Group Blog All Blog
|
รีวิว : ปรับรูปหน้าให้สวยไฉไลกับ ToB1
ฮาโหลล..สวัสดีทุกๆ คน วันนี้มีเรื่องมาเม้าส์มอยหอยสังข์กันนิดหน่อยตามประสาคนกำลังจะแก่ ว๊ายยย..ใครแก่ไม่มี๊ มีแต่สาวเกาหลีหนังเหนียวคงกระพันฆ่าไม่ตายนางนี้นี่แหละ อุอุ เอาล่ะเข้าเรื่องดีกว่า หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเดี๋ยวนี้หน้าพี่เอ็มดูเรียวยาวขึ้ินกว่าเมื่อก่อน ไปทำอะไรมาน้าา...อยากจะบอกว่าเปล่าเล้ยยยยพี่เอ็มไม่ได้ทำอะไรมาเลยน้าา... จริงจิ๊งง...เพราะหมอทำให้ล้วนๆ ฮ่าๆ เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปดูพร้อมๆ กันดีกว่าจ้า By Emmoojung สำหรับการเริ่มต้นในวันนี้เราขอบุกมาที่ ToB1 สาขา สยามสแควร์ ซ.2 เลยแล้วกัน เพราะอะไรรู้ม่ะ เพราะว่าที่นี่เราสามารถ ทำได้ทั้งผมและหน้าในคราเดียวกันเลย เพราะร้านมันติดกันคร้าาาา..สะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว วันนี้สิ่งที่ตั้งใจคือจะเปลี่ยน สีผมใหม่ให้มันไฉไลกว่าเดิม จริงๆ อยากได้สีอ่อนๆ เลยนะแต่พอปรึกษากับพี่ทีมงานช่างผมแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าไม่ไหว ถ้าฝืนทำมีหวังผมขาดแน่นอน..ฮือ ฮือ ชีวิตออข้าช่างน่าเศร้าใจนัก หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าปกติพี่เอ็มก็ทำผมก็ ToB1 เป็นประจำอยู่แล้ว ทำไมผมถึงเสียล่ะ จะบอกความจริง คือนอกจากพี่เอ็ม จะใช้บริการของ ToB1 เป็นหลักแล้ว หลายๆ ครั้งพี่เอ็มก็มือบอนย้อมผมเอง ตัดผมเอง และที่ร้ายสุดคือ ยืดผมเองเจ้าค่ะ เหอ เหอ และนั่นแหละเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมของพี่เอ็มเสียมากๆ เลย ทำให้ผมบริเวณช่วงโคนมันช็อต ผมช็อตเป็นยังไงพี่เอ็ม มันก็จะหยิกหยอยเฉพาะส่วนแบบดูด้วยตาก็รู้ว่าผมเสียอ่ะ คือแย่มากบอกเลย วันนี้ก็เลยคุยกันใหม่ว่างั้นจะทำสีอะไรดี พี่หน่อยเขาก็เลยขอเนรมิตสีผมใหม่ให้เป็นสีผมแบบผู้ดี๊ผู้ดี คือทำให้สีดูเข้มขึ้น พี่คืออย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าผมพี่เอ็มมันช็อตตรงโคนอ่ะ เขาก็หาวิธีแก้ให้นะ โดยการลงทรีทเมนต์ ลงนั่น นี่ นู้น สารพัด พอทำผมเสร็จแล้ว เราก็ต้องไปอัพหน้ากันต่อที่ ToB1 Clinic ร้านอยู่ข้างๆ กับร้านทำผมนั่นแหละ ไกลมากกก ฮ่าๆ ในตอนแรกนั้นสิ่งที่พี่เอ็มปรึกษาคุณหมอคือพี่เอ็มอยากจะฉีดฟิลเลอร์คางแล้วก็โบท็อกซ์รูปหน้า แต่พอคุณหมอดูรูปหน้าแล้ว รูปการฉีดเมโสแฟตแก้ม ที่ ToB1 Clinic จริงๆ ตอนแรกไม่อยากฉีดเลยนะเพราะเอาจริงๆ ด้วยประสบการณ์ที่เคยฉีดๆ มาคือคิดว่าการฉีดเมโสแฟตมันไม่ค่อยเห็นผลอ่ะ
รูปการฉีดฟิลเลอร์คางที่ ToB1 Clinic ต่อกันด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง อันนี้คือสิ่งที่พี่เอ็มตั้งใจที่จะทำมากกก..คือคิดมากจากบ้านเลย เพราะอะไรรู้ม่ะ สำหรับอาการหลังการฉีดฟิลเลอร์นั้นอาจมีบ้างที่จะมีรอยช้ำ เพราะว่าบริเวณคางนั้นมีเส้นเลือดฝอยอยู่จำนวนมาก เวลาจับดูก็เหมือนมีก้อนอะไรเป็นตุ่มๆ ไม่สม่ำเสมอกันอยู่ใต้คาง แต่ไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวมันจะเนียนเสมอกันเอง สำหรับรอยช้ำ สำหรับการฉีดครั้งนี้สิ่งที่พี่เอ็มย้ำกับคุณหมอมากๆ คือขอแบบธรรมชาติ เอาแค่สวยแบบละมุนไม่เอาเว่อร์ ผลลัพธ์หลังจากที่ได้หลังจากฉีดฟิลเลอร์คางและเมโสแฟตในครั้งนี้ คือกรี๊ดมากกก ชอบมาก อันนี้ต้องบอกก่อนนะว่าเป็นความชอบส่วนตัว จริงๆ หลายๆ คนอาจจะบอกว่าชอบแบบเดิมมากว่านะ
ก็ถ้าใครสนใจอยากทำก็ลองสอบถามได้ที่ทางหน้าแฟนเพจของ ToB1 Clinic ดูแล้วกันนะ https://www.facebook.com/ToB1-Clinic ว่าตอนนี้เขามีโปรโมชั่นอะไรบ้าง เอาจริงๆ พี่เอ็มก็ไม่อยากให้ยึดติดตามพี่เอ็มหรอกนะว่าจะต้องทำแบบนั้นแบบนี้ คือพี่เอ็ม นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นผลของการใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ขึ้นอยู่กับพื้นฐานผมและรูปหน้าของแต่ละคนด้วย พบประพูดคุยกันได้ที่เพจนะจ๊ะ ไปละ บะบายยย รีวิว : โปรแกรมหน้ายกกระชับ ThermiRF ที่ Dr.Tony
ฮาโหลๆ วันนี้เราพาทุกคนมาทำสวยกันที่เดิม Doctor Tony Beauty Clinic สาขา The Crystal เดี๋ยวขอเกริ่นสักนิด ก่อนล่ะกันนะสำหรับคนที่อาจจะยังไม่ได้อ่านรีวิวก่อนหน้านี้ คือว่ารอบที่แล้วอ่ะเอ็มเคยรีวิวฉีดโบท็อกซ์ไปซึ๋งเอ็มว่า มันดีมากๆ เลย ติดใจก็เลยมาอีกรอบเดี๋ยวไปดูพร้อมๆ กันว่าวันนี้เอ็มจะมาลองใช้บริการอะไร ไปดูกันค่ะ By Emmoojung เกริ่นกันอีกครั้งสำหรับคนที่มา The Crystal ถูก แต่ไม่รู้ว่าคลินิกอยู่ตรงไหนเอ็มขออธิบายง่ายๆ ให้แล้วกัน คือเอาเป็นว่า เดินหาบันไดแรกที่อยู่ตรงข้ามร้านเสวย หรือถ้ามองจากชั้น 1 ก็ตรงข้ามร้าน S&P อ่ะ พอหาร้านเจอแล้วก็เดินตรง ขึ้นมาชั้น 2 ได้เลย เดินตรงมานิดเดียวก็เจอคลินิกแล้วจ้า เนื่องจากเอ็มเคยเข้ารับบริการที่นี่แล้ว เอ็มเลยไม่ต้องกรอกประวัติใหม่ให้วุ่นวายก็แค่แจ้งชื่อแล้วนั่งรอพบคุณหมอ ได้เลยจ้า เห็นม่ะเจ้าโซฟานุ่มๆ ก็พร้อมให้เรานั่งหลับเอ๊ยย..นั่งรอเสมอ 55+ คือเอาเป็นว่าลูกค้าเยอะทุกครั้งที่มาอ่ะ ระหว่างนั่งรอคุณหมอเพลินๆ เราก็นั่งอ่านหนังสือข้างๆ โซฟาไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน โดยหนังสือของที่นี่แต่ละเล่มก็ล้วนแล้วแต่ มีหน้าคุณหมออยู่ในหนังสือ มีทั้งประวัติย่อๆ ของคุณหมอรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทางคลินิก เขาสรรหามาให้สาวๆ ได้ลองใช้บริการกันดู อ้าา..ได้พบกับคุณหมอแล้ว ก็ตามเดิมค่ะคุณหมอก็จะสอบถามถึงบริเวณที่เรากังวัลว่าอยากแก้ไขอะไรตรงไหน ยังไง รวมถึงให้คำปรึกษาว่าสมควรทำอะไรตรงนี้ตรงนั้นสมควรทำหรือเปล่า โดยปัญหาในครั้งนี้ของเอ็มคือเริ่มมีความรู้สึกว่า แก้มใหญ่ๆ ของเอ็มมันเริ่มจะห้อยแล้วล่ะ ก็นะตามแรงโน้มถ่วงของโลกอ่ะแหละคุณขา คุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำ ThermiSmooth ดู และก็รู้สึกเหมือนแก้มฝั่งนึงจะห้อยกว่าอีกฝั่งนึงด้วย ซึ่งตัวนี้คุณหมอบอกว่าอาจจะต้องใช้โบท็อกซ์ช่วยเก็บให้ดูเนียน ส่วนตีนกา ก็เหมือนจะเริ่มมานิดๆ ล่ะ แต่ยังไม่เยอะหรอก เพราะว่าเพิ่งฉีดไปตอนนู้นยังไม่ครบ 6 เดือน ยาก็เลยยังไม่หมดไปเลยซะทีเดียว รวมถึงเริ่มมีเหนียงบ้างแล้วด้วยเวลายิ้มหรือเผลอๆ อะไรเงี้ยมักจะเห็นอ่ะ ดูแก่อ่าาา แง้ ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้ากัน โดยในวันนี้ผู้ช่วยใจดีบอกว่าเดี๋ยวลบแค่ผิวๆ พอไม่ลบบริเวณตา กับปากเนอะ จะได้ถ่ายรูปได้สวยๆ ฮ่าๆ นั่นแหละสิ่งที่ต้องการเลย จากนั้นก็มานอนรอคุณหมอที่ห้อง โดยจากภาพที่เราเห็นเราจะเห็นว่ามีกล้องกับหน้าจออินฟราเรดอยู่ใช่ม่ะ ไม่ใช่กล้องเอ็มนะ อย่าเข้าใจผิด ฮ่าๆ มันคือกล้องที่ใช้เชื่อมต่อกับหน้าจออินฟราเรดเพื่อควบคุมการทำตัว ThermiRF นั่นเอง จริงๆ ก่อนหน้านี้เอ็มเคยอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีของเจ้าเครื่องนี้ไปแล้วเนอะ รอบนี้เรามาทำความรู้จักกันแบบเชิงลึกบ้างดีกว่า ว่ามันทำงานยังไงและมีประโยชน์ยังไงเนอะ สำหรับ โปรแกรม ThermiRF นี้เป็นโปรแกรมที่โด่งดังในระดับ Hollywood เลยนะ เพราะมันคือเทคโนโลยีเพื่อการกระชับเรือนร่างด้วยวิธีการแบบไม่ต้องผ่าตัด ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยจากไขมัน ความไม่กระชับตึงของผิวหนัง โดยที่สามารถใช้ได้ทั้งที่ใบหน้าและสัดส่วนในร่างกาย นอกจากช่วยยกกระชับแล้วยังสามารถ ช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ได้แล้วยังช่วยกำจัดไขมันได้บางส่วนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีหน้าจออินฟราเรด เพื่อให้คุณหมอสามารถตรวจสอบการทำงานของเครื่องได้อย่างละเอียดตลอดเวลา ซึ่งการใช้คลื่นอินฟราเรดชนิดนี้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ทั้งยังได้รับการรับรองจากสำนักงานอาหารและยาในประเทศ สหรัฐอเมริกาแล้วว่า มีความปลอดภัยและเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในการรักษาปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับหลักการทำงานของเครื่องนี้จะส่งพลังงานผ่านเข็มขนาดเพียง 5-10 มิลลิเมตร แหน่ะ อย่าเข้าใจผิดเพราะเข็มในทีนี้ ไม่ได้หมายถึงเข็มฉีดยาแบบนั้น >,< มันคือเข็มทางเทคโนโลยีหัวแบบในรูปนี่แหละ โดยที่พลังงานจากหัวเข็มจะส่งไปยังชั้นผิว ที่อยู่เหนือมัดกล้ามเนื้อก่อให้เกิดการหดตัวในทุกชั้นผิว และยังช่ยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติอีกด้วย สำหรับบริเวณที่ทำการรักษาได้ ได้แก่ - ถุงไขมันใต้ตา หนังตาหย่อนคล้อย - ไขมันใต้คาง 2 ชั้น - หนังที่แก้มและบริเวณ ไม่มีคอเพราะไขมันที่กรอบหน้าเยอะจนถึงคอ - คอหย่อนคล้อยมีริ้วรอยหลายชั้น ไม่เรียบตึง - หน้าอกหย่อนคล้อย - เนินหน้าอกเหี่ยวหย่อน - เนื้อนมที่เกินออกมา - จุดซ่อนเร้น ฯลฯ โดยที่วิธีการนี้ไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือผลข้างเคียงด้วยนะ ก็อย่างว่าแหละเนอะเทคโนโลยีเขาดีขนาดนี้ ราคาจึงค่อนข้างจะสูงสักหน่อย สำหรับการทำต่อครั้งอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งถ้าจะเอาให้เห็นผลแบบอยู่ได้เป็นปีน่าจะต้องซื้อเป็นคอร์สนะ เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่าและเห็นประสิทธิภาพได้มากกว่าจ้า มาถึงอีกหนึ่งขั้นตอนเนื่องจากที่เอ็มบอกไปในตอนต้นใช่ม่ะว่าแก้มห้อยไม่เท่ากัน คุณหมอเลยจะขอย้ำความชัดของแก้ม ให้ดูเท่ากันด้วยการฉีดโบท็อกซ์เก็บซักหน่อย ซึ่งสำหรับที่นี่ก่อนทำทุกครั้งคุณหมอจะให้เราดูขวดโบท็อกซ์เลยว่าของ เขาเนี้ยของ Allergan ซึ่งเป็นของ USA แน่นอน ไม่อิงแอบเปลี่ยนขวดแต่อย่างใด เพราะคุณหมอแกะตรงนั้นฉีดตรงนั้นเลยจ้า และเช่นเดิมค่ะ รอบนี้คุณหมอก็จัดการใช้โบท็อกซ์ที่เหลือค่อยๆ เก็บบริเวณเหนียงให้ด้วย โดยวิธีการก็แบบเดิมคือค่อยๆ ไล่ บริเวณเหนียงไปทีละนิดๆ เหมือนฉีดลงแค่ปลายเข็มอ่ะ จิ๊ดๆ นิดหน่อย สบายมาก รอบนี้ก็เหมาหมดขวดเช่นเดิมที่ 100 ยูนิต แต่เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นของอเมริกา ราคาจึงจะค่อนข้างสูงสักหน่อยอยู่ที่ขวดละ 45,000 บาท จ้า เอ็มได้ทำการบันทึกภาพก่อนและหลังทำไว้ให้ได้ดูกันด้วยตามภาพด้านล่างค่ะ สำหรับตีนกาอย่างที่บอกว่าเพิ่งจะฉีดไปก็เลยไม่เห็นเป็นริ้วยาวมากนักเหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้แค่เติมนิดหน่อยเท่านั้น
จากภาพคือจะสังเกตได้ว่าบริเวณแก้มเอ็มเริ่มมีส่วนเว้านิดนึงแล้วม่ะ ฮ่าๆ คือต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวเป็นคนแก้มใหญ่มากไง ซึ่งจากที่เคยฉีดโบท็อกซ์มาหลายๆ ที่ ที่นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่หลังจากฉีดแล้วถ่ายรูปออกมาเห็นส่วนเว้าของแก้มด้วยคือมัน แต่ละคนอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่างกันออกไปนะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะทำอะไรบ้าง ยังไงให้คุณหมอวิเคราะห์ https://www.facebook.com/dr.tonybeautyexpert นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและปัจจัยของผิวและริ้วรอยของแต่ละบุคคลด้วย สุดท้ายนี้ก็เช่นเดิมค่ะ ยังคงย้ำเสมอว่าการฉีดโบท็อกซ์ที่ดีที่สุดควรอยู่ในความดูแล ของแพทย์รวมถึงศึกษาความน่าเชื่อถือของแต่ละคลินิกก่อนเข้ารับบริการด้วย ถึงจะแพงหน่อย แต่ก็ปลอดภัยกว่าเยอะ เพราะถ้าเกิดว่าหน้าเป็นอะไรขึ้นมาแล้ว เงินเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถเรียกให้ หน้ากลับมาเป็นได้เหมือนเดิมแล้วนะ ไม่คุ้มเลยใช่ไหมล่ะ
พบประพูดคุยกันได้ที่เพจนะจ๊ะ ไปละ บะบายยย https://www.facebook.com/emmoojung www.emmoojung.com Instagram : @emmoojung รีวิว : รักษาสิวที่ พรเกษมคลินิก กันเถอะ
รีวิว : รักษาสิวที่ พรเกษมคลินิก กันเถอะ สวัสดีค่ะ วันนี้เอ็มไม่ได้มารีวิวผลิตภัณฑ์หรือแต่งหน้าทำฮาวทูให้ดู แต่วันนี้เอ็มจะมารักษาสิว ฮ่าๆ ก็อย่างว่าแหละเนอะ ด้วยความที่ชอบลอง ชอบแต่งหน้าไง ก็คงหนีไม่ได้แน่ถ้าจะเกิดอาการแพ้หรือว่าสิวบุก เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น หรอออ รุ่นไหนละเนี้ย..31 แล้วนะ เอาน่าเป็นสิวก็ต้องรักษาอย่าปล่อยให้มันอยู่บนหน้านาน มู่รับไม่ได้จริ๊งจริง >,< ป่ะ ! งั้นวันนี้เรา ไปรักษาสิวกันเถอะ และต้องขอเล่าก่อนว่าก่อนหน้าเอ็มก็ได้เห็นกระแส หนังสั้นเรื่อง "ลลิน" มาสักพักแล้วคะซึ่งเป็น เรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เปนเน็ตไอดอลและถ่ายรูปออกมาดูสวยมากๆในโลกออนไลน์แต่แท้ที่จริงแล้ว เธอผู้นั้นใช้แอฟแต่งรูปเยอะมาก จนไม่กล้าเปิดเผยใบหน้าจริงเพราะในชีวิตจริงเธอมีสิวที่ใบหน้าเยอะมากๆ จนต้อง ใช้ผ้าปิดปากมาปิดบังซ่อนสิวของเธอตลอดเวลาซึ่งถือว่าเป็นคลิปที่มีคนแชร์กันเยอะมากเลยนะคะ By Emmoojung วันนี้เราจะมารักษาสิวกันที่ พรเกษม คลินิก สยามวัน จ้า ซึ่งที่ พรเกษมคลีนิค เขาค่อนข้างดังอยู่นะเรื่องรักษาสิวเนี้ย สิวอักเสบ สิวผด สิวหัวเปิด สิวหัวปิด เอาเป็นว่าสารพัดสิวอ่ะ เพราะเคยเห็นคนที่หน้าใสๆ หลายๆ คน เขาก็บอกกันว่าเขารักษาสิวอยู่ที่นี่แหละ อันดับแรกเลย สำหรับคนที่ไม่เคยใช้บริการที่นี่ พนักงานก็จะให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ ที่อยู่ อายุ ประวัติการแพ้ยาก่อน เพื่อเก็บเป็นข้อมูลและส่งต่อข้อมูลให้กับคุณหมอดูในเบื้องต้นค่ะ จากนั้นก็มานั่งรอเพื่อเรียกคิว ดูทีวีไปก่อนเพลินๆ แล้วกันเนอะ พนักงานเขาก็เยอะดีนะ ภายในดูสะอาดสะอ้านดีจัง เอ็มมาเวลาทำงานคนเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เลยไม่ต้องรอนาน สบายเลย ฮ่าๆ อ้าา..ได้พบคุณหมอแล้ว คุณหมอที่ให้บริการเอ็มในวันนี้ คือคุณหมอ ปกรณ์ คือเข้าไปยังไม่ทันจะบอกปัญหาเลย คุณหมอทักก่อนเลยว่า เป็นสิวอุดตันนะ ตอนนี้กังวัลเม็ดนี้อยู่ใช่ไหม ฮ่าๆ คือบอกเลยว่าหมอมองทะลุรองพื้นอิฉันไปเลยค่ะ นี่คนปกติบอกเขาว่าเป็นสิวเขายังถามเลยว่าไหนสิวไม่เคยมีเลย บอกเลยแต่งหน้าหลอกหมอไม่ได้ ปัญหาของเอ็มในครั้งนี้นะคะ ก็คือเป็นสิวอุดตันเม็ดเล็กๆ ซะส่วนใหญ่ ซึ่งสิวส่วนใหญ่ที่เอ็มเป็นคือหัวมันไม่เปิดไง เหมือนผด ผื่นอ่ะ จะบีบก็บีบไม่ออก จะอักเสบมันก็ไม่อักเสบ ก็เลยไม่รู้จะทำไง ก็เลยแก้ปัญหาแบบชาวบ้าน แต่งหน้าลงรองพื้นปิดเอาอ่ะนะ เหอเหอ ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดนะ ไม่ควรทำตาม ฮ่าๆ หลังจากพูดคุยปรึกษากับคุณหมอแล้ว คุณหมอก็จะให้คำแนะนำมากมายรวมถึงสันนิษฐานในเบื้องต้นให้เราฟังก่อนว่า ทำไมถึงเป็นสิว สิวเกิดจากอะไรได้บ้าง รวมถึงแนะนำการดูแลรักษาผิวหน้าต่อจากนี้ และดูว่าตรงจุดไหนที่ควรทำการรักษา ซึ่งก่อนที่เราจะเริ่มรักษานั้น เราต้องมาหาสาเหตุกันก่อนว่า สาเหตุของการเกิดสิวและผด ผื่น ของเอ็มนั้นแท้จริงแล้ว เกิดจากอะไรกันแน่ แก่แล้ว เอ๊ยย ไม่ใช่แหละ นอนดึก แต่งหน้าจัด แพ้น้ำ แพ้ครีม หรืออะไรประมาณเนี้ย ในขั้นตอนนี้ผู้ช่วยก็จะกดสิวที่เรามีไปเม็ดนึงเพื่อตรวจหาสาเหตุของการเกิดสิว และเอาแผ่นพลาสติกพร้อมทาน้ำยาทางเคมี มาแปะที่ข้างแก้มไว้และดึงออกเพื่อตรวจหาสาเหตุของการเกิดผดผื่นหลังจากนั้นก็จะดึงเนื้อเยื่อเราไปตรวจหาสาเหตุอีกที โดยใน 2 ขั้นตอนนี้ราคาจะอยู่ที่ 200 บาทเท่านั้น อย่างละ 100 บาท จ้า พอได้ตัวสิวและเนื้อเยื่อข้างแก้มแล้วคุณหมอก็จะมาตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดสิวในครั้งนี้ของเอ็มค่ะ โดยคุณหมอก็สรุปให้ฟังว่า สิวในครั้งนี้เกิดจากการแพ้เครื่องสำอางค์หรือว่าแต่งหน้าจัดนั่นเอง ผ่างงง ร้องห้ายยยแพร้บบบ วิธีที่คุณหมอแนะนำก็คือ งดแต่งหน้าจ้า คุณหมอบอกว่าให้แต่งตา ทาปากได้ แต่ให้งดพวกรองพื้น บีบี ไรพวกเนี้ย คือให้ทาแป้งได้นะ แต่ให้ทาแป้งฝุ่นแบบไม่ผสมรองพื้นหรือว่าสารกันแดดเพราะว่าอาจเสี่ยงอุดตันได้อีก ทีนี้มาถึงขั้นตอนขึ้นเขียงแล้วจ้า อันดับแรกเลยผู้ช่วยก็จะมาทำความสะอาดลบเครื่องสำอางค์ที่เอ็มแต่งออกมาทั้งหมดก่อน จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของการเลเซอร์ ซึ่งการเลเซอร์ที่เอ็มทำในครั้งนี้คือ เลเซอร์เปิดหัวสิวเพื่อที่สิวจะได้กดออกได้อย่างง่ายดาย หลังจากเลเซอร์แล้วจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งหลังทำคุณหมอแนะนำให้ทายาจุดที่ทำเลเซอร์บ่อยๆ หลังจากนั้นคุณหมอจะทำ E Lase อีก 20 จุด เพื่อช่วยลดรอยแดงจากสิว ตัวนี้หน้าจะแดงหน่อยๆ ประมาณ 30 นาที
เมื่อเลเซอร์เรียบร้อยแล้ว ที่นี้ก็มาถึงใจความสำคัญล่ะ อย่าปล่อยให้สิวรอยนวล กดออกซิค่ะ ซึ่งเม็ดที่กดยากสุด หลังจากนั้น พวกเม็ดเล็กๆ เม็ดน้อยๆ คุณหมอจะให้ผู้ช่วยเป็นคนกดให้ มือเบาอยู่นะ ไม่ค่อยเจ็บหรอก หรือว่าด้านก็ไม่รู้ พอเลเซอร์ กดสิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาฟังผู้ช่วยอธิบายถึงวิธีการรับประทานยา วิธีการทาครีมว่าทาตัวไหนก่อนหลัง ซึ่งยาที่คุณหมอจัดให้เอ็มในครั้งนี้มี ยาแก้เชื้อสิว 28 เม็ด 168 บาท และก็ยาลดบวม 28 เม็ฺด 336 บาท ส่วนยาทาก็มี ยาทาหลังทำเลเซอร์สิวอุดตัน 120 บาท, กันแดด 150 บาท, ยาแต้มสิว 125 บาท และก็ยาลดผื่นคัน แพ้ 150 บาท อ้อ..แล้วก็ได้ Cleansing หรือผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางค์มาด้วย 1 ขวด ราคา 500 บาท สงสัยหมอจะเห็นแต่งหน้าจัด ซึ่งจะบอกเลยว่า และนี่คือผลหลังจากที่ทำประมาณ 3 อาทิตย์ ค่ะ ผลลัพธ์นับว่าน่าพอใจมากๆ เลยดูซิ สำหรับราคาหรือข้อมูลเพิ่มเติม ยังไงลองสอบถามทางหน้าเพจของทาง พรเกษมคลินิก https://www.facebook.com/Pornkasemclinic นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ สำหรับการถ่ายทำรีวิวในครั้งนี้เอ็มได้ขออนุญาติทางคลินิกแล้วนะคะ ส่วนผลการรักษาของแต่ละคน อาจจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสภาพพื้นฐานผิวเดิมรวมถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วยนะคะ Sponsor : Pornkasem Clinic
พบประพูดคุยกันได้ที่เพจนะจ๊ะ ไปละ บะบายยย https://www.facebook.com/emmoojung www.emmoojung.com Instagram : @emmoojung รีวิว : ฉีดโบท็อกซ์ ตีนกา หน้าผากย่น กับคุณหมอโทนี่ Dr.Tony
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปฉีดโบท็อกซ์กันอีกแล้ว ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนมาฉีดโบท็อกซ์กันที่นี่ค่ะ Doctor Tony Beauty Clinic สาขา เดอะคริสตัล ตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูญธรรม คลินิกจะอยู่ชั้น 2 เดินขึ้นบันไดมาก็เจอเลย หาไม่ยาก พอดีว่ามีคนแนะนำพี่เอ็มมาเขาบอกว่าคุณหมอโทนี่เทพมากเรื่องการฉีดโบท็อกซ์ เรียกได้ว่าเป็นหมอที่เก่งอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยสำหรับเรื่องนี้อ่ะ เพราะเขาเป็นหมอที่สอนหมออีกทีอ่ะ ได้ฟังแค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้วใช่ม่ะ อิอิ สวยแน่ๆ >,< By Emmoojung สำหรับบรรยากาศภายในร้านก็ดูหรูแล้วก็สะอาดสะอ้านดี เชื่อแล้วว่าที่นี่เขาดังจริง ขนาดเอ็มไปช่องเวลาทำงานนะ คนยังเยอะเลยอ่ะ ระหว่างรอคิวพบคุณหมอคุณป้าแม่บอกก็จะเอาน้ำมาเสริฟ ส่วนกรณีที่ถ้ายังไม่เคยใช้บริการที่นี่ พนักงานก็จะให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัว ประวัติการแพ้ยา เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลส่งต่อให้คุณหมอได้ดูในขั้นตอนต่อไปค่ะ ระหว่างรอเข้าพบคุณหมอก็รู้สึกง่วงเพราะแอร์ก็เย็น แถมโซฟาก็นุ่มซะเหลือเกิน เลยไปหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านดีกว่า เปิดไปเปิดมาเจอ ป๊ะ! เจอคุณหมอโทนี่ โอ้...ลงหนังสือด้วยอ่ะ ไม่ธรรมดาแหะ พอถึงคิว พนักงานก็มาเรียกให้เข้าพบคุณหมอ คุณหมอก็ถามไถ่ถึงปัญหาที่เรากังวลรวมถึงให้คำแนะนำ ว่าควรทำอะไรดี และก็แนะนำว่าทำตัวนี้ๆ ไปจะช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ซึ่งปัญหาของพี่เอ็มในครั้งนี้ ก็คือเรื่องเดิมๆ ตีนกาบริเวณหางตา ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก เหนียงนิดหน่อย รวมถึงหน้ากลมแก้มใหญ่ ฮ่าๆ ทำไมเยอะจัด นี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันอ่ะ พอสรุปกับคุณหมอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการทำล่ะ ซึ่งก่อนทำนั้นพนักงานจะมาถ่ายรูปเราเก็บเอาไว้เป็นข้อมูลก่อนเสมอ ก่อนทำการฉีดโบท็อกซ์หรือทำโปรแกรมอะไรก็แล้วแต่ก็ต้องเช็ดเครื่องสำอางค์ออกหรือว่าทำความสะอาดผิวหน้า ก่อนนั่นแหละ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและเพื่อที่ว่าคุณหมอจะได้เห็นปัญหาได้อย่างชัดเจนด้วย จากที่ปรึกษากับคุณหมอในเบื้องต้นว่าเป็นคนที่แก้มใหญ่มากและด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้แก้มเริ่มห้อยแล้ว คุณหมอจึง แนะนำให้ทำตัว ThermiRF โดยหลักการทำงานของเครื่องนี้ คือเครื่องจะเข้าไปสลายไขมันส่วนเกินบริเวณที่เราไม่ต้องการ และทำการหดกระชับในชั้นไขมันให้เกิดการจัดเรียงเส้นใยที่่ยึดคอลลาเจนให้เป็นระเบียบเรียบตึงนั่นเอง ราคาสำหรับการทำ Smooth อยู่ที่ 15,000 บาท จ้า ทีนี้ก็จะมาถึงขั้นตอนของการ ฉีด Botox แล้ว ซึ่งก่อนที่เราจะฉีดกันนั้น คุณหมอได้ถือขวดยาโบท็อกซ์มาให้เอ็มได้ดูเลย ว่าตัวที่จะฉีดให้นั้นเป็นของ Allergan ซึ่งเป็นของ USA แท้แน่นอน รวมถึงสอนวิธีการดูโบท็อกซ์แท้โบท็อกซ์เทียมอีกด้วย และที่สำคัญแกะกล่องตรงหน้าและฉีดจากขวดให้ดูกันเห็นๆ เลย จากประสบการณ์ที่เอ็มเคยฉีดมาหลายๆ ที่นะเอ็มกล้า พูดเลยว่ามีไม่กี่ที่หรอกนะที่จะฉีดจากขวดให้เราดูจะๆ แบบนี้ โดยเฉพาะถ้าบอกว่าเป็นโบท็อกซ์ของ USA ด้วยแล้วเพราะว่า ตัวนี้จะราคาค่อนข้างสูงเพราะว่าคุณภาพยาดีกว่าของเกาหลีและอยู่ได้นานกว่าด้วย จากที่เคยฉีดๆ มาคือของเกาหลีสำหรับ เอ็มมันจะอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น แต่ของ USA จะอยู่ได้ถึง 7-9 เดือนเลยนะ แต่ก็นะทั้งหมดทั้งมวลมันก็ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดด้วย ยกตัวอย่างถ้าเป็นหางตากับหน้าผากก็จะอยู่ในไม่นานมากนัก แต่ถ้าเป็นกรามก็จะอยู่ได้นานกว่าหน่อยเพราะมันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมต่างๆ ด้วย เช่น ความเครียด แสงแดด ขยี้ตาบ่อย อะไรประมาณนั้นแหละ สำหรับราคาการฉีดโบท็อกซ์ ในครั้งนี้เหมาขวด 100 ยูนิต อยู่ที่ 45,000 บาท จ้า ถึงขั้นตอนการฉีดแล้ว จากการสอบถามคุณหมอเห็นว่าเอ็มเคยฉีดมาหลายครั้งแล้ว คุณหมอเลยบอกว่าไม่ต้องฉีด ยาชาหรอกเนอะ ซึ่งเอ็มก็เห็นด้วยเพราะมันเสียเวลา ฮ่าๆ คือฉีดบ่อยจนไม่รู้สึกเจ็บแล้วมั้ง แต่จะพูดว่าไม่เจ็บเลย ก็ไม่ใช่หรอก คือมันก็เจ็บนิดๆ ตอนเข็มทิ่มนั่นแหละ ตรงจุดนี้คือคุณหมอเขาใช้เข็มเยอะมาก คือฉีด 1 จุดก็เปลี่ยน 1 เข็มอ่ะ อนามัยสุดๆ แบบไม่กลัวเปลืองเลย เอ็มว่ามันดีนะเพราะมันป้องกันการติดเชื้่อจากจุดอื่นๆ ได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้กล้าพูดเลยว่าตั้งแต่ฉีดมา หลายๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนเปลี่ยนเข็มตอนฉีดเลยอ่ะ เต็มที่ก็มีบ้างแต่ไม่เกิน 3 เข็มหรอก เหอเหอ คุณหมอบอกเอาให้หมดขวดเลยแล้วกัน เลยจัดการฉีดบริเวณเหนียงให้นิดหน่อยด้วยแบบค่อยๆ ไล่ไปทีละจิ๊ด ไม่ได้ฉีดลงลึกอะไรมากเพราะว่าเอ็มไม่ได้มีปัญหาเรื่องเหนียงเยอะขนาดนั้น ทีนี้เราไปดูผลลัพธ์กันดีกว่า ประมาณ 1-2 อาทิตย์หลังจากที่ทำมา สำหรับรอยย่นที่หน้าผาก : ถ้าเราสังเกตก็จะเห็นว่าเส้นริ้วรอยมันหายไปเห็นม่ะ ทั้งที่แสดงสีหน้าเดียวกันมันก็ไม่ขึ้นให้เห็น
ริ้วรอยตีนกา : จากภาพเราจะเห็นได้ว่าริ้วรอยตีนกาจากตอนแรกที่เป็นเส้นริ้วยาวมาก ก็จะดูสั้นลงล่ะ แต่การฉีดของที่นี่ สำหรับราคา : แต่ละคนอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่างกันออกไปนะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะฉีดกี่ CC. https://www.facebook.com/dr.tonybeautyexpert นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและปัจจัยของผิวและริ้วรอยของแต่ละบุคคลด้วย สุดท้ายนี้ก็เช่นเดิมค่ะ ยังคงย้ำเสมอว่าการฉีดโบท็อกซ์ที่ดีที่สุดควรอยู่ในความดูแล ของแพทย์รวมถึงศึกษาความน่าเชื่อถือของแต่ละคลินิกก่อนเข้ารับบริการด้วย ถึงจะแพงหน่อย แต่ก็ปลอดภัยกว่าเยอะ เพราะถ้าเกิดว่าหน้าเป็นอะไรขึ้นมาแล้ว เงินเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถเรียกให้ หน้ากลับมาเป็นได้เหมือนเดิมแล้วนะ ไม่คุ้มเลยใช่ไหมล่ะ
พบประพูดคุยกันได้ที่เพจนะจ๊ะ ไปละ บะบายยย https://www.facebook.com/emmoojung www.emmoojung.com Instagram : @emmoojung รีวิว : ฉีดโบท็อกซ์ ที่ ณรวี คลินิก
รีวิว : ฉีดโบท็อกซ์ ที่ ณรวี คลินิก By Emmoojung สำหรับคลินิกที่เอ็มพาเพื่อนๆ มาวันนี้เป็นคลินิกย่านอุดมสุขคะ อยู่ในซอยอุดมสุข 30 ซอยเดียวกันกับโรงเรียนเก่าเอ็มเลย คลินิกอยู่ตรงข้ามโรงเรียนเลยอ่ะ หาไม่ยากนะ ถ้ามาโรงเรียนสิริรัตนาธรถูก ก็หาเจออ่ะ แต่สมัยที่เอ็มเรียนยังไม่มีคลินิกนะคะ สงสัยจบมานานจัด...อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ฮ่าๆ สำหรับบรรยากาศภายในร้านดูสะอาดสะอ้านดีคะ มีโซฟาสวยงามให้นั่งรอคิว รวมถึงเครื่องดื่ม น้ำเปล่า ชา กาแฟ ไว้ให้บริการตัวเอง ซึ่งจริงๆ เขาก็มีพนักงานคอยดูแลความสะดวกให้อยู่นะ ไม่ต้องกลัวเหงาจ้า อ้อ..จริงๆ แล้วที่นี่เขาคือคลินิกศัลยกรรมความงามนะคะ คือรับทำทุกอย่างเลย อันนี้เป็นบอร์ดที่เขา โชว์ไว้ตรงบริเวณโซนรับแขก รับสักคิ้วและสักปากด้วย ก็จะมีแบบตัวอย่างให้เราดูทรงคิ้วที่แตกต่าง กันออกไปให้ดูเยอะแยะเลย ก็ถ้าใครสนใจก็ลองแวะเวียนมาสอบถามดูก่อนได้ อันนี้โปรโมชั่นพิเศษของทางร้าน...เห็นวางอยู่ตรงโต๊ะรับแขกเลยถ่ายมาให้ชม อยากได้วอยเชอร์ไหมล่ะ 4,000 บาทเลยนะ อิ_อิ ปัญหาของเอ็มในครั้งนี้นะคะ ก็เช่นเดิมเหมือนทุกครั้ง คือ ตีนกาบริเวณหางตา ริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหัวคิ้ว โดยก่อนที่คุณหมอจะมาฉีด พนักงานเขาก็จะมาทำความสะอาดผิวหน้าให้ก่อน พอลบเมคอัพเสร็จก็ ทำการเอาเผือก..เอ๊ยยย...ไม่ใช่เอาเจลน้ำแข็งมาโปะให้หน้าชาๆ ก่อน ประมาณ 10-15 นาที โดยประมาณ เพื่อที่เวลาฉีดจะได้ไม่เจ็บมากจ้า เริ่มแล้วววว... ฉีดเลยค้า จัดไปเต็มๆ คือแก่แล้วอ่ะ ให้ป้าฉีดเถอะนะ 55 มันก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ บ้างเหมือนเคย นั่นแหละจ้า ก็นะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่เอ็มฉีดโบท็อกซ์ เอาจริงๆ ก็ชินแล้วล่ะ ฉีดสดยังได้เลยมั้ง ฮ่าๆ ไม่ต้องลงมันหรอก ยาชงยาชาอ่ะ ขอเร็วๆ งานดีๆ ออกมาเด้งๆ ตึงๆ สวยๆ ก็พอใจล่ะ ซึ่งคนที่ฉีดโบท็อกซ์ให้เอ็มในครั้งนี้ก็ไม่ใช่ใคร เป็นคุณหมอของทางคลินิกนั่นเองคะ ก็อย่างที่ บอกว่าไปทุกๆ ครั้งว่าให้คุณหมอฉีดดีสุด ชัวร์ไม่เสี่ยงหน้าพังด้วยนะ อย่าไปฉีดกันเองเลยนะ ไม่พลาดก็ดีไป ถ้าพลาดขึ้นมาจะไปแก้ไขหรือรู้สึกเสียใจทีหลังมันก็ไม่ทันแล้วนะ ไม่คุ้มเลย ไปดูผลลัพธ์กันดีกว่า โดยภาพเหล่านี้เอ็มได้ถ่ายไว้ก่อนทำและหลังทำ 14 วันคะ ตีนกาด้านซ้าย ขวา สังเกตง่ายๆ เลยคะ ก่อนทำเส้นตีนมันจะยาวววววววมากกก...เหมือนยิ่งแก่ยิ่งยาว ฮ่าๆ - ภาพถ่ายโดยกล้อง Sony Nex 5T ภาพไม่มีการรีทัชนะคะ รอยย่นที่หน้าผาก รอยย่นบริเวณหน้าผากเวลานี่ขึ้นเร็วหน่อย 3 วันก็หายแล้วจ้า...ต่อไปนี้ก็กลับมาแสดงอารมณ์แบบ โดยปกติแล้ว การฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดด้วย สำหรับราคาหรือข้อมูลเพิ่มเติม ยังไงลองสอบถามทางหน้าเพจของทางคลินิก https://www.facebook.com/naravee นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและปัจจัยของแต่ละบุคคลด้วย
พบประพูดคุยกันได้ที่เพจนะจ๊ะ ไปละ บะบายยย https://www.facebook.com/emmoojung www.emmoojung.com Instagram : @emmoojung
|
emmoojung
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 80 คน [?] สวัสดีค่ะ.. ชื่อเอ็มนะคะ ยินดีต้อนรับทุกคนสู่บ้านหลังน้อยของ Emmoojung ค่ะ ขอสงวนลิขสิทธิ์ภาพทั้งหมด ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามมิให้ผู้ใดนำไปใช้หรือเผยแพร่ที่อื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงห้ามมิให้ทำการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดใดๆ ภายในภาพ มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด หากท่านต้องการนำภาพไปใช้งานที่เกี่ยวข้องกับรีวิวตัวนั้นๆ ให้ส่ง e-mail แจ้งขอใช้ภาพดังกล่าว ได้ที่ emmoojung@gmail.com ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ จุ๊บๆ Link |