พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า จึงพากันกลับที่พัก ค่อยออกมาล่องเรือในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้

วาร์ป..มาอีกทีตอนเช้า เราออกเรือจากหาดสลึง เพื่อไปหาดหงษ์

และจุดอื่นๆ โดยมีไกด์นำทางตัวน้อยมาให้ข้อมูลในวันนี้

ตรงทางเข้าสามพันโบกจะมีหินสวยงามลักษณะคล้ายหัวสุนัข

มีตำนานเล่าขานกันว่า แต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอำนาจ ประทับใจในความงามของสามพันโบก จึงส่งเสนามาดูแล้วก็พบขุมทรัพย์ทองคำแล้วกลับมาทูลแก่เจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงได้เดินทางเข้าไปโดยให้สุนัขเฝ้าทางเข้าไว้จนกว่าเจ้าเมืองจะกลับออกมา แต่เมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติก็เกิดความโลภ กลัวเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปอีกทางหนึ่ง ทิ้งให้สุนัขผู้ภักดีเฝ้ารออยู่ตรงนั้นจนตายในที่สุด 

บางตำนานก็ว่า ลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็นผู้ขุด เพื่อให้เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่ง และได้มอบหมายให้สุนัขเป็นผู้เฝ้าทางเข้าระหว่างการขุดกระทั่งสุนัขได้ตายลงกลายเป็นหินรูปสุนัขในที่สุด

ภาพบน หินหัวสุนัขที่ถ่ายมาโดยบังเอิญ อยู่ตรงโน้น...ไกลม๊ากกก

สามพันโบก แกรนด์เคนยอนด์แห่งเมืองสยาม

เรือลำอื่นๆก็มาเที่ยวเหมือนกัน

หาดหงส์ เกิดจากการการพัดพาของน้ำและนำตะกอนทรายมาทับถมกัน จนกลายเป็นพื้นทรายคล้ายกับทะเลทรายที่กว้างใหญ่ 

จริงๆแล้ว ช่วงเวลาที่ควรมาเที่ยวหาดหงส์ ควรเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน จะเป็นช่วงเวลาที่สวยงามมากที่สุด

พอขึ้นไปเดินแล้วเหลือตัวเล็กนิดเดียว

ล่องเรือกลับกันแล้ว

จบทริปสามพันโบกไปด้วยภาพนี้

ของแถม ใกล้ๆสามพันโบกมีอีกสถานที่นึงที่คนชอบความสูงไม่ควรพลาด คือ"ผาวัดใจ" เดินผ่านไปทางนี้

ผาวัดใจ ตั้งอยู่ที่ บ้านผาชัน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลฯ

มีลักษณะเป็นหินผา ยืนยาวชี้ไปทางฝั่งประเทศลาว หากใครสนใจไปถ่ายภาพเก๋ๆได้เลย แต่ลมแรงๆระวังตัวปลิวนะ 555

รู้ไว้ใช่ว่า >>> 

ถ้าขับรถไปก่อนจะถึงสามพันโบก ตรงนั้นจะมีรถเยอะพอควร และมีคนมายืนโบกรถให้เข้าไปจอดในลานจอดรถ เค้าเก็บตังค์ค่าจอดนะ คันเราเลี้ยวเข้าไปด้วยความเคยชินกับการถูกโบกเลยเสียตังค์เล่นๆซะงั้น ตอนนี้ไม่รู้ยังมีอยู่มั้ยนะแต่ถ้าขับเลยตรงนี้ขึ้นไปจอดบนโบกได้เลยไม่เสียค่าจอดจ้า

สามพันโบกในฤดูร้อนจะร้อนมาก ถ้าไม่ชอบร้อนๆ ให้เลือกไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว

จบแล้ว... ขอให้ทริปนี้เป็นช่วงเวลาที่พิเศษนะ