Encyclopedia For You

นายกรัฐมนตรี คนที่ 22 พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ (15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 — ) เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คนที่ 22 ของไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และอดีตผู้บัญชาการทหารบก

เป็นเจ้าของสมญา "ขงเบ้งแห่งกองทัพบก" เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น สมาชิกวุฒิสภา ขณะดำรงตำแหน่งทางทหาร เป็นผู้ก่อตั้ง และหัวหน้า พรรคความหวังใหม่ คนแรก และเป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย มีคะแนนเสียงหนาแน่นในจังหวัดนครพนม

สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป เรียก พล.อ.ชวลิต ว่า "บิ๊กจิ๋ว" และในพื้นที่ภาคอีสาน เรียก พล.อ.ชวลิต ว่า "พ่อใหญ่จิ๋ว" นอกจากนี้แล้วยังมีอีกฉายาหนึ่งว่า "จิ๋วหวานเจี๊ยบ" จากการมีบุคคลิกพูดจาอ่อนนิ่ม นุ่มนวล

ประวัติทางการเมือง

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้วเข้าสู่การเมือง ก่อตั้งพรรคความหวังใหม่ ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี พ.ศ. 2535 พล.อ.ชวลิต เป็นหนึ่งในผู้ที่ปราศรัยขับไล่ พลเอกสุจินดา คราประยูร ที่สนามหลวง เป็นคนแรกด้วย การเมืองหลังจากนั้น พรรคความหวังใหม่กลายเป็นพรรคที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในภาคอีสาน ก่อนที่จะย้ายพรรคมาสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2544 และ พล.อ.ชวลิต ก็รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรสมัยแรกด้วย

หลังเหตุการณ์รัฐประหารในปี พ.ศ. 2549 พล.อ.ชวลิต พยายามจะเป็นผู้เสนอตัวไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจระหว่างกลุ่มผู้ที่ขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มผู้ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ "สมานฉันท์" กัน โดยเรียกบทบาทตัวเองว่า "โซ่ข้อกลาง" รวมทั้งมีการข่าวว่าอาจจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่แล้วตำแหน่งนี้ในที่สุดก็ตกเป็นของ นายสมัคร สุนทรเวช

ในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชวลิตได้เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่เจรจากับฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยเฉพาะ แต่หลังจากรับตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่หน้าอาคารรัฐสภา พล.อ.ชวลิตก็ขอลาออกทันที

ในกลางปี พ.ศ. 2552 หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในกรณีเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แล้วนั้น พล.อ.ชวลิตก็ได้สมัครเข้าสู่พรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าต้องการเข้ามาเพื่อสมานฉันท์ โดยไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และหลังจากนั้นทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีมติให้ พล.อ.ชวลิตดำรงตำแหน่งประธานพรรค

สรุปประวัติทางการเมือง

* 23 มีนาคม 2527 : สมาชิกวุฒิสภา
* 22 เมษายน 2530 : สมาชิกวุฒิสภา
* 30 มีนาคม 2533 : รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รัฐบาลชาติชาย ครม.คณะที่ 45)
* 22 มีนาคม 2535 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี
* 15 พฤษภาคม 2535 : ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
* 13 กันยายน 2535 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี
* 29 กันยายน 2535 : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐบาลชวน ครม.คณะที่ 50)
* 14 กรกฎาคม 2537 : รองนายกรัฐมนตรี (รัฐบาลชวน ครม.คณะที่ 50)
* 2 กรกฎาคม 2538 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครพนม
* 18 กรกฎาคม 2538 : รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รัฐบาลบรรหาร ครม.คณะที่ 51)
* 17 พฤศจิกายน 2539 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจ ังหวัดนครพนม
* 25 พฤศจิกายน 2539 : นายกรัฐมนตรี
* 29 พฤศจิกายน 2539 : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รัฐบาลชวลิต ครม.คณะที่ 52)
* 10 เมษายน 2540 : ประธานคณะผู้บริหารความหวังใหม่
* 26 พฤศจิกายน 2540 : ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
* 2 กันยายน 2541 : ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
* 12 พฤษภาคม 2542 : ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
* 17 กุมภาพันธ์ 2544 : รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รัฐบาลทักษิณ ครม.คณะที่ 54)
* 24 กันยายน 2551 - 7 ตุลาคม 2551 : รองนายกรัฐมนตรี ((รัฐบาลสมชาย ครม.คณะที่ 58)
* 27 ตุลาคม 2552 - ปัจจุบัน : ประธานพรรคเพื่อไทย

วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540*

รัฐบาลของ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐบาลที่มีส่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน เมื่อปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ที่ทำให้ประเทศไทยล้มละลาย และ ขยายผลไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยรอบ ด้วยการทำเงินคงคลังทั้งหมดของประเทศเข้าไปอุ้มค่าเงินบาท ซึ่งถูกปล่อยขายในขณะนั้น ธุรกิจของเหล่าแกนหลักของรัฐบาลชุดนี้ ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤตกรณ์แต่อย่างใด ในขณะที่ธุรกิจของบุคคลโดยทั่วไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง กับคนในรัฐบาลนั้น ได้รับผลกระทบถึงขั้นล้มละลายเป็นจำนวนมาก ทั่วประเทศ แต่แท้ที่จริงแล้ว ปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินนี้เกิดขึ้น จากการสั่งสมปัญหาจากการดำเนินโยบายเปิดเสรีทางการเงิน กองทุนวิเทศธนกิจ หรือ BIBF ในสมัย รัฐบาลนายชวน หลีกภัย (รบ.ชวน 1) พ.ศ. 2536 ซึ่งส่งผลให้เงินไหลเข้าออกประเทศได้อย่างง่าย สถาบันการเงินต่างๆ ก็จะกู้เงินจากต่างประเทศมาหลายสถาบันมากมายและนำเงินกู้จากต่างประเทศซึ่ง มีดอกเบี้ยต่ำ มาปล่อยกู้ในประเทศซึ่งคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูง ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินอย่างมาก เมื่อเกิดภาวะผกผันทางการเงินเข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากสถาบันการเงินไม่มีเงินไปใช้ต่างประเทศได้ IMF จึงให้รัฐบาลรับหน้าแทน จึงก่อให้เกิดภาวะต้มยำกุ้งในเวลาช่วงเดียวกันกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพอดิบพอดี จึงทำให้หลายต่อหลายคนโทษและเข้าใจผิด มาโดยตลอดว่าเป็นผู้ทำให้เกิดวิกฤตการเงินครั้งนี้

จาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


Create Date : 24 สิงหาคม 2553
Last Update : 3 กันยายน 2553 8:48:37 น. 0 comments
Counter : 2987 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

billabong11
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




[Add billabong11's blog to your web]