Group Blog
 
All Blogs
 
[- LIFE -] โอ้ ชีวิต . . . คิดไฉน









หากเรายืนอยู่ในจุดที่ต่างกัน  มุมที่มองเห็นย่อมแตกต่างกันอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้ว่าสิ่งที่กำลังมองดูและอยากให้ปรากฏแก่สายตาคือสิ่งเดียวกันก็ตาม


LIFE บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่ทำหน้าที่ “รักษาชีวิต”

โดยมีจุดศูนย์กลางของเรื่องอยู่ในโรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยซังกุก

อันเป็นโรงพยาบาลชั้นนำติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศ

ไล่เรียงกันตั้งแต่ผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

โดยมีแกนหลักของเรื่องอยู่ที่ผู้บริหารสูงสุดที่จะนำพาโรงพยาบาล

ให้ดำเนินกิจการไปได้ตลอดรอดฝั่งและสร้างผลกำไรให้สูงที่สุดเท่าที่

ช่องทางจะมีให้ หรือหากช่องทางมันคับแคบติดขัดนักก็สร้างช่องทาง

มันขึ้นมาซะเองเลย  ทำทุกวิถีทางให้มันเกิดขึ้นให้จงได้



ซีรีส์เปิดซีนแรกด้วยการเสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติของผู้อำนวยการโรงพยาบาล

ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพรักของคนเกือบทั้งโรงพยาบาลบรรยากาศขมุกขมัวอึมครึมที่

เกิดขึ้น ในขณะที่เหล่าบุคลากรในโรงพยาบาลยังอยู่ในความมึนงงสงสัย

ตามติดมาด้วยประธานคนใหม่ของโรงพยาบาลที่ถูกส่งมาจากฮวาจองกรุ๊ป

กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่เจ้าของกิจการมากมายทั้งธุรกิจประกันชีวิต ผู้ผลิต

ผู้จัดจำหน่ายยา อาหารเสริมและล่าสุด เจ้าของรายใหม่ของ

โรงพยาบาลซังกุกแห่งนี้


แน่นอนว่าทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน

ย่อมส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตในโรงพยาบาล

โดยเฉพาะเหล่าแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิและท่านประธานผู้มาใหม่





อย่างไม่ลดราวาศอกของทั้งสองฝ่าย

ในนามของ“มนุษยธรรม” และ “ผลกำไรสูงสุด”

ไม่ใช่แค่ประเมินสถานการณ์แต่ตั้งป้อมอยู่บนจุดที่ตัวเองมองเห็นอย่างชัดเจน

และเชื่อมั่นว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดและหรือถูกต้องที่สุด การเผชิญหน้า 

การปะทะกัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้


แม้โรงพยาบาลจะได้ชื่อว่าเป็นสาธารณูปการของรัฐที่ดูแลและรับใช้ประชาชน

แต่โดยเงื่อนไขการบริหารการจัดการเปรียบไปไม่ต่างกับธุรกิจอื่นๆ

ที่ต่างมุ่งหวังผลกำไรและดิ้นรนให้หลุดพ้นจากภาวะขาดทุน

เพียงแต่นี่คือโรงพยาบาลที่เราไม่ได้กำลังพูดถึงบริการหรือสินค้าทันสมัย

รุ่นใหม่ล่าสุด  แต่คือการทำงานอยู่บน“ความเป็น-ความตาย”ของชีวิต


LIFE ที่ไม่ใช่ซีรีส์แนวการแพทย์อย่างที่หลายคนอาจเข้าใจ

แต่คือดราม่าที่พูดถึงเรื่อง“ชีวิต” แบบเน้นๆ 

ตามความหมายชื่อภาษาอังกฤษของเรื่อง






การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของนักเขียน Lee Soo-Yeon 

และนักแสดงหลักสามคน จากซีรีส์ที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งของปีที่แล้ว 

Secret Forest หรือ Stranger จากค่าย tvN  

นักแสดงหลักทั้งสามที่ต่างได้รับเสียงชื่นชมยกย่องจากการแสดง

ของพวกเขาคือ โจซึงอู, ยูแจ-มยอง และอี-คยูฮยอง 

ร่วมด้วยนักแสดงชายแถวหน้าอย่าง อีดงอุค นางเอกสาวหน้าใหม่มาแรง

อย่าง วอนจินเอ


เมื่อมารวมกับการกำกับจากผู้กำกับสายดราม่าชื่อชั้นดีงามHong Jong-Chan

เจ้าของผลงานอย่างDear My Friends, Live Up To YourName

ทำให้นักดูแฟนซีรีส์เกาหลีต้องตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นรอคอย




โจซึงอูหรือ โชซึงอู (ChoSeung-Woo) มารับบทเด่น ประธานกูซึงฮโย

ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง, มาดมั่นและมีประวัติการทำงานโดดเด่นเป็นเลิศ

มาถึงจุดนี้ไม่ใช่เพราะโชคช่วยหรือเกิดมาเป็นทายาทตระกูลใหญ่อะไร

แต่ด้วยความเก่งกาจสามารถของเขาล้วนๆ




เป็นอีกบทบาทการแสดงที่ท้าทายโจซึงอูแต่ก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง

นักแสดงผู้มีรางวัลรับประกันฝีมืออย่างเขา กูซึงฮโยเปิดตัวกับคนดูด้วยความแรง

และพร้อมชนทุกคนที่อยู่ในเส้นทางของเขาแม้ไม่ใช่ประเภทไม่ได้ด้วยเล่ห์

ก็เอาด้วยกล  แต่
สิ่งที่ทำให้คนดูลุ้นไปกับเขาตลอดทางก็เพราะความ 

เล่นตรงตรง ไม่โยกโย้โยนเกม ที่จะทำให้เขาได้หัวใจของคนดูไปครอง 

เผลอๆ จะได้หัวใจของหมอสาวไปด้วย


ฉากจบของfirst episode ที่ไม่ใช่การปรากฏตัวครั้งแรกในซีรีส์เรื่องนี้

แต่คือการเปิดตัวครั้งแรกของประธานกูซึงฮโยต่อหน้าเหล่าแพทย์และพยาบาล

ที่มารวมตัวกันเพื่อหาแนวทางในการรับมือประธานหนุ่มคนใหม่ของ

โรงพยาบาลซังกุก ในสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้น


สิ่งที่ฉันอยากขายในฉากนี้

นอกเหนือจากการแสดงของโจซึงอูเล่นละเอียด,ดีงามอย่างที่เห็น

ก็คืองานด้านเสียงทั้งดนตรีประกอบและเสียงอื่นๆ ที่ถูกใส่เข้ามาในฉาก

งานด้านภาพการเคลื่อนกล้อง มุมมองภาพแทนสายตา รวมกับการแสดง

ของโจซึงอู อากัปกิริยาทุกการเคลื่อนไหวของเขาซึ่งมีผลต่ออารมณ์

ความรู้สึกร่วมของผู้ชมอย่างมาก  จากที่อาจจะเป็นเพียงการต่อปากต่อคำ

กันธรรมดาๆ กลายเป็นการเผชิญหน้าที่ไม่ใช่การมาฝากเนื้อฝากตัว 

แต่คือการประเมินสถานการณ์ ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจน(และท้าทาย )


ส่วนตัวขอบอกว่าอีพีแรก จากที่ดูเรื่อยๆ มาตลอดชั่วโมง

จนมาถึงฉากที่เป็น“ฉากจบตอน” ฉากนี้ ฉัน “ตื่น” และ แทบจะหยุดหายใจ






อีดงอุค(Lee Dong Wook) ในบทคุณหมอเยจินอู แห่งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน

คุณหมอหนุ่มผู้เอาการเอางานบนท่าทีเรียบเฉยและมีสายสัมพันธ์กับคุณหมอ

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอย่างแน่นแฟ้น




นอกจากปมเรื่องครอบครัวที่เปิดตัวกันมาตั้งแต่ต้น

คุณหมอหนุ่มหน้าตามีความครุ่นคิดอะไรในใจอยู่ตลอดเวลา

อุบัติเหตุของครอบครัวในวัยเด็กที่ส่งผลรุนแรงในวันนั้นและตามต่อเนื่อง

มาจนถึงปัจจุบัน


คุณหมอเยจินอูหนึ่งในผู้ที่ยืนขึ้นเผชิญหน้ากับประธานกูซึงฮโย

คนที่บอกจะโยกย้ายหน่วยแพทย์ฉุกเฉินของเขาไปยังศูนย์แพทย์ชนบท

เพราะความไม่ทำกำไรแถมยังมีรายได้ขึ้นตัวแดงสามแผนกล่างสุดของ

โรงพยาบาล




ยูแจ-มยองในบท คุณหมอจูคยองมุน

หัวหน้าแผนกศัลยกรรมทรวงอกผู้ไม่เคยปฏิเสธคนไข้แม้แต่รายเดียว

ทำงานวันละ36 ชั่วโมงเพื่อทดแทนความขาดแคลนของแพทย์ในแผนก

หนึ่งเดียวที่ไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ซังกุก

คุณหมอผู้ทุ่มเทชีวิตและความสามารถทั้งหมดที่มีให้กับคนไข้ของเขา

ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวละครที่ไม่สนใจตำแหน่งแห่งที่อันมียศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ

เป็นหนึ่งในตัวละครที่คนดูจะรู้สึกใกล้ชิดและเป็นมิตรต่อจิตใจอย่างที่สุด

ราวกับจะพูดได้ว่าถ้ามีหมอแบบเขาเยอะๆ เราก็อุ่นใจทุกครั้งเมื่อไปโรงพยาบาล


โดยส่วนตัวของฉันรู้สึกผูกพันกับตัวละครนี้เป็นพิเศษ

การแสดงของยูแจ-มยองนั้นนิ่งแต่ลึก ขนาดโจซึงอูที่การแสดงโดดเด่นมากแล้ว

ซีนไหนที่ออกพร้อมกันทั้งสองคนบอกเลยว่าน้องโจก็กินพี่ยูไม่ลงค่ะ




วอนจินเอในบท คุณหมออีโนอึล

คุณหมอสาวแห่งแผนกกุมารเวชเรียกภาษาชาวบ้านว่า หมอเด็ก

เธอคือหมอรักษาเด็กที่ตัวเล็กและหน้าเด็กเหมือนเป็นเด็กซะเอง

เพื่อนผู้ใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณหมอเยจินอูแถมยังใกล้ชิดมาถึง

น้องชายคนเดียวของคุณหมอเยจินอูอีกด้วย


เมื่อเธอต้องทำงานใกล้ชิดกับเด็กนี่อาจมีส่วนที่ทำให้มุมมองของเธอ

ที่มีต่อประธานกูซึงฮโยจึงมีความเข้าอกเข้าใจมองตามความเป็นจริง

และเหมือนจะเอ็นดูอยู่นิดๆทั้งๆ ที่เขาน่าจะเป็นฝ่ายเอ็นดูเธอมากกว่า




อีคยู-ฮยองในบท เยซอนอู น้องชายผู้มีชีวิตอยู่บนรถเข็นของคุณหมอเยจินอู

เป็นทั้งน้องชายและเพื่อนสนิทเป็นคนที่จะมาปรากฏตัวในความคิดคำนึง

ของคุณหมอจินอูอยู่เนืองๆในสถานการณ์ที่ติดขัดโดยที่คุณหมออาจจะ

ต้องการหรือไม่ต้องการตัวช่วยก็ตามแต่ ความเปลี่ยนแปลงใดๆ ในชีวิตเขาย่อม

ส่งผลโดยตรงกับคุณหมอจินอูอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้ 




มุนโซริในบท คุณหมอโอเซฮวา ผู้กราดเกรี้ยว 

หัวหน้าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง เป็นตัวละครหลักอีกตัวที่ออกมายืน

ท้าชนประธานกูซึงฮโยอย่างชัดเจน  นอกจากเป็นสีสัน บทของเธออาจ

เป็นตัวแปรสำคัญอีกคนในเรื่องนี้




และเหล่าอาจอชี่-อาจุมม่าที่คุ้นหน้าคุ้นตาคุ้นฝีไม้ลายมือกันเป็นอย่างดีอีกนับสิบ

ไล่เรียงชื่อกันยาวเหยียดล้วนคัดสรรกันมาได้อย่างเหมาะสมเหมาะเจาะลงตัว

ทุกตัวละคร




โอ้. . ชีวิต . . . คิดไฉน


จริงหรือ ในฐานะคุณหมอผู้ทรงคุณวุฒิที่จะทุ่มเทเหมือนกันทุกคน

อย่างสุดจิตสุดใจให้กับคนไข้แล้วความผิดพลาดทางการแพทย์ที่เกิดขึ้น

ได้เสมอ จะมีคุณหมอกี่คนหรือโรงพยาบาลกี่แห่งที่ออกมาเชิดหน้ายอมรับ

ความผิดพลาดนั้นอย่างจริงใจและด้วยความรับผิดชอบ


จริงหรือที่ผู้บริหารที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อความเจริญก้าวหน้า

ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายคือผลกำไรสูงสุด จนขาดแคลนมนุษยธรรม

ในจิตใจ



วิธีการเล่าเรื่องของนักเขียนอีซูยอนที่ไม่บอกเล่าอะไรเยอะ 

ไม่เปิดเผยความคิดความรู้สึกของตัวละครจนเกินจำเป็นหรือในเวลาที่เร็วเกินไป 

ความอมพะนำของตัวละคร ชวนให้เราอยากขุดค้นให้ลึกลงไปในจิตใจและท่าที

ของพวกเขา เป็นนักเขียนที่มีวิธีการเล่าเรื่องได้น่าติดตามและมีลายเซ็น

ที่คมชัดมาก


ในความหม่นๆเทาๆ ของตัวละครแต่ละคน

มันไม่ง่ายที่จะชี้หน้าใครสักคนแล้วบอกว่าเขาหรือเธอคือตัวร้าย

ในความเป็นจริงของชีวิตทุกคนล้วนมีความเทาๆ ในชีวิต

ใครได้เคยติดตามงานเขียนเรื่องก่อนหน้าของเขามาแล้ว

จะเข้าใจและอาจจะพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดเห็นของฉันในประเด็นนี้





มันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ กับการที่แพทย์ผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ

และใช้มนุษยธรรมเป็นพื้นฐานในการรักษาชีวิตคนไข้ไว้ให้ได้

จะเดินไปบนเส้นทางเดียวกับท่านประธานหนุ่มไฟแรงและมุ่งมั่นผู้ทำหน้าที่

อย่างเต็มความสามารถไม่ใช่เพียงให้โรงพยาบาลพ้นจากการขาดทุน

แต่เพื่อผลกำไรสูงสุดและประโยชน์สูงสุดของกลุ่มธุรกิจที่เขารับผิดชอบอยู่


LIFE ไม่ใช่ซีรีส์แนวการแพทย์ทั่วไป แต่คือดราม่าในวงการธรุกิจ

ที่บอกเล่าคุณค่าของชีวิตโดยมีโรงพยาบาลเป็นฉากหลัง 

มีเหล่าแพทย์ พยาบาล รวมทั้งผู้บริหาร เป็นตัวแทนของมุมมอง

ในด้านตรงข้าม ระหว่างมนุษยธรรม จริยธรรม และคุณธรรม 

ไม่ว่าเราจะเป็นใครอยู่ในบทบาทไหน

สามสิ่งนี้คือสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนในการใช้ชีวิตที่จะขาดเสียไม่ได้







ตัวอย่าง ซีรีส์




เพลงประกอบซีรีส์ ost 1 - Home






ost 2 - Close your eyes






Create Date : 12 กันยายน 2561
Last Update : 14 กันยายน 2561 8:07:45 น. 0 comments
Counter : 1131 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้องใส่เสื้อลาย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หัวเถิก ใจน้อย น้ำตาไหลง่าย
ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็เฉย
ไม่ไหวก็ไป ไม่ด่าใครมั่วซั่ว
ไม่มีแฟนคลับ ไม่ตามกระแส
ใครจะมาใครจะไปเชิญตามสบาย
Friends' blogs
[Add น้องใส่เสื้อลาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.