แบบฝึกทักษะบทที่เหลือ ที่อัพไม่ได้ในhi5 บทที่8

แบบฝึกหัดบทที่ 8 แนวโน้มวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


นางสาวกัญญพร วิเมลืองรังสี ตอนเรียน D2 รหัส 52122760165
1.ให้นักศึกษาเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในยุคต่างๆอย่างละเอียด
ตอบ อัลวิน ทอฟเฟลอร์ ( Alvin Toffler ) ได้แบ่งยุคเทคโนโลยีการสื่อสารออกเป็น 3 ยุค
โดยนำมาเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างกับคลื่น
3 ลูก ดังนี้

ในยุคคลื่นลูกที่หนึ่งเป็นสังคมเกษตรกรรม การสื่อสารเกือบทั้งหมดอยู่ในรูปแบบการพูดคุย เจรจากันโดยตรงภายในกลุ่มคนที่มีขนาดเล็กมาก ในสังคมแบบนี้เป็นสังคมที่ไม่มีหนังสือพิมพ์
วิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์
วิธีเดียวที่จะส่งข่าวสารไปให้กลุ่มผู้ฟังขนาดใหญ่จะต้องจัดตั้งหรือสร้างกลุ่มฝูงชน (Crowd) ขึ้นมา
กลุ่มฝูงชนนับเป็นสื่อแบบมวลชนประเภทแรกสุดที่เกิดขึ้น
แต่มีจุดอ่อนคือ
อายุไม่ยาว มักจะสลายตัวไปในระยะเวลาอันสั้น


ในยุคคลื่นลูกที่สอง ระบบเศรษฐกิจมีพื้นฐานอยู่บนการผลิตแบบมวลชนซึ่งมีความต้องการสื่อสารในระยะที่ห่างไกลมากขึ้น ทำให้เกิดไปรษณีย์
โทรเลข และโทรศัพท์ ในขณะเดียวกันโรงงานใหม่ๆ
ที่เกิดขึ้นมาต้องการแรงงานที่มีลักษณะบุคลิกและวิธีคิดที่เหมือนๆกัน
(
Homegeneous Workforce) ดังนั้นจึงทำให้มีการสร้างสื่อมวลชนที่มีพื้นฐานอยู่บนเทคโนโลยีขึ้นมา สื่อเหล่านี้ได้แก่
หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ภาพยนตร์ วิทยุกระจายเสียง
และวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งสื่อแต่ละชนิดเป็นสื่อที่สามารถนำข่าวสารชนิดเดียวกันไปถึงผู้รับข่าวสารนับล้านๆคนได้ในเวลาพร้อมกัน สื่อเหล่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญของกระบวนการที่ทำให้มีลักษณะมวลชน
(
Massification) ในสังคมอุตสาหกรรม


ถึงยุคคลื่นลูกที่สาม ระบบเศรษฐกิจหลังยุคการผลิตแบบมวลชนมีความต้องการสื่อ
ส่งข่าวสาร ความคิด สัญลักษณ์
และภาพที่มีลักษณะหลากหลายแตกต่างกันไปยังกลุ่มผู้รับซึ่งแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกันในเรื่องเชื้อชาติ อายุ
อาชีพ และการใช้ชีวิต


ความแตกต่างกันข้อหนึ่งระหว่างสื่อในยุคคลื่นลูกที่สองกับสามก็คือ ในยุคคลื่นลูกที่สองสื่อทำงานโดยอิสระแยกจากกัน แต่ในยุคคลื่นลูกที่สามสื่อทำงานกันอย่างสัมพันธ์กันประสานเป็นส่วนหนึ่งของระบบใหญ่ มีการส่งข้อมูล
ภาพ และ สัญลักษณ์ไปมาระหว่างสื่อแต่ละชนิด


2.แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงใหม่ทางสังคมโลกเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและผลของความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีด้านใดบ้าง
จงอธิบาย

ตอบ
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโลกเทคโนโลยีสารสนเทศ
และผลของความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในหลายด้านดังนี้
1.
ด้านสังคม : เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้สังคมเปลี่ยน
จากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ
จากสังคมความเป็นอยู่แบบเร่รอนมาเป็นสังคมเกษตรที่รู้จักกับการเพาะปลูก ต่อมาจากสังคมเกษตรก็เปลี่ยนมาเป็นสังคมอุตสาหกรรม และเปลี่ยนมาเป็นสังคมสารสนเทศในปัจจุบัน
2.
ด้านสุนทรียสัมผัส : เทคโนโลยีสาสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบสุรทรียสัมผัส
และตอบสนองตามความต้องการ
ซึ่งการใช้เทคโนโลยีปัจจุบันเป็นแบบบังคับ เช่น
เมื่อเราเปิด
TV ดู เราไม่สามารถเลือกรับชมตามความต้องการได้
หากสถานีส่งสัญญาณใดมาเราก็ต้องรับชม
เราทำได้อย่างมากแค่เพียงเลือกสถานีใหม่ แนวโน้มจากนี้ไปจะมีการัเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เรียกว่า
on Demand จะมี
TV on Demand มีวิทยุโทรทัศน์แบบต้องการ
เช่น เมื่อต้องการชมภาพยนตร์เรื่องใดก็เลือกชม
และดูได้ตั้งแต่ต้นรายการ
3.
ด้านความสะดวกสบาย : เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพทางการทำงานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา เมื่อการสื่อสารแบบสองทางก้าวหน้าและแพร่หลายขึ้น
เช่นระบบเอทีเอ็ม
ทำให้การเบิกจ่ายได้เกือบตลอดเวลา แนวโน้มในอนาคตสังคมการทำงานจะกระจัดกระจายจนบางงานอาจนั่งทำที่บ้านหรือที่ใดเวลาใดก็ได้
4.
ด้านเศรษฐกิจ : เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก ความเกี่ยวโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกาภิวัตน์ จากเดิมซึ่งระบบเศรษฐกิจมีขอบเขตจำกัดภายในประเทศก็กระจายเป็นเศรษฐกิจโลก โดยเทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนเอื้ออำนวยให้การดำเนินการมีขอบเขตกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ระบบเศรษฐกิจของโลกจึงผูกพันกับทุกประเทศและเชื่อมโยงกันแนบแน่นขึ้น
5.
ด้านหน่วยงานและองค์กร : เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน หน่วยงานภายในเป็นเครือข่ายมากขึ้น
แต่เดิมการจัดองค์กรมีการวางเป็นลำดับขั้น
มีสายการบังคับบัญชาจากข้างบนลงล่าง แต่เมื่อการสื่อสารแบบสองทางและการกระจายข่าวสารดีขึ้น การจัดโครงสร้างขององค์กรจึงปรับเปลี่ยนจากเดิม มีแนวโน้มที่จะสร้างองค์กรที่เป็นเครือข่ายที่มีลักษณะการบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น หน่วยธุรกิจจะมีขนาดเล็กลงและเชื่อมโยงกันกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย สถานะภาพขององค์กรจึงต้องแปรเปลี่ยนไปตามกระแสของเทคโนโลยี
6.
ด้านการวางแผน : เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้น อีกทั้งทำให้วิถีการตัดสินใจหรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น แต่เดิมการตัดสินปัญหาอาจมีหนทางให้เลือกได้น้อย
เช่น มีคำตอบเดียว ใช่ และไม่ใช่
แต่ด้วยข้อมูลข่าวสารที่สนับสนุนการตัดสินใจ ทำให้วิถีความคิดในการตัดสินปัญหาเปลี่ยนไป
ผู้ตัดสินใจมีทางเลือกได้มากขึ้น
มีความละเอียดอ่อนในการตัดสินปัญหาได้ดีขึ้น
7.
ด้านการเปลี่ยนแปลง : เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีเดียว ที่มีบทบาทที่สำคัญในทุกวงการดังนั้นจึงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
เศรษฐกิจ
และการเมืองได้อย่างมาก เราสามารถใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการสื่อสารระหว่างกันและติดต่อกับคนได้ทั่วโลก จึงเป็นที่แน่ชัดว่า
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ
สังคมและการเมืองจึงมีลักษณะเป็นสังคมโลกมากขึ้น
3.
จงอธิบายแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบัน
ตอบ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เมื่อ 130 กว่าปีที่แล้วระบบการสื่อสารในรูปแบบโทรเลขนับว่าเป็นยุคแรกที่เข้ามาในประเทศไทย แต่ในปัจจุบันโลกของการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง
40 ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดังนั้นในเมื่อเราอยู่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงเราจึงจำเป็นต้องก้าวทันต่อแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปของเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีจะมีวิธีการใช้งานแบบใหม่ๆให้ได้ติดตามอยู่เสมอ
4.
จงอธิบายการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในแต่ละด้านอย่างละเอียด
ตอบ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจำแนกออกเป็นด้านต่างๆดังนี้

1.
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านการศึกษา
เช่น มีการสอนโดยใช้สื่อผสม
ใช้วีดิโอคอนเฟอเร้นทซ์แก้ปัญหาการขาดแคลนอาจารย์ผู้สอนและขยายโอกาสไปยังท้องถิ่นห่างไกล การเรียนการสอนแบบ
E-Learning ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นสื่อช่วยสอนในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งช่วยให้การจัดการเรียนการสอนมีความทันสมัยและค้นคว้าหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เป็นต้น
2.
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข
เช่น
การทำระเบียนประวัติผู้ป่วย การเข้ารับการรักษา การสั่งยา
การออกใบนัดหมาย เป็นต้น
เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยทำให้แพทย์สืบค้นข้อมูลย้อนหลังของผู้ป่วยจากข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของแพทย์เองได้ และทำให้ทราบข้อมูลก่อนการรักษาด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังมีการใช้สัญญาณดาวเทียมหรือใยแก้วนำแสงมาใช้ในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์โดยใช้ควบคู่กับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น การผ่าตัดจากสถานที่ผ่าตัดจริงส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาขั้นตอนการผ่าตัดจากกรณีศึกษา เป็นต้น
3.
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
เช่น
บริษัทห้างร้านจำนวนมากในประเทศไทยมีการบันทึกประวัติพนักงาน
การจ่ายเงินเดือน
การลาการมาสาย การสั่งซื้อขายสินค้าออนไลน์
เป็นต้น
ในระบบธนาคารก็มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเช่นกัน
การฝากเงินถอนเงิน
ในธนาคารหรือการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ
การให้บริการจากตู้บริการ
ATMส่วนงานภาครัฐในปัจจุบันเป็นบริการแบบจบที่จุดเดียว
เช่น การทำบัตรประชาชน
การทำใบขับขี่ เป็นต้น ในงานด้านสังคมมีการใช้เทคโนโลยีการพัฒนาสภาพสังคมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เช่น
การมอบคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียนในชนบทที่อยู่ห่างไกล เป็นต้น
4.
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านการออกแบบเกม
ผลิตภัณฑ์ ภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์ ในปัจจุบันงานด้านนี้
จะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการออกแบบ
โปรแกรมการออกแบบได้พัฒนาขึ้นมากจนทำให้การออกแบบงานต่างๆเสมือนจริงมาก
5.
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านการสื่อสาร การสื่อสารในปัจจุบันได้พัฒนาไปจากในอดีตมาก
จากที่เคยส่งโทรเลข จดหมาย
ก็พัฒนามาเป็นโทรศัพท์ และ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์
สามารถบรรจุข้อความได้จำนวนมาก
มีระบบจัดเก็บข้อมูล
มีระบบสนทนาแบบออนไลน์
ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาไปถึงระดับการเห็นหน้ากันระหว่างสนทนาโดยผ่านกล้องที่ติดอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์


5.
นวัตกรรมหมายถึงอะไร มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ตอบ นวัตกรรม (Innovation) หมายถึง
ความคิด วิธีปฏิบัติ
วัตถุหรือสิ่งของที่ใหม่ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักมาก่อนหรือการทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล
มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
คือ
การพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะช่วยให้มนุษย์สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ใหม่ๆขึ้นมาได้ ทำให้สามารถติดต่อสื่อสาร
และมีการแลกเปลี่ยนสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และผู้คนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
และยังการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆที่มีขนาดเล็ก สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น



6.คุณสมบัติของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ประกอบด้วยคุณสมบัติอะไรบ้าง
ตอบ 1.การรวมตัวกันของเทคโนโลยี ( Convergence ) ) เป็นการรวมตัวกันของเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์การสื่อสาร
รวมถึงระบบเทคโนโลยีอื่นๆ


2.
ต้นทุนที่ถูกลง
(
Cost Reduction) เทคโนโลยีสารสนเทศมีคุณสมบัติที่ทำให้ราคาและการเป็นเจ้าของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศถูกลงอย่างมาก


3.
การพัฒนาอุปกรณ์ที่เล็กลง
(
Miniaturization ) เช่น เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
เครื่องมือสื่อสารมีขนาดเล็กลงมาก


4.
การพกพาและเคลื่อนที่
(
Portability ) เช่น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค

5.
การประมวลผลที่ดีขึ้น
(
Processing Power ) โดยอาศัยการพัฒนาการประมวลผลกลางที่ดีขึ้น

6.
การใช้งานที่ง่าย
(
User Friendliness )

7.
การเปลี่ยนจากอะตอมเป็นบิต
(
Bits Versus Atoms )

8.
สื่อผสม ( Multimedia )

9.
เวลาและภูมิศาสตร์
(
Time & Distance )



7.จงสรุปแนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เกิดขึ้นในปัจจุบันต่อเนื่องไปถึงอนาคต
ตอบ
ด้วยวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารมีการพัฒนามากยิ่งขึ้นกว่าในอดีตมาก
การสื่อสารได้หลอมรวมสื่อต่างๆ
ไว้เป็นสื่อเดียวทำให้เกิดสื่อใหม่ที่มีพลัง
กระจายสารไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมาก
ในอนาคตอีก
10 ปี ข้างหน้าคาดการณ์ได้ว่าคอมพิวเตอร์จะมีบทบาทต่อทุกครอบครัว ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วไม่มีรูปทรงใหญ่
ผลิตภัณฑ์
การบริการ การสื่อสาร และงานทุกภาคส่วนจะมีคอมพิวเตอร์แฝงอยู่ในการทำงานอยู่แทบทั้งสิ้น แม้แต่การใช้คอมพิวเตอร์ในการดำรงชีวิต
เช่น
การทำงานตามระบบคำสั่งของเจ้าของบ้านในการเปิดปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆด้วยรีโมท

8.การสื่อสารสนเทศจะประสบผลสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับอะไร
ตอบ 1.การให้ความสำคัญต่อการให้ข้อมูลและการรับข้อมูล
-
ในระบบออนไลน์คนส่วนใหญ่มักมีความกระตือรือร้นที่จะเข้าแสดงความคิดเห็นของตน แต่มักไม่ยอมเปิดใจรับข้อมูลของผู้อื่น เราควรเปิดใจรับความคิดเห็นของผู้อื่นเพื่อนำมาแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่อย่างเหมาะสม
2.
การที่ในปัจจุบันมีเว็บไซต์เชิงพาณิชย์จำนวนมากที่จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็น หรือ
ดำเนินการเลือกตั้งแบบจำลองขึ้น
เพื่อก่อให้เกิดการรวมตัวกันของผู้ที่มีความคิดเห็นร่วมกันไว้เป็นกลุ่ม แทนที่จะส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ที่มีความเห็นแตกต่างกัน เราควรหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มทางความคิดที่จะทำให้เกิดการต่อต้ามฝ่ายตรงข้าม แต่ควรจุดประกายความคิดให้กับทุกคนทุกฝ่ายเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิผล
3.
ในเว็บไซต์ประเภทชุมชนออนไลน์มักมีการจัดแบ่งกลุ่มสนทนาออกตามประเภทความสนใจ ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักเข้าร่วมเฉพาะในกลุ่มสนทนาที่มีความคิดเห็นในทิศทางเดียวกับเราเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ชุมชนออนไลน์มีลักษณะที่ไม่แตกต่างจากชุมชนที่เป็นอยู่จริงในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามพฤติกรรมเช่นนี้ย่อมบดบังศักยภาพของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในการเปิดโอกาสให้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้ติดต่อสื่อสารกันอย่างอิสระ และสร้างความเป็นไปได้ในการปรับความเข้าใจระหว่างกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันให้หมดไป
9.
อะไรเป็นอุปสรรคในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ตอบ การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มีส่วนช่วยให้ด้านเศรษฐกิจและสังคมเกิดการพัฒนา และล่มสลายได้เช่นเดียวกัน
อุปสรรคในการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น


- การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในทางที่ผิด เช่น ให้ข่าวสารข้อมูลเท็จ
มีการโจรกรรมข้อมูล การก่อกวนระบบอินเทอร์เน็ต
การก่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์
-
การที่ผู้คนบางส่วนยังขาดความรู้ในด้านนี้ ทั้งผู้ด้อยโอกาส
หรือผู้ที่ปิดกั้นตนเองจากสิ่งใหม่ๆ

10.
จงเปรียบเทียบการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทั้งด้านบวกและด้านลบ
ตอบ ด้านบวก
- ทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ สาธารณสุข การศึกษา
เศรษฐกิจ
การเมือง สังคม
ฯลฯทำให้สามารถหาความรู้ได้ไม่สิ้นสุดไม่จำกัดเวลาและสถานที่
ด้านลบ – สื่อ บางประเภทอาจจะให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ข้อมูลเป็นเท็จ
และมีการกระจายข้อมูลที่ผิดจรรยาบรรณ ซึ่งทำให้อาจโดนหลอกลวงจากสื่อเป็นได้








Free TextEditor




 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2553 13:43:51 น.
Counter : 637 Pageviews.  

แบบฝึกทักษะบทที่เหลือ ที่อัพไม่ได้ในhi5 บทที่7

แบบฝึกหัดบทที่ 7 กฎหมายและจริยธรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ
นางสาวกัญญพร วิเมลืองรังสี ตอนเรียน D2 รหัส 52122760165


คำถามทบทวน


1.
จงหาตัวอย่างข่าวที่สะท้อนภัยทางอินเทอร์เน็ตมาอย่างน้อย
3 ข่าว
ตอบ 1. สาวนักแชท..โปรดระวัง...อาจตกเป็นเหยื่อสวาท.. อย่างเช่นเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อตำรวจนครบาล
ได้เข้าจับกุม
นายเอกชัย สีมาไพศาล อายุ 29 ปี
มีอาชีพเป็นพนักงานรับโทรศัพท์บริษัทแห่งหนึ่ง
เขาผู้นี้เคยล่อลวงเหยื่อสาวที่เป็นนักศึกษาไปร่วมหลับนอน
แล้วชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือ เงินทองมานับครั้งไม่ถ้วน
… อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
//www.oknation.net/blog/rutdy/2007/08/08/entry-1


2. สาวนักเรียนพยาบาลวัย
18 ปีตกเป็นเหยื่อแช็ตกามอีกรายแล้ว โดนไอ้หื่นแช็ตลวงในโปรแกรมเพิร์ชจนตายใจยอมแลกเบอร์มือถือกัน
ก่อนไปดักรอเหยื่อสาวที่หน้าวิทยาลัย ทำทีเป็นชวนกันไปนั่งคุยเฉยๆ ในโรงแรมม่านรูด
พอเหยื่อหลงกลก็ลงมือบังคับขืนใจแล้วหลบหนีไป เหยื่อโร่แจ้งตำรวจล่าตัวกระชั้น
ส่วนคดีแก๊งหื่นเก๋งวอลโว่แช็ตลวงเหยื่อสาวมาข่มขืนรูดทรัพย์นั้น
ตร.คุมตัวไปฝากขัง-ค้านประกันตัว ผบก.น.
4 ระบุมีสาวอีก 6 รายติดต่อมาว่าตกเป็นเหยื่อแก๊งนรกรายนี้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
//tnews.teenee.com/crime/4959.html


3. ลูกชาย
ตร.-พ่อแทบใจสลายเผยกำลังนิยม
’ในหมู่วัยรุ่น’

เด็ก
ม.
3 วัย
15 ปี
ลูกชายสายสืบบางเขน ผูกคอตายอนาถในแฟลตตำรวจ
ศพพิลึกไม่สวมเสื้อแต่นุ่งกระโปรงสั้นสีดำ ใส่ถุงน่องแบบเต็มตัว
แถมยังใช้เชือกผูกรองเท้ามัดขาทั้งสองข้างอีก พ่อออกเวรกลับไปหาลูกพบกลายเป็นศพ
หัวใจแทบสลาย ไม่รู้ปมสาเหตุลูกคิดสั้นฆ่าตัวตาย เผยเป็นเด็กร่าเริง
แต่ติดเกมออนไลน์-ออฟไลน์จนงอมแงม ยันไม่มีการเบี่ยงเบนทางเพศ
เพื่อนรักแฉคนตายติดเกมจีทีเอ แนวอาชญากรรม
สร้างตัวเองเป็นนักเลงหัวไม้ไล่ก่อเหตุชั่วร้ายเพียบ
เผยเจอครั้งสุดท้ายเหมือนมาลาโทรศัพท์หาเพื่อนในกลุ่มทุกคน
ตำรวจคาดคนตายซึมซับพฤติกรรมตัวละครในเกม
จนเอามาเป็นแบบอย่างแต่พลาดต้องมาจบชีวิตแบบอนาถ แฉเกม
GTA เป็นแนวระห่ำแตก
เน้นความสะใจในการก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ นิยมมากในหมู่วัยรุ่นคนเล่นเกม
อีกรายสาวใต้รักร้าว ซดเบียร์เคลียร์ปัญหาแต่ไม่ลงตัว
วิ่งเข้าตู้โทรศัพท์สาธารณะใช้สายฮัลโหลรัดคอตัวเองตายอนาถ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
//www.sci.nu.ac.th/information-it/index.php?topic=8067.0


2.จากข้อแรกจงวิเคราะห์สาเหตุและข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข
ตอบ สาเหตุเกิดจากสถานบันครอบครัว
เป็นหลัก สถานบันครอบครัว ควรมีความเอาใจใส่ในเด็กและลูกของคุณ
ว่าเขามีความต้องการอย่างไร ถนัดด้านใด ไม่ควรเลี้ยงแบบตามใจหรือดูแลมากเกินไป
เพราะจะทำให้เด็กเกิดความอึดอัดหรือขาดความอบอุ่น จึงทำให้ต้องการหาที่เพิ่ง
ที่ระบายเพื่อผ่อนคลาย และนำไปสู่ปัญหาต่างๆข้าวตัน

3.
จงหาตัวอย่างเว็บไซต์ที่สะท้อนถึงความมีจริยธรรมพร้อมตัวอย่างที่สะท้อนความมีจริยธรรม อาทิ
หน้าเว็บที่ระบุกฎ กติกา มารยาท ฯลฯ

ตอบ เว็บไซด์ http://www.dusit.ac.th ที่ยกต้วอย่างเว็ปไซด์มหาวิทยาลัยเพราะ
เป็นเว็ปไซด์ศูนย์รวมให้การแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารให้กับนักศึกษาที่อยู่ต่างศูนย์
ได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึง และรับผิดชอบอย่างดี
ในการให้การบริการนักศึกษาและข่าวสารที่นักศึกษาต้องการค้นคว้า
ซึ่งเว็ปมหาวิทยาลัยก็มีกฏเกณฑ์และระเบียบในการเข้าใข้เป็นอย่างดี และเข้มงวด
ทั้งในด้านการหาข้อมูลส่วนตัว การลงความเห็น หรือสอบถามต่างๆก็มีระเบียบที่ดี
ไม่มีการให้โพสข้อความที่ไม่สุภาพ

4.
จงบอกชื่อซอฟต์แวร์ที่เฝ้าระวังของศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์เฝ้าระวังคำบางคำซึ่งเกี่ยวข้องหรือส่อไปในเรื่องที่ไม่พึงประสงค์ มาอย่างละ
1 เว็บไซต์
ตอบ 1.ซอฟต์แวร์ที่เฝ้าระวังของศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต


netnanny คือโปรแกรมที่คอยดักไม่ให้ surf internet เข้าไปในโฮมเพจที่ไม่เหมาะสมกับวัย(อนาจาร)
เหมือนกับ
Cyber Patrol ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.netnanny.com



2. ซอฟต์แวร์เฝ้าระวังคำบางคำซึ่งเกี่ยวข้องหรือส่อไปในเรื่องที่ไม่พึงประสงค์ โปรแกรม
ICTHousekeep เป็นโปรแกรมเพื่อให้เว็บ
//www.sema.go.th/ ข้อมูลเพิ่มเติม //www.icthousekeeper.com


5.จงบอกชื่อซอฟต์แวร์ที่มีผลิตภัณฑ์ปกป้องบุตรหลานจากสื่ออนาจารมา 1 เว็บไซต์
ตอบ cyberp atrol เป็นซอฟต์แวร์ของไมโครซิสเต็ม ซอฟต์แวร์นี้จะใส่รายชื่อเว็บไซต์ต้องห้ามมาให้พร้อมในรายการที่เรียกว่า
Cyber Not เมื่อเด็กๆเปิดเข้าไปในเว็บไซต์ที่มีชื่ออยู่ใน
Cyber Not ก็จะถูกปฏิเสธ เว็บไซด์
www.cyberpatrol.com



6.
จงสรุปรายละเอียดกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ที่มีผลกระทบต่อผู้เรียน
ตอบ 1.ไม่ส่งต่อฟอร์เวิร์ดอีเมล์ที่ได้รับมาจากบุคคลอื่นโดยไม่ทราบถึงแหล่งที่มา
2.
หากท่านพบว่าเนื้อหาในอีเมล์มีความสนใจและต้องการส่งต่ออีเมล์ ให้ตรวจสอบข้อมูลเนื้อหาในอีเมล์ฉบับนั้นก่อนว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายความผิดใดบ้างหรือไม่
3.
หากได้รับอีเมล์จากหน่วยงานหรือสถาบันการเงินเพื่อให้ท่านเข้าไปกรอกข้อมูลที่ผู้ใช้และพาสเวิร์ด ให้ติดต่อโดยการโทรศัพท์สอบถามไปยังหน่อยงานนั้นเสียก่อนว่าได้ส่งเมล์ดังกล่าวมาจริงหรือไม่
4.
หากพบข้อมูลในเว็บบอร์ดใดที่ไม่แน่ใจว่าเป็นความจริงหรือไม่ ห้ามนำข้อความดีงกล่าวไปโพสต์ต่อบนเว็บบอร์ดอื่นเพราะท่านอาจเป็นผู้กระทำผิดโดยไม่รู้ตัว
5.
ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส สปายแวร์ต่างๆ และมั่นอัพเดทข้อมูลไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
6.
ในกรณีที่ใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ ให้ทำการ Log-Out ออกจากระบบทุกครั้ง
7.
ไม่บอกชื่อสมาชิกและพาสเวิร์ดของท่านแก่ผู้อื่น
8.
ตั้งระบบความปลอดภัยในการใช้งานระบบเครือข่ายไร้สาย
(
WireLess Lan) ภายในบ้าน เช่น
ตั้งพาสเวิร์ดก่อนเข้าใช้งาน


7.จงหาตัวอย่างข่าวที่สะท้อนความเข้มแข็งของสมาคมวิชาชีพผู้ดูแลเว็บไทย
ตอบ - สบท. ร่วมกับ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย
จัดโครงการ
Speed Test เพื่อศึกษาและทดสอบคุณภาพความเร็วอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เป็นการแสดงให้เห็นว่าสมาคมไม่การนิ่งเฉยต่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา


ค้นหาข้อมูลได้จาก
: //www.webmaster.or.th/project/speedtest/publish-news
8.
จงสรุปจรรยาบรรณผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมาพอสังเขป
ตอบ บัญญัติ 10 ประการ เป็นจรรยาบรรณที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตยึดถือไว้
เสมือนเป็นแม่บทของการปฏิบัติ
ผู้ใช้พึงระลึกและเตือนความจำเสมอ
บัญญัติข้อที่ 1 ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น
บัญญัติข้อที่ 2 ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
บัญญัติข้อที่ 3 ต้องไม่สอดแนม
แก้ไข
หรือเปิดแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
บัญญัติข้อที่ 4 ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
บัญญัติข้อที่ 5 ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
บัญญัติข้อที่ 6 ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
บัญญัติข้อที่ 7 ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
บัญญัติข้อที่ 8 ต้องไม่นำผลงานของผู้อื่นมาเป้นของตน
บัญญัติข้อที่ 9 ต้องคำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมอันติดมาจากการกระทำของท่าน
บัญญัติข้อที่ 10 ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดนเคารพกฎระเบียบ
กติกาและมีมารยาท

9.จงสรุปจริยธรรมของเว็บไซต์มาพอสังเขป
ตอบ 1.เว็บไซต์ต้องไม่แต่งเติมเนื้อหาสาระของข้อมูลข่าวสารจนคลาดเคลื่อนหรือเกินจากความเป็นจริง
2.
เมื่อมีการคัดลอกข้อความ รูปภาพ
หรือสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายใดๆจากเว็บไซต์
หนังสือพิมพ์
สิ่งพิมพ์ หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ เว็บไซต์ต้องบอกที่มาของข้อความ
รูปภาพ
หรือสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายนั้น
ทั้งนี้การคัดลอกดังกล่าวจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาวิจัยอันมิใช่การกระทำเพื่อแสวงหากำไร เว้นแต่จะมีข้อตกลงเป็นอย่างอื่นกับแหล่งข้อมูลนั้นๆ
3.
การเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีการพาดพิงอันอาจเกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือองค์กรใดๆต้องแสดงถึงความพยายามในการเปิดโอกาสให้ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาแสดงข้อเท็จจริงด้วย
4.
เมื่อเสนอข้อมูลผิดพลาดเว็บไซต์ต้องแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวโดยเร็ว
5.
ต้องไม่เสนอข้อมูลข่าวสารโดยเลื่อนลอย
ปราศจากแหล่งที่มา
ควรระบุชื่อผู้ที่ให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลข่าวสารอย่างเปิดเผย เว้นแต่จะมีเหตุอันควรปกปิดเพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้ให้ข้อมูลข่าวสาร และต้องเป็นประโยชน์ต่อสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของสาธารณชน
6.
ในการเสนอข้อมูล เว็บไซต์ต้องคำนึงมิให้ล่วงละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง
7.
เว็บไซต์ต้องไม่เสนอภาพที่อุจาด ลามกอนาจาร หรือน่าหวาดเสียวโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของสาธารณชน เว้นแต่ภาพที่นำเสนอในเว็บไซต์นั้นจดทำขึ้นเพื่อประโยชน์สาธารณะ และได้มีการแจ้งเตือนต่อผู้เยี่ยมชมโดยชัดเจนแล้ว
8.
เว็บไซต์ต้องไม่เป็นแหล่งเผยแพร่ไวรัสคอมพิวเตอร์ไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้เรียกดู
9.
ในการแสดงความคิดเห็นหรือการวิพากษ์วิจารณ์เว็บไซต์ต้องให้ความเที่ยงธรรมแก่ฝ่ายที่ถูกพาดพิงเสมอ
10.
หากเว็บไซต์มีประสงค์ในการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เรียกดูไปใช้เพื่อการใดการหนึ่ง ต้องแสดงประกาศไว้โดยชัดเจนถึงนโยบายเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล
10.
จงอธิบายความรู้เท่าทันสื่อมาพอสังเขป
ตอบ การรู้เท่าทันสื่อ ผู้สื่อสารควรจะมีความสามารถรู้เท่าทันการสื่อสารทั้งกระบวนการ
ตั้งแต่การรู้เท่าทันจุดมุ่งหมายแท้ๆของผู้ส่งสาร รู้เท่าทันความหมายแท้ๆของสาร
รู้เท่าทันสื่อ รู้เท่าทันผลโดยตรงและผลกระทบสืบเนื่องของการสื่อสารครั้งนั้น
รวมถึงมีวิธีคิดและวิธีตัดสินใจ เลือกวางท่าทีในการสื่อสาร
ให้เหมาะแก่สถานการณ์หรือภาวการณ์นั้น






Free TextEditor




 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2553 13:42:33 น.
Counter : 293 Pageviews.  

แบบฝึกทักษะบทที่เหลือ ที่อัพไม่ได้ในhi5 บทที่5-6

แบบฝึกทักษะบทที่ 5


โปรแกรมประยุกต์พื้นฐานกับงานสารสนเทศ


นางสาวกัญญพร วิเมลืองรังสี ตอนเรียน D2 รหัส
52122760165



1.จงบอกความหมายของอินเทอร์เน็ต
ตอบ
อินเทอร์เน็ต หมายถึง
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ซึ่งประกอบขึ้นจากเครือข่ายขนาดย่อมหลายเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันถึงทั่วโลกเสมือนใยแมงมุม
โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลาโดยใช้มาตรฐานในการรับส่งข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกัน
หรือเรียกว่า โพรโทคอล (
Protocal) ซึ่งโพรโทคอลที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีชื่อเรียกว่า
ทีซีพี/ไอพี (
Transmission Control Protocol or TCP or Internet Protocol or IP) 

2.
จงอธิบายคำว่า ISP 
ตอบ
ISP ย่อมาจากคำว่า Internet Service Provider แปลว่า ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
เป็นหน่วยงานที่บริการให้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัทเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก
ในปัจจุบันประเทศไทยมี
ISP อยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ หน่วยงานราชการหรือสถาบันการศึกษา และ บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ทั่วไป
ผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายนั้นๆ
ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ซึ่งอัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแต่ละราย
ISP ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ

3.
จงยกตัวอย่างโปรแกรมเว็บบราวเซอร์มา
2
โปรแกรม
ตอบ
1.โปรแกรม โปรแกรม Mozilla Firefox 1.จงบอกความหมายของอินเทอร์เน็ต
ตอบ
อินเทอร์เน็ต หมายถึง
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ซึ่งประกอบขึ้นจากเครือข่ายขนาดย่อมหลายเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันถึงทั่วโลกเสมือนใยแมงมุม
โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลาโดยใช้มาตรฐานในการรับส่งข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกัน
หรือเรียกว่า โพรโทคอล (
Protocal) ซึ่งโพรโทคอลที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีชื่อเรียกว่า
ทีซีพี/ไอพี (
Transmission Control Protocol or TCP or Internet Protocol or IP) 


4.โปรแกรมประยุกต์อะไรบ้างที่ใช้สำหรับอีเมล์
ตอบ
1.โปรแกรม Microsoft Outlook ป็นโปรแกรมที่จัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลและการส่งจดหมายอีเล็กทรอนิกส์
ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย

2.
โปรแกรม Outlook Express  เป็นโปรแกรม E-mail Client ซึ่งใช้รับ-ส่ง E-mail ที่มีการทำงานในลักษณะที่เรียกว่า off-line คือ โปรแกรม Outlook Express จะไม่ได้เชื่อมต่อกับ Mail Server อยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเวลาที่เราต้องการรับ หรือส่ง E-Mail โปรแกรม Outlook Express จะทำการเชื่อมต่อไปที่ Mail Server ที่เราได้ตั้งค่าไว้ แล้วดึงข้อมูลมา หรือส่งข้อมูลไปให้เราโดยอัตโนมัติ





5.
จงบอกรูปแบบของการสนทนาออนไลน์
(
Chat) 
ตอบ รูปแบบของการสนทนาออนไลน์ แบ่งได้ 2 รูปแบบดังนี้
1.
เว็บสนทนา (Web Chat) - เป็นการเข้าไปคุยกันในเว็บที่จัดให้บริการ
เป็นการคุยตอบโต้ระหว่างกันผ่าน เซิร์ฟเวอร์กลางที่มักจะทำงานในระบบ
IRC (Internet Relay Chat) โดยใช้บราวเซอร์ ไม่ต้องมีโปรแกรม รันอยู่บนเครื่องของผู้เล่น
เช่น
//www.hi5banphan.com www.pantip.com, //www.hunsa.com เป็นต้น
2.
โปรแกรมสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต (Instant Messaging or IM) - เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ Chat โดยเฉพาะ
เป็นการอำนวยความสะดวกในการคุยโดยตรงระหว่างผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแต่ละคน โดยไม่ ผ่านเซิร์ฟเวอร์กลาง เช่น โปรแกรม
MSN Messenger ,
Pirch , Camfrog เป็นต้น

6.
กระดานข่าวหรือเว็บบอร์ดมีกี่ประเภท
ได้แก่อะไรบ้าง

ตอบ ประเภทของเว็บบอร์ด แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
ดังนี้

1.
เว็บบอร์ดที่เปิดให้คนทั่วไปร่วมแสดงความคิดเห็นได้
–
เป็นเว็บบอร์ดเปิดกว้างสำหรับทุกความคิดเห็น ของทุกคน
ใครก็สามารถเข้ามาตั้งกระทู้ ตอบกระทู้ และโพสข้อความแสดงความคิดเห็นได้
บางเว็บไซต์จะ มีการรับสมัครสมาชิกด้วย
เพื่อรับสิทธิพิเศษ เช่น สามารถทำลิงค์และโพสรูปได้

2.
เว็บบอร์ดข่าวเด็ด ประเด็นร้อน -
เว็บบอร์ดนี้จะมีกระทู้ซึ่งทางเว็บไซต์นั้นๆจะเป็นผู้ตั้ง เพื่อเปิดให้บุคคล ทั่วไปเข้ามาแสดงความคิดเห็นในหัวข้อข่าว
หรือประเด็นต่างๆ

3.
เว็บบอร์ดที่เปิดให้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น -
ต้องเป็นสมาชิกจึงจะ
Log in เข้าไปโพสข้อความได้ ส่วนใหญ่ จะเป็นเว็บบอร์ดของคณะ ชมรม บริษัท
หรือกลุ่มต่างๆ


7.
จงอธิบายประโยชน์และข้อเสียของเว็บบอร์ด
ตอบ ประโยชน์ –
เป็นศูนย์กลางในการแสดงความคิดเห็น ตั้งกระทู้ ถามตอบ สอบถามปัญหาที่สงสัย
, ในการสนทนาจะมีเวลาคิดกลั่นกรองข้อความที่จะโต้ตอบก่อนที่จะโพส, เป็นเวทีระดมความรู้
ความคิดเห็น แจ้งประกาศสาระประโยชน์ต่างๆ

ข้อเสีย -
สามารถใช้เป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดีได้
โดยการโพสข้อความที่ว่าร้ายใส่ร้ายผู้อื่น ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
โพสข้อความและรูปลามก อนาจาร หรือข้อความที่ยุยงส่งเสริมให้เกิดการทะเลาะ เบาะแว้งกับผู้อื่น
, สามารถใช้เป็นช่องทางหากินของมิจฉาชีพได้, เป็นที่ระบายอารมณ์จนเกินขอบเขต
กลายเป็นเรื่องไร้สาระ
และผู้ส่งข้อความไม่แสดงความรับผิดชอบต่อข้อความนั้น อาจก่อให้เกิดความ ขัดแย้ง
, ทำให้ผู้ใช้บางรายหมกมุ่นกับเว็บบอร์ดมากจนเกิดความจำเป็น
ส่งผลเสียในหลายๆด้าน


8.
จงอธิบายลักษณะของเว็บเครือข่ายสังคม
ตอบ เว็บเครือข่ายสังคม (Social Network Site) เป็นบริการผ่านเว็บไซต์ที่เป็นจุดโยงระหว่างบุคคลแต่ละคนที่มีเครือข่ายสังคมของตัวเองผ่านเน็ตเวิร์คอินเทอร์เน็ต
ทำให้เกิดความร่วมมือกัน การแบ่งปัน การแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร
ความบันเทิง เป็นเครือข่ายระหว่างหน่วยเล็กๆ
ที่เชื่อมโยงกันจนเกิดเป็นสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ สามารถพูดคุย นำเสนอ
บอกเล่าเรื่องส่วนตัว และเรื่องธุรกิจผ่าน
Social Network ได้
9.
จงบอกความหมายของบล็อก
(
Blog) 
ตอบ บล็อกมาจากศัพท์คำว่า WebBlog คือการบันทึกส่วนตัวออนไลน์หรือบทความส่วนบุคคล
(
Personal Journal) ลงลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของบล็อกจะหลากหลาย
ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัว (
Diary) หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจ
ผู้เขียนสามารถเขียนบทความได้โดยไม่ต้องผ่านการแก้ไขจากบรรณาธิการเหมือนกับสื่อสิ่งพิมพ์
ผู้อ่านสามารถโพสโต้ตอบแสดงความคิดเห็นกับผู้เขียนบล็อกได้


10.
ควรเลือกพื้นที่สร้างโฮมเพจอย่างไร
ตอบ 1.ขนาดเนื้อที่บนฮาร์ดดิสก์ของเว็บไซต์ควรมีขนาด
10 MB ขึ้นไป
ยิ่งมากก็ยิ่งทำให้สามารถใส่รายละเอียดบทโฮมเพจได้มาก

2.
เงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาในการอัพเดทข้อมูล
3.
อนุญาตให้มีการซื้อขายหรือสั่งสินค้าหรือไม่
หากอนุญาต มีการเก็บค่าบริการหรือไม่ และมีเครื่องมือช่วยในเรื่องนี้แค่ไหนอย่างไร

4.
ชื่อเว็บสั้น ง่ายต่อการจดจำ
จึงควรเลือกชื่อที่สั้นที่สุดเท่าที่เว็บไซต์สามารถให้บริการได้

5.
กลุ่มผู้ชมกับเซิร์ฟเวอร์ควรอยู่ใกล้กัน เช่น
ถ้าจะให้คนไทยดูเป็นหลัก เซิร์ฟเวอร์ก็ควรอยู่ประเทศไทย
เพราะข้อมูลจะวิ่งไปถึงผู้ชมในระยะทางที่สั้นและเร็วกว่า

6.
ความมั่นคงของเว็บไซต์ที่ให้ฟรีโฮมเพจนั้นๆ
สังเกตได้จากโฆษณาแบนเนอร์ (
Banner) ที่ปรากฏใน เว็บไซต์นั้น
จำนวนผู้ที่เป็นสมาชิกยิ่งมากก็ยิ่งทำให้มีโฆษณามาก
รายได้ของเว็บไซต์ที่ให้บริการฟรีโฮมเพจก็มากตามไปด้วย




แบบฝึกหัดบทที่ 6 การสร้างเว็บบล็อค


นางสาว กัญญพร วิเมลืองรังสี ตอนเรียน D2 รหัส 52122760165
คำถามทบทวน

1.
จงอธิบายความหมายคำว่า
Blogger 
ตอบ หมายถึง
ผู้ที่ใช้บล็อกหรือคนเขียนบทความลงบนบล็อกนั้นๆ
โดยนำเสนอสิ่งที่ตนเองสนใจออกมาบนโลกออนไลน์ และให้ผู้คนที่สนใจเรื่องเดียวกันเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้



2.
จงอธิบายความหมายคำว่า
Blog Posts หรือ Entries 
ตอบ หมายถึง
บทความหรือบันทึกส่วนตัวบนบล็อกที่เขียนขึ้น
ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปอ่านและศึกษาได้




3.
จงยกตัวอย่างประเภทของบล็อกมา
3 ประเภท
ตอบ 1.ประเภทการเมือง เนื้อหาของบล็อกนำเสนอข่าวสาร
เรื่องราวทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ กลุ่มผู้ใช้บล็อกประเภทนี้
มักเป็นนักวิชาการ เป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็น อภิปรายโต้แย้ง
ซึ่งบางบล็อกมีลิงค์บทความจากหน้าเว็บไซต์ข่าว เช่น
WarBlog 


2. ประเภทบันทึกออนไลน์ (Diary Online) ลักษณะของเนื้อหาจะแตกต่างจากบล็อกประเภทอื่นๆ
รูปแบบของเนื้อหาจะเป็นบันทึกส่วนตัวของผู้เขียนบล็อก เช่น
บันทึกเรื่องราวประจำวัน บันทึกการเดินทางท่องเที่ยว ฯลฯ
ลักษณะการเขียนจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าบล็อกประเภทอื่น
ภาษาที่ใช้ค่อนข้างจะเป็น ภาษาพูด
เป็นบล็อกที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาเป็นอย่างมาก
บล็อกที่ให้บริการบันทึกออนไลน์ได้แก่
www.yenta4.com,
//www.myspace.com, //www.storythai.com
เป็นต้น
3.
ประเภทวัฒนธรรม (Cultural) เป็นบล็อกที่เนื้อหาส่วนใหญ่เน้นไปที่เรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรม
ศิลปะ ดนตรี ภาพยนตร์ กีฬา ท่องเที่ยว เป็นต้น
บล็อกประเภทนี้จึงเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับประเด็นวัฒนธรรม
รวมถึงการอภิปรายโต้เถียงกันในเรื่องดังกล่าว ตัวอย่างเช่น
TravelBlog นำเสนอเรื่องราว เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นต้น
4.
บันทึกออนไลน์ต่างจากบล็อกประเภทอื่นอย่างไร
ตอบ บล็อกทั่วไปจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับด้านต่างๆเช่น
ธุรกิจ การเมือง วิทยาศาสตร์ ฯลฯ
แต่บล็อกประเภทบันทึกออนไลน์รูปแบบของเนื้อหาจะเป็นบันทึกส่วนตัวของผู้เขียนบล็อก
ลักษณะการเขียนบล็อกบันทึกออนไลน์จะมีการใช้ภาษาที่เป็นกันเอง ภาษาพูด
มากกว่าบล็อกทั่วๆไป ที่มักจะใช้ภาษาทางการหรือกึ่งทางการ

และทางด้าน รูปแบบของเนื้อหาจะเป็นบันทึกส่วนตัวของผู้เขียนบล็อก
ลักษณะการเขียนบล็อกบันทึกออนไลน์จะมีการใช้ภาษาที่ค่อนข้างจะเป็นภาษาพูด
เนื้อหามีความเป็นส่วนตัวสูง



5.ส่วนประกอบของบล็อกประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง
ตอบ 1.ชื่อบล็อก
(
Blog Title) ซึ่งจะกำหนดเป็นชื่อของเจ้าของบล็อกหรือนามปากกาก็ได้
2.
วันที่และเวลา (Date & Time
Stamp)
วันที่และเวลาที่โพสบทความหรือบันทึกส่วนตัวนั้นๆ
3.
ชื่อบทความหรือบันทึก (Entry Title) ชื่อเรื่องของบทความหรือบันทึกที่เขียนลงในบล็อก
4.
เนื้อหาบทความ (Entry’s Main Body) ประกอบด้วยตัวอักษร รูปภาพ วีดีโอ
หรือ ภาพเคลื่อนไหว

5.
ความคิดเห็น (Comment Tag) เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างผู้อ่านกับผู้เขียน
ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองที่มีต่อบทความหรือบล็อกนั้นๆ

6.
ปฏิทิน (Calendar) บล็อกบางแห่งอาจมีปฏิทินอยู่ด้วย
โดยในปฏิทินนั้นสามารถคลิกตามวันที่เพื่ออ่านบทความแต่ละวันได้สะดวก

7.
บทความหรือบันทึกย้อนหลัง (Archives) บทความหรือบันทึกส่วนตัวเก่า
อาจมีการจัดเตรียมไว้โดยเจ้าของบล็อก โดยบล็อกแต่ละแห่งอาจจัดเรียงบทความหรือบันทึกย้อนหลังไม่เหมือนกัน
เช่น จัดเรียงเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ เป็นต้น


6.
จงสรุปหลักการสร้างบล็อก
ตอบ 1.เลือกเรื่องที่จะเขียน :
ควรเลือกเรื่องที่ตนเองชอบและถนัดที่สุด ซึ่งจะทำให้ผู้เขียนรู้สึกสนุกที่จะเขียน
และผู้อ่านจะรู้สึกเชื่อถืออยากติดตามงานเขียน

2.
เขียนบทความที่มีอายุการใช้งานนานๆ -
บทความบางเรื่องมีอายุการใช้งานสั้นมาก เช่น บทความจำพวกข่าวต่างๆ
สำหรับการเขียนที่มีอายุการใช้งานได้นานๆนั้น ไม่ควรระบุระยะเวลาลงไปในบทความ

3.
เขียนบทความขึ้นเองอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง :
บทความที่จะสามารถทำให้บล็อกเป็นที่กล่าวขวัญก็คือ
บทความที่เขียนขึ้นเองและไม่ซ้ำกับใคร
ทั้งนี้ไม่ควรคัดลอกบทความของคนอื่นมาเป็นผลงานของตนเอง
เพราะเป็นการแสดงความไม่ซื่อสัตย์ของเจ้าของบล็อก ขาดความน่าเชื่อถือและศรัทธา
อีกทั้งเป็นการผิดกฎหมายลิขสิทธิ์
แต่หากจำเป็นต้องคัดลอกเนื้อหาของผู้อื่นมาใช้ให้อ้างอิงที่มา
เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

4.
เขียนข่าวก่อนคนอื่น :
หากเป็นบล็อกรายงานข่าว ควรเขียนข่าวให้เร็วกว่าคนอื่น
เพราะจะทำให้ผู้อ่านคิดถึงบล็อกของเราเป็นอันดับแรก หากผู้อ่านต้องการอ่านข่าว

5.
ควรสร้างชุมชน (Community) ขึ้นบนบล็อกของผู้เขียน :
โดยการสร้างสัมพันธ์กับผู้อ่านผ่านระบบแสดงความคิดเห็น (
Comment) รวมถึงผู้เขียนบล็อกรายอื่นด้วย
กระทำโดยการทักทายผ่าน
Comment ด้วยการขอบคุณแสดง ความเป็นมิตร
6.
ไม่ควรเก็บรูปภาพลามกอนาจาร หรือเนื้อหาวีดีโอต่างๆที่ไม่เหมาะสม
เก็บไฟล์เพลง ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ให้
Download หรือแจก
Serial Number ที่ผิดกฎหมาย
หรือเขียนข้อความพาดพิงถึงผู้อื่นอันเป็นการหมิ่นประมาท สร้างความเสียหาย
หรือเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ผู้อื่น


7.
เนื้อหาของบล็อกมีลักษณะใดบ้าง
ตอบ เนื้อหาของบล็อกมี 2 ลักษณะ
คือ


1.
บทความ (Article) เช่น
บทความสารคดีท่องเที่ยว บทความวิชาการ เป็นต้น


2.
บันทึกส่วนตัว
(
Diary) 


8.จงอธิบายขั้นตอนการเขียนบทความ
ตอบ 1.เลือกเรื่องที่จะเขียน
- ควรเป็นเรื่องที่ผู้เขียนและผู้อ่านสนใจ มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทันสมัย
เป็นเรื่องที่ผู้เขียนมีความรู้ ประสบการณ์
หากยังมีความรู้ไม่เพียงพอก็ควรจะค้นคว้าศึกษาเพิ่มเติม

2.
เริ่มต้นเขียน - ส่วนประกอบของบทความแบ่งออกเป็น
3 ส่วนดังนี้
2.1
ส่วนนำ - เป็นส่วนเกริ่นก่อนเข้าเนื้อเรื่อง
เพื่อชักจูงให้ผู้อ่านอยากอ่าน อยากติดตาม

2.2
ส่วนเนื้อเรื่อง -
เป็นส่วนที่มีปริมาณเนื้อหามากที่สุด ซึ่งต้องมีการวางโครงเรื่อง แยกประเด็นสำคัญ
ประเด็นย่อย มีการเรียงลำดับอย่างเป็นระบบ

2.3
ส่วนสรุป - ควรเป็นส่วนที่ฝากข้อคิดให้ผู้อ่าน

9.
จงอธิบายวิธีการเขียนบันทึกส่วนตัว
ตอบ
วิธีการเขียนบันทึกส่วนตัวคือ
เขียนเรียงลำดับเหตุการณ์ประจำวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำของเรา
ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่ผู้เขียนใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว คือภาษาปาก
แต่ต้องระวังเรื่องคำหยาบคาย ภาษาแสลง
การเขียนบันทึกให้ได้อรรถรสคือการเขียนด้วยความรู้สึกและอารมณ์ของผู้เขียน
เทคนิคการเล่นคำการใช้ภาษาจะช่วยทำให้ชวนติดตามอ่าน


10.
การเขียนบันทึกส่วนตัวมีรูปแบบใดบ้าง
ตอบ
การเขียนบันทึกส่วนตัวทำได้ทั้งรูปแบบบันทึกประจำวัน ซึ่งควรจะเขียนทุกวัน
กับบันทึกการเดินทาง
ซึ่งจะเขียนขึ้นเมื่อกลับจากการเดินทางท่องเที่ยวซึ่งไม่ต้องเขียนบ่อยเท่าบันทึกประจำวัน








Free TextEditor




 

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2553 13:42:51 น.
Counter : 304 Pageviews.  

ประเถทอาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข

Smileyประเภทของอาหารและเครื่องดื่ม ที่สุนัขควรหลีกเลี่ยงSmiley


1.อาหารแมว ทั้งชนิดเม็ดและชนิดบรรจุกระป๋อง เนื่องจากมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าอาหารสุนัขถึง5เท่าและมีกรดอะมิโนอีกทั้งไขมันสูงเกินไปสำหรับสุนัข




2.อาหารสำเร็จรูปสำหรับทารก ที่มีส่วนผสมของหัวหอมเนื่องจากจะทำให้เกิดพิษในสุนัข




3.กระดูก หรือก้างปลา โดยเฉพาะกระดูกของสัตว์ปีกเพราะสามารถแตกและทิ่มตำอวัยวะภายใน เช่นกระเพาะและลำไส้ของสุนัขได้                                     



4.ช็อคโกแลต และหรืออาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของถั่ว cacao ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตโกโก้ สารในกลุ่มเมททิลแซนซีน เช่น สารทีโอโบรมีน และคาเฟอีน จะทำให้เกิดการหดตัวของเส้นเลือด และกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจให้ทำงานหนักขึ้น และอาจส่งผลต่อการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางทำให้เกิดการชัก




5.เครื่องดื่มหรืออาหารที่มีส่วนผสมของชา กาแฟ จะมีคาเฟอีน และน้ำตาล อาจทำให้สุนัขมีอาการคล้ายกับการกินช็อคโกแลตได้



6.ถั่วแมคคาเดเมีย ส่งผลกระทบต่อระบบการย่อยอาหารและการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้ออ่อนแรง




7. อาหารที่ปรุงด้วยหัวหอมและกระเทียม เนื่องจากหัวหอมและกระเทียม ทั้งดิบและปรุงสุก และแบบบดเป็นผง ทำลายเม็ดเลือดแดงส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานต่างๆภายในร่างกาย




8.องุ่น หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากองุ่น รวมถึงลูกพรุน ส่งผลต่อการทำงานของไต สามารถทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน




9.ก้าน ใบ เมล็ด ของแอปเปิ้ล อัลมอนด์ ลูกแพร์ ลูกพลัม หรือผลไม้ที่คล้ายคลึงกัน ทำให้เกิดอาการท้องร่วง ปวดท้อง และอาเจียนได้




10.เชอร์รี่ มีผลต่อระบบทางเดินหายใจเพิ่มอัตราในการเต้นของหัวใจให้ถี่และเร็วยิ่งขึ้น จนถึงขั้นช็อคได้




11.เห็ด ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้อาหารไม่ย่อย ปวดท้องคลื่นไส้อาเจียน มีผลต่อการทำลายตับและไต




12.ไข่ดิบ มีเอนไซม์ที่เรียกว่า(avidin) จะลดการดูดซึมของไบโอติน(วิตามินบีชนิดหนึ่งที่มีผลต่อผิวหนังและเส้นขน) และในไข่ดิบอาจมีเชื้อแซลโมเนลล่า(salmonella) ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหารในสุนัขได้




13.ปลาดิบ ส่งผลต่อไทอามิน(thiamine) ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งทำให้เกิดการสูญเสียความอยากอาหาร เป็นลม




14.อาหารที่มีรสเค็ม และรสหวาน เช่น มีส่วนผสมของน้ำตาลหรือเกลือในปริมาณมาก




15.นม หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมวัว ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากสุนัขไม่มีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนจากนมวัว




16.เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อาจทำให้สุนัขเกิดการช็อค โคม่าและเสียชึวิตได้



        อาหารบางชนิด เราอาจไม่คิดว่าสุนัขจะรับประทาน แต่มันก็มีบางจำพวกที่รับประทานอาหารจำพวกที่ยกตัวอย่างมานะคะ ^^


บทความ ที่เจินโกะนำมาให้ทุกท่านอ่าน หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อท่านทั้งหลายบ้างนะคะ เพื่อความปรารถนาดี ต่อคุณและ


สุนัขที่คุณรัก Smiley                                                                                  By : Jernko Smiley






Free TextEditor




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2553 11:25:29 น.
Counter : 485 Pageviews.  

ปัญหาอาหารกับลูกสุนัข

SmileyปัญหาอาหารกับลูกสุนัขSmiley


กลับมาแล้ว จากที่ไม่ได้มาอัพตั้งนาน ^^ งานเยอะเหลือเกินใจจะอดทนค่า ใกล้จะสอบแล้ว มีงานให้เคลียเยอะแยะเลย เรื่องราวครั้งนี้ที่เจินโกะจะมานำเสนอให้กับเพื่อนชาวบล็อกนะคะ คือ ปัญหาในเรื่องอาหารของลูกรักของคุณๆทั้งหลาย ที่บางท่านมีข้อสงสัยว่า ....


ทำไม ลูก(หมา)รักของท่าน ไม่รับประทานอาหารบ้างSmiley


เบื่ออาหารบ้าง เกิดพยาธิบ้าง ปัญหาสารพัดสารเพ วันนี้ เจินโกะมีความรู้เกี่ยวกับ หลักโภชนาการอย่างถูกต้อง ของพวกเขา ให้คุณๆได้เข้าใจถึงความต้องการของลูกสุนัขของคุณกันนะคะ



มากันที่ ข้อสงสัย ของบุคคลนิรนามท่านหนึ่ง มีข้อสงสัยว่า จากเมื่อก่อนสุนัขของเขา ทานอาหารเม็ด ได้ 4 เดือน เปลี่ยนมาเป็นรับประทานอาหารคน ไปได้สักพัก พักหลัง เขาถึงไม่ค่อยยอมกินอาหาร หรือบางทีก็กินนิดเดียว แล้วก็ส่งผลให้ สุนัขของเขานั้นผอมแห้ง เกิดจากสาเหตุใด..Smiley


เจินโกะSmiley ได้สอบถามข้อมูล จากกูรู ผู้รักสุนัข พบว่า การที่ให้สุนัขเลือกรับประทานอาหารหลากหลาย หรือเป็นอาหารใดก็ได้ สุนัขจะเกิดการเปลี่ยนนิสัยการกิน และกินไม่เลือกเวลา บางครั้งอาจจะไม่กินเลย ส่งผลให้การกินผิดปกติ และมีผลโยงไปถึงการขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง ทางออกที่ดีที่สุด คือ การกำหนดเวลาให้กินอย่างชัดเจน อย่างน้อย มื้อละ 1 ครั้ง ก็อยู่ในเกณฑ์ดี เพราะการที่เขาเลือกกินอาหารสะเปะสปะ ทำให้อาหารที่เขากินไปพลังงานสูง แต่คุณค่าทางอาหารน้อย จึงทำให้เขาไม่ค่อยอยากกินอาหาร ถ้าเมื่อไหร่ที่เจ้าของจัดสรรเวลาการกินของเขาอย่างเข้มงวด เขาก็จะเกิดพฤติกรรมจดจำ และรู้ว่าเวลาใดที่จะได้รับประทานอาหาร ทำให้เขามีความเคยชิน และรับประทานอาหารเพิ่มมากขึ้น และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สุนัขของท่านเบื่ออาหาร คือ ถ้าสุนัขของท่านเป็นเพศผู้ สัญชาติญาณ ของเพศผู้ทั่วไป มักจะสนใจเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องการกิน ทำให้สุนัขมีปัญหาในเรื่องการกิน ส่งผลให้การกินอาหารของเขาเปลี่ยนไป และน้อยลง ทางแก้ทางเดียวเลยนะคะ ท่านเจ้าของทั้งหลายต้องใจแข็ง ถึงแม้ว่าเขาจะร้องขออาหารก็ตาม ก็ต้องให้เขากินได้ต่อเมื่อถึงเวลาที่เขาควรที่จะได้กินเท่านั้น เพื่อเป็นการฝึกนิสัยของเขา ให้รู้จักเวลา และมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นนะคะ อาจจะต้องทำใจซะหน่อยช่วงแรกๆ แต่หลังๆ ลูกสุนัขของคุณ จะเข้าใจว่าคุณรักและเป็นห่วงเขาแค่ไหน ^^


นอกจากปัญหาในเรื่องการเบื่ออาหารของสุนัขแล้ว เจินโกะยังมีเทคนิคง่ายๆสำหรับการให้อาหารสันุขของท่านด้วยคะ เทคนิคที่ว่า มีดังต่อไปนี้


1.ตักทิ้งไว้ครั้งละมากๆ ให้สุนัขเลือกทานเอง กรณีนี้สุนัขคุณจะทานอาหารได้ทั้งวัน ทั้งคืน เป็นการสะดวกต่อเจ้า ของที่มีธุรกิจมาก ไม่ค่อยจะอยู่บ้านเลี้ยงดูมันอาหารประเภทนี้ควรเป็นอาหาร
ประเภทเม็ดจะสะดวกที่สุด เพราะหากให้เป็นอาหารสดเมื่อทิ้งไว้นานๆจะทำให้บูดเน่าเป็นอันตราย ต่อสุนัขข้อเสียของการให้อาหารประเภทนี้ จะทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่าสุนัขตัวไหนได้กินมาก หรือกินน้อย หรือตัวไหนไม่ได้ กินเลย เพราะพฤติกรรมของสุนัขก็มักมีการเบ่งอวดความแข็งแกร่ง ถึงขนาดขู่ ไม่ให้ทานอาหารเลยก็มี ซึงกรณีนี้เราจะล่วงรู้ได้อีกทีก็ต่อเมื่อสุนัขบางตัว ของท่านซูบผอม หรือไม่สบาย 


2. ให้อาหารโดยควบคุมเรื่องเวลา การกำหนดเวลาให้อาหารสุนัข จะทำให้มันรู้เวลาของมันโดยอัตโนมัติ พอถึงเวลาสุนัขของท่าน ก็จะเรียกร้องที่จะขออาหารทาน เช่น เดินตาม หรือเห่าร้อง เอามือตะกายประตู หรือข้างฝา สุนัขบางตัวจะค่อยๆ กิน บางตัวก็จะรีบกินโดยไม่ตรวจสอบดูว่า อาหารในจานเป็นอะไร มีมาก
น้อยเพียงแค่ไหน ควรจำกัดเวลากินของมันสัก 20-30 นาทีก็จัดเก็บอาหาร เก็บไว้ให้มันกินในมื้อต่อๆ ไปลูกสุนัขที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือนควรให้กินวันละ 3 มื้อ 6-12 เดือน ควรให้กินวันละ 2 มื้อ อายุเกิน 1 ปีขึ้นไปให้กินวันละ 1 ครั้งก็พอ 


3.แบ่งอาหารตามสัดส่วนและอัตราการกินของสุนัขแต่ละตัว สุนัขแต่ละตัวมี พฤติกรรมการกินที่แตกต่างกันออกไป บางตัวกินน้อย บางตัวกินมาก บางตัว นอกจากจะกินมากแล้ว ยังกีดกันไม่ให้ตัวอื่นกินในที่ของมันอีก วิธีนี้จะเป็นวิธี การให้อาหารทีดีที่สุด แต่คุณจะต้องมีเวลาที่จะคอยควบคุมการกินของบรรดา
เหล่าสุนัขพวกนี้ปัญหาที่ทำให้ผู้เลี้ยงสุนัขประสบอีกอย่างหนึ่งคือ ปัญหาการเปลี่ยน อาหารสุนัข พบว่าสุนัขบางตัวปฏิเสธไม่ยอมรับอาหารใหม่เหล่านั้น วิธีการที่ถูกต้องในการปรับให้สุนัขทานอาหารใหม่ ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยสัปดาห์แรกควรนำ อาหารเก่าและใหม่มาคลุกรวมกันในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 เพื่อไม่ให้สุนัขลืมรสชาติอาหารเก่า สัปดาห์ที่ 2 เพิ่มอัตราส่วนอาหารใหม่เป็น  1 ต่อ 2 พอสัปดาห์ที่ 3 ก็เพิ่ม เป็น 3 ต่อ 4 และสัปดาห์ต่อไปก็ลอง ให้อาหารใหม่ เพียงอย่างเดียว สุนัขของคุณก็จะเคยชินและยอมรับอาหารใหม่ไปโดยปริยาย การเปลี่ยนอาหารใหม่ให้สุนัขเป็นเรื่องที่ดี ดังกล่าวมาแล้ว เพราะจะทำ ให้สุนัขได้รับสารอาหารชนิดอื่นหมุนเวียนครบถ้วน กรณีที่มันไม่ยอมรับ ผู้เลี้ยง ต้องทำใจและค่อยๆ ปรับเปลี่ยนโดยใช้เวลา ซึ่งอาจจะนานกว่า 4 สัปดาห์ ถ้ามันเป็นสุนัขที่ดื้อและไม่ยอมเปลี่ยนอาหารง่าย 



                                                                                                                                  By : Jernko  Smiley






Free TextEditor




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2553 10:52:22 น.
Counter : 265 Pageviews.  

1  2  
 
 

Jernko
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Jernko's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com