาติจะถูกชำระล้างออกไปด้วย ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ใบหน้าแห้งได้ ซึ่งกว่าสารเคลือบผิวนี้จะก่อตัวขึ้นมาใหม่ต้องใ่ช้เวลา 2 - 3 ชั่วโมง หลังการล้างหน้าจึงจำเป็นต้องเติมความชุ่มชื่นให้ผิวเพื่อใช้เป็นปราการ ป้องกันแทนสารเคลือบผิวตามธรรมชาติ โดยการเติมน้ำให้ผิวด้วยโลชั่น จากนั้นจึงบำรุงด้วยครีมน้ำนมในขั้นตอนต่อไป

วิธีการล้างหน้าด้วยฟอง การใช้ฟองอันละเอียดอ่อนสัมผัสกับใบหน้าแทนฝ่ามือ จะช่วยลดการเสียดสี ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองค่ะ 1. ล้างมือให้สะอาด มือที่ไม่สะอาดอาจจะทำให้เกิดฟองได้ยากกว่า จึงควรล้างให้สะอาดเสียก่อนและล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก่อนด้วย 2. เทคนิคการปั่นฟอง ใช้มือข้างหนึ่งรองผลิตภัณฑ์ล้างหน้าไว้ หยดน้ำลงไปทีละนิดแล้วเริ่มถูให้เกิดฟอง โดยมือที่รองอยู่ด้านล่างให้ห่องุ้มเหมือนถ้วย ส่วนมือด้านบนให้กวนฟองเร็วๆ โดยทำนิ้วให้บานออกเล็กน้อยเพื่อเปิดให้อากาศเข้ามาสัมผัสได้มากขึ้น 3. ใช้ครีมฟองนุ่มสัมผัสใบหน้า ใช้ครีมฟองเป็นตัวกลางลดแรงเสียดทานระหว่างมือกับใบหน้าจากนั้นลูบไล้ฟองให้ทั่วใบหน้า 4. ล้างหน้าด้วยน้ำตามไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง ล้างด้วยน้ำตามหลายๆ ครั้งจนสะอาด ตรวจดูกับกระจกให้แน่ใจว่าไม่มีคราบสบู่หลงเหลือ 5. ใช้ผ้าขนหนูค่อยๆ ซับน้ำออก หลังจากล้างหน้าเสร็จให้ใช้ผ้าขนหนูทีสะอาดค่อยๆ ซับน้ำออกจนแห้ง ไม่ควรถูไปมาบนใบหน้า จากนั้นควรบำรุงต่อโดยการเติมความชุ่มชื่นให้ผิวทันที
สิ่งละอันพันละน้อยเอามาฝากสาวๆที่รักความงามค่ะ
ขอบคุณเครดิตจาก เครื่องสำอาง DHC //www.dhc.co.th
Create Date : 21 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 21 ตุลาคม 2553 12:26:47 น. |
|
2 comments
|
Counter : 858 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: kika_kikaru วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:14:17:56 น. |
|
|
|
| |
|
ไม่ค่อยสะอาดเลย เอ..หรือว่าเราควรจะเปลี่ยนยี่ห้อโฟม
ดีคะเนี่ย..