Cradle Cap (ไขบนหนังศรีษะลูก)ควรจัดการอย่างไร



อย่างแรกเลย คือคุณแม่ต้องใจเย็นๆค่ะ เจ้าเครเดิ้ล แคปเนี่ยไม่ได้เป็นอันตรายหรือทำให้เจ้าตัวเล็กไม่สบายตัวแต่อย่างใด สบายใจได้ค่ะ เครเดิ้ล แคปเนี่ยเกิดจากการทำงานผิดปกติของต่อมผลิตไขมัน มันผลิตออกมามากเกินไป ทำให้ดูเหมือนลูกน้อยมีรังแคขึ้นมา ซึ่งบางครั้งเครเดิ้ล แคปเนี่ยก็ไม่จำเป็นจะต้องเกิดบนหนังศรีษะอย่างเดียวด้วย มีบางเคสเจอตามหู คอ รักแร้ หรือจะที่ก้นลูกก็เกิดได้ ซึ่งหมอเด็ก(หรือหมอผิวหนังดี)จะเรียกว่า "seborrheic dermatitis"ชื่ออาจแลดูน่ากลัวแต่อย่างที่บอกค่ะมันไม่ได้ร้ายแรง บางครั้งแค่ปล่อยมันไป พอถึงเวลามันก็หายเองได้ แต่ว่าบางทีเจ้าอาการนี้เนี่ยก็อาจเกิดเพราะว่าคุณลูกแพ้อะไรบ้างอย่างแล้วทำให้เกิดอาการคล้ายเครเดิ้ล แคปได้ ไม่ใช่เจ้าเครเดิ้ล แคปแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นควรปรึกษาหมอเด็กก่อนด้วยนะคะ ว่าเจ้าอาการที่ลูกเราเป็นเนี่ย เป็นอะไรกันแน่ โอเค กลับมาเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่าเจ้าเครเดิ้ล แคปที่ว่าแม้ว่าเด็กๆจะไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่สบายตัวแต่อย่างใด แต่มันอาจทำให้บรรดาแม่ๆเราเนี่ยแหละคะที่กังวล เอ เราทำอะไรพลาดไปหรือเปล่าหนอ แต่อย่างที่ว่าเมื่อต่อมไขมันของลูกน้อยกลับมาทำงานตามปกติแล้ว อาการนี้ก็จะหายไปโดยง่าย หายได้เองด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าการรออย่างเดียวมันไม่พอใช่ไหม เรามาทำอะไรบางอย่างเพื่อความสบายใจกันดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ทำล่ะนะ อุปกรณ์ก็หาไม่ยาก คุณแม่น่าจะมีอยู่แล้วที่บ้าน อย่างแรกคือ หวีค่ะ หวีเด็กที่มีขนเป็นแปรงนุ่มๆนั่นแหละค่ะ ลองเอามาถูท้องแขนเราดูก่อนนะคะว่าจะระคายเคืองมากไปหรือเปล่า เทส เทส ค่ะ สอง คือ เบบี้ออลย์ค่ะ บ้างคนได้มาก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร บ้านเรามันร้อนใช้มากไปก็เหนอะหนะตัวลูก ทำเอาลูกไม่สบายตัวอีก สามคือ แชมพูที่ลูกน้อยใช้อยู่ทุกวันนั่นแหละค่ะ เอาล่ะ เมื่อของพร้อม ก็มาเริ่มกันได้เลย เริ่มต้นด้วยการชโลมเบบี้ออลย์ใบบริเวณที่เป็นค่ะ แล้วทิ้งไว้สักพัก ระหว่างรอก็นวดลูกไปด้วยก็ดีนะคะ เปิดเพลงคลอเบาๆ แล้วนวดไปเจ้าตัวเล็กชอบแน่ๆค่ะ หลังจากปล่อยให้ออลย์ซึมซับได้สักพักก็เอาหวีมา ลูบวนเอาเจ้าไขออกค่ะ ทำเบามือนะค่ะ อย่าถูแรงจนแดงล่ะ ค่อยๆลูบออกจนหมดค่ะ พูดเบาๆกับลูกหรืร้องเพลงไปด้วยก็ได้ค่ะ เขาจะได้เพลิน เป็นการสานสัมพันธ์แม่-ลูกที่ดีเชียว หลังจากลูบไขออกเเล้ว ก็จับลูกอาบน้ำ-สระผม ทิ้งแชมพูไว้นานหน่อยนะคะ เพื่อเป็นการทำความสะอาดออลย์ที่เราชโลมลงไปนั่นเอง เสร็จแล้วก็เช็ดให้แห้ง เท่านี้เองไม่ยากเลย แต่สิ่งสำคัญที่ต้องคอยสังเกตคือ ลูกเราคันไหม มีอาการบวมแดงหรือเปล่า เพราะถ้ามีอาการที่เจ้าตัวเล็กดูไม่ค่อยสบายตัวเพราะเครเดิ้ล แคปเนี่ย อาจเป็นเพราะเครเดิ้ล แคปทำให้เกิดติดเชื้อยีสต์ (คล้ายๆติดเชื้อราที่ผิวหนังนั่นแหละค่ะ) ถ้ามีอะไรผิดปกติก็รีบพาไปพบแพทย์ทันทีเลยนะคะ เพราะหมออาจต้องสั่งยาให้มาทาถ้าติดเชื้อยีสต์ค่ะ แน่นอนว่าวีธีการจัดการเครเดิ้ล แคปเนี่ยมีหลายสูตร เราแค่มาแนะนำอันที่คิดว่าน่าจะได้ผล หวังว่าจะช่วยได้นะคะ โชคดีค่ะ






Create Date : 17 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2554 4:06:23 น.
Counter : 9141 Pageviews.

3 comment
อันตรายของแป้ง
เห็นบางทีพ่อแม่บางท่านทาแป้งให้ลูกๆเยอะมาก ทาทีแป้งกระจายทั่วบ้าน บางคนปล่อยให้ลูกเล่นแป้งด้วยซ้ำ ซึ่งความจริงแล้วค่อนข้างอันตราย เป็นเรื่องที่เมืองไทยยังไม่ค่อยตื่นตัวออกมาพูดถึงกันเท่าไหร่นัก ในปัจจุบันหมอเด็กที่อเมริกาเองก็ไม่สนับสนุนให้ใช้แป้งด้วยซ้ำ และที่กังวลกันมากเลยคือเรื่องTalc(ลองไปเสิร์ชDangers of Talcดู) เพราะTalcอาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านระบบทางเดินหายใจและมีผลเสียต่อปอด มีบางวิจัยรายงานด้วยซ้ำว่าTalcนั้นอาจเป็นสาเหตุของมะเร็งปอดและมะเร็งปากมดลูกได้ ในรายที่ใช้ในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งTalcเองเป็นส่วนผสมหลักของแป้งเด็กทั้งหลายในเมืองไทย ไปเดินดูแป้งเด็กยี่ห้อต่างๆตามห้างได้เลย แทบจะทุกยี่ห้อมีTalcเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น สิ่งที่บรรดาหมอเด็กกังวลกันก็คือTalcนั้นมีอนุภาคขนาดเล็กมากทำให้ง่ายต่อการฟุ้งกระจายและเข้าสู่ปอด จริงอยู่ที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อนการทาแป้งให้ความรู้สึกแห้งสบายตัว แต่อยากแนะนำให้พยายามหาแป้งที่ใช้ส่วนผสมอื่นแทนTalcส่วนใหญ่แล้วมักใช้Corn Starch(แป้งข้าวโพด)แทน เนื่องด้วยมีอนุภาคขนาดใหญ่กว่าทำให้เกิดการฟุ้งกระจายได้ยากกว่านั่นเอง อีกทั้งตัวแป้งข้าวโพดเองยังปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจมากกว่า อย่างไรก็ตามแป้งยังควรใช้ในปริมาณน้อยๆ ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ ในเด็กผู้หญิงหากต้องทาแป้งบริเวณนั้นของน้องเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อม ต้องระวังให้มากอย่าทามากจนเกิดการสะสมเป็นก้อน ควรทาเพียงบางๆ มีเด็กผู้หญิงบางคนเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเพราะมีก้อนแป้งไปอุดตันและทำให้ติดเชื้อ และหมอเด็กยังแนะนำเพิ่มอีกว่าเวลาทาแป้งให้ลูกๆ ควรเทแป้งให้ห่างๆ จากลูก ปัดแป้งส่วนเกินออกก่อน อย่าเทจากกระป๋องใส่ลูกโดยตรงเด็ดขาด พยายามให้แป้งฟุ้งน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เก็บกระป๋องให้ห่างจากมือเด็ก เวลาทาก็ระวังอย่าให้ปริมาณมากจนสะสมตามซอกคอหรือข้อผับต่างๆ เรื่องบางเรื่องที่เราเห็นว่าธรรมดาไม่น่าจะเป็นอันตรายก็ก่อปัญหาได้เหมือนกัน อย่างที่โบราณเขาว่า บางอย่างที่มากไปก็ไม่ดี





Create Date : 12 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2554 8:39:58 น.
Counter : 1074 Pageviews.

4 comment

leira
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]