วิธีเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการส่งสิ่งของ
ไปรษณีย์ไทย เป็นบริการขนส่งสิ่งของพื้นฐานที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากราคาถูกและมีหลายสาขา สะดวกในการใช้บริการ สามารถส่งสิ่งของได้ตั้งแต่เอกสารชิ้นเล็กๆ อย่างจดหมาย ไปจนถึงสินค้าที่มีขนาดใหญ่เช่น ยานพาหนะ บริการส่งพัสดุไปรษณีย์มีทั้งส่งในประเทศและระหว่างประเทศ ประเภทการส่งแบ่งออกเป็น ส่งพัสดุแบบธรรมดา ส่งพัสดุแบบลงทะเบียน ส่งพัสดุแบบ EMS และพัสดุเก็บเงินปลายทาง แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน สำหรับการส่งพัสดุนั้นจำเป็นต้องมีการบรรจุหีบห่อให้เรียบร้อยก่อนส่งทุกครั้ง โดยบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หีบห่อมีดังต่อไปนี้
 - ซองจดหมาย ใช้สำหรับส่งจดหมายธรรมดาทั่วไป หรือเอกสารต่างๆ จำพวกที่เป็นกระดาษ ข้อควรระวังคืออาจยับได้ แต่ถ้าใครคิดจะส่งธนบัตรผ่านทางซองจดหมายอันนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นสิ่งของต้องห้าม ควรเปลี่ยนไปส่งเป็นธนาณัติจะปลอดภัยกว่าค่ะ
- ซองกันกระแทก ซองประเภทนี้จะมี Air Bubble เป็นเม็ดฟองอากาศพลาสติกกันกระแทกที่บุอยู่ด้านในของซอง เหมาะกับการใช้ใส่สิ่งของชิ้นเล็กที่มีน้ำหนักเบา แต่เสี่ยงต่อการกระแทก ซึ่งอาจทำให้เกิดการแตกหักรอยขีดข่วน เช่น แผ่นซีดี สมุด เคสโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
- ซองเอกสารหรือซองน้ำตาลไปรษณีย์ สามารถบรรจุเอกสารหรือสิ่งของที่มีรูปร่าง ซึ่งจะมีซองแบบรีดข้าง และขยายข้าง สิ่งของที่บรรจุนั้นจะต้องสามารถรับแรงกระแทกได้เล็กน้อย ไม่เกิดการแตกหัก หากมีการโยนหรือวางซ้อนกันของสินค้า ข้อเสียคืออาจเกิดการฉีกขาดของซองได้ง่าย
- กล่องกระดาษไปรษณีย์ เป็นที่นิยมใช้ในการส่งพัสดุ ตัวกล่องผลิตจากกระดาษลูกฟูกมีหลายขนาดให้เลือก ใช้ใส่สิ่งของชิ้นใหญ่ สามารถป้องกันการกระแทกในระหว่างส่งสินค้าได้ดี แต่ยุ่งยากในการบรรจุหีบห่อ เนื่องจากหากสินค้ามีขนาดเล็กกว่ากล่อง จำเป็นต้องใช้วัสดุเพิ่มเข้าไปยังพื้นที่ว่าง เพื่อลดการเคลื่อนไหวของสิ่งของ เช่น ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ พลาสติกกันกระแทก หรือโฟม ในการลดช่องว่างในกล่อง และจะต้องมีการผูกเชือกที่กล่องก่อนการส่งด้วย ซึ่งอาจทำให้กล่องมีน้ำหนักมาก ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการสูงขึ้นอีก แต่ก็ปลอดภัยกับสินค้าที่ต้องการป้องกันการแตกหัก
- ซองไปรษณีย์พลาสติก ลักษณะคล้ายกันกับซองน้ำตาล แต่ผลิตจากพลาสติก ข้อดีคือมีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง สามารถบรรจุสิ่งของที่มีน้ำหนักได้มากกว่าการใส่ซองน้ำตาล ป้องกันความเปียกชื้นได้ดี สิ่งของด้านในจึงไม่เกิดความเสียหายจากการรั่วซึมของน้ำอย่างแน่นอน แถวกาวที่ใช้ปิดซองแน่นหนา ยากต่อการดึงออกของผู้อื่น ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีของการใช้บรรจุสิ่งของ มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดที่สามารถใส่กล่องรองเท้าทั้งกล่องเข้าไปได้ ด้วยน้ำหนักเบาของซองพลาสติก ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปได้มากกว่าการใช้กล่องกระดาษในการบรรจุ อีกทั้งยังช่วยย่นระยะเวลาในการหีบห่ออีกด้วย ถ้ากังวลเรื่องการแตกหัก สามารถป้องกันการกระแทกได้โดยใช้พลาสติกกันกระแทกห่อหุ้มสิ่งของก่อนบรรจุลงซองพลาสติก
บรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการหีบห่อเพื่อส่งพัสดุนั้น สามารถแบ่งออกมาได้หลักๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าเลือกใช้ให้เหมาะกับสิ่งของที่จะขนส่งแล้ว อาจจะทำให้ประหยัดค่าขนส่งที่จะต้องเสียไปได้อีกหลายบาท เพราะอย่าลืมว่าราคาในการส่งพัสดุนั้น เพิ่มขึ้นตามน้ำหนักสิ่งของที่จะส่ง ยิ่งถ้าเป็น EMS ด้วยแล้ว โดนไปหลายบาทเลยล่ะค่ะ จะส่งแบบลงทะเบียนก็ไม่ทันใจอีก ฉะนั้น ทางเลือกก็คือ ต้องบรรจุหีบห่อสิ่งของให้ได้น้ำหนักน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งลดลงไปได้แล้ว ยังเป็นเรื่องที่ดีต่อใจและเงินในกระเป๋าของคุณด้วยใช่ไหมล่ะคะ
| Create Date : 19 พฤศจิกายน 2559 |
| Last Update : 19 พฤศจิกายน 2559 14:44:06 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 865 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ทุกวันนี้การส่งของไม่ว่าจะผ่านไปรษณีย์ หรือว่าผ่านบริษัทจัดส่งเอกชนก็ตาม เป็นที่นิยมกันมากขึ้น เนื่องด้วยเพราะมีการค้าขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ที่เรียกกันง่ายๆว่า ขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะส่งกับเจ้าไหนก็ตามก็มีแนวโน้มที่ของเราจะได้รับความเสียหายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นการแพ็คของให้ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณาเป็นอย่างแรก
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
