สวัสดีค่า

เมื่อวันก่อนเจอะบูธ vj เข้า เค้าตั้งลดราคาอยู่

จริงๆขวัญเดินหลบไปแล้วแหละ

แต่สุดท้ายก็เดินเข้าไป เฮ่อๆๆๆ

เนื่องจาก คุณแม่ต้องมนต์ของ ลิปกลอสเค้า

ไปๆมาๆ ก็เลยได้มานิดหน่อยค่ะ

และพอดีเมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสได้แต่งหน้าให้พี่สาวคนนึง

พอดีเครื่องสำอางที่มีมันไม่พอ

เลยได้เจ้าพาเลตนี้ของ ma มาด้วย

ความจริงมีพาเลตตาอีกอัน แต่ยังไม่ได้ถ่ายรูปมา ขอติดไว้ก่อนนะคะ

พูดมายาวและ ไปดูกันดีกว่าเนอะ

เริ่มที่ victoria jackson ที่ได้มา

รูปหมู่ ตอนยังใส่กล่องมิดชิด

แต่เดิมตั้งใจจะซื้อแค่ลิปกลอสค่ะ

แต่พอได้ลองแป้งเข้าไป

มันสวยจริงๆ อดใจไม่ไหวนะฮุ

ถอดกล่องออกมาปุ๊บ...

ถ้าแป้งราคาเต็มเท่าที่เค้าบอกมา พูดตรงๆว่าคงไม่ซื้อ เพราะเดี๋ยวต้องรับประทานแกลบกันซะก่อน

จะเห็นว่าแป้ง 2 ตลับคนละสีกันนะคะ

ส่วนเซ็ตแปรงที่เห็นนี้เค้าแถมมาตามโปรโมชันค่ะ

และให้บัตรสมาชิกชั่วคราวมา

ไปเสิร์ชดูก็ยังหวั่นใจว่า เอ้อ เมื่อไหร่จะได้ใบจริงเน้อ

แปรงขนสังเคราะห์นะคะ แต่นิ่มใช้ได้เลย

ส่วนตัวแอบชอบขนสังเคราะห์อะค่ะ ใช้ขนสัตว์ของบางที่แล้วมันนุ่มเกิน ไม่ถนัดมือ (ชอบความรุนแรงรึเธอ..)

คราวนี้มาซูมๆ ดูสีแป้งกันนะคะ

รูปนี้ถ่ายมีแฟลชนะคะ รูปบนในรูปรวมไม่มี

ทางขวาเป็นสี Cushy-White ทางซ้ายเป็นสี Nudy-Glow

ความแตกต่างอยู่ที่ว่า ushyนี่สำหรับผิวออกโทนชมพูค่ะ (หม่ามี๊หนูเอง) ส่วน nudy ออกโทนเหลือง

ถ้าผิวเข้มกว่าขวัญก็จะมีอีกสี แต่แอบลืมชื่อ อะไร tan ซักอย่างนี่แหละ

BA บอกว่า คือแป้งจะไม่ได้แบ่งชัดๆ เป็นเบอร์น่ะค่ะ แบ่งเป็นโทน หรือเข้มไปเลย

ขวัญไม่ได้ลองสีแป้งให้ดูในนี้ เพราะว่าพยายามแล้ว แต่ถ่ายรูปมาไม่เห็น

ต้องดูที่ตัวจริง เหอๆๆ

อธิบาย : แป้งพอทาแล้วจะดูเบาๆใสๆ แต่ทำให้ผิวดูสว่างขึ้น เนื้อนุ่ม และเนียน ลักษณะไม่เหมือนแป้งทางเกาหลี ญี่ปุ่นนะคะ อันนั้นจะทึบกว่า ส่วนความผ่องแล้วแต่รุ่น ยิ่งผ่องยิ่งแพงตามลำดับ อันนี้จะดูเบา แต่ปกปิด และผ่อง (มิน่าราคาเต็มถึงแพง ฮ่าๆ) ติดทนใช้ได้ แต่ไม่ยืนยันสำหรับผิวมัน ควรใช้พวก oil-cut ช่วยค่ะ

ต่อมาเป็นลิปกลอสค่ะ

สีออกมาตามในกระดาษทิชชู่เลยค่ะ

ตอนแรกก็ว่ามันสีสวยเฉยๆ

แต่พอดีขวัญแพ้skincare ปากกำลังลอกได้ที่

เอาเจ้านี่ทาเข้าไป ปากหายลอกได้ใน 2 หน สุดกรี๊ด

คิดว่าถ้าหมดแล้วจะไปตามล่ามาใหม่แน่นอน

ยึดของคุณแม่มาสีที่คุณแม่ใช้แล้วคัน (แพ้นั่นเอง)

โชคดีนะฮ้า ที่อิชั้นไม่แพ้ ไม่งั้นจะเยินกว่าเดิม

(จริงๆตอนเอามามั่นใจนะคะว่าไม่แพ้ เพราะโดยมาก ถ้าคุณแม่แพ้อันไหน อันนั้นขวัญใช้ดี ฮา)

ความติดทนก็พอสมควรเลยค่ะ สีที่เห็นในตลับ

พอทาออกมาจะเป็นสีใสๆ แต่ยังออกสีค่ะ

ตลับที่เป็นสีนู้น้ำตาล ทาออกมา ทิ้งไว้ซักพักกลายเป็นสีชมพู

ส่วนสีแดงกลายเป็นสีปากสุขภาพดี

ทั้งนี้ สีอาจออกมาไม่เหมือนกัน จากสีผิวและundertone ของแต่ละคนนะคะ

มาต่อกันที่ KMA น๊า

ข้อเสียข้อแรกของตลับคือ เงาแว้บ ทำให้จับปุ๊บเป็นรอยนิ้วมือปั๊บ

ข้อดีคือ

สีเพียบ ราคาน่าคบ (ขวัญ)ไม่แพ้ สีติดทน มีซองกำมะหยี่ให้ ไม่หนัก

ว่าแล้วก็โชว์ข้างใน

ในรูปจะฝุ่นๆนิดหน่อยนะคะ

พอดีเพิ่งผ่านการทำความสะอาดมาเล็กน้อย

ตอนอยู่ที่เคาน์เตอร์พี่ BA บอกว่าสีนี้เพิ่งมา

ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ .. แต่ชอบมากๆ เอามาเลย เหอๆ

สีก็ดีนะคะ ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน แบบ มั่นใจว่าไม่ต้องซื้อมาวางไว้เฉยๆ

ความจริงเค้ามีอีกพาเล็ต จะเป็นสีสดใส ฟ้าเขียว อะไรแบบนั้น

แต่พอดีชอบสีลิปเซ็ตนี้มากกว่าค่ะ และสีน้ำตาลทองก็ได้เรื่อยๆ(ได้ข่าวว่าปกติเธอทาแต่สีชมพู หุหุ)

เล่ามาซะยาว ลืมบอกรายละเอียด

ข้างในมี

มาสคาร่า 2.5 g

Blush on 2 สี สีละ 8 g

lipstick 6สี (จริงๆ ลิปสติก 5 กลอส1) สีละ 0.7 g 

eye shadow 6 สี สีละ 1.20 g

พาลเตนี้มีกลิ่นหอมๆนะคะ อาจไม่เหมาะกับคนแพ้น้ำหอม (แต่จริงๆกลิ่นก็ไม่แรงน๊า)

ใส่ร้าย(ป้ายสี)ลิปสติกออกมา

จะเห็นว่าเนื้อออกเงาๆ

หวานๆ น่ารักดีค่ะ

ยกเว้นสีแดงด้านล่าง จะทายากนิดหน่อย ออกแห้งๆกว่าสีอื่น แต่ก็สวยค่ะ

มาต่อที่สีอายชาโดว์

สีทองเค้านี่ ทองจริงจังมาก ใ้ลงหัวตาวิ้งๆ น่ารักดีค่ะ

แต่สีน้ำตาลกับดำจะแอบเข้มมากหน่อย ตอนทาระวังจะเยอะเกินไปด้วยนะคะ

ปิดท้ายด้วยสีบลัชออน

พบว่าป้ายมาแบบประหยัดเนื้อที่เกินเหตุ

อันบนคือสีทางซ้าย(ไม่มีวิ้ง) อันล่างคือสีทางขวา

ตอนใช้ขวัญปัดอันล่างเดี่ยวๆ ตกใจ มันส้มสุดใจขาดดิ้นเลย

เลยเอาบลัชออนสีชมพูนมปัดทับ

ออกมาน่ารักดี คิดว่าถ้าใช้เดี่ยวๆสวย น่าจะต้องเป็นสาวที่ผิวแทนจัดๆหน่อยค่ะ ออกมาน่าจะเป็นแนวประกายแดด

แต่สีล่าง ปัดมาแล้วน่ารักดี ออกพีชๆค่ะ

ทั้งเซ็ตนี้ติดทนถูกใจ ยกเว้นลิป

เพราะออกเนื้อเชียร์ แต่เติมบ่อยๆก็ได้ อิอิอิอิ

ชอบกระจกใหญ่สะใจมากค่ะ

ไม่ต้องเล็งมุมเวลาแต่งหน้า

ส่วนอีกพาเลตตาที่พูดถึงไว้เมื่อเริ่มบล็อก ขอติดไว้ก่อนเน้อ

จะรีบทำรีวิวในเร็วๆนี้ค่ะ (เพราสีสวยจริงจัง)

เมื่อวันที่ไปซื้อ KMA เค้ามีโปรโมชันอยู่ตอนนี้ไม่รู้ว่าหมดไปรึยัง

หรือห้างนั้นๆ อาจมีโปรโมชันอื่นๆ เพราะจะปีใหม่แล้วเนอะ

ก่อนไปขอแอบบ่นนิดหน่อยค่ะ

เรื่องนี้บ่นพนักงานแหละ แต่พี่ๆพนักงานดีๆ อย่าเพิ่งท้อใจนะคะ

ขวัญขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆต่อไป

(ชอบพี่ BA estee ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์มาก..คนที่อยู่ประจำน่ะนะ.. หลายครั้งขวัญไปลองแบบไม่มีแววว่าจะซื้อ พี่เค้าก็ช่วยลองให้เสมอ น่ารักจริงๆค่ะ)

บ่น

เดี๋ยวนี้เวลาไปซื้อของ

ไม่เข้าใจว่าทำไมพนักงานชอบแบบว่า ซื้อๆไปเหอะ เยอะๆยิ่งดี

(ไม่ใช่เคาน์เตอร์ที่ซื้อด้านบนแต่อย่างใดนะคะ)

แต่คือ เจอบ่อยมาก ทั้งร้านขนม ร้านอาหาร เสื้อผ้า กับข้าว รองเท้า ตู้เย็น เตารีด อะไรก็ตาม

บางครั้งรู้สึกว่า

อ๋อ เราะไม่ใช่เงินคุณใช่มั้ย คุณถึงมาบังคับลูกค้าแบบนี้

ตัวคุณเอง คุณซื้อๆไปเถอะแบบนั้นตลอดด้วยหรือไง

ขืนทำแบบนั้นคงเป็นหนี้ ไม่ต้องมีชีวิตอยู่กันพอดี

ขวัญเองรู้ว่าตอนนี้เศณษฐกิจมันแย่มาก

แน่นอนว่าพนักงานขายก็ย่อมต้องอยากทำยอด เพราะว่าไม่ได้ขายคล่องเหมือนเมื่อก่อน

แต่ว่า ตอนนี้เป็นภาวะที่เราทุกคนก็ต้องหระหยัดเหมือนๆกันน่ะนะคะ

อยากขอความเห็นใจ กรุณาอย่าบังคับลูกค้าเลย

ไม่ใช่ลูกค้าไม่อยากได้ซะหน่อย

แต่มันยังไม่ควรซื้อ

ขวัญเชื่อว่า ส่วนใหญ่เราทุกคนก็อยากมีเงินๆเยอะๆ อยากได้อะไรก็ได้อย่างใจกันอยู่แล้ว

ความจริงถ้าพี่พนักงานทั้งหลาย น่ารัก

เชื่อว่าเมื่อลูกค้ามีเงินพอ เค้าก็จะนึกถึงพี่เป็นกลุ่มแรกๆที่เค้าจะไปซื้อของด้วยนะคะ

พูดตรงๆว่า ส่วนมากเวลาขวัญเจอแบบบังคับขาย ก็จะไม่ซื้อไปเลย

เพราะถ้าเราไม่ซื้อเพิ่ม เค้าก็ไม่หยุดตื๊อ

งั้นก็บ๊ายบายกันดีกว่า

ยกเว้นบางครั้งที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ ก็จะตื๊อแข่งว่า หนูไม่ซื้อค่าพี่..