..อย่าถามว่าโลกได้ให้อะไรกับคุณ ลองถามดูว่าคุณได้ให้อะไรกับโลกบ้าง..

...อยากรู้จักใครสักคน ต้องหัดเรียนรู้ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง...






การที่เราจะคบหาหรือรู้จักใครสักคน ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม

สิ่งหนึ่งที่ควรท่อง ควรจำไว้อยู่เสมอก็คือ ...

'คน ' เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีทั้งด้านบวกและด้านลบอยู่ในนั้น

อย่าตั้งใจกับคน 1 คนมากเกินไป

เพราะไม่มีใครอยากเป็นต้นเหตุของความล้มเหลว

อย่าคาดหวังกับคน 1 คนมากเกินไป

เพราะไม่มีใครสามารถเป็นทุกอย่าง ที่ทุกคนอยากให้เป็น

อย่าให้เวลากับคน 1 คนมากเกินไป

เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีช่วงเวลาของความเป็นส่วนตัว. . . คนเดียว ....

อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคน 1 คนมากเกินไป

เพราะนั่นจะทำให้เค้าไม่หลงเหลือความเป็นตัวของตัวเอง

อย่าควบคุมชีวิตคน 1 คนมากเกินไป

เพราะมนุษย์มักจะหาวิธีการแทรกตัว เพื่อออกมาจากกฎที่ถูกกำหนด

อย่าบีบบังคับคน 1 คนมากไปกว่านี้

เพราะถ้าคนๆนั้น หลุดจากภาวะบีบบังคับมาได้

คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกหันหลังให้ในทันที

เธอ. . . ลองมองดูฉันดีๆ ฉันมีลมหายใจ

ไม่ใช่ภาพวาด ที่จะสวยงามอยู่ตลอดเวลา

ฉันเองก็เป็น 'คน' เป็นสิ่งมีชีวิตที่มี 2 ด้าน. . . เช่นกัน

...อยากรู้จักใครสักคน ต้องหัดเรียนรู้ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง...








 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 16:26:28 น.
Counter : 593 Pageviews.  

แขกที่ได้รับเชิญ..."ความรัก"






ผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากบ้านของเธอ
และได้เห็นชายชราที่มีเคราสีขาว 3
คน นั่งอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านของเธอ
เธอไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เธอพูดกับเขา ว่า

“ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักพวกคุณ แต่ท่าทางคุณต้องหิว แน่เลย
โปรด เข้ามาในบ้านและทานอะไรซักหน่อยเถอะ”
“สามีของเธออยู่ในบ้านไหม” เขา ถาม
“ไม่” เธอตอบ “เขาออกไปข้างนอก”
“ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็เขาไปข้างใน ไม่ได้ดอก” เขาตอบ





ในตอนเย็น เมื่อสามีเธอกับมาบ้าน
เธอเล่าให้เขา ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไปบอกพวกเขา ว่า ฉันกลับมาบ้านแล้ว
และเชิญเข้ามาในบ้านเถิด”
เธอก็ออกไปและเชิญ พวกชายชรานั้นให้เข้ามาในบ้าน

“เราเข้าไปในบ้านพร้อมกันไม่ได้หรอก“ทำไม ล่ะ” เธอถาม
ชายชราคนหนึ่งอธิบายว่า “เขาชื่อ ความมั่งคั่ง”
เขาพูดและ ชี้ไปยังเพื่อนของเขาและชี้ไปยังอีกคนหนึ่งว่า”เขาคือ
ความสำเร็จ และฉัน คือ ความรัก” เขากล่าวต่อไปว่า “บัดนี้
จงเข้าไปข้างในและปรึกษากับสามีของ เธอว่า
คนไหนในพวกเราที่คุณต้องการจะให้เข้าไปในบ้านของคุณ”





เธอ กลับเขามาข้างในและบอกกับสามีของเธอ สามีของเธอรู้สึกดีใจมาก
วิเศษจริง ๆ” เขากล่าว “
เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะเชิญ ความมั่งคั่ง เมื่อเขาอยู่กับ เรา
บ้านของเราจะเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง
“ ฝ่าย ภรรยาไม่เห็นด้วย “ที่ รัก ทำไมเราไม่เชิญ
ความสำเร็จล่ะ” ขณะนั้นลูกสะใภ้ได้ยินทั้งสองกำลัง ปรึกษา
จากมุมหนึ่งของบ้าน เธอก็เข้ามาและแนะนำว่าั้
“จะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเราเลือกความรัก บ้านของเรา
จะเต็มไปด้วยความรักไง”
“เราฟังสิ่งที่ ลูกสะใภ้แนะนำเถอะ” สามีกล่าวกับภรรยา
“ออกไปข้างนอกและเชิญความรักเขามา เป็นแขกของเราเถอะ”
ภรรยาออกไปและถามชายชราทั้ง 3 ว่า “ใครคือความรัก
โปรดเข้ามาและเป็นแขกของเราเถอะ”





ความรักลุกขึ้นและเดินไปยังบ้าน ชาย ชราอีก 2
คนก็ลุกขึ้นและตามเขาไป
ด้วยความประหลาดใจ ภรรยาถาม ความ มั่งคั่ง และความสำเร็จว่า
“ฉันเชิญเพียงความรัก ทำไมคุณถึงเข้ามาด้วย ล่ะ”
ชายชราตอบพร้อมกันว่า “ถ้าคุณเชิญความมั่งคั่ง หรือ
ความสำเร็จ คน ใดคนหนึ่ง
อีกสองคนก็จะอยู่ข้าง นอก
แต่เมื่อคุณเชิญความรักที่ใดที่เขา ไป เราจะไปกับเขาิ
ที่ใดมีความรัก ที่นั่นก็จะมีความมั่งคั่งและความ สำเร็จ”






 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2550 8:56:04 น.
Counter : 510 Pageviews.  

" อย่านำความผิดหวังของเมื่อวานมาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้ "





หัดพูดแต่ด้านบวก
แล้วจะรู้ว่ามีคนอีกมากมายที่รักเรา




หัดยิ้ม
แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่น่ารัก
หัดฟาดฟันกับอุปสรรค
แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่เข้มแข็ง
ลองทน
แล้วจะรู้ว่าเรามีความอดทนยิ่งกว่าใคร
ลองออกกำลังกายทุกวัน
แล้วจะรู้ว่าเราคือมนุษย์เจ้าพลังคนหนึ่ง
ลองคิดเอาชนะ
แล้วจะรู้ว่าเราสามารถเอาชนะตัวเองได้ไม่ยาก
ลองคิดให้ใหญ่
แล้วจะรู้ว่าเรามีความสามารถอย่างน่าแปลกใจ




นักพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีท่านหนึ่งได้เริ่มหยุดการสัมมนาของเขา
โดยการหยิบแบงค์ 1,000 ขึ้นมาในห้องที่มีผู้เข้าร่วม 200 ท่าน
แล้วเขาก็พูดว่า

"ใครอยากได้แบงค์ 1,000 นี้บ้าง"
มือได้ถูกยกขึ้นเป็นจำนวนมาก และเขาก็พูดต่อว่า

"ฉันจะให้เงินแบงค์ 1, 000 นี้แก่หนึ่งในพวกท่าน แต่ครั้งแรกนี้ฉันจะทำอย่างนี้"
เขาเริ่มที่จะขยำ ๆ เงินนั้นแล้วเขาก็ถามอีกว่า "ใครจะยังต้องการมันอีก" ยังคงมีมือที่ยกขึ้นอีก

"ดี" เขาตอบ "แล้วถ้าฉันทำอย่างนี้ล่ะ"
และเขาก็ทิ้งมันลงที่พื้นและเริ่มที่เหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าของเขา
แล้วเขาก็เก็บขึ้นมา ขณะนี้มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก

"ตอนนี้ใครยังต้องการมันอีก" ก็ยังคงมีคนยกมืออีก "

เพื่อน ๆคุณได้เรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่า ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเงิน คุณก็ยังต้องการมันอยู่

เพราะว่ามันไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย มันก็ยังคงมีค่า 1, 000 บาท อยู่นั่นเอง





เหมือนกับ หลาย ๆ ครั้งในชีวิตของเรา ที่ถูกทิ้ง
ถูกเหยียบย่ำ และถูกทำให้สกปรก โดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมัน
และสภาพแวดล้อมที่เราเจอ ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของเราลดน้อยลง
แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้น หรืออะไรที่จะเกิดขึ้น
คุณไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ คุณเป็นคนพิเศษ อย่าลืมมันตลอดไป!

" อย่านำความผิดหวังของเมื่อวานมาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้ "






 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2550 14:32:46 น.
Counter : 457 Pageviews.  

เขาเล่าว่า (ไม่รู้จะจริงหรือเปล่า)







บ้านคนปีชวด (พ.ศ. 2527, 2515 และ 2503)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีชวด ควรมีเครื่องดนตรีอย่างน้อย 1 ชิ้น อยู่ในบ้าน เช่น ขลุ่ย เมาท์ออร์แกน เปียโน กีตาร์ ฯลฯ แม้จะเล่นไม่เป็น เพียงมีไว้ประดับบ้านก็ถือว่าถูกโฉลก นำโชคดีมาสู่ในบ้าน แต่ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่สมาชิกในบ้าสามารถเล่นได้จริงๆ หรือมีการเล่นร่วมดนตรีด้วยกันภายในครอบครัว เสียงดนตรีที่ดังขึ้นดุจดั่งเสียงสวรรค์ที่เรียกทรัพย์นับล้านเข้าสู่บ้านคนปีชวด




บ้านคนปีฉลู (พ.ศ. 2528, 2516 และ 2504)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีฉลู ไม่ควรมีอะไรที่เป็นทรงกลม ยกเว้นโต๊ะอาหารที่เป็นโต๊ะกลมได้ นอกนั้นแล้วสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านควรเป็นเหลี่ยมเป็นมุมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น นาฬิการทรง 8 เหลี่ยม อ่างบัวทรง 5 เหลี่ยม กระถางต้นไม้ทรง 4 เหลี่ยม รวมไปถึงลวดลายของเหล็กดัด วอลล์เปเปอร์ ก็ควรเป็นรูปทรงเหลี่ยม หลีกเลี่ยงรูปวงกลมและรูปโค้งมนต่างๆ





บ้านคนปีขาล (พ.ศ. 2529, 2517 และ 2505)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคนปีขาล ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ควรมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หน้าบ้านควรมีต้นไม้ใหญ่ หรือ สัญลักษณ์ที่ใหญ่โตโดดเด่น อาทิ มีประตูหน้าบ้านบานใหญ่ มีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ เป็นต้น ในห้องรับแขกควรมีรูปภาพพระอาทิตย์ขึ้นประดับไว้ จะช่วยเพิ่มพลังอำนาจ และบารมีให้มีมากขึ้นกว่าเดิม





บ้านคนปีเถาะ (พ.ศ. 2530, 2518 และ 2506 )
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีเถาะ ควรเป็นบ้านที่มีความร่มรื่น ร่มเย็น มีสนามหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ อ่างบัว ตัวบ้านมีความโปร่งโล่งสบาย มีแสงแดดและแสงสว่างพอประมาณ ในห้องนอนหรือห้องรับแขก ควรมีตุ๊กตาเซรามิครูปกระต่าย รูปไก่ รูปไข่ รูปหมู รูปเด็กทารก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย จะช่วยให้เงินทองไม่รั่วไหลไปไหน ได้ปรับเงินเดือน ได้เลื่อนตำแหน่ง ได้พบกับความสมหวังและสมปรารถนาทุกประการ





บ้านคนปีมะโรง (พ.ศ. 2531, 2519 และ 2507)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีมะโรง ควรจะมีชื่อบ้าน โดยเป็นชื่อที่เป็นมงคลและถูกต้องตามหลักทักษาของเจ้าของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะใช้ชื่อหรือนามสกุลของเจ้าของบ้านมาเป็นชื่อบ้าน ซึ่งถ้าชื่อหรือนามสกุลถูกโฉลกอยู่แล้ว ชื่อบ้านก็ย่อมจะดีตามไปด้วย ชื่อบ้านต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะของบ้านและ ผู้อยู่อาศัย ห้ามขัดแย้ง หรือตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น บ้านทาสีฟ้าทั้งหลังแต่ตั้งชื่อบ้านว่าเรือนสีชมพู หรือ บ้านอยู่ติดภูเขา แต่ตั้งชื่อบ้านว่า บ้านริมทะเล ลักษณะอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสมจะทำให้อับโชค พบเจอแต่อุปสรรคขวากหนามในการดำเนินชีวิต





บ้านของคนปีมะเส็ง (พ.ศ. 2532, 2520 และ 2508)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีมะเส็งต้องมีแสงสว่างอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ต้องให้ความรู้สึกว่าสว่างอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ควรจะมีไฟภายนอกบ้านอย่างน้อยสัก 1 ดวงที่เปิดให้ความสว่างอยู่ตลอดคืนโดยเฉพาะไฟดวงไหนหากเปิดไว้แล้วนอกจากจะให้ความสว่างแก่บ้านของเรา ยังให้ความสว่างและความปลอดภัยแก่บ้านหลังอื่นและผู้ที่เดินทางผ่านไปมา ถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง บ้านมืดๆ จะนำภัยอันตรายและโชคร้ายมาสู่คนปีมะเส็ง




บ้านคนปีมะเมีย (พ.ศ. 2533, 2521 และ 2509)
เพื่อความเจริญก้าวหน้า บ้านของคนปีมะเมีย ต้องมีความเคลื่อนไหว เช่น มีธงโบกสะบัด มีน้ำพุ มีกังหัน มีโมบาย มีสุนัขหรือแมววิ่งเล่นกัน มีต้นไม้ใหญ่ที่โอนเอนตามสายลมภายในบ้าน ก็ควรมีสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวหรือความเร็ว เช่น รถยนต์โบราณ รถไฟ เรือใบ เรือสำเภา เครื่องบิน จรวด ฯลฯ เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านที่สงบ นิ่งและเงียบเกินไป จะทำให้คนปีมะเมียอึดอับและอับโชค





บ้านคนปีมะแม (พ.ศ. 2534, 2522 และ 2510)
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีมะแม ควรเป็นบ้านที่สะสมงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพวิวทิวทัศน์ งานหล่อ งานปั้น งานแกะสลัก หนังสือ ซีดีเพลง ดีวีดีภาพยนตร์ ฯลฯ ล้วนถูกโฉลกและนำโชคดีมาสู่คนปีมะแม และถ้าผลงานศิลปะเหล่านั้น เป็นฝีมือของเจ้าของบ้านด้วยแล้ว จะยิ่งถูกโฉลกและโชคดีเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า





บ้านของคนปีวอก ( พ.ศ. 2523, 2511 และ 2499)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีวอก ควรเป็นบ้านที่มีการขยับขยาย เพิ่มเติม ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลาเพื่อให้สอดคล้องสมดุลกับผู้อยู่อาศัย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นบ้านที่มีการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น มีต้นไม้ใหม่ๆ มาปลูกเพิ่มอยู่เสมอมีเฟอร์นิเจอร์ใหม่มาทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย มีเก้าอี้ม้าหินชุดใหม่มาตั้งแต่เพิ่มในสวน มีการเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ทุกๆ 2 ปี และทาสีบ้านใหม่ทุกๆ 3 ปี





บ้านของคนปีระกา (พ.ศ. 2524, 2512 และ 2500)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีระกาต้องสวย สะอาด สดใส และดูใหม่อยู่เสมอ สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย รั้วบ้านและอาคารภายนอกบ้านควรทาสีใหม่ทุกๆ 3 ปี ภายในบริเวณบ้าน ห้ามมีสิ่งของแตกหัก ชำรุด เสียหาย ใบไม้แห้ง ต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉาโรยรา โดยเด็ดขาด รอยร้าวบนผนัง หากพบเจอต้องรีบแก้ไขในทันที หลอดไฟ กลอน กุญแจ ประตู หน้าต่าง ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ





บ้านของคนปีจอ (พ.ศ. 2525, 2513 และ 2501)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีจอ ควรจะมีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชคของคนปีจอ เพราะความซื่อสัตย์และแสนรู้ของสุนัข จะช่วยให้คนปีจออารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง ไม่เครียด ดังนั้นไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไรก็ล้วนแต่โชคดีมีความสำเร็จ สุนัขที่เลี้ยงไว้ไม่ควรเลี้ยงตัวเดียว ควรเลี้ยงตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็อย่าให้มากเกิน ควรให้เหมาะสมกับบริเวณบ้านและกำลังในการดูแลเอาใจใส่





บ้านของคนปีกุน (พ.ศ. 2526, 2514 และ 2502)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีกุน ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวก สบาย มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน เพราะการเข้าครัวทำอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคลนำมาซึ่งโชคลาภ ความสำเร็จ และความร่ำรวย และถ้ามีตุ๊กตาเซรามิครูปหมูสีขาวหรือสีชมพู สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหารด้วย จะยิ่งถูกโฉลก โชคดี เฮง เฮง เฮง เพิ่มมากขึ้น





 

Create Date : 29 ตุลาคม 2550    
Last Update : 29 ตุลาคม 2550 15:42:02 น.
Counter : 810 Pageviews.  

เรื่องของคู่แท้






กาลครั้งหนึ่งนานมา แล้ว........
มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่
ทันใดนั้น ลูกศิษย์ คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า

ลูกศิษย์ : อาจารย์ คับ ผมสงสัยจังเลยว่า
เราจะหาคู่แท้ของเราเจอได้ไงคับ อาจารย์
บอกผมหน่อยได้ไหมคับ ?

อาจารย์ : ( เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ)
อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ
แต่ในขณะ เดียวกันมันก็เป็นคำถามที่ง่ายเหมือนกันนะ

ลูกศิษย์ :( นั่งคิดอย่างหนัก)
อืม ?.... งงอะไม่เข้า ใจ

อาจารย์ : โอเค งั้น
เธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ
มีหญ้าเยอะแยะเลยใช่ไหม
เธอลองเดิน ไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด
แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียว เท่านั้นนะ
แต่ว่าเวลาเธอเดินเนี่ยเธอต้องเดินไปข้าง หน้าอย่างเดียวนะ
ห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจ ไหม

ลูก! ศิษย์ :ได้เลยครับ จาน รอสักครูน่ะครับ
( ว่าแล้วก้อวิ่งตรงไปยังสนาม หญ้า)
หลังจากนั้นไม่ นาน....

ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับ จาน

อาจารย์ :อืม...แต่ ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวย ๆ
ในมือเธอเลย หละ

ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ ครับจาน
ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวยๆ เนี่ย
ผมก้อก้อคิดว่า เออ เดี๋ยวก้อคงเจอต้นที่สวย กว่านี้
ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน แล้วผมก็เดินไป เรื่อย
รู้ตัวอีกที
มันก็ สุดสนามหญ้าแล้วครับจะเดินกลับก้อไม่ได้
เพราะจานสั่ง ห้ามไว้

อาจารย์ : นั่น แหละ
คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ
เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับ เรา

ต้นหญ้า ก็คือ คนที่ อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ

ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็ คือคนที่คุณชอบ
หรือคน! ที่ดึงดูดคุณนั่น แหละ

ทุ่งหญ้าก็คือ เวลา เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณ

อย่ามัวแต่เปรียบเทียบ
แล้วคิดว่าคงจะมีที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าคุณ มัวแต่เปรียบเทียบ
คุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

อย่าลืมว่า ' เวลาไม่เคยย้อน กลับ '

ไม่ใช่แค่ความรักเท่า นั้น
เรื่องนี้ ยังสามารถใช้ได้กับการหาคนที่จะมาทำ งานร่วมกับคุณในชีวิต
หรือแม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับ คุณ

ดังนั้น มันจึงเป็น สัจธรรมที่ว่า
จงรัก และไขว่คว้าโอกาสที่คุณมีในขณะ นี้
อย่ามัวแต่เสียเวลา
บาง ครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น





 

Create Date : 26 ตุลาคม 2550    
Last Update : 26 ตุลาคม 2550 15:15:15 น.
Counter : 715 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

ดอกหญ้าสีน้ำเงิน
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เมื่อเริ่มเดินทาง
ฉันรู้สึกว่ามีเรื่องราวมากมาย
รอให้ฉันได้ไปค้นหา ไปสัมผัส
ฉันมองเห็นแสงทองของคืนวัน
ที่รอคอยฉันอยู่
แต่เมื่อฉันเริ่มเดินมาไกล
ฉันกลับรู้สึกว่า
ไม่มีแสงทองของที่ไหน ดูสวย
ดูงดงามเหมือนที่ที่ฉันจากมา
...

มักจะเป็นอย่างนี้เสมอ
ที่เราจะมองหาสิ่งสวยงามจากฟ้าที่อยู่ไกล
จนลืมที่จะมองสิ่งที่อยู่ใกล้
กว่าจะรู้ตัวว่านี่คือสิ่งสำคัญ
ก็เกือบจะสายเกิน

ออนไลน์

ก้าวที่พลาด จะเป็นก้าวที่ทรงคุณค่ามหาศาลสำหรับผู้ที่รักตนเองอย่างยิ่ง ตอนผิดหวัง เราร้องไห้ได้ แต่เราไม่หมดหวัง

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ดอกหญ้าสีน้ำเงิน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.