ผมหงอกก่อนวัยอันควร ทำไงดี

จริงๆ แล้วมันก็ตามวัยอ่ะนะถ้าตามหนังสือพิมพ์ เขาบอกมาข้างล่างนี้

ในฝรั่งผิวขาว ผมจะเริ่มหงอกครั้งแรกตั้งแต่อายุ 24-44 ปี ในคนผิวดำเริ่มหงอกเมื่ออายุ 34-54 ปี ส่วนชาวเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จะเริ่มหงอกตั้งแต่อายุ 30-40 ปี ผมที่เริ่มหงอกตามวัยนี้ไม่สามารถกลับมาดำได้อีกเลย

แต่ว่าของเรามันเยอะอ่ะ อาม่าเราอายุ ตั้งเกือบ 80 แล้วผมยังดำอยู่เลยมีผมขาวแต่น้อยมาก แต่เราอายุยังไม่ถึงครึ่งเลย ผมขาวพอควรเลยอ่ะ ก็เลยมาหาทางว่าทำไงดีให้มันน้อยลงหน่อยหรืออย่างน้อยอย่าให้มากไปกว่านี้ดีมั้ย

ได้คำตอบว่า เพราะกินผิด (กินอาหารที่ไม่เหมาะสม) เครียด และ ก็ขาดวิตามิน
1. สิ่งที่ควรทำก็คือ ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดความเครียดลงหน่อยนะ และ กินอาหารที่มีวิตามิน B ธาตุเหล็ก ทองแดง และก็ ไอโอดีน ดังนั้น อาหารที่ควรรับประทานก็เป็นจำพวก น้ำแครอต ผักกาดขาว fresh alfalfa ปลา
2. ไม่น่าเชื่อว่าอ่านกี่ทีก็เข้ามาประเด็นเดิมคือไม่ควรกิน แป้งขาว ข้าวขาว อีกแล้ว เพราะ แป้งขาว ข้าวขาวก็คือน้ำตาลดีๆ นี่เองหนา 146 reasons sugar is bad for you ควรกินข้าวกล้องแทนน่ะ แล้วก็ไม่ควรกินน้ำอัดลม แยม jellies และ pastries
3. ควรล้างผมให้สะอาด อย่าล้างผมด้วยน้ำร้อน อย่าใช้ไดร์ เป่าผม เข้าใจว่าอาจจะอย่าให้มันร้อนเกินไปนักน่ะ

ใครมีวิธีอะไรดีๆ แนะนำเพิ่มเติมเลยนะคะ อยากรู้


Reference:
//tynan.com/maxdiet-week-sugars-carbs-and-what-they-mean-for-your-weekend
//www.beautyfullallday.com/?news=003
//women.thaiza.com/%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5-133968.html




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2553   
Last Update : 29 ธันวาคม 2553 8:27:44 น.   
Counter : 746 Pageviews.  

อาหารที่ควรกินเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจและยังทำให้เราร่างกายแข็งแรง

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ได้ฟังรายการ New Dimension ของ Dr.Boonchai K. น่าสนใจค่ะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารและการดูแลสุขภาพ ซึ่งหลายเรื่องเป็นสิ่งที่หลายคนไม่รู้จนทำให้พอเริ่มอายุมากขึ้น ตั้งแต่ 35 up โรคต่างๆ ก็เข้าคิวกันเป็น ทิวแถว

Dr.Boonchai สรุปเนื้อหาที่สำคัญนี้มาจาก The South Beach Diet แต่งโดย Arthur Agatston ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจที่มีชื่อเสียงของ University of Miami ขอเรียก Dr.Boonchai ว่าอาจารย์ นะคะคือ อาจารย์เล่าถึงผลของการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งอ.บอกว่ามันเป็นโรคนรกเลยก็ว่าได้เพราะว่ามันจะนำไปสู่ โรคร้ายๆอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคหัวใจ จากสำรวจพบว่าคนที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ กว่าครึ่งเป็นโรคเบาหวาน เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้ว่าอะไรควรกินไม่ควรกินเราก็ควรจะเริ่ม ปฏิบัติเสียตั้งแต่วันนี้นะคะ

อาหารที่ไม่ควรรับประทาน
อาหารที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคความดัน โรคมะเร็ง มีดังนี้
1) อาหารทอด อาหารมัน เช่น มันฝรั่งทอด เฟรนช์ฟรายด์ อาหารเจที่มีน้ำมันมากเกินไป
2) มันฝรั่งสีขาวและสีแดง ฟักทอง
3) คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดขาว เช่น ข้าวขาว ข้าวเหนียว ข้าวเหนียวมูล ขนมปังขัดขาว ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ ขนมจีน เป็นต้น
4) ขนมหวาน เช่น ไอศกรีม ทองหยิบ ทองหยอด เค้ก คุ้กกี้ กล้วยเชื่อม ขนมเบเกอรี่ เป็นต้น
5) ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น กล้วย แตงโม สัปปะรด มะม่วงดิบ มะม่วงสุก ทุเรียน เป็นต้น
6) น้ำผลไม้สำเร็จรูป น้ำอัดลม
7) ไขมันอิ่มตัวและไขมันจากสัตว์ เช่น เนยเหลว มาร์การีน อาหารที่มีไขมันทรานซ์ ขาหมู หมูสามชั้น ข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ทอด เบคอน ไส้กรอก เป็นต้น
8) อาหารปิ้งย่าง
9) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สุรา เบียร์เพราะมีปริมาณน้ำตาลมอลโตสสูง

อาหารที่ควรรับประทาน
1) คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ธัญพืช แป้งไม่ขัดขาว ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวซ้อมมือ รำข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลเกรน เป็นต้น
2) ไขมันที่ไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันจากถั่ว ไขมันจากปลาเพราะมีไขมันคุณภาพดี (High Density Lipoprotein:HDL) ซึ่งจะช่วยกวาดล้างไขมันคุณภาพต่ำ (Low Density Lipoprotein:LDL) และไขมันทรานซ์ (Trans fat)ได้
3) อาหารที่มีไฟเบอร์เพราะจะย่อยช้า ช่วยให้อิ่มนาน
4) โปรตีนจากสัตว์ที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีนจากปลาโดยเฉพาะปลาทู ปลาอินทรีย์ ปลาทูน่า ปลาแซลมอน เป็นต้นตลอดจนโปรตีนจากไข่ และเนื้อไก่ไม่ติดมัน
5) น้ำส้มสายชู มะนาวเพราะจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด
6) ผักที่มีไฟเบอร์สูงเช่น บร็อคโครี่ ผักคะน้า ผักสีเขียวเข้ม อะโวคาโด เป็นต้น
7) ผลไม้ที่มีไฟเบอร์และน้ำตาลต่ำเช่น ฝรั่ง แอ๊ปเปิ้ลทั้งเปลือก ฝรั่ง ส้มที่มีเส้นใยแต่ไม่รับประทานเกินสามผลในแต่ละครั้ง
8) โปรตีนจากพืชเช่น ถั่วอัลมอนด์ ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เต้าหู้ เป็นต้น

จงจำไว้เสมอว่าพุงยิ่งใหญ่ โรคยิ่งเยอะ เพราะฉะนั้นมารีบลดพุงกันเถอะค่ะนอกจากจะดูดี แคล่วคล่องว่องไว แล้วยังไม่ต้องมาทุกข์ใจเพราะเป็นโรคด้วยนะ อ๋ออย่าลืมออกกำลังกายด้วยค่ะ ออกทุกวันวันละ 20 นาทีถ้าอยากลดน้ำหนักเพิ่มเป็นวันละ 40 นาทีต่อเนื่องนะ




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2553   
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 23:45:38 น.   
Counter : 448 Pageviews.  


ElizabethI
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add ElizabethI's blog to your web]