Merlion สัญลักษณ์ของสิงคโปร์

จากนั้นเราข้ามสะพาน Esplanade Bridge มายัง Merlion Park ที่เป็นที่ตั้งของสิงโตทะเล (Merlion)



ตรงนี้ป็นส่วนหนึ่งของกับอาคาร One Fullerton



สิงโตทะเล (Merlion) ถูกออกแบบขึ้นในปี 1964 โดยนายฟราเซอร์ บรูนเนอร์ (Mr Fraser Brunner) ที่เป็นสมาชิกคณะกรรมการฝ่ายของที่ระลึกและผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคลีฟ (Van Kleef Aquarium) หัวเป็นสิงโตหมายถึงสิงโตที่เจ้าชายซางนิลา อุตามะพบตอนที่ท่านเจอเกาะสิงคโปร์ใน ค.ศ. 11 ตามที่บันทึกไว้ใน "บันทึกของชาวมาเลย์" (Malay Annals) หางปลาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโบราณชื่อ "เทมาเซ็ค" (Temasek) (เป็นภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า "ทะเล") ซึ่งสิงคโปร์เป็นที่รู้จักกันก่อนที่เจ้าชายนิลาจะตั้งชื่อให้ว่า "สิงคปุระ" ที่เป็นภาษาสันสกฤตมีความหมายว่าเมือง (ปุระ) แห่งสิงโต (สิงค์)
ในตอนแรก สิงโตทะเล (Merlion) ถูกออกแบบเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ (Singapore Tourist Promotion Board - STPB) แต่ต่อมาไม่นาน สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ในสายตาของทุกประเทศทั่วโลกไปเสียแล้ว




ปัจจุบันรูปปั้นหัวสิงโตเมอร์ไลออน (Merlion) ทั่วทั้งเกาะสิงคโปร์ มีทั้งหมด 3 ตัว ตัวใหญ่ที่สุดจะตั้งอยู่ที่เกาะเซ็นโตซ่า (Sentosa)
ส่วนอีก 2 ตัวตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ที่เมอร์ไลออนพาร์ค (Merlion Park) ตรงนี้นี่อง




เมอร์ไลออนตัวที่คนนิยมมาถ่ายภาพก็คือเมอร์ไลออนขนาดกลาง ซึ่งมีความสูง 8.6 เมตร หนัก 70 ตัน ทำด้วยซีเมนต์ฟอนดู (Fondu) ตั้งตะหง่าน พ่นน้ำจากปากลงมาสู่แม่น้ำ



เมอร์ไลออนตัวเล็กจะมีความสูงเพียง 2 เมตร หนัก 3 ตัน ทำจากซีเมนต์ฟอนดู (Fondu) ผิวทำจากจานลายคราม (สังเกตุว่าผิวจะแตกๆ เป็นลายๆ) และ ตาทำจากถ้วยชาสีแดง สังเกตว่า พ่นน้ำเบาๆ




แต่เดิมนั้นแม่สิงโตและสิงโตน้อยตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ตรงข้ามกับ Elizabeth Walk ห่างจากที่ตั้งปัจจุบันเพียง 120 เมตร เรียกบริเวณนี้ว่าสวนสิงโตทะเล (Merlion Park) ต่อมาไม่นานบริเวณดังกล่าวก็เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และกลายเป็นสถานที่ในเมืองใหญ่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก นายลีกวนยู (Mr Lee Kuan Yew) นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ในขณะนั้นได้ประกอบพิธีติดตั้งรูปปั้นสิงโตในวันที่ 15 กันยายน 1972 มีการติดป้ายบรอนซ์เพื่อเป็นที่ระลึกของโอกาสพิเศษนี้ โดยมีถ้อยคำจารึกไว้ว่า "สิงโตทะเลถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนสิงคโปร์ "




 

Create Date : 22 มีนาคม 2553   
Last Update : 19 มีนาคม 2563 8:56:53 น.   
Counter : 5113 Pageviews.  


City skyline in Marina Bay

มารีน่าเบย์ เป็นอ่าวที่สวยงามมากๆ มีตึกระฟ้าตระหง่านสูงจนแหงนคอตั้งบ่า เรามาดูวิวกันครับ

โฉมหน้าแก๊งอ๊อฟโฟร์(Gang of Four)ที่มาเข้ารับการ Tranning ครั้งนี้



จาก Esplanade theater เดินข้ามสะพานเพื่อไป Merlion



ที่เห็นลูกบอลขาวๆ อยู่เต็มอ่าวมารีน่าคืออะไรกันลองทายกันดู



มันคือลูกบอลแห่งความปรารถนา (Wish Ball) เป็นกลยุทธการท่องเที่ยวครับ โดยให้ประชาชนเขียนความปรารถนาที่ตัวเองอยากได้ ในช่วงคริสต์มาส และปีใหม่ ลงบนลูกบอลแล้วนำไปลอยน้ำในมารีน่าเบย์



อันนี้เป็นขนาดของลูกบอลจริงๆ ที่เราเห็นกัน เป็นตัวอย่างลอยอยู่ในสระน้ำหน้าอาคาร Esplanade theater



มาไล่วิวของตึก อาคาร ต่างๆ บริเวณมารีน่าเบย์กันดีกว่าครับ ตัวเลขเล็กไปหน่อย อาจมองไม่เห็น ลองขยายแล้วไล่ดูครับ[



City skyline in Marina Bay:
1 The Sail @ Marina Bay
2 One Marina Boulevard,
3 One Raffles Quay North Tower,
4 UIC Building,
5 John Hancock Tower,
6 Hong Leong Building,
7 Ocean Building,
8 Clifford Centre,
9 Hitachi Tower,
10 Tung Centre,
11 HSBC Building,
12 Republic Plaza,
13 Singapore Land Tower,
14 Maybank Tower,
15 OUB Centre,
16 Bank of China Building,
17 6 Battery Road,
18 UOB Plaza Two,
19 UOB Plaza One,
20 OCBC Centre,
21 Pickering Operations Complex,
22 One George Street,
23 Pickering Operations Complex,
24 Esplanade Bridge,
25 The Fullerton Waterboat House,
26 The Fullerton Hotel Singapore,
27 One Fullerton,
28 Merlion,
29 Merlion Park,
30 The Arcade,
31 Asia Insurance Building,
32 Change Alley Aerial Plaza,
33 Clifford Pier,
34 Marina Bay




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 19 มีนาคม 2563 8:59:09 น.   
Counter : 1765 Pageviews.  


มารีน่าเบย์ (Marina Bay)

มารีน่าเบย์ ที่หลายคนคิดว่าเป็นอ่าวที่สวยงามมากๆ ของสิงคโปร์ แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่อ่าวหรือที่ ๆ ภาษาภูมิศาสตร์บอกว่าส่วนของน้ำทะเลที่ยื่น หรือเว้าเข้ามาในแผ่นดิน ที่ผมบอกอย่างนั้นก็เพราะว่า แต่เดิมตามลักษณะมันเป็นอ่าวจริงๆ ครับ แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แล้ว มันคือทำนบกั้นน้ำทะเลครับ

ที่บอกว่าเป็นทำนบ ก็คือมันทำหน้าที่เขื่อนป้องกันน้ำทะเลไหลย้อนเข้าสู่แผ่นดิน หรือแม่น้ำสิงคโปร์ เวลาน้ำทะเลหนุน และยังทำหน้าที่กักเก็บน้ำจืด ไว้ในแผ่นดินอีกหน้าที่หนึ่ง






ซึ่งที่ถูกต้องเราจะต้องเรียกว่า Barage หรืออ่างเก็บน้ำถึงจะถูกต้อง ซึ่งโครงการนี้ สิงคโปร์ ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้มา 10 กว่าปีเลยทีเดียว

การสร้างสิงคโปร์แบริจ (barage) สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บน้ำจืดขึ้นถึง 1 ใน 6 ของ พื้นที่เก็บกักน้ำเดิม




จุดมุ่งหมายรองแบริจคือ เป็นเพื่อเป็นศูนย์กีฬาทางน้ำ และ แหล่งท่องเที่ยว พักผ่อน ชมวิว แห่งใหม่ของ นครสิงคโปร์ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 2,700 ล้านบาท



ขีดความส่ามารถของแบริจ สามารถปล่อยน้ำจืดส่วนเกินออกทะเล โดยใช้
ประตูระบายน้ำเหล็กกล้า จำนวน 9 บาน แต่ละบานยาว 30 เมตร กั้นปากแม่น้ำมาริน่าแชนเนลตลอดความยาว 350 เมตร ประตูกั้นน้ำเหล็กกล้าสูง 5 เมตรนี้สามารถลดระดับลงได้เวลาฝนตกหนัก หรือพายุเข้า เพื่อที่จะระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำให้ไหลลงทะเลไป




หากการระบายน้ำยังไม่พอ หรือขณะนั้นน้ำขึ้น ไม่สามารถลดระดับประตูเหล็กได้เพราะน้ำทะเลจะไหลเข้า ปั้มขนาดยักษ์จำนวน 7 ตัว โดยแต่ละตัวมีกำลังสูบน้ำ 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำหน้าที่ระบายน้ำส่วนเกินให้ไหลลงทะเล ปั้มน้ำหนึ่งตัวจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 1600 kW เมื่อรวมกันแล้ว 7 ตัว จะมีกำลังสูบน้ำถึง 280 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปั้มแต่ละตัวสามารถสูบน้ำให้เต็มสระว่ายน้ำโอลิมปิกได้ภายในเวลาแค่นาทีเดียว

วันนี้เขียนแนววิชาการไปหน่อย เอาเรื่องเบาๆ บ้าง มาดูสิ่งก่อสร้างใหม่ที่จะเกิดขึ้นที่นี่ครับ แหล่งคาซิโนแหล่งใหม่จะเปิดบริการในปลายปีนี้ครับ เป็นลักษณะอาคาร 3 อาคาร ซึ่งทั้ง 3 อาคารมีเรือสินค้าจำลองเท่าของจริงทับอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการได้ แต่คนสิงคโปร์เองหากเข้ามาใช้บริการต้องจ่ายภาษีให้รัฐบาล 100 เหรียญสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการจำกัดหรือกีดกันคนของเขาไม่ให้เข้ามาเล่นการพนัน หรือให้เข้าน้อยที่สุดครับ






 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 19 มีนาคม 2563 9:00:56 น.   
Counter : 2257 Pageviews.  


โรงละครเอสพลานาด(Esplanade)

จาก Suntec City เดินตามทางเดินใต้ดินที่เรียกว่า City Link Mall ประมาณ 400 เมตร จะมาถึง โรงละครเอสพลานาด(Esplanade Theater)

โรงละครเอสพลานาด(Esplanade Theater) คือโรงละครบนชายหาดและศูนย์แสดงศิลปะที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ ออกแบบเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการเชื่อมต่ออันทรงคุณค่าระหว่างอดีตและปัจจุบัน เปิดทางการเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2545

ลักษณะการออกแบบอาคารออกแบบไว้อย่างโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือเป็นอาคารโดมรูปทุเรียน ซึ่งแต่เดิมการออกแบบไม่ได้ตั้งใจให้เป็นรูปทุเรียน แต่จะพยายามเรียนแบบอาคารโอเปร่าเฮ้าส์ของออสเตรเลีย แต่แล้วทำไมเป็นทุเรียนก็ไม่ทราบได้ อันนี้ถามจากคนที่นี่ครับ

จุดประสงค์ของเอสพลานาดคือการเป็นศูนย์แสดงศิลปะสำหรับทุกคน ภายในเอสพลานาดนั้นประกอบไปด้วยห้องแสดงขนาดใหญ่สองห้อง และมีสตูดิโอขนาดเล็กอีกสองห้องทั้งในและนอกอาคาร รายการแสดงต่างๆนั้นมีความหลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ชมทุกประเภท โดยเน้นไปที่ดนตรี การเต้นรำ ละคร และทัศนศิลป์ทุกประเภท

มาดูความสวยงามของอาคารกันครับ






หากเรามองออกไปตามอ่าวมารีน่าเบย์ ก็จะเห็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นจุดเด่นของอ่าวมารีน่าเบย์ อีกอย่างหนึ่งคือ สิงคโปร์ฟลายเออร์ ที่มีลักษณะเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดมหึมา และโดดเด่นมาก แล้วจะพาขึ้นไปชมวันต่อไปครับ



โฉมหน้า Gang of Four ที่มาฝึกอบรมที่นี่ครับ ถ่ายภายในเอสพลานาด



น้องเต่า เพื่อนร่วมทีม



อาเคี้ยง วิศวกรบริษัท เพื่อนร่วมทีมอีกคนหนึ่ง



แวะทานไอศร๊มแท่งกันครับ เป็นไอศรีมแบบตัดเหมือนบ้านเรา รสยอดนิยมที่นี่คือรสทุเรียนครับ ราคา 1 เหรียญ หรือประมาณ 25 บาทขาดตัวครับ ส่วนอาโป้ เพื่อนร่วมทีมกำลังเพลินกับการถ่ายรูปนักท่องเที่ยวสาวๆ ที่นี่ครับ



ภาพนี้เองได้จากกล้องอาโป้


 




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 19 มีนาคม 2563 9:02:45 น.   
Counter : 2270 Pageviews.  


น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง (Fountain of Wealth)

ตำแหน่งของน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง อยู่ตรงใจกลางระหว่างหมู่อาคาร Suntec City หรืออยู่ใจกลางฝ่ามือซึ่งหงายขึ้นนั่นเอง ก็เพราะมีความเชื่อว่าน้ำไหลของน้ำพุเปรียบเสมือนกับเงินทองที่ไหลเข้าฝ่ามือไม่หยุดหย่อน



น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง (Fountain of Wealth) หรือในภาษาจีน 财富之泉 เป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำพุแห่งความมั่งคั่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2540 (ค.ศ. 1997) และ Guinness Book ได้ทำการจดบันทึกสถิติไว้ในปี พ.ศ.2541 ว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัวน้ำพุทำเป็นสีบรอนซ์และประกอบด้วยวงแหวนกลมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 66 เมตร ความสูง 13 เมตร บริเวณฐานของน้ำพุมีพื้นที่ 1,683 ตารางเมตร
 

 
 


ใครที่มีโอกาสที่ได้เดินรอบฐานกลางของน้ำพุสามครั้งและสัมผัสน้ำทุกครั้งก็จะรับความโชคดีและมีความมั่งคั่งในทรัพย์สินตามมา ขั้นตอนการสัมผัสน้ำจะต้องใช้มือขาวสัมผัสน้ำและอธิษฐาน จากนั้นเดินวนตามเข็มนาฬิกาให้ได้ 3 รอบ คำอธิษฐานก็จะเป็นผล อันนี้ฟังเขามา สำเร็จหรือไม่ลองพิสูจน์ดูครับ

สำหรับตารางเวลาในการแสดง

เปิดให้เข้าชม
09:00 - 22:00 น.
แสดงเลเซอร์โชว์
20:00 น. ,20:30 น. ,21:00 น. (3 รอบเท่านั้น)

เปิดให้สัมผัสน้ำ
09:00 น. - 12:00 น.
14:30 น. - 18:00 น.
19:00 น. - 19:45 น.
21:30 น. - 22:00 น.


ด้วยสาเหตุนี้น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง จึงได้รับความนิยมและโด่งดังมาก จนมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกโดยเฉพาะชาวจีน อยากไปให้ได้สักครั้งหนึ่ง






 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 19 มีนาคม 2563 9:03:57 น.   
Counter : 4559 Pageviews.  


1  2  3  

camel_27
 
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




[Add camel_27's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com