Macao Trip : วันที่ 1
กลับมาจาก Macao ได้พักนึงแล้ว แต่ยังขี้เกียจอยู่ เลยไม่ได้อัพบล็อก วันนี้ฤกษ์งามยามดี ขึ้นเดือนใหม่ ได้เวลาไล่ตัวขี้เกียจออกจากร่างอวบๆ แร้ววววทริปนี้ออกแนวงงๆ ตั้งแต่เริ่มคุยกันกับที่บ้านแล้วว่าใกล้หน้าหนาวแล้วจะไปไหนกันดี คุยไปคุยมาแม่เห็นใบปลิวเที่ยวมาเก๊า พัก Venetian แม่เลยฟันธงอย่างรวดเร็วแบบไม่ปรึกษาใคร ว่าเราไปมาเก๊ากันเถอะ และยกภาระหน้าที่ในการติดต่อจองตั๋วให้เราทำเองทั้งหมด แหงะ! มีแววว่าจะเหนื่อยตั้งแต่เริ่มต้น แล้วก็จริงๆ ด้วย แต่จะเป็นยังไงนั้น เดี๋ยวตามอ่านกันต่อไปแล้วกันนะค๊าเริ่มจากทรมานตัวเองด้วยการออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่มากกกกกก เพราะจอง Flight 7 โมงเช้า ออกจากบ้านตีสี่ (ต้องตื่นมาอาบน้ำ โบ๊ะหน้า แต่งตัวตั้งแต่ตี 3 เวรกรรมของผู้หญิง) ขอข้ามมาตอนถึงสนามบินมาเก๊า ประมาณ 11 โมงตามเวลาท้องถิ่น (เร็วกว่าไทย 1 ชม.) เราก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่าทำไมผู้โดยสารเครื่องเดียวกันเค้าใส่เสื้อกันหน๊าหนา ส่วนเรากะที่บ้านก็แต่งกันเสื้อยืด กางเกง กับเสื้อคลุมบางๆ พอเริ่มก้าวออกจากเครื่องเท่านั้นแหละ โอ้วววววว! ถึงได้รู้ความจริงว่ามัน...หนาวมากกกกกก ที่จริงก่อนเดินทางเราก็ให้คุณแฟนเช็คอากาศแล้วนะ คุณแฟนบอกว่าก็เย็นๆ ประมาณเชียงใหม่ ไอ้เราก็นึกว่าเชียงใหม่ในเมือง ที่ไหนได้..มันเชียงใหม่ยอดดอยนี่หว่า ขอบคุณมากนะตัวเอง พอออกจาก ตม. เราก็ไปขึ้นรถบัสฟรีของ Venetian ที่จอดเด่นเป็นสง่าคันแรกเลย นั่งรถไปประมาณไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง "The Venetian Hotel Macao" (ใกล้สนามบินมากๆ) เราสามารถเห็นความยิ่งใหญ่ของ รร.นี้ได้ตั้งแต่ทางเข้า ลานจอดรถรับส่งด้านหน้า อลังได้อีกเข้ามาถึง รร. ปุ๊บ ก็ต้องเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อน เพราะยัง Check in ไม่ได้ (Check in บ่าย 2) สำหรับคนพัก Venetian ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเราพักที่นี่ แล้วเค้าจะให้กระดาษที่มี Bar Code สำหรับให้ Front แสกนตอนเราเช็คอิน เพื่อให้เค้าเอากระเป๋าไปส่งถึงห้องเลย จะได้ไม่ต้องถ่อสังขารมาลากกระเป๋าไปเองอีกที่นี่ดีอย่าง คือ คนที่ไม่ได้พัก รร.นี้ก็สามารถฝากกระเป๋าได้เหมือนกัน เหมือนเค้าต้องการให้คนลงเครื่องปุ๊บมาเที่ยวที่นี่เลย ฉลาดเริ่ด!พอฝากกระเป๋าเรียบร้อยตัวเบาแล้ว ก็ออกเริงร่าถ่ายรูปมือเป็นระวิง เริ่มตั้งแต่โถง Main Lobby ที่มีลูกโลกทองคำ (เหมือนรางวัล Golden Globe มะ 555) ตั้งตระหง่านสวยงามอยู่ เดินไปอีกนิดนึงก็เป็น Casino ใหญ่มากๆ เย้ายวนนักเสี่ยงโชคทั้งหลาย โดยเฉพาะคุณป๊าของเรา หุหุจากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ Great Hall ใหญ่โตอลังการ มีบันไดเลื่อนโค้งๆ 2 ข้าง (เพิ่งเคยเห็น) สำหรับขึ้นไปโซนช็อปปิ้ง เดินไปอีกนิดก็จะเจอ Food Court มีอาหารหลากหลายชาติ แต่ราคาก็โหดเอาการอยู่ เราเห็นราคาน้ำเปล่าขวดละ HK$ 10 แล้ว แอบเปลี่ยนใจไปกินน้ำอย่างอื่นดีก่า ราคาพอกัน และแล้วก็มาถึงโซน The Grand Canal Shoppes ส่วนใหญ่ร้านค้าในนี้จะเป็นระดับ Hi-End และ Hi-Street เพราะฉะนั้น รับประกันความแพง ดังนั้นเราเลยไม่ค่อยได้ซื้ออะไรเท่าไหร่ จะว่าไปทริปนี้ได้ของน้อยมาก ปกติเราเป็นคนช่างซื้อมากถึงมากที่สุด แต่ที่มาเก๊าของแพงง่ะ พวกแบรนด์เนมก็ราคาไม่ต่างจากเมืองไทยเท่าไหร่ เราว่าเก็บตังค์กลับมาช็อปบ้านเราดีก่า ถ่ายรูปอย่างเมามัน ร้านนี้ พอลล่าเคยมานั่งให้วู้ดดี้สัมภาษณ์ด้วยมีโชว์ตามมุมต่างๆ ไม่ซ้ำกันทุก ชม.หลังจากเดินชักภาพจนหนำใจแล้ว ก็เดินกลับมา Check in ที่ Main Lobby พนักงานเค้าก็จะให้ Venetian Passport ที่บรรจุด้วย Key card และแผนที่โรงแรม (ต้องมีแผนที่ ไม่งั้นอาจมีหลง) + กระดาษแผ่นใหญ่ๆ มา 2 ใบ (ของเราพัก 2 ห้องน่ะ) ต้องเก็บไว้สำหรับทาน Buffet มื้อเช้า หรือเที่ยง (เลือกได้ 1 มื้อ/วัน) และเอาเจ้า 2 ใบเนี้ย ไปติดต่อที่ Concierge เพื่อขอรับ Venetian Dollar $500/คน หรือถ้าใครมี Plan ที่จะข้ามไปฝั่ง Hong Kong ก็สามารถเลือกรับเป็น ตั๋วเรือ Cotai Jet ขาไป พร้อม Venetian Dollar $250/คน ก็ได้ ขออธิบายนิดนึงสำหรับ Venetian Dollar เป็น Voucher ที่สามารถใช้ได้กับร้านค้าที่ The Grand Canal Shoppes ได้เป็นบางร้าน หรือใครจะเอาไปเล่นใน Casino ก็ได้ แต่ต้องเอาไปแลกเป็นชิป หรือบัตรสำหรับเล่น Slot ก่อน มูลค่าหน้า Voucher ก็เท่ากับมูลค่าเงิน HK$ ตามปกติเลย ดีจริงๆ เหมือนได้ส่วนลดค่าห้องคืนมาหน่อยนึง Check in เสร็จ ก็เดินออกตรงประตูข้าง ไปถ่ายรูปบรรยากาศด้านนอกต่ออีกหน่อย (อากาศขมุกขมัวเล็กน้อย เพราะมีละอองฝน อย่าได้แคร์!)สวยมากๆหันไปหันมา เจอคู่แต่งงานกำลังยืนถ่ายรูปกันอยู่ แอบถ่ายซะเลย อิอิ เหนื่อยแล้ว ขึ้นห้องดีก่า ห้องที่เราพักอยู่ Hotel Suites North ก่อนจะเข้าโซนห้องพัก ก็จะมีพนักงานมาขอดู Venetian Passport หรือ Key Card ของเราก่อน ถึงจะขึ้นลิฟท์ได้ เข้มงวดดีจิงๆมาถึงห้องพักแล้ว อลังสุดๆ ห้องน้ำก็อลังไม่แพ้กัน (เข้าไปนอนได้ทั้งครอบครัว 555)วิวจากห้อง มองเห็นสนามกอล์ฟ Par 3 บนดาดฟ้า รร. หลังจากนั่งเล่นนอนเล่น และอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็ลงไปชั้น 1 อีกรอบเพื่อไปโรงละครทางฝั่ง South จริงๆ แล้วเราจองตั๋วดูโชว์ Zaia จาก Cirque Du Soleil รอบ 5 โมงเย็นมาจากกรุงเทพ เพราะน่าดูมาก เป็นโชว์กายกรรมออกแนวอวกาศๆ จากที่อ่านใน Brochure เนื้อเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชื่อ Zaia ที่ฝันว่าได้ไปผจญภัยในอวกาศแบบแปลกๆ (เนื่องจากเค้าไม่ให้ถ่ายรูปตอนโชว์ เลยขอใช้รูปจากเว็บแทนนะค๊า) หลังจากดูเสร็จก็ไม่ผิดหวังเลย คุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์จริงๆ ไม่เหมือนโชว์กายกรรมบ้านๆ ทั่วไป เพราะมีความอ่อนช้อย สวยงาม อลังการ แต่อาจจะงงๆ กับเนื้อหา เนื่องจากตลอดโชว์เค้าจะร้องเพลงเป็นภาษากรีก (เราฟังไม่รู้เรื่องง่ะ) จบโชว์ก็ทำให้เรารู้สึกว่าเมืองไทยน่าจะมีโชว์เจ๋งๆ อย่างนี้มั่ง จากนั้นเราก็ยังไม่ย่อท้อ ออกไปเดินเล่นต่อนอก รร. บ้างดีกว่า ฝั่งตรงข้าม Venetian เป็น รร. Crown กับ Hard Rock Hotel เปิดไฟประชันกันสุดฤทธิ์ เข้าไปเดินเล่นใน Hard Rock Casino ของ Hard Rockขอชักภาพกับลูกบอลน้ำลูกยักษ์ซักหน่อย (กลมพอกันมั้ยคะ? หุหุ) ม่านน้ำ กับโชว์นางเงือกออกมาถ่ายรูปกลับไปฝั่ง Venetianและแล้วก็จบวันแบบคิวแน่นเอี๊ยดแค่นี้ก่อนแล้วกันนะค๊า ติดตามต่อคราวหน้าจ้า บุ๋ยบุย
มีแววว่าจะเหนื่อยตั้งแต่เริ่มต้น แล้วก็จริงๆ ด้วย แต่จะเป็นยังไงนั้น เดี๋ยวตามอ่านกันต่อไปแล้วกันนะค๊า
) 
ที่จริงก่อนเดินทางเราก็ให้คุณแฟนเช็คอากาศแล้วนะ คุณแฟนบอกว่าก็เย็นๆ ประมาณเชียงใหม่ ไอ้เราก็นึกว่าเชียงใหม่ในเมือง ที่ไหนได้..มันเชียงใหม่ยอดดอยนี่หว่า ขอบคุณมากนะตัวเอง 
(เราฟังไม่รู้เรื่องง่ะ) จบโชว์ก็ทำให้เรารู้สึกว่าเมืองไทยน่าจะมีโชว์เจ๋งๆ อย่างนี้มั่ง 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
