Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
Travel
Cosmetic
Tennis
Diary
Music
หน้าแรก
All blogs
เที่ยวเชียงใหม่ (ตอนที่๓)
เที่ยวเชียงใหม่ (ตอนที่๒)
เที่ยวเชียงใหม่ (ตอนที่๑)
เที่ยวเชียงใหม่ (ตอนที่๓)
Travel
เข้ามาแล้วเลือกหัวข้อBlogด้านซ้ายล่างด้วยนะครับ เพลงจะได้ไม่ตีกัน
วันที่3 ณ เชียงใหม่
และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับ นัดกับเจ้าของที่พักไว้ว่าจะเช็คเอาท์ คุณพี่ก็มาเปิดออฟฟิศตรงเวลาเด๊ะเรย ที่จริงค่าห้องที่ตกลงไว้คือคืนละ 300 ทีนี้พอให้แบงค์1000เขาไป พี่เขาไม่มีทอน เลยบอกลดเหลือ500ละกัน
นี่คือโฉมหน้าของรถที่จะพาผมกลับไปหมอชิตครับ เจ้ากล้วยหอมยาวๆ
คราวนี้มานั่งฝั่งซ้ายบ้าง 1A เบาะแถวหน้าจะเตี้ยเป็นพิเศษครับ เนื่องจากพื้นลาดชันขึ้น ระยะห่างจากกระจกก็ไม่มากเท่าไร ทำให้การเดินทางงวดนี้แอบเมื่อยเป็นพักๆ
รถคันนี้เป็นเที่ยว 9.00น. แต่รถออกช้าไป15นาที เซ็งเรย ขนาดเชิดชัยยังออกก่อนเลย ไม่เต็มด้วย
อ่อ ลืมบอกไปว่ามีอีกอย่างที่ไม่ชอบเลยคือ สติกเกอร์คำว่า สมบัติทัวร์ ที่ติดตรงกระจกข้างซ้าย(ดูรูปแรกประกอบ) มันอยู่ระดับสายตาพอดี ทำให้บังวิวหมดเลย
พอออกจากอาเขตก็ทำการแจกกล่องวิเศษ ขนาดพอดีมือ ภายในประกอบไปด้วย คุกกี้ เค้กงาดำ ขนมปังหมูหยอง คุกกี้อร่อยสุด จุดนี้ผมให้รุ่งประเสริฐทัวร์เหนือกว่านิดเดียว เพราะว่าขนมของสมบัติทัวร์ทำให้คอแห้งสุดๆ
จะว่าไปรถเที่ยวนี้แอบขับช้าอยู่ครับ ตอนช่วงขุนตาลแซงสหชาญทัวร์ที่ออกไล่เลี่ยกัน แต่พอลงเขามาก็โดนแซงเรียบครับ ทั้งพี่เชิด สหชาญ อินทรา(ออกที่หลัง) เซ็งครับ
พอบ่ายกว่าๆก็แจกน้ำส้มเงือกน้อย เรียกน้ำย่อย
เวลาประมาณ สองโมงครึ่ง รถก็เข้าจอดพักที่ร้าน ครัวต้นกำแพงครับ อยู่ก่อนถึงตัวเมืองสลกบาตร
นี่ครับ มือกลางวัน เอาหางตั๋วส่วนคูปองไปแลกเป็นอาหาร ร้านนี้หุงข้าวสวยดีครับ
อีกชั่วโมงถัดมาเสิร์ฟกาแฟครับ (ไม่อร่อยเท่าไร)
หลังจากนั้นก็หลับๆตื่นๆครับ
พอรถมาถึงอยุธยาปาร์ค รถเริ่มติดครับ พอมาถึงประตูน้ำพระอินทร์นี่ติดชะงัก+ไหลๆบ้างจนไปถึงฟิวเจอร์เลยครับ ทำให้เสียเวลาพอสมควร กว่าจะมาถึงหมอชิตก็ทุ่มสี่สิบแน่ะ รวมเวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมงครึ่งครับ ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ ทำให้ผมต้องลำบากในเวลาต่อมา
ผลจากการมาช้าทำให้ผมมาซื้อตั๋วศรีราชาทัวร์เที่ยวสุดท้ายไม่ทัน เลยจำเป็นต้องจ่ายแพงกว่าให้กับ รถรุ่งเรือง
แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจคือ ซื้อตั๋วราคาป.1 แต่ได้นั่งคันนี้ครับ
ถามพนง.ตรงชานชาลาก็บอกไม่รู้เรื่อง ให้ถามคนขายตั๋ว เวรกรรมโยนกลองให้กันเองอีก เลยจำใจต้องขึ้นครับ
ไว้ว่างๆจะเมล์ไปฟ้องกรมขนส่งทางบก
ปกติรถสายตะวันออกที่มาหมอชิต มักจะไปทางมอเตอร์เวย์ครับ แต่สายนี้แนวกว่า ไปทางบางนาครับเลยเจอรถติดบนทางด่วน จากนั้นไม่นานอยู่ๆผมก็ปวดฉี่ครับ !!! ห้องน้ำก็ไม่มี เลยอั้นตั้งแต่กทม.จนมาถึงเมืองชลแต่อั้นได้แค่นั้นแหละ ต้องรีบวิ่งลงจากรถมาฉี่แถวพงหญ้าหลังตึก
แต่โชคดีระหว่างทางก่อนถึงตัวเมืองชล จำได้ว่าแซงสาย36 โชควัฒนาโทรมๆมาคันนึง เลยโชคดีรอไม่นานก็มีรถต่อกลับบ้าน
แต่ขอโทษครับ ขึ้นไปก้าวแรกนี่ผงะกับกลิ่นรถครับ นึกว่าขึ้นมาบนรถส้วมเคลื่อนที่ซะอีก
จบแร้วคับ ไว้คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องโก๊ะๆอีกนะ
Kings of Convenien - I'd Rather Dance with You
Create Date : 04 กันยายน 2550
Last Update : 4 กันยายน 2550 22:53:28 น.
Counter : 388 Pageviews.
3 comment
Share
Tweet
เที่ยวเชียงใหม่ (ตอนที่๒)
Travel
เข้ามาแล้วเลือกหัวข้อBlogด้านซ้ายล่างด้วยนะครับ เพลงจะได้ไม่ตีกัน
วันที่2 ณ เชียงใหม่
ตื่นสายหน่อยครับ เนื่องจากเมื่อวานเดินเยอะ ทำให้เพลีย นั่งเล่น NET จนถึงประมาณสิบเอ็ดโมง ก็อาบน้ำแต่งตัว เดินมาปรึกษากับเจ้าของที่พักว่าจะไปไหนดี
สรุป คือ ไปเส้นทางสวนสัตว์ ดอยสุเทพ พระตำหนักฯ และดอยปุยครับ
คุยไปคุยมา ก็ใกล้เที่ยงละ พี่เขาแนะนำร้านข้าวซอยมาร้านนึง(ร้านบนรูปแหละ) อยู่ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เลย หาง่ายดี
พอดีว่าชอบทานเนื้อ เลยสั่งข้าวซอยเนื้อมาลองดู
บอกตามตรงนะครับ ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ทานข้าวซอย ก็อร่อยดีครับ ชอบทานอาหารรสจัดอยู่แล้ว แต่ชามนี้ 35บาทครับ แอบคิดในใจว่าแพงไปนิด
แต่อร่อยดีอ่ะ คิดว่าเมนูนี้ไม่เหมาะกับสาวกลัวอ้วนเท่าไร เพราะกะทิเยอะเหลือเกิน
กว่าจะจัดการข้าวซอยจานนั้นเรียบร้อยก็เกือบบ่ายแล้ว จากนั้นก็มุ่งตรงไปถ.ห้วยแก้ว สู่ดอยสุเทพ แต่เด๋วก่อน
ตรงตีนดอยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เลยมาไหว้เพื่อเป็นศิริมงคลกันก่อน ณ ตอนนั้นแดดแรงมากครับ เหงื่อนี่หยดเป็นสายน้ำเลย พื้นก็ร้อนมาก ต้องเขย่งๆเดินเอา
วิวเมืองเชียงใหม่ ถ่ายแบบเร่งๆ
ผมเปลี่ยนใจขึ้นมาที่พระตำหนักฯ ก่อนนะครับ เพราะว่า ณ เวลานั้นผู้คนที่วัดพระธาตุดอยสุเทพผู้คนล้านแปด สับสนอลหม่าน
เส้นทางคดเคี้ยวพอสมควร แต่ไม่เกินความสามารถของเจ้าเวฟคู่ใจครับ
ที่นี่พืชพรรณเยอะมากครับ ใครชอบดูดอกไม้คงชอบที่นี่แน่ๆเลย
น้ำพุครับ ขออภัยจำชื่อไม่ได้
Next Target --> ดอยปุย
พอขี่รถออกมาจากพระตำหนักฯ ก็เจอซ่อมทางเลยครับ
ยิ่งขี่ไปเรื่อยๆ ทางก็ยิ่งแคบและอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่ใจว่ารถสวนได้รึเปล่า เพราะแคบจริงๆ ทางก็ไม่ค่อยดีเป็นช่วงๆ ซักพักก็เจอทางแยกครับ ผมเลือกไปทางยอดดอยครับ เห็นทางขึ้นแล้ววังเวงยังไงชอบกล
ขี่ไปตามทางเรื่อยๆก็ถึงจุดชมวิวครับ แต่ตอนนั้นหมอกลงจัดมาก อากาศก็เย็น สงสัยฝนจะตกแหงๆเลย ถ่ายรูปออกมาไม่เห็นอะไรเลยอ่ะ
มองกลับไปที่ถนน ยังกะอยู่อีกโลกนึงแน่ะ (แอบขนลุก)
น่าเสียดายนะครับ พอผมขี่ไปถึงลานกางเต๊นท์ของอุทยาน ฝนได้ตกลงมาซะก่อน (หนักด้วย) ทำให้ผมติดฝนอยู่ประมาณชั่วโมงนึง เลยไปไม่ถึงหมู่บ้านแม้วครับ เส้นทางตั้งแต่จุดชมวิวเป็นต้นไปอันตรายมากครับ ทั้งแคบ คดเคี้ยว ถนนก็เปียก ถ้าพลาดไปนี่ ลงเหวแน่เลย
กว่าฝนจะหยุดก็สามโมงครึ่งแล้วครับ เลยต้องทำเวลาหน่อย
ถ้ามาเชียงใหม่แล้วไม่มาที่นี่ก็กะไรอยู่
วัดพระธาตุดอยสุเทพ
ซุ้มครับ มุมถ่ายยอดนิยม
รูปนี้ใครมาต้องถ่ายครับ พลาดไปนี่เหมือนมาไม่ถึงเลยนะ (เวอร์แล้ว)
ถ่ายขาขึ้นไปแล้ว ต้องถ่ายขาลงด้วย
หลังจากออกมาจากวัดก็มาต่อที่สวนสัตว์เชียงใหม่ครับ ประเดิมกับสมเสร็จ
น้องนกกระจอกเทศรู้มุมกล้องดีครับ รีบหันมาแอ๊กเลย
มาดูหมีแพนด้า"อึ"กัน เสียดายถ่ายตอนร่วงกราวไม่ทัน
ท่าทางจะหิวมากเลยนะเนี่ย
ที่นี่มีแพนด้าสองตัวนะครับ ตัวที่กำลังกินเป็นตัวเมีย ส่วนตัวผู้นอนกลางวัน
หมีโคอาล่าหลับ หรือว่าตุ๊กตาเนี่ย ?
บรรยากาศที่สวนสัตว์ไม่ค่อยครึกครื้นเลยครับ เดินก็ไกล เหนื่อยโคตรๆ ใครจะมาต้องเอารถมาถึงจะสะดวกที่สุด มาที่นี่แล้วรู้สึกขาดทุนไงไม่รู้ นอกจากจะเสียค่าเข้าแล้วก็มีค่าจอดรถมอเตอร์ไซค์10บาท ถ้าจะขึ้นรถบริการก็ต้องเสียเพิ่ม20(รอนานมาก) ดูแพนด้าก็ต้องเสียเพิ่มอีกอีก 50
จากนั้นก็กลับมาที่พัก มาอาบน้ำแต่งตัวไปหาของกิน เช่นเคย ไม่รู้จะถามใครก็ถามพี่เจ้าของที่พักนั่นแหละ
ให้รางวัลกับตัวเองด้วยอาหารที่นี่ครับ Cafe de Nimman บนถ.นิมมานเหมินทร์
ตอนแรกไม่รู้จะสั่งอะไร รายการอาหารก็ไม่ได้พิสดารอะไรมาก แต่มาสะดุดกับเจ้าแซลมอนแช่น้ำปลาจานนี้แหละ สั่งมาทานเล่นก่อน อร่อยดีอยู่นะ เห็นแล้วน้ำลายไหล
ส่วนจานหลักเป็นข้าวผัดแกงเขียวหวานเนื้อครับ เผ็ดได้ใจมาก เวลาเบื่ออาหารก็ได้อาหารเผ็ดนี่แหละ คอยช่วย
หลังจากเช็คบิลแล้วก็ขี่รถไปหลังมช.ครับ ของกินเยอะดีครับ แถมได้อาหารตาอีกตะหาก คิกคิก
Armchair - Minute of Love
Create Date : 25 สิงหาคม 2550
Last Update : 2 กันยายน 2550 21:35:54 น.
Counter : 258 Pageviews.
9 comment
Share
Tweet
เที่ยวเชียงใหม่ (ตอนที่๑)
Travel
เข้ามาแล้วเลือกหัวข้อBlogด้านซ้ายล่างด้วยนะครับ เพลงจะได้ไม่ตีกัน
ช่วงวันหยุดเข้าพรรษาที่ผ่านมา เป็นวันหยุดยาว4วันครับ เสาร์ - อาทิตย์ - จันทร์ - อังคาร กอปรกับงานทีทำงานเครียดแสดด เลยตัดสินใจอย่างฉับพลัน1อาทิตย์ล่วงหน้าว่าจะไปเชียงใหม่
ในเบื้องต้นได้ทำการศึกษาหาข้อมูลจากพันทิป(ดูทางการมากๆ) + มีความรู้เรื่องรถทัวร์อยู่ ก็วางแผนไว้ว่า ออกคืนวันเสาร์ ถึงเช้าวันอาทิตย์ เที่ยววันอาทิตย์กับวันจันทร์ทั้งวัน แล้วกลับเช้าวันอังคาร โดยได้ทำการจองที่พักล่วงหน้า1สัปดาห์ เช่นเดียวกับตั๋วรถทัวร์
การเดินทางครั้งนี้ผมเลือกใช้บริการรุ่งประเสริฐทัวร์ครับ บริการก็ทั่วๆไป แต่วันนี้รถออกช้าไปสิบห้านาที เนื่องจากคุณโฮสท์มาสาย
เลยต้องยืนดมควันอยู่นาน
รถของบริษัทนี้จะแหวกแนวกว่าช้าวบ้านเขา คือค่าโดยสารเท่ากับมาตรฐานป.1 518 บาท แต่ว่าวางเบาะแถวละ3ที่นั่ง แบบรถม.1ก รวมทั้งหมด30ที่นั่ง ทำให้นั่งสบายมาก แต่ว่าบริษัทนี้ได้สัมปทานวันละเที่ยวเท่านั้นเอง ดังนั้นช่วงเทศกาลจะเต็มเร็วมาก ผมเลยซื้อตั๋วล่วงหน้า7วัน
บริการบนรถก็มีการแจกข้าวกล่องและน้ำดื่มเนสท์เล่ หลังจากรถออกประมาณสิบห้านาที จากนั้นก็มีการแจกกล่องวิศษ ภายในประกอบไปด้วย นมไวตามิลค์ 250ml น้ำฝรั่งดอยคำ โก๋แก่อบเกลือ และเค้กชอกโกแลต ของยูโร่ ซึ่งผมเก็บไว้กินตอนเช้าครับ
ส่วนด้านความบันเทิง บนรถมีทีวีสองเครื่อง ด้านหน้าจะเป็นจอ21นิ้ว ส่วนด้านหลังเป็นLCD 14นิ้ว เที่ยวนี้เรื่องฉาย Die Hard 4 (zoom) เสียงดังหนวกหูมาก ส่วนเรื่องที่2 เป็นเรื่อง เลือดผี แบบว่าหลอนมาก เดินทางกลางคืนเจือกเปิดมาได้
แต่ว่าฉายไม่จบก็ปิดซะแระ สงสัยมีคนไปโวย
หลังจากนั้นไม่นานก็หลับ จนรถมาถึงอาเขตประมาณ 5.40 น. ลงมาครั้งแรกก็เหวอหน่อยๆอ่ะ เพราะเป็นครั้งแรกที่มาเชียงใหม่คนเดียว แถมที่พักที่จองไว้ก็ไปไม่เป็น รู้แต่ว่าอยู่หลังรร.โสตฯ
ณ เวลานั้นท้องฟ้ายังมืดอยู่ เลยเดินไปที่ช่องขายตั๋วของสมบัติทัวร์ไว้ เพื่อที่จะไปซื้อตั๋วขากลับที่จองไว้ ราคา518บาท เป็นรถสองชั้นครับ (เด๋วดูรูปตอนขากลับ)
พอใกล้สว่างก็เริ่มมีรถจากกทม.มาเทียบท่าส่ง ผดส.มากขึ้น ก็เห็นเค้าขึ้นรถแดงกัน ก็ขึ้นบ้าง เป็นไปตามคาดว่าพวกนี้มันจ้องจะโขกราคาคนต่างถิ่น เลยโดนไป40บาท ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าขนส่งทำอะไรรถพวกนี้ไม่ได้ แต่ก็นะ คนโกงยังไงมันก็ไม่เจริญอยู่แล้วล่ะ ดูสิ ไม่ว่าจะโกงยังไงก็ไม่รวยซะที ก็ยังต๊อกต๋อยขับรถแดงอยู่อย่างนี้ต่อไป
และแล้ว เราก็มาถึงที่นี่
แต่ขอโทษนะ Office ยังไม่เปิด เข้าห้องไม่ได้
เลยต้องวุ่นวายโทรเรียกเจ้าของที่พัก พี่เค้าก็บอกกลับมาว่า ซ่อนกุญแจห้องไว้ให้แล้ว ช่างใจดีจริงๆ
นี่คือหัวเตียงจ้า สวยงามมากมาย
ถัดมาเป็นทีวี โต๊ะ ตู้เสื้อผ้า แล้วก็สมบัติเน่าๆของเราเอง
อ่อ ลืมบอกไปว่าที่นี่มี WIFI บริการให้ฟรีด้วย นี่แหละเป็นเหตุผลที่เลือกพักที่นี่อย่างไม่ลังเล
หลังจากเก็บของ อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ลงมาคุยกะเจ้าของที่พัก ให้เขาวางโปรแกรมเที่ยวให้ พี่เขายังใจดีโทรเรียกร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ให้มาส่งถึงที่เลยด้วย
โปรแกรมคร่าวๆ คือ วันแรกไปทางแม่ริม ไปตามถนนสายแม่ริม - สะเมิง จะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่ที่ที่ผมเลือกไปแค่สองที่ คือ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กับ น้ำตกแม่สา
สถานที่แรกครับ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ พอมาถึงที่นี่เจ้าหน้าที่ก็บอกให้นำรถไปจอดครับ แล้วให้รอไปกับรถบริการ(ที่เสียตัง
) ซึ่งตอนที่ไปถึง รถดันออกพอดี
ทำให้ต้องรออยู่พักใหญ่ พอซักพักเจ้าหน้าที่คงกลัวว่าเราจะรอไม่ได้ เค้าเลยอนุญาตให้ขี่รถขึ้นไปข้างบนได้เลย
ทางขึ้นค่อนข้างแคบและอันตราย โปรดระมัดระวังด้วยนะครับ ระหว่างทางได้พบการก่อสร้างปรับปรุงเป็นระยะๆด้วย
จนมาถึงที่นี่ครับ
บริเวณนี้จะเป็นหมู่เรือนกระจก ซึ่งจะจำแนกพืชพรรณแต่ละประเภทไปในแต่ละเรือนนะครับ แต่ตอนที่ผมไปนี่ เรือนกระจกนี่ไม่ต่างกับเตาอบเลยครับ
"เหล่าคุณนายปิ่นวารี" กำลังนอนหลับอยู่
วันนี้อากาศร้อนมากๆ อยู่ได้ไม่นานก็ออกมาจากบริเวณสวนพฤกษศาสตร์ ขี่รถไปทางสะเมิงดูวิวไปเรื่อยๆ จนมาเจอป้ายประหลาดที่นี่เข้าครับ
อย่างที่บอกว่าอากาศร้อน คนเลยมาเที่ยวที่น้ำตกเพื่อหวังจะได้ความเย็นจากน้ำดับร้อน แต่ก็ไมได้เป็นไปตามที่หวังซักเท่าไร
ที่น้ำตกแห่งนี้มีประมาณ7ชั้น(มั้ง) จะเล่นน้ำก็ไม่รู้จะเล่นกะใคร เลยได้แต่ถ่ายรูปไปพลางๆ นี่ยกตัวอย่างมาแค่รูปเดียวเองนะ อ่อ รูปที่ถ่ายมาทั้งหมดหายไปหมดเรยอ่ะ โดนไวรัสห่าอะไรไม่รุ แดก Drive C ซะเอ๋อจนต้อง Format ใหม่เรย
เลยเหลือแค่รูปที่ Upload ไว้ก่อนหน้านั้นคืนนึง
หลังจากถ่ายรูปเที่ยวเล่นเสร็จแล้วก็ขี่รถกลับที่พัก เพื่ออาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปเดินถนนคนเดินตอนหัวค่ำ
พอซักหกโมงกว่าๆ ก็ขี่รถมาจอดแถวๆ 7-11 ใกล้ๆรร.ยุพราช แล้วเดินต่อไปอีกนิดนึง ก็มาถึงที่นี่ครับ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
พอเริ่มค่ำก็ลุยละครับ สองข้างทางเต็มไปด้วยของกิน
และของสวยๆมากมาย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอ่ะ เพราะเห็นบางแผงขึ้นป้ายว่ากรุณาอย่าถายรูป ก็เอาวะ ช่วยทำมาหากินหน่อย ระหว่างทางก็เดินไปซื้อขนมกินไป ช่างสุขอะไรเช่นนี้ ชอบยำลูกชื้นหมูมากเลยอ่ะ เค้าปั้นลูกชิ้นสดๆเลยแหละ แต่แพงไปนิดนะ
แต่เดินๆไป ซักพักก็เริ่มหิว หันไปเจอร้านนึงอยู่หน้าประตูวัดอะไรจำไม่ได้แล้ว ขายส้มตำครับ
ด้วยความที่หิวโซ เลยสั่งตำปูปลาร้ามากินเล่น พอจะสั่งข้าวเหนียวเพิ่มก็หมดซะงั้นอ่ะ คิดดูละกัน อร่อยซะจนมีคนไต้หวันเดินมาสั่งแล้วชี้เหมือนจะสื่อว่าเอาแบบเรานะ
แสดงเป็นเจ้านี่คงปวดเมื่อยหน้าดู
ก่อนกลับ ใช้พลังงานมากไปหน่อย หิวอีกแร้ว เลยเติมพลังด้วยผัดไทยที่อ้างว่าเป็นสูตรโบราณซะหน่อย แต่แอบจืดไปอ่ะ คงเป็นเพราะว่าผัดกระทะใหญ่ทีเดียวแล้วค่อยมาแบ่งย่อยเป็นจานๆไป กินป้าเอี้ยงบ้านเราดีกว่าเนอะ
วันนี้จบเรื่องโม้แค่นี้ก่อนล่ะ เด่วมีต่ออีกสองตอน
สุนทรีย์ เวชานนท์ - ล่องแม่ปิง
Create Date : 07 สิงหาคม 2550
Last Update : 2 กันยายน 2550 21:36:27 น.
Counter : 563 Pageviews.
5 comment
Share
Tweet
dorgchant
Location :
ชลบุรี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
viagra
ท่องไปทั่วโลก
หาแค่ในพันทิบก็พอ
Friends' blogs
sushiboy69
เจ้าชายในนิยาย
Benzac
Webmaster - BlogGang
[Add dorgchant's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.