Bloggang.com : Shinichi - Review Make Up 2

* * * B l u E S k Y * * *

Review Make Up 2

และแล้วก็มาถึงการ review make up ครั้งที่ 2...

ช่วงนี้มีโอกาสเป็นตัวแทนโรงพยาบาลไปประชุมกองบินบ่อยจัง
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง...อิอิ
ครั้งนี้ขอล้อเลียนการประชุมซักหน่อยดีก่า...
(จะผิดวินัยทหารมั้ยล่ะเนี่ย...เหอๆๆๆ)

การประชุมทบทวนเครื่องสำอางครั้งที่ ๒
ประจำวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๑

อันมีวาระการประชุมดังต่อไปนี้...

(เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ขออนุญาตใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษค่ะ)

๑. Face
๒. Eyes
๓. Blush on
๔. Lips
๕. Palette
๖. Brushes
๗. Eyelash curler

ข้อขัดข้องที่จะแจ้งให้ทราบก่อนเริ่มวาระที่ ๑ คือ...
ไม่สามารถลองสีให้ดูได้ เนื่องจากว่าจะทำให้เสียเวลาในการปฏิบัติภาระกิจอื่นๆ มากเกินไป (^^;;)
หากมีโอกาสจะนำเรียนเสนอในครั้งต่อไปค่ะ...

(อย่าเพิ่งเอียน...มาเริ่มกันเลยดีกว่า....^^)

วาระที่ ๑ : Face

๑.๑ Make up base

เรียงจากซ้ายไปขวา

๑.๑.๑ Refine Shine : Anti-Shine Gel (Lola)

เป็นตัวควบคุมความมัน ทาตัวแรกหลังจากทาบำรุงเสร็จ
ทาแล้วจะรู้สึกได้ถึงความ matt คุมมันได้ดีในระดับนึงเลยค่ะ ชอบๆๆๆ
คะแนน ๘.๕/๑๐ : อาจจะซื้อต่อ

๑.๑.๒ Refine Prime : Foundation Primer (Lola)

ใช้ทาก่อนลงรองพื้น เป็นตัวที่ทำให้หน้าเนียนดูนุ่มเป็นธรรมชาติ (อันนี้ BA โฆษณามา)
ใช้แล้วก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆค่ะ ชอบอีกแล้ว
คะแนน ๘.๕/๑๐ : อาจจะซื้อต่อ

๑.๑.๓ Prime Effect : Pure Pigment Infusion (Lola)

เป็นเหมือน make up base ของเครื่องสำอางยี่ห้ออื่นๆ แต่ที่ดีกว่านั้น มันจะคอยบำรุงผิวด้วย
BA บอกว่า ยี่ห้ออื่น ถ้าหยุดใช้ make up base แล้วหน้าจะหมอง ดูซีดเซียว (ขนาดนั้น)
ความเห็นส่วนตัวขณะนี้ (ใช้ได้สองอาทิตย์) ก็ดีค่ะ ยังไม่เห็นผลที่ว่าสักเท่าไหร่
แต่โดยรวมๆแล้ว ใช้รวมกันทั้งหมดเลยของยี่ห้อนี้ ดีมากค่ะ
คะแนน ๘.๕/๑๐ : อาจจะซื้อต่อ

๑.๑.๔ Dream on base (Etude House)

ซื้อมาทั้งสองสี ใช้ดีเหมือนๆกันค่ะ ไม่ทำให้หน้ามันมาก
สีม่วง ปรับสภาพผิวให้สีดูสม่ำเสมอ ออกอมชมพู ทารอยดำใต้ตาได้ดีเลยทีเดียว
ส่วน สีเขียว กลบรอยแดงจากสิว
คะแนน ๘/๑๐ : อาจจะซื้อต่อ

๑.๒ Foundation

จากซ้ายไปขวา

๑.๒.๑ Liquid foundation (Revlon)

เรียกง่ายๆ เลย ก็คือ Revlon ฝาดำ ปัจจุบันใช้หมดแล้ว (หมดอายุ)
แต่ขอนำมาเสนอ...เพราะว่ามันคุมมันได้ระดับเทพเลยทีเดียว สมคำร่ำลือจริงๆค่ะ ราคาไม่แพง
อาจจะดูหนักๆหน้าไปนิดนึง และดูไม่บางเบา แลดูไม่ค่อยธรรมชาติ แต่ปกปิดได้ดีมากๆเลยเจ้าค่ะ
คะแนน ๙.๕/๑๐ : อาจจะซื้อต่อ

๑.๒.๒ Oil-Free Sheer Foundation (Lola)

รองพื้นบางเบา เรียบเนียน ดูธรรมชาติ สมคำร่ำลือจริงๆ ค่ะ
ไม่ค่อยปกปิดเท่าไหร่ แต่คุมมันได้ดีเลยทีเดียว
ยิ่งใช้กับ make up base ที่ได้กล่าวไปแล้ว...
ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ แถมยังแลดูมีสุขภาพดี...(อันนี้คิดเอง อิอิ)
คะแนน ๙/๑๐ : อาจจะซื้อต่อ

๑.๒.๓ Essence-in liquid foundation (Ipsa)

ลองซื้อตามคำแนะนำของ BA ไหนๆ ก็ใช้ skin care เกือบจะทุกตัวแล้ว ลองใช้ดูหน่อย
เรื่องผิวขาวใส เนียน บางเบา ต้องยกให้เค้าเลยค่ะ
แต่ไม่ปกปิด และไม่คุมมันเลย แถมราคายังแพงซะอีกด้วย
คะแนน ๗/๑๐ : ไม่ซื้อต่อ

๑.๓ Powder

จากซ้ายไปขวา

๑.๓.๑ Microfine Natural Loose Powder (Revlon)

ลองซื้อมาใช้ขำๆ ราคาถูกแสนถูก คุณภาพพอใช้ได้ แต่ดูไม่ค่อยเนียน คุมมันได้เล็กน้อย
คะแนน ๘/๑๐ (คะแนนราคาเต็มๆ) : ไม่ซื้อต่อ

๑.๓.๒ Loose Powder (Bloom)

ราคาแพงไปหน่อย คุณภาพถือว่าอยู่ในระดับดี
เนียน คุมมันได้บ้าง แต่ยังไม่ปลื้มซักเท่าไหร่
คะแนน ๘/๑๐ : น่าจะไม่ซื้อต่อ

๑.๓.๓ Pearl Luminous Aqua : Brightening and Light-Diffusing Powder with Dermawhite (Lola)

แป้งเนียนธรรมชาติ สมคำร่ำลือ (อีกแล้ว)
มีส่วนผสมของน้ำ เวลาแตะที่หน้าจะรู้สึกเย็นๆ รู้สึกดีค่ะ
คุมมันใช้ได้ดีเลยทีเดียว (เริ่มติดใจยี่ห้อนี้ซะแว้วววว)
คะแนน ๘.๕/๑๐ : อาจจะซื้อต่อ

๑.๓.๔ Dream on Press Powder (Etude House)

ตลับสีชมพูด้านหน้า
คุณน้องชายซื้อมาฝากจากเกาหลี...(ไม่ได้บอกให้ซื้อตัวนี้อะ)
แต่ยังไง ไหนๆก็ซื้อมาแระ (ขอบคุณค้าบ) ลองใช้ดู ไม่ชอบเลยค่ะ (อ้าว)
ไม่คุมมันเลยซักนิด ใช้แล้วหน้าเป็นคราบ ไม่เหมาะกับเราเลย...
คะแนน ๕/๑๐ : ไม่ซื้อต่อแน่นอนค่ะ

ข้อสังเกต : ยังคงลังเลว่าจะซื้อต่อหรือไม่ในหมวด face นี้ เพราะว่าอยากลองไปเรื่อยๆ หลายๆ ยี่ห้อค่ะ

วาระที่ ๒ : Eyes

๒.๑ Eye Shadow

๒.๑.๑ Kate

สามอันที่ตั้งอยู่ด้านในสุด ราคาน่าคบ เม็ดสียังไม่ค่อยมากเท่าไหร่ ออกแนววิ้งๆไปนิดนึงค่ะ
โดยรวมๆก็พอใช้ได้
คะแนน ๘/๑๐ : อาจซื้อต่อ

๒.๑.๒ Maybelline

อันซ้ายสุดสองอัน ราคาถูกมากค่ะ แต่สีไม่ค่อยสวย ต้องเลือกดีๆหน่อย ติดทนใช้ได้
คะแนน ๘/๑๐ (คะแนนราคาเต็มๆ) : อาจซื้อต่อ (ถ้ามีสีสวย)

๒.๑.๓ Etude House

อันขวาสองอัน Brand สุด love ความแอ๊บแบ๊วต้องยกให้เค้า
ถ้าพูดถึงคุณภาพ เม็ดสีไม่เยอะเลยค่ะ ออกไปทางวิ้ง เน้นความสดใสอย่างที่บอก
คะแนน ๘/๑๐ : อาจซื้อต่อ

ข้อสังเกต : ยังไม่ค่อยปลื้ม eye shadow ที่มี มากเท่าไหร่ ยังอยากลอง brand อื่นๆ ที่มีเม็ดสีมากกว่านี้บ้างค่ะ

๒.๒ Eye Liner

๒.๒.๑ Liquid eye liner (Fasio)

อันที่ตั้งอยู่
ซื้อมาคู่กับ Mascara ตัวโปรด
แรกๆ ที่มือยังไม่นิ่งพอ รู้สึกกรีดยากสุดๆ แต่พอชำนาญ...
ปัจจุบันชอบใช้มากค่ะ
กรีดได้คมกริบ เนี้ยบมาก ไม่เลอะแน่นอน เพราะเวลาแห้งแล้วมันจะเป็นเหมือนเส้นพลาสติก ดึงออกมาเป็นเส้นได้เลย...
คะแนน ๙/๑๐ : น่าจะซื้อต่อ

๒.๒.๒ Gel eye liner (Kate)

สองอันถัดเข้ามา
ลองใช้ตามคำแนะนำในห้องโต๊ะเครื่องแป้ง
ราคาน่าคบ คุณภาพใช้ได้ กรีดแล้วไม่ค่อยเลอะค่ะ แต่ยังไม่คมพอ
คะแนน ๙/๑๐ : อาจซื้อต่อ

๒.๒.๓ Pencil eye liner (Red Earth)

อันที่นอนอยู่หน้าสุด
ราคาแพงเกินคุณภาพค่ะ แอบเลอะอีกด้วย
คะแนน ๗/๑๐ : ไม่ซื้อต่อ

๒.๓ Mascara

๒.๓.๑ Hyper-stay mascara shock free : curl volume (Fasio)

อันซ้ายมือ ยังคงครองแชมป์ mascara อันโปรด
ปัดแล้วเด้งมากกกกกก...ยาว หนา สมใจ จริงๆ ราคาไม่แพง ไม่แพนด้า
แต่ก็ล้างออกยากมิใช่น้อย นี่ขนาดตัวใหม่ล้างออกง่ายขึ้นแล้วนะคะเนี่ย
คะแนน ๑๐/๑๐ : ซื้อต่อแน่นอนค่ะ

๒.๓.๒ Fiberwig Paint-On False Lashes (DeJaVu)

ปัดแล้วเหมือนต่อขนตา ยาวเด้ง ดูธรรมชาติ ไม่หนาเวอร์
ล้างออกง่าย ราคาพอรับได้ แต่ปัดยากมากๆค่ะ
คะแนน ๙.๕/๑๐ : ซื้อต่อ

วาระที่ ๓ : Blush On

๓.๑ Etude House

สองอันด้านบนซ้าย ยังคงความแอ๊บแบ๊วสำหรับยี่ห้อนี้
แต่ในความแบ๊วก็แฝงไปด้วยความมัน เพราะมันมีความวิ้ง มากกว่าเม็ดสี โดยเฉพาะแบบสีส้ม วิ้งกระจาย
ปัดแล้วออกมาแนวใสๆ มากๆ ค่ะ
คะแนน ๘/๑๐ : อาจซื้อต่อ

๓.๒ Maybelline

สองอันถัดมาทางขวา ราคาแสนถูก ปัจจุบันเลิกใช้ เพราะสีไม่สวย แต่ปัดทนใช้ได้เลยค่ะ
คะแนน ๘/๑๐ (คะแนนราคาเต็มๆ) : ไม่ซื้อต่อ

๓.๓ Kate

อันบนสุด ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว สีไม่สวยเท่าไหร่ ปัดไม่ทน
คะแนน ๗/๑๐ : ไม่ซื้อต่อ

๓.๔ NARS

สามอันด้านหน้า เป็น blush on ในดวงใจขณะนี้ ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เม็ดสีเยอะ ปัดติดทนนาน (ใช้คู่กับ Yachiyo Blush)
ขณะนี้มี ๓ สี เรียงจากซ้ายไปขวา

- Luster (Sheer Golden Apricot) : ออกมันๆ เล็กน้อย (เพราะเป็น sheer) แต่ปัดแล้วก็สวยไฮโซ

- Desire (Cotton Candy Pink) : สีชมพู้ชมพู ไม่มันเลย (คราวหน้าต้องเลือกแบบไม่มี shimmer/sheer) work มากๆค่ะ ชอบๆๆๆๆๆ

- Orgasm (Peachy Pink with Shimmer) : สียอดฮิต ไม่มีไม่ได้แล้ว ปัดแล้วสวย เข้าได้กับทุกสีจริงๆ แต่ยังไม่ค่อยชอบ shimmer ของมันนี่แหละ

คะแนน ๑๐/๑๐ : ซื้อต่อแน่นอนค่ะ

๓.๕ The Multiple (NARS) : Orgasm

แท่งด้านขวามือสุด
ทาได้ทั้ง ตา แก้ม ปาก ตัว สียอดฮิตเหมือนเดิม ปัจจุบันรู้สึกว่าจะยังใช้ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
คะแนน ๗/๑๐ (ยังใช้ไม่คุ้มราคา) : คงไม่ซื้อต่อ

วาระที่ ๔ : Lips

๔.๑ Lipstick and Gloss

๔.๑.๑ Etude House

ด้านบนสุด ๒ แท่ง แรกทางซ้าย ๗ แท่งทางขวา
ได้อานิสงส์จากคุณน้องชาย เลือกมั่วๆกลับมาจากเกาหลี
(บางอันก็ซื้อที่เจ้เล้ง แต่ราคาเนี่ย ไม่อยากพูดถึงเลยค่ะ พี่ไทย...T_T)
ออกแนวใสๆ ตามสไตล์ ยังคงความแบ๊วเช่นเคย แต่มีเม็ดสีไม่มาก และ ไม่ทน...
ส่วน lipstick ด้านหน้าซ้ายสุด ยังไม่ค่อยชอบซักเท่าไหร่
คะแนน ๘/๑๐ : ซื้อต่อ (ถ้าฝากซื้อที่เกาหลีได้จะดีมาก)

๔.๑.๒ Kate

ด้านบน อันที่ ๓ จากทางซ้าย ราคาไม่แพง แต่ ไม่ค่อยปลื้มซักเท่าไหร่
สีพอใช้ได้ แม้เม็ดสีจะไม่มาก แต่กลิ่นนี่ไม่ไหว
คะแนน ๗/๑๐ (คะแนนราคาอีกแล้ว) : ไม่น่าจะซื้อต่อ

๔.๑.๓ SUI ROUGE S (ANNA SUI)

Lipstick แท่งที่สองจากทางซ้าย
ซื้อสีนู้ดๆ มา กลิ่นกุหลาบหอมมาก package งาม สีสวย ติดทนใช้ได้
คะแนน ๘/๑๐ (แพงไปหน่อยค่ะ) : อาจซื้อต่อ

๔.๑.๔ Lip Indulgence Lip Gloss (Lola)

สามแท่งตรงกลางด้านขวา ได้แถมมาอีกที
สีสวยงามจริงๆ ที่มีอยู่ จากซ้ายไปขวา ได้แก่...

- Passion Fruit (Golden Coral) : สีส้มอ่อน สวย

- Sangria : สีแดงสด แดงบาดใจ ทาแล้วคนทักทุกคน (อิอิ)

- Berry : สีแดงเข้มๆ เบอร์รี่ จริงๆ อร่อยๆๆ (อ้าว) แต่ต้องทาบางๆอีกนั่นแล

ทายากไปนิดนึงค่ะ ไม่ติดทน ยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่สีสวยอย่าบอกใคร
คะแนน ๗/๑๐ : ไม่ซื้อต่อค่ะ

๔.๑.๕ Delicate Lip Balm (Lanopearl)

ได้แถมจากร้านขาย Lanopearl ใช้ดีมากเลยค่ะชอบจัง แต่ราคาคงแพง
คะแนน ๘/๑๐ : คงไม่ซื้อค่ะ (แต่ถ้าได้แถมก็รับ...^^)

๔.๑.๖ Lip care (Nivea)

ราคาไม่แพง คุณภาพใช้ได้ แต่ชอบแบบสีฟ้ามากกว่า
คะแนน ๙.๕/๑๐ : ซื้อต่อค่ะ (แต่จะเลือกแบบสีฟ้า)

๔.๑.๗ Lip Gloss (NARS)

ชอบมากๆๆๆๆๆ Brand นี้อีกแล้ว สีนี้คือ Dolce Vita (Sheer Dusty Rose)
สีสวย ติดทนมากกกก ชอบสุดๆ
คะแนน ๙.๕/๑๐ (หักราคาแพง) : ซื้อต่อค่ะ

๔.๒ Tint

ยังคงเป็น tint สุดที่รักอันเดิม Etude House...ไม่เปลี่ยนใจ
ใช้แล้วแบ๊วดี ใสๆ ติดทน
ชอบราคาที่เกาหลีจริงๆ ค่ะ ถูกอย่างน่าใจหาย
คะแนน ๙/๑๐ (หักราคาในประเทศไทย) : ซื้อต่อแน่นอนค่ะ (ถ้าฝากซื้อที่เกาหลีได้จะดีมาก)

วาระที่ ๕ : Palette

มีอยู่เท่าเดิม ของ Etude House brand สุด love

Sweet Dream : ของปีที่แล้ว แต่ยังดันทุรังใช้ต่อ อิอิ สีสวย แอ๊บแบ๊ว ตามสไตล์
ติดไม่ทนเท่าไหร่ เม็ดสีน้อย วิ๊งรุนแรง แต่ก็ยังชอบใช้อยู่ขณะนี้
คะแนน ๙.๕/๑๐ : ไม่มีให้ซื้อแล้วค่ะ แต่ขอบอกว่าอันนี้คุ้มมากกก

Wow Devil : palette ของปีนี้ อย่างที่เคยบอก แต่งให้เป็น devil ได้สบายๆ สวยใช้ได้ เม็ดสีน้อยเหมือนเดิม วิ๊งกระจายค่ะ
คะแนน ๙/๑๐ : ไม่มีให้ซื้อแล้วเหมือนกันค่ะ อันนี้ก็คุ้มดีเหมือนกัน

วาระที่ ๖ : Brushes

๖.๑ Red Earth

ชุดบน
set Brush ชุดเล็ก และแปรงแบบพกพา (Kabuki Brush) ใช้ดีค่ะ ทนดีเหมือนกัน ปัจจุบันก็ยังใช้ได้อยู่ ซื้อที่เจ้เล้งราคาก็ถูกลงอีกตั้งเยอะ
คะแนน ๘.๕/๑๐ : อยากได้ set ใหญ่มั้งค่ะ

๖.๑ Yachiyo Blush (NARS)

Design เก๋ไก๋ ใช้ดี ปัด blush NARS แล้วขึ้นดีค่ะ ชอบๆๆ
คะแนน ๘.๕/๑๐ : อาจซื้อต่อ (ดูก่อนค่ะ)

วาระที่ ๗ : Eyelash curler

Shu Uemura : ที่ดัดขนตาลุงชู ดีสมคำร่ำลือ ดัดได้งอนเด้ง
คะแนน ๙/๑๐ : ซื้อต่อค่ะ (อยากซื้อที่ duty free จัง)

วาระพิเศษ

ลองสอยตัวนี้มาใช้ดู...

Jet Set Lash X-Treme and Liquid Eye Liner (Cute Press)

ยังไม่ได้เปิดใช้ แต่เห็นในโต๊ะเครื่องแป้งบอกว่า Mascara ใช้ดีมากเลยทีเดียว
ถ้าดีจริง คงจะดีมากๆ เพราะว่า...ราคาถูกมากกกกกกก
ส่วน Eye Liner ซื้อมาลองเฉยๆ เพราะที่มีอยู่จะหมดอายุซะแร้วววว

Review ครั้งนี้ มากมายเหลือเกิน
ออกไปแนวกึ่งราชการทหาร เหอๆๆๆ ลองดูขำๆ
อย่าว่ากันเลยนะคะ แล้วก็อย่าเพิ่งเบื่อล่ะ คราวหน้าจะกลับไปเป็นคนเดิม...อิอิ

ไม่ทราบว่าใครมีข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะบ้างมั๊ยคะ
(ยังไงโพสไว้ก็ได้ค่ะ)

ขอจบการประชุมทบทวนเครื่องสำอาง ครั้งที่ ๒ แต่เพียงเท่านี้ค่ะ
ทั้งหมดตรง!!

Create Date : 20 สิงหาคม 2551

Last Update : 20 สิงหาคม 2551 23:07:48 น.

5 comments

Counter : 1126 Pageviews.