หิมะตกแค่นี้ดีใจไปทำไม ?


       เราเกิดในประเทศไทย  ประเทศที่ไม่มีหิมะ  มีแต่ความร้อน  ฝน และ ลูกเห็บตกในบางครั้งคราว   การได้มาต่างประเทศเพื่อมาทำงาน  , มาเที่ยว  อีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากเห็นก็คือหิมะ  หิมะ ของจริง  ไม่ใช่หิมะแบบดรีมเวิล์ด  เราไม่รู้หรอกว่าหิมะ  หน้าตามันเป็นยังไง  มันต้องหนาวแค่ไหน ถึงจะตกลงมา มันจะตกตอนไหน ตอนกี่โมง เราก็ไม่รู้  เพราะเราไม่เคยเห็นมาก่อน   

     เข้าสู่เดือนตุลาคม  อากาศเริ่มเย็น  ดอกไม้ใบหญ้าเริ่มเป็นน้ำแข็ง 












นี่แค่ของพวกนี้เริ่มเป็นน้ำแข็ง เรายังตื่นเต้นเลย   ก็คนมันไม่เคยเห็นนี่หว่า 

วันดีคืนดีหมอกก็จะลงประมาณนี้  



เดือนตุลาคมเป็นเดือนเกิดของเราพอดิบพอดี  ปกติแล้วทุกวัน เวลาว่างหรือหลังเลิกงาน เราก็จะกลับขึ้นห้อง  ไปนั่งเล่น 

และวันนั้นก็เป็นวันเกิดของเราพอดี   วันเกิด อยู่คนเดียวเหงาๆ ไกลบ้าน  เหง๊า เหงา   จะไปกินหมูกระทะ ก็ไม่มี  พ่งเพื่อน ก็ไม่มี   ในระหว่างที่ชีวิต เศร้าสร้อย  ก็มองไปที่หน้าต่าง  เอ้า ฝนตกหรอเนี่ย เห็นอะไรฝอยๆ  เลยเดินไปชมวิวริมหน้าต่างนิดนึง  เห้ยยย มันไม่ใช่ฝนนี่หว่า หันไปดูบนเขาใกล้ๆบ้าน   ขาวๆ นั่นมันหิมะใช่มั้ย    หูยยย แค่นี้ก็ตื่นเต้นและ  หิมะมันเป็นแบบนี้นี่เองหรอ   นี่คือรูปที่ถ่ายจากห้อง



พอดีลงไปหาอะไรกินข้างล่าง เลยคุยกะโฮสว่า หิมะตกมาหน่อยนึงแล้ว  เห็นบนเขา   โฮสตอบแบบว่า   หิมะแแค่นี้จะตื่นเต้นไปทำไม นี่มันแค่ฝนตกแล้วเป็นน้ำแข็งเฉยๆ เอง  ไม่เห็นน่าตื่นเต้น เลย  ...... เอิ่ม  โฮสอยู่จะ 20 ปี  แต่ เรามาอยุ่ได้4-5  เดือน  ไม่เคยเห็นหิมะมาก่อน  ใครมันจะไม่ดีใจวะ   


หลังจากเจอคำพูดโฮสไปก็เลยคิดว่า  เออ กรูคงดีใจเว่อไปเองมั้ง     ตัดภาพไปที่ตอนกลางคืน โฮสพ่อกลับมา  และ คนแม่กำลังจะไปทำงาน   เจอเราที่อยู่ข้างล่างพอดี  คนพ่อบอกเราว่า   ออกไปข้างนอกสิ  เราก็คิดว่าเอ๊ะ ไล่กรูออกจากบ้านหรอเนี่ย  คือโฮสคนพ่อแทบไม่พูดอังกฤษเลย  เค้าก็เลยเปิดประตูบ้านแล้ววงเรียกเรา  เค้าบอกหิมะตก แต่ตอนนี้นิดเดียว  อีกประมานสองเดือนมันจะตกเยอะ เยอะ เยอะ กว่านี้เยอะเลยนะ   คือน้ำเสียงคนพ่อยังแบบตื่นเต้นเลยทั้งๆที่ตัวเองก็คงเห็นมาทั้งชีวิต  แต่โฮสแม่ยังคงเดิม  ก็แค่เนี๊ย !!!




พอเช้ามาคนแม่กลับมาถึงบ้าน  บ่นใหญ่เลยว่าเมื่อคืนขับรถยากมาก หิมะตก มองไม่เห็นอะไร      เรานี่ก็ได้แต่นึกในใจ  แหมมมม ละ บอกตกแค่นี้เองจะตื่นเต้นทำไม    



แต่มันก็ตกแค่วันนั้นจริงๆ ละก็หายไปเลย 555  จนมาตกอีกทีช่วงเดือนพฤศจิกายน  ก่อนที่เราจะกลับไทย  บรรยากาศก็ประมาณนี้  










น่าเสียดายที่เราไม่ได้อยู่ถึงช่วงที่มีหิมะตกเยอะๆ หนา ๆ ตามที่เราเคยได้มโนไว้  



Create Date : 29 สิงหาคม 2561
Last Update : 29 สิงหาคม 2561 14:48:50 น.
Counter : 722 Pageviews.

0 comment
หาโฮสใหม่ไม่ง่ายอย่างที่คิด


  จริงๆแล้ว เมื่อเราอยู่ในนอร์เวย์  แล้วเรารีแมช  อยากหาบ้านใหม่   เราว่าโฮสมีเยอะพอสมควร  แต่ปัญหามันคือโฮสเก่าของเรานี่แหละจ้าาาาาาา   เหมือนจะสกัดดาวรุ่ง  

    เราพยายามหาโฮสจากเว็ปต่างๆ และ จากเพื่อนๆพี่ๆในกลุ่ม  ที่แนะนำโฮสให้ 
โฮสบ้านแรกที่เราได้คุยหลังจากขอรีแมช     เป็นคนปากีสถาน  เป็นหมอทั้งคู่ มีลูกสีคน  อายุไล่ๆกัน  เค้าอยากให้เราเริ่มงานเลย อย่างเร็วที่สุด     เราก็ตอนนั้นไม่คิดอะไร  คืออยากได้บ้านใหม่  ไม่อยากอยู่นี่แล้ว   เราก็เลยบอกโฮสว่า  ได้บ้านแล้ว  เป็นหมอ อยู่แถวออสโล   โฮสเราก็ถามใหญ่เลยว่า  เป็นหมอที่ไหน ชื่ออะไร  อายุเท่าไหร่ ไว้ใจได้มั้ย    เราเลยบอกอาจจะไปคุยกับเค้าอีกที  ที่บ้านเค้า ก่อนตัดสินใจ   โฮสเราเลยแทรกมาว่า  จริงๆจะไปเลยก็ได้นะ  นี่ไม่ได้ไล่่นะ  แต่ถ้าไปคือมันผิดกฏอ่ะ    เราเลยชะงักไง  เพราะตอนนั้นไม่มั่นใจ  กลัวผิดกฏ กลัวตำรวจจับ  กลัวนู่นนี่  เพราะโฮสพูดซะน่ากลัว   ก็เป็นอันนว่าบ้านนี้เราก็ไม่ได้ไป

2.บ้านสอง  ครอบครัวโคลัมเบีย  อยู่ในออสโล  พ่อทำงานบนเรือ  หกเดือนกลับบ้านที    แม่เดินทางบ้างบางครั้ง   ฟังแล้ว ไม่โอ  ก็ผ่านไป

3.ครอบครัวเม็กซิโก   สามีเป็นคนนอร์เวย์   คุยกันอย่างดิบดี  เกือบจะได้ไปแล้วเชียว  อยู่ดีๆโฮสส่งข้อความมาบอกว่า พอดี ออแพร์จากบราซิล  ที่เคยทำเรื่องไว้  วีซ่าผ่านแล้ว   เลยยกเลิกเรา

4. ครอบครัวกรีซ  เป็นหมอทั้งคู่ เช่นกัน  แต่อยู่ที่สวีเดน   

5.ครอบครัวสวีเดน  มีภรรยาคนไทย  คนนี้ดีมาก  แต่ติดที่ว่าภรรยาเปนคนไทย  ทำให้เราไม่สามารถไปบ้านเค้าได้ เนื่องจากเรื่องกฏ

6. ครอบครัวนอร์เวย์ คุณแม่ยังสาว  คนนี้ขอ reference  จากโฮสเก่าเราด้วยจ้า
เราไม่รู้หรอกว่าเค้าคุยเรื่องอะไรกันบ้าง    แต่โฮสคุณแม่ยังสาวตอบเรากลับมาว่า  ได้คุยกับโฮสปัจจุบันของเราแล้ว   เค้าอยากได้คนเฟรนลี่ ชอบเค้าสังคม  แต่เหมือนว่าตัวเราเป็นคนเงียบๆ ไม่ชอบเข้าสังคม   มันก็เลยทำให้เรารู้แหละ  ว่าโฮสเราคุยอะไรไปบ้าง    ซึ่งแม่งไม่จริงเลย  เราชอบเข้านะสังคม  เราอยากมีเพื่อน  
เหมือนว่าโฮสไปเล่าว่า เราไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ทักทายญาติพี่น้องเค้า  อ่าวววว  ก็ญาติคุณไม่มีใครพูดอังกฤษเลยนี่คะ  แล้วเราก็พูดภาษาของนอร์เวย์ไม่ได้   
( ญาติโฮสคนไทยนานๆเจอที )  แล้วจะให้เราสื่อสารยังไง   

7. ครอบครัวคนนอร์เวย์  8 ครอบครัวคนนอร์เวย์+พ่อลูกครึ่งญี่ปุ่น   สองบ้านนี้น่ารักมาก  ตอนนั้นภาษาอังกฤษเรายังไม่ดี ( ตอนนี้ดีกว่าเดิมหน่อยนึง)     เราเหลือเวลาสองวันก่อนกลับไทย วันนั้น เราบินกลับมาจากออสเตรีย  ขากลับเลยนัดคุยกับเค้าที่ออสโล   อย่างที่บอกสองครอบครัวนี้ดีมากๆ  แต่ติดตรงที่ว่า  เค้าไม่สามารถรับเราได้ ณ ตอนนั้น  เพราะออแพร์เก่าเค้ายังไม่หมดสัญญา   

ตอนนั้นมันก็มีความคิดอยากเสี่ยงอยู่ต่อนะ   เพราะสัญญาเราจะหมดสิ้นปีพอดี  แต่เราได้ตั๋วกลับก่อน เพราะช่วงสิ้นปีมันแพง  ลังเลมาก จิตตก ตอนนั้นเครียดมากน้ำหนักลดลงไป 8 กิโลได้    แต่คิดไปคิดมาถ้าเสี่ยงอยู่ต่อแล้วไม่ได้โฮส หล่ะ  จะทำไง จะเอาเงินที่ไหนกิน จะไปอยู่กับใคร  ค่าตั๋วกลับอีก  สารพัดปัญหา     

เราเลยตัดสินใจกลับไทย  ไม่ฝืนอะไรทั้งสิ้น     





Create Date : 29 สิงหาคม 2561
Last Update : 29 สิงหาคม 2561 14:04:21 น.
Counter : 256 Pageviews.

0 comment
จะเที่ยวเยอรมัน แต่ดันฝันสลาย




หลังจากบอกยกเลิกสัญญากับโฮสไปแล้ว  ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 
มีความมึน ความตรึง  ความไม่อยากมองหน้า  ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากทำงาน 
เราเขียนยกเลิกสัญญา ตอนเดือนตุลา  แต่ไม่ใช่ว่าเราจะออกจากบ้านเค้าทันทีนะ แต่เราขอสิ้นสุด ที่เดือนธันวาคม  เพราะ ว่า เราแพลนไปเที่ยวไว้ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน   


พอมานั่งคิดดูอีกที  เอ๊ะ !!! เรายื่นใบยกเลิกสัญญาแล้ว  มันจะมีผลกระทบอะไรต่อวีซ่ามั้ยนะ  เพราะเราต้องไปเยอรมัน   เรากลัวออกไปไม่ได้  ไม่ก็ออกไปแล้วมีปัญหา    เราจองทุกอย่างไว้หมดแล้ว ค่าเครื่องจ่ายแล้ว  บัตรเข้าmusem เราสั่งซื้อแล้วเค้าก็ส่งมาให้แล้วด้วย  


เราเลยขอความช่วยเหลือจากโฮสว่าช่วยถามให้หน่อยได้มั้ย เกี่ยวกับเรื่องนี้  แต่คำตอบที่ได้กลับทำเราจุกมาก    นางตอบมาว่าไปไม่ได้ก็ไม่ต้องไปสิ ไม่เห็นยากเลย   .....  เอิ่ม !!!!     เราเลยกลับมาหาทางติดต่อสอบถามเอง โดยการโทรไปถามหน่วยงาน udi   ซึ่งกว่าจะโทรติดนานนนนนนนนนนนนนน มาก  ทาง udi  
บอกเรามาว่าไปได้ ไม่มีปัญหา    เออ ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย   


หลังจากสบายใจเรื่องวีซ่า แล้ว  ก็ต้องมานั่งเครียดเรื่องของอีก  แพลนของเราคือ Backpack  ไปเยอรมัน และ ไปหาญาติที่ออสเตรีย  กระเป๋าใบเดียวง่ายๆ  

แต่พอเกิดเรื่องปุ๊ป  แย่ละ  เราของเยอะมาก  เราไม่สามารถเอากลับไปไทยได้หมด   เราจึงต้องเอาของบางส่วนไปฝากไว้ที่บ้านญาติ  ซึ่งแน่นอน ว่าเป้ใบเดียวมันไม่พอแล้ว  เราต้องใช้กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ใส่ของไป   ทีนี้เราเลยมานั่งคิดว่า มันคงไม่สนุกแน่  ถ้าไปเยอรมันแล้วต้องลากสัมภาระ เยอะแยะไปด้วย + กับอารมณ์ที่มันก็ไม่ค่อยอยากเที่ยวเท่าไหร่ แล้ว  เราก็เลยเปลี่ยนแพลน  ยกเลิกตั๋วทั้งหมด  แล้วซื้อใหม่ตรงไปหาญาติที่ออสเตรียเลย 

ก่อนหน้านี้ เราเตรียมการอย่างดีมาก ลงทุนซื้อหนังสือเลยจ้า  จะได้ไปเที่ยว (  เพราะมันลดราคาด้วย )  





บัตรเข้าmuseum   ก็มาถึงแล้ว 



ข้อมูลสถานที่เที่ยวใน Salzburg  เราก็มีแล้ว  ทุกอย่างพร้อมสำหรับท่องเที่ยว


มีอย่างเดียวที่ไม่พร้อม  คือ ใจ  555   

โทรคุยกับญาติว่า เปลี่ยนแผนขอไปนอนอยู่บ้านเค้าโง่ๆ แค่นั้นพอแล้ว 

สรุปว่า ยกเลิกตั๋วไปเยอรมัน ได้เงินคืนมาประมาณ 2000  บาท  หลังจากยกเลิกแผนเดิม  ต่อไปนี้ก็ทำงานต่อไป  รอให้ถึงวันที่จะได้ไปเที่ยว  พร้อมกับหาโฮสใหม่ไปพลางๆ 









Create Date : 29 สิงหาคม 2561
Last Update : 29 สิงหาคม 2561 13:30:20 น.
Counter : 264 Pageviews.

0 comment
วันแตกหักระหว่างโฮสและออแพร์


  ชื่อเรื่องอาจจะดูเว่อไปหน่อยนึงเนอะ  

( เพื่อใครยังไม่รู้เราเป็นออแพร์ตั้งแต่ปี 2014  นะ แต่ตอนนั้นก็ขี้เกียจเขียนบล็อคต่อ เลยพยายามจะเขียนไว้ เพื่อให้จบไม่ค้างคา ) 


เข้าเรื่องเลยดีกว่า 3-4  เดือนผ่านไป  เห็นอะไรชัดเจนมากขึ้น   กฏระเบียบที่ว่า  ก็ไม่ได้เป็นไปตามกฏไปตามสัญญา  ทั้งๆที่โฮสก็เคยมีออแพร์มาแล้ว  ไม่น่าจะทำมึน ขนาดนี้  

ออแพร์ : กฏ และ สัญญา มีไว้เก๋ๆ แค่นั้น ??



1 .อย่างที่รู้ๆกันก็คือ  ก่อนไปต้องมีการเซ็นสัญญากับโฮสเกี่ยวกับชั่วโมงการทำงาน  คอร์สเรียนภาษา และอื่น ๆ  ไปถึงที่นั่น  ตามกฎก็บอกอยู่แล้ว ว่า เมื่อมาถึงโฮสต้องดำเนินการหรือติดต่อ ให้ออแพร์ ไปทำ tb test ที่ โรงพยาบาล  เราก็ถามโฮสเกี่ยวกับเรื่องนี้  โฮสบอกไม่มีความจำเป็นต้องไป    แต่ถ้าอยากไปจะพาไป  เออ เราก็เลยไม่ไปก็ได้วะ   คนเราถ้ารู้กฎก็ควรทำดิ  จะมาถามทำเพื่อ ….

2. เรื่อง ภาษีโฮสบอกจ่ายตามกฎ เออ เราก็จ่าย โฮสก็พูดเองว่าต้องทำตามกฎเป๊ะ ๆ ( กฎที่เป็นประโยชน์กับเราเราไม่ได้อ่า )

3. เรื่องเรียน ภาษา เราไปถึงตอนเดือนมิถุนา ซึ่งตอนนั้น เป็นช่วงหน้าร้อน โฮสบอกถ้าอยากเรียนก็ต้องรอให้หมดหน้าหนาวก่อนนะ เพราะเดินทางลำบาก ถ้าอยากเรียนเค้าจะสอนให้ ตอนเราเลิกงาน เชื่อค่ะ เป็นคนเชื่อคนง่าย อะไรก็ได้ง่ายๆไม่เรื่องมาก อยู่ไปสักพักเพื่อนออแพร์คนอื่นมาได้เดือนสองเดือน เค้าก็ได้ไปเรียนแล้ว บอกตรงๆ อิจฉาเพื่อนมาก วันนึงเรานอยด์ เราเลยโพสกฎเรื่องเรียนลงไปในเฟส แล้วโฮสมาเห็น โฮสมาถามว่า โพสแบบนี้หมายความว่าไง … อยากเรียนก็บอกดิ คืออะไร ??? แล้วทำไมเราต้องบอกอ่ะ ในเมื่อโฮสบ้านอื่นๆ เค้ามีออแพร์เค้าก็ติดต่อหาที่เรียนให้ แล้วโฮสบ้านนี้ก็เคยมีออแพร์ มาก่อน แล้วทำไมต้องให้เราบอก อะ อีกอย่างเราก็บอก และ ถามไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าเราจะได้เรียนมั้ย และ ก็เป็นเค้าเองที่บอกว่าได้เรียน ทีนี้เราเลยหายโลกสวยแล้วมานั่งคิดว่า เออ เนอะ โฮสบอกให้รอหมดหน้าหนาว แล้วก็จะหมดหน้าหนาว มันก็ปาไปเกือบเมษาแล้วมั้ง แล้วพอถึงเมษา พฤษภา มิถุนา มันก็จะวนมาที่ประโยคเดิมว่า รอหมดหน้าหนาว 555 เออ สรุปไม่อยากให้เรียนสินะ

4. หน้าที่ของออแพร์ คือดูแลเด็ก และทำงานบ้าน แต่ที่นี่มีออพชั่นพิเศษ ให้ดูแลคนแก่ด้วยจ่ะ ซึ่งมันไม่ใช่อ่ะ


แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแตกหัก ???

สาเหตุของการแตกหักมันก็คือ  จากอะไรหลายๆอย่างที่เราได้เจอมา  ไม่ได้ทำตามสัญญา   ทุ่มสองทุ่ม ลูกหิวข้าว  ให้ลูกไปเรียกเราลงมาทำกับข้าวให้กิน ,  เสาร์-อาทิตย์ จะให้ทำงานแต่ไม่บอกล่วงหน้า , ไม่ได้ไปเรียนภาษา และ สาเหตุสำคัญคือ  บุคคลคนนึงในบ้านซึ่งแก่แล้วแหละ   


      วันนั้น น้องเอาป๊อปคอร์นมากิน  แล้วเท หก กระจายไปหมดทั้งบ้าน  เราเลยเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูด  ( งงเหมือนกันทำไมตอนนั้นไม่ใช้ไม้กวาด --" )   แล้วเสียงมันดัง  เราก็ถือท่อที่ดูดอยู่แล้วหันไปทางน้องพอดี  น้องก็เลยกรี๊ด ( เป็นการกรี๊ดแบบปกติของน้อง เสียงจะดังประมานนึง )  แล้วเราก็คุยกับน้องไม่ได้ว่าใช้น้ำเสียงดุเลย  เราบอกว่าอย่าทำแบบนี้อีก ถ้าทำอีกครั้งจะให้น้องทำความสะอาดเอง   ซึ่งทุกอย่างมันดูปกติมาก  แต่ด้วยความที่เครื่องมันเสียงดังน้องก็เลยกรี๊ดอยู่แบบนั้น  ทันใดนั้นเอง  คนแก่ที่เราพูดถึงก็เดินมา แล้วก็ตะคอกใส่เรา  เราก็ปิดเครื่องดูดฝุ่น   แล้วก็งงอยู่ว่าจะตะคอก  ใส่กูทำไมนิ ????   น้องก็ไม่ได้ร้องโวยวายอย่างกับเราไปฆ่าสักหน่อย       แต่ความพีคคือ ไอ้เจ้าตัวเล็กเนี่ย  ดันวิ่งไปหาคนนั้น     เท่านั้นแหละจ้า  เราโดนหนักเลย 

       คนแก่บอกว่าอะไรกัน น้องร้องทำไม   แล้วถามน้องว่าใครทำอะไร ใครแกล้ง พี่แกล้งหรอ ???     

      เราเลยบอกไปว่า น้องเทป๊อปคอร์น หก เกลื่อนเต็มบ้าน แล้วเราเอาเครื่องมาดูด  แล้วก็บอกน้องว่าอย่าทำอีก  แต่น้องกลัวเสียงเครื่องดูดฝุ่นก็เลยกรี๊ด  ( ตอนนี้น้ำเสียงปกตินะ อารมณ์ยังไม่ขึ้น ) 

      พูดจบประโยค  คนแก่ก็พูดใส่เราด้วยน้ำเสียงโมโหว่า  ถ้าสอนดีๆไม่ได้ ก็ไม่ต้องสอน !!!!!

       นี่บอกตรงๆเลยโมโหละตอนนั้น  มันหลายครั้งละ  กับการขึ้นเสียงใส่เรา  และว่าเราแบบไม่มีเหตุผล  คือครั้งนี้เราอาจผิด ที่ถือสายดูดฝุ่นแล้วหันไปทางน้องพอดี  แต่ถามหน่อยมันร้ายแรงมากเลยหรอ 

      พูดจบแกก็โอ๋หลานจ้า  บอกให้ไปอยู่ในห้องกับแกแทน   เราก็ไม่ตอบโต้อะไร แต่ยังคงโมโหอยู่ ไง  พอน้องไปกับเค้า เราก็เคลียร์ทำความสะอาด แล้วเข้าครัว มาเก็บจานใส่เครื่องล้างจาน   อย่างสงบคนเดียว

     แต่เด็กก็คือเด็ก  น้องเข้าไปห้องเค้าได้ไม่ถึงสิบนาที  ก็เปิดประตูออกมาเอง แล้ววิ่งมาในครัว  ตรงที่เรายืนเอาจานใส่เครื่องอยู่  ส่วนคนนั้นก็เดินตามน้องมา  ราวกับว่า  กลัวเราแกล้งน้องอีก     ด้วยความที่น้องเป็นเด็กผู้ชาย นางก็มาตะโกนโหวกเหวกใส่เราตามปกติ  พอคนนั้นมาถึงน้องก็แพลงฤทธิ์  โดยการหยิบแก้วน้ำพาสติกออกจากเครื่องล้างจาน   แล้วปาลงพื้น   ซึ่งตอนนั้น เราไม่ได้ดุหรือไม่ได้ทำอะไร    ( ปกติน้องไม่เคยทำแบบนี้  ครั้งนี้เราคิดว่าคงมากวนเฉยๆ )   คนคนนั้นเดินมาเห็นพอดี   แต่ตัวเค้าก็ไม่ดุหลานนะ เห็นกับตาขนาดนี้  ได้แต่พูดว่า ทำไมหนูถึงซนแบบนี้หล่ะลู๊กกกกก   


          เอาจริงเหนื่อยกับเด็กยังไม่เท่าไหร่  เหนื่อยกับผู้ใหญ่นี่สิ  เด็กผิด แทนที่จะสอน  แต่ไม่หรอกจ้า  ตามใจตลอด  แล้วเราเป็นแค่ออแพร์อ่ะ  ไม่ใช่พ่อแม่  ต่อให้เราสอนไป แล้วพ่อแม่ให้ท้าย  มันก็เท่านั้น ป่ะ  


        สรุปวันนั้น ตอนเย็นเรารอโฮสมา  เราขอคุยกับโฮสเลยว่าเราจะไม่อยู่แล้ว   คุยไปร้องไห้ไป  บอกไม่ไหวแล้ว  งาน + เด็ก เราโอเค  แต่กับคนนี้เราไม่โอเค  


โฮสก็ถามสาเหตุ  แล้วคำตอบที่ทำให้เราจุกคือ  เค้าอยากได้ออแพร์มาอยู่  เค้าไม่ได้เน้นจริงจังกับเด็กหรอก  เค้าเน้นแค่ว่า  อยากให้มีใครสักคนอยู่บ้าน เป็นเพื่อนคนแก่   ก็คือดูเด็ก + เป็นเพื่อนคนแก่   เค้าแคร์คนแก่คนนั้นมาก  ซึ่งเราก็รู้อยู่  เพราะเราคนนอก   โฮสก็เลยให้เราเขียนใบลาออก  เพื่อที่จะเอาไปยื่น ที่สถานีตำรวจ เพื่อทำการยกเลิกสัญญาของเรา 


ชะตากรรมต่อจากวันที่ขอลาออกจะเป็นยังไงน้ออออ 






Create Date : 29 สิงหาคม 2561
Last Update : 29 สิงหาคม 2561 13:05:24 น.
Counter : 766 Pageviews.

0 comment
ขึ้นเรือไปเดนมาร์คกันเถอะ !!


       จากสามเดือน  ก็เข้าสู่เดือนที่สี่  โฮสก็เหมือนเดิม ดีบ้าง แปลกบ้าง   วันดีคืนดีมาถามเราว่า เมาเรือมั้ย  เค้าจะพาไปขึ้นเรือ แต่เป็นเรือใหญ่  ไปเดนมาร์ค   แต่ !! อย่าเพิ่งดีใจไป นี่คือการไปทำงาน ไปช่วยเค้าดูน้องระหว่างที่เค้าปาร์ตี้กัน 

       ก็ดีนะเหมือนได้ไปเที่ยวไปในตัวแหละมั้งงง   และแล้ววันเดินทางก็มาถึง  เรือที่จะพาเราเดินทางไปเดนมาร์คมีชื่อว่าเรือ Stena Saga  โดยจะออกเดินทางจาก Oslo - Frederikshavn   ขอเช็คอินลงเฟสบุค ซะหน่อย 








และนี่คือหน้าตาของตั๋วสำหรับขึ้นเรือ 
จะมีบอกชื่อนามสกุล ของเรา  และ หมายเลขห้อง



จุดเช็คตั๋วก่อนเข้าไปในเรือ 



ทางเข้าเรือ



ทางเดินไปที่ห้อง





และนี่คือห้องของเราบนเรือลำนี้
ตอนจะเข้าห้อง ก็ใช้บัตรที่ได้มาเสียบเข้าไป 





รูปแรกเป็นรูปจากwebsite ของเรือ 
  ที่เห็นประตูสีน้ำเงินในกระจกนั้นคือประตูห้องน้ำ




และนี่คือรูปที่เราถ่ายไว้ 
เตียงนอนสำหรับสองคน  ซึ่งเรานอนกับน้องคนเล็ก






และนี่ก็คือห้องน้ำ  เล็กกระทัดรัด 



 เรารีบเก็บของและเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะจะได้ไปกินอาหารเย็น


บรรยากาศห้องอาหาร  ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต







เป็นอาหารบุฟเฟต์ มีอาหารหลายอย่าง 
และนี่คือมื้อเย็นของเราเอง 



พอกินอิ่มน้องก็เริ่มซน โฮสเลยบอกให้พาน้องไปเดินเล่น  
เราพาออกไปเดินเล่นชมวิวนอกเรือ แต่มันมืดแล้ว  ก็เลยพากลับมาที่มุมเด็กเล่น




เล่นอยู่โฮสก็มาตามบอกว่าจะไปอีกที่หนึ่งบนเรือ 
 ซึ่งพวกเค้าไปปาร์ตี้ ไปแดนซ์ กัน  เราเลยเดินไปดูสักหน่อย




ไปนั่งอยู่สักพักนึง  น้องง่วงก็เลยพาน้องกลับห้องไปนอน  

 ลืมบอกไปว่า เรือออกจากออสโล ตอนเย็น  แล้วจะไปถึงเดนมาร์คตอนเช้า 



                    เราและน้องหลับสนิท จนเช้าโฮสมาเคาะประตูเรียก  บอกให้เอานอนไปนอนห้องโฮส  เพื่อเราอยากจะออกจากเรือไปเดินเล่น 
 ซึ่งมีเวลาไม่นาน ประมาณสองชั่วโมง 
 เราเลยรีบล้างหน้า ล้างตาแล้วออกไปเดินเล่น  ทีแรกก็กะว่าจะเดินเล่นแค่บนเรือ 











   แต่คิดไปคิดมา  ออกไปเหยียบแผ่นดินเค้าซะหน่อยดีกว่า
ทางเดินออกไปก็ไกลอยู่ พอควร
















ได้เหยียบเป็นที่เรียบร้อย 555 







ถ่ายรูปป้าย ไปเรื่อยๆ 







เริ่มเดินไปเจอร้านค้าต่างๆ แต่ยังเช้าอยู่ ยังไม่เปิดเลยจ้า



















เจอแต่ร้านนี้ที่เปิดอยู่เลยเดินเข้าไปดูสักหน่อย  แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไร 




เสร็จแล้วก็รีบเดินกลับไปที่เรือ 




และนี่คือเรือที่เราเดินทางมาเมื่อคืนนี้




ก่อนขึ้นเรือก็จะมีจุดตรวจเช่นเดิม  แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ 

ถึงเรือแล้วเดิน กลับไปที่ห้อง 





โฮสมาตามบอกว่าจะไปกินอาหารเช้า จะเป็นห้องอาหารอีกห้องหนึ่ง
หน้าตาของอาหารเช้าของเรา





และบรรยากาศ เมื่อมองออกไปจากห้องอาหาร 






กินอาหารเช้าเสร็จเราก็ออกไปเดินเล่น นอกเรือ  ชมวิว   แต่อยู่กลางทะเล  ก็จะเป็นวิวประมาณนี้ 

















ชมวิวเสร็จกลับเข้าไปในเรือต่อ  เดินช้อปปิ้ง 55






สำรวจภายในเรือเล็กน้อย



โฮสโทรมาตามบอกว่าให้เอาของออกมาจากห้อง แล้ว ลงมานั่งรอข้างล่าง เพราะพนักงานจะทำความสะอาด   เราก็เลยไปขนของมานั่งรอ ข้างล่าง




นั่งรอเบื่อๆ ก็เดินขึ้นไปถ่ายรูปอีก   ช่วงนี้น่าจะใกล้ถึงออสโลแล้ว











ถึงออสโล เรือจอดเทียบท่าเป็นอันจบทริปนี้  และนี่คือสิ่งที่เราซื้อมาจากบนเรือ  เพราะกล่องมันน่ารัก 555





Create Date : 07 สิงหาคม 2561
Last Update : 18 สิงหาคม 2561 17:34:11 น.
Counter : 688 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  

cochonelle
Location :
Île-de-France  France

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]



New Comments
All Blog