ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึงฝัน

วาสนา

วาสนา

มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมาก
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั๊ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา!

เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ
ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ
ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่า เป็นศพ
ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก

ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน

เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด

^_^ คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย
เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน
เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่
ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง
เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า
ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้ ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่ ^_^




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2551   
Last Update : 16 ตุลาคม 2551 10:50:32 น.   
Counter : 326 Pageviews.  

พวงมาลัยกับข้าวต้มมัด

คุณคงดีใจหากว่าเช้าวันหนึ่งจะมีดอกกุหลาบสักดอกมาวางอยู่บนโต๊ะทำงาน
นั่นแสดงว่ามีคนตาถึงมองเห็นเสน่ห์และความน่ารักในตัวคุณ แต่ฉันนี่สิ
พวงมาลัยสีขาวบริสุทธิ์ที่ส่งกลิ่นหอมของดอกมะลิที่วางอยู่บนโต๊ะฉัน
ทำเอาฉันเป็นตัวตลกของเพื่อนร่วมงานไปโดยปริยาย

คนที่เอาพวงมาลัยมาวางให้ฉันทุกเช้าเป็นวิศวกรในแผนกวางแผน ฉันไม่
รู้จักเขามากนัก แต่เพื่อนๆในแผนกฉันพูดถึงเขาว่าเป็นคนไม่ค่อยเต็ม ออก
จะขวางโลกนิดๆ ฐานะทางบ้านจัดว่าดีทีเดียว แต่ตัวเองงกชะมัด เดิมเขาขับ
สปอร์ตคันหรูมาทำงาน ทำเอาสาวๆในบริษัทเก็บเอาไปฝันอยากเป็นตุ๊กตา
หน้ารถของเขากันหลายคน แต่อยู่ดีๆเขากลับนั่งรถเมล์มาทำงานเสียเฉยๆ
ทำให้สาวๆเหล่านั้นค่อยถอนตัวไปทีละคนสองคนจนไม่เหลือใคร

ถึงฉันจะเป็นพนักงานบัญชีและเห็นด้วยกับมาตรการประหยัดของเขาแต่
แค่ดอกกุหลาบสักดอกคงไม่ได้แพงไปกว่าพวงมาลัยสักเท่าไรละมัง

วันนี้ฉันมาทำงานเช้ากว่าปกติซึ่งทางหัวหน้าของฉันขอร้องมาสำหรับเช้า
วันจันทร์ เพื่อมารับรายงานจากฝ่ายต่างๆและเตรียมรายงานให้เสร็จก่อน
เก้าโมง เช้า ทำเอาฉันต้องรองท้องด้วยกาแฟเพียงแก้วเดียวสำหรับมื้อเช้า
มื้อที่สำคัญที่สุดของวัน แต่ก็ทำให้ฉันได้มีโอกาสเจอวิศวกรคนนั้น คนที่
เอาพวงมาลัยมาวางที่โต๊ะฉันทุกเช้า

เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวที่ถูกม้วนขึ้นไปจนเกือบถึงข้อศอกทำให้เขาดูทะมัด
ทะแมงขึ้น นั่งคงเพราะต้องโหนรถเมล์มาละมัง เขาทำท่าลังเลอยู่หน่อย
เมื่อพบว่าฉันมาทำงานแต่เช้า ก่อนจะเดินเข้ามาและวางพวงมาลัยบนโต๊ะ

ฉันอย่างเงียบๆ

'ขอบคุณค่ะ หอมจัง' ฉันบอกเขาไป

'คุณชอบมันจริงๆเหรอ' เขาถามกลับ

ฉันยิ้มให้ เขาควรจะไปตีความเอาเอง ว่าผู้หญิงหน้าตาน่ารักอย่างฉันเหมาะ
กับพวงมาลัยไหม

'ดีใจที่คุณชอบ'

อ้าว ... นี่เขาเป็นวิศวกรจริงๆหรือเปล่านะ ไม่ฉลาดเอาเสียเลย

'ทำไมวันนี้มาแต่เช้าล่ะครับ' เขาชวนคุย

'พอดี พี่วรรณขอให้มาก่อนเวลาในทุกวันจันทร์น่ะค่ะ' ฉันตอบ

'ถ้างั้นคุณคงไม่มีเวลาทานข้าวเช้า'

ฉันยกแก้วกาแฟให้เขาดูแทนคำตอบ เขาทำสีหน้าครุ่นคิด นี่คงไม่ได้
กำลังคิดหรอกนะว่าฉันจะได้พลังงานจากกาแฟแก้วนี้กี่แคลอรี่ และเพียง
พอกับการทำงานของฉันในช่วงเช้าหร ือเปล่า

'แล้วทำไมมาเช้าจังล่ะคะ' ฉันถามเขา

'ผมต้องต่อรถเมล์ มาน่ะครับ ถ้ามาสายรถจะติด'

'แล้วรถคันเดิมไปไหนแล้วคะ'

'ผมจอดไว้ที่หอพักเพื่อนแล้วขึ้นรถเมล์มาครับ สะดวกกว่า และได้ทำธุระ ด้วย' เขาบอก

ธุระอะไรของเขานะ ที่ต้องทำแต่เช้าเชียว หรือจะใส่บาตร แต่ฉันก็ไม่ได้
ถามเขาไปหรอก

'หอพักเพื่อนคุณ อยู่ใกล้เหรอคะ' ฉันถามเขาเพราะอยากหาที่พักใกล้ที่ทำ งานมากขึ้น สนองนโยบายรัฐ

'ต่อรถเมล์มานี่ก็สองต่อเองครับใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที'

'พอมีเบอร์ติดต่อไหมคะ'

'ผมพาไปได้ ถ้าคุณสนใจ' เขาบอก

'ค่ะ' ฉันตอบ ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับไปทำงาน

................................................................................
จากนั้นในทุกวันจันทร์ บนโต๊ะของฉันนอกจากจะมีพวงมาลัยดอกมะลิแล้ว
ยังมีข้าวต้มมัดเพิ่มมาด้วยอีกหนึ่งอย่าง ข้าวต้มมัดกับกาแฟ ดูท่าเขาจะเป็นคน
ขวางโลกจริงๆเสียแล้วสิ

เพื่อนสาวในแผนกฉันหลายคนได้รับดอกกุหลาบ บางคนมีขนมปัง โดนัท
หรือมิฉะนั้นก็เป็นปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ จากหนุ่มๆที่ตา ถึงและพากันมาเกาะ
แกะกับสาวๆแผนกบัญชี บอกตรงๆว่าฉันก็อายอยู่ไม่น้อยกับรสนิยมของเขา
แต่เพราะ บุคลิกที่เงียบขรึม ท่าทางจริงจัง และรอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นทำให้
ฉันปฏิเสธเขาไม่ลง ไม่รู้ว่าเพราะฉันกลัวเขาจะเสียน้ำใจ หรือเพราะชอบเขา
ขึ้นมาแล้วกันแน่

'ช่วยเขียนแผนที่กับเบอร์ติดต่อหอพักที่ว่าให้หน่อยได้ไหมคะ' ฉันบอกเขา ในวันหนึ่ง

'ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเย็นนี้ผมพาไปดู' เขาบอก

'ขอบคุณค่ะ' ฉันตอบ

และเย็นนั้น เขาพาฉันขึ้นรถเมล์จากป้ายใกล้ๆบริษัท และไปต่อรถเมล์อีกสายหนึ่งในป้ายถัดไป
ก่อนจะไปถึงหอพักที่ว่าโดยใช้ เวลาไม่เกินสามสิบนาที

'ใกล้จริงๆด้วยค่ะ' ฉันบอกเขา

จากนั้นเขาพาฉันไปดูห้องตัวอย่างก็ห้องเพื่อนเขานั่นล่ะ ฉันตกลงใจที่จะ
ย้ายมาอยู่ในเดือนหน้าและวางเงินมัดจำไปก่อน

'เย็นนี้คุณรีบไปไหนหรือเปล่า' เขาถาม

'ไม่ค่ะ' ฉันตอบ แอบคิดไปว่าเขาคงชวนทานข้าวละมัง

'ทานข้าวกับผมนะ' เขาชวนจริงๆ ฉันยิ้ม

อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะพาฉัน ไปทานที่ไหน คนที่ชอบ ข้าวต้มมัดกับพวงมาลัยจะมีรสนิยมเรื่องอาหาร
ยังไงนะ แต่ก็ได้ยินเสีย งตัวเองตอบตกลงกับเขา

ร้านที่เขาพามาเป็นร้านอาหารบรรยากาศดี ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ เหมือนสวน
หลังบ้านเสียมากกว่าร้านอาหาร ดูเขาจะคุ้นเคยกับเจ้าของร้านเป็นอย่างดี

'เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วครับ' เขาบอกเมื่อเห็นสายตาสงสัย ของฉัน

เสียงเพลงไพเราะจากวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรีเพียงไม่กี่ชิ้นนั่นทำให้ฉันรู้สึก ผ่อนคลาย

'ไม่รู้ว่ามีร้านแบบนี้อยู่ด้วย' ฉันพูดกับเขา

'ผมมาที่นี่บ่อยๆ' เขาบอก

ฉันต้องแอบมองเขาด้วยความสงสัย ความจริง เขาก็ไม่ได้ถึงกับประหยัดอะไรมากมาย
แต่ทำไมถึงเป็น พวงมาลัยและ ข้าวต้มมัดนะ ฉันแอบยิ้ม

'คุณยิ้มทำไม' แย่จริง เขาจับได้ ก่อนที่เขาจะเรียกเด็กหญิงที่ขายดอกกุหลาบ
มาและซื้อให้ฉันดอกหนึ่ง ทำเอาหัวใจฉันพองโต และนำกุหลาบดอกนั้น
กลับมาทับด้วยหนังสือเล่มหนาที่หัวเตียง

.........................................................................
วันนี้ฉันย้ายหอพักวันแรก ฉันตัดสินใจออกจากหอเช้ากว่าที่ควรจะเป็น
อยากมีเวลาในการสำรวจเส้นทางก่อน แม้ว่าเขาบอกว่าจะมารับฉันและ
ไปทำงานพร้อมกัน

ฉันขึ้นรถเมล์จากป้ายใกล้ๆหอพักและลงเพื่อต่อรถอีกสาย ที่ป้ายรถเมล์กลาง
เส้นทางนั้นฉันเห็นคุณยายหลังค่อมนั่งร้อยพวงมาลัยอยู่ พวงมาลัยดอกมะลิ
ขาวสะอาดตา เขาคงซื้อจากที่นี่ทุกวัน ฉันคิด ฉันเดินเข้าใกล้และพบว่า คุณยาย
คนนั้นขาพิการ คุณยายเล่าว่าทุกๆเช้าจะมีเพื่อนบ้านที่มาทำงานแถวนี้พาคุณยาย
และหลานมาขายพวงมาลัยที่นี่และรอรับกลับในช่วงบ่าย

ฉันอมยิ้มกับความอ่อนโยนของเขา นี่ละมังเหตุผลที่เขาขึ้นรถเมล์ไปทำงาน
และซื้อพวงมาลัยให้ฉันทุกเช้า

'ขายยังไงจ๊ะ' ฉันถามคุณยาย

'พวงละยี่สิบบาท'

ฉันยื่นธนบัตรฉบับละร้อยให้กับคุณยาย

'เอาพวงนึง ไม่ต้องทอนจ๊ะ'

'งั้นไม่ขาย ฉันไม่ใช่ขอทาน' คุณยายบอก พร้อมกับมองหน้าฉัน ซึ่งรู้สึก
ว่าหน้าตัวเองชาไปในทันที

'หนูขอโทษ' ฉันพนมมือไหว้ ก่อนที่คุณยายจะยิ้มตอบ

'ไม่เป็นไร หนูทำให้ฉันนึกถึงผู้ชายอีกคน' คุณยายเล่า

'เขาทำแบบหนู แต่ให้แบงค์พัน ยายก็ดุเขาไปเหมือนกัน' คุณยายเล่าต่อ

'แล้วเขาทำยังไงคะ' ฉันถาม

'เขาขอโทษ และซื้อพวงมาลัยวันละพวงแทน บางทีก็ซื้อข้าวต้มมัดของหลาน
ยายด้วย นี่ใกล้จะมาแล้ว' คุณยายบอก

'เขาบอกว่าซื้อไปให้แฟน ฉันยังถามเขาเลยว่าสาวๆที่ไหนจะชอบ มีแต่คนแก่
ที่ชอบพวงมาลัย'คุณยายเล่า โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าหัวคิ้วฉันแทบจะชนกัน
อยู่แล้ว

'แต่เขาบอกว่าแฟนเขาชอบ' คุณยายเล่าต่อ ทำเอาฉันหน้าแดงขึ้นมาทันที
ใครบอกว่าฉันเป็นแฟนนาย....

'อ้าว คุณ ทำไมออกมาก่อนล่ะ' เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้านหลังของฉัน ฉันแกลังทำ
เป็นไม่ได้ยินไปอย่างนั้น เพราะขืนฉันหันไปตอนนี้ คงซ่อนหน้าแดงๆนี้ไม่ได้

'คุณยาย นี่แฟนผม' เขาว่า ฉันตีต้นแขนเขาทันทีเหมือนกัน

'พวงมาลัย พวงนึงครับ' เขาบอกก่อนจะหยิบธนบัตรใบละยี่สิบให้คุณยาย

ส่วนฉัน หันไปคุยกับเด็กหญิงตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ

'ข้าวต้มมัดขายยังไงคะ'

'มัดละห้าบาทค่ะ' เธอบอก

'งั้นเอายี่สิบบาทด้วยค่ะ' ฉันบอกพร้อมกับยื่นสตางค์ให้โดยมีเขายืนยิ้มอยู่ข้างๆ

'แสดงว่าที่ผมซื้อไปคุณทานไม่อิ่ม เพราะผมซื้อแค่สิบบาทเอง' เขาพูด

'อิ่มย่ะ' ฉันเถียง เขาทำท่าจะพูดอะไรต่อแต่ก็ไม่เถียงฉัน ก่อนที่เราจะขึ้นรถเมล์
มาทำงานด้วยกัน

'พวงมาลัยของคุณ ' เขาบอกพร้อมกับยื่นพวงมาลัยสีขาวสะอาดตานั้นให้ฉัน
เมื่อเดินมาส่งฉันที่โต๊ะ

'ข้าวต้มมัดของคุณ' ฉันแบ่งข้าวต้มมัดในถุงให้เขา

'อ้าว' เขาร้อง

'ไม่ชอบเหรอคะ' ฉันถามเขายิ้มๆ

'ยังไม่เคยลองทานเลยครับ อร่อยไหม' เขาตอบกลับทำเอาฉันคิ้วขมวด นี่ฉัน
กลายเป็นหนูลองยาให้เขาหรือนี่

'แต่ก็คงอร่อย เพราะคุณทานหมดทุกครั้ง' เขาตอบก่อนจะรับถุงข้าวต้มมัดไป
จากมือ จงใจให้ปลายนิ้วสัมผัสกันนิดหนึ่ง

'กลับบ้านพร้อมกันนะ' เขาชวน

'ค่ะ'

ฉันยิ้มให้ และตอบออกไปอย่างเต็มใจ เพื่อนฉันเพิ่งบอกเมื่อวานเองว่า
อย่าไปหลงเสน่ห์ พ่อพวงมาลัยกับข้าวต้มมัด เพราะจะทำให้เสียชื่อสาวๆ
แผนกบัญชี ดูท่าเช้านี้ ฉันต้องหาเหตุผลดีๆไว้แก้ตัวแล้วล่ะ....................




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2551   
Last Update : 16 ตุลาคม 2551 10:44:25 น.   
Counter : 230 Pageviews.  

คนพิเศษ

ชีวิตคนเรามีอะไรมากมายที่ผ่านเข้ามาให้ซึมซับรับรู้
ในชีวิตคนเรามีผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาให้รู้จักมักคุ้น
แต่ในผู้คนมากมายเหล่านั้น
อย่างน้อยคงต้องมีใครบางคนที่ทำให้เรารู้สึก
"ไม่ธรรมดา" ที่จะนึกถึงเรียกว่าเป็น "ความพิเศษ"
ที่เราจะยกเว้นเอาไว้จากความปกติทั่วไปของจิตใจ
ก็ในเมื่อคำว่า "พิเศษ" หมายถึงความจำเพาะ ความแปลกแยก
ความดีงาม ความอบอุ่นในหัวใจ
กระนั้นทำไมเราไม่ปฏิบัติต่อเขาให้ตรงกับที่ใจคิด

ให้ "ความรู้สึกดีดี" จากจิตใจที่ดีดี
ให้ "ความอาทรถึง" จากจิตใจที่นึกถึง
ให้ "ความห่วง" จากจิตใจที่เป็นห่วง
ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างดีดี แต่มี "สติ"
ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่ "คุกรุ่น"
ให้ไปเลย ให้ไปเท่าไหร่ก็ได้

แต่เมื่อให้ไปแล้วต้อง "ไม่ร้อนรุ่มกลัดกลุ้ม"
และหากเมื่อใดจิตใจอาจระส่ำระสาย สะดุดกับอะไรขึ้นมาบ้าง
ก็จงหยุดพักตรึกตรอง อย่าปล่อยให้พายุอารมณ์โถมพัด"สิ่งดีดี"
จนกระจัดกระจาย

เพราะ "การให้ความหมาย" ไม่ใช่ "การตั้งความหวัง"
คนสองคนให้ความหมายซึ่งกันและกัน
แต่คนสองคน "จะไม่ตั้งความหวังในกันและกัน"

เพราะการตั้งความหวังมักนำพาซึ่ง "การเรียกร้อง"
"ความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ" โดยที่ไม่รู้ตัว
มันร้อนนัก หนาวนัก และไม่เป็นสุข
เราต้องไม่ลืมปรับอุณหภูมิจิตใจเอาไว้ที่องศาอุ่นๆ
หากเริ่มรู้สึกตัวว่าความร้อนเริ่มทวีขึ้น
เราต้องค่อยๆ เดินออกมาสูดอากาศเย็น
หากตรงกันข้ามเราก็ต้องหลบเร้นจากความหนาวมาหาไอแดดเช่นกัน

และอย่าลืมว่า "ความพิเศษ" ไม่ได้จำกัดว่า
จะต้องเป็นพิเศษมากหรือพิเศษสุด หรือพิเศษอย่างยิ่งในคนคนเดียว
ทั้งเราและเขาอาจจะมีคนพิเศษในวิถีชีวิตได้หลายลักษณะ
พิเศษในเรื่องนั้น พิเศษในเรื่องนี้

ในเมื่อหัวใจเป็นของเรา เราก็ย่อมเลือกให้ความพิเศษกับใครก็ได้
ที่เราจะไม่ต้องแลกกับความทุกข์อย่างพิเศษกลับมา
จงให้ "ความพิเศษ" เป็นชีวิตชีวาเป็นแววตาที่แจ่มใส
เป็นความห่วงใยที่เมื่อนึกถึงทีไรก็ยิ้มได้ ไม่วิ่งหนี แต่ไม่วิ่งตาม
ไม่หักห้าม แต่ไม่กระโจนใส่ ไม่เป็นน้ำตาลที่หวานอ่อนไหว
แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจและเอื้ออาทร

จงเป็นความแจ่มใสในอารมณ์ของตัวเอง เป็นความชุ่มชื่น สดใส เช่นสายน้ำ
เป็นสีสันงดงามเช่นมวลผกา เป็นสีเขียวของใบไม้ ที่เย็นที่ตาและที่ใจ
และที่ตรงนี้ จะอีกนานเท่าใด ไม่ว่า "คนพิเศษ"
คนนั้นจะอยู่ใกล้หรือต้องจากกันไกล
"ความพิเศษ" นั้นก็จะคงอยู่อย่างมีคุณค่า ณ ที่เดิม
ที่ซึ่งใจข้างซ้ายตรงกัน




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2550   
Last Update : 27 ตุลาคม 2550 8:24:59 น.   
Counter : 296 Pageviews.  

ขอแค่ 1 นาที...


ชายหนุ่มไฟแรง ..

มุมานะทำงาน..อย่างมุ่งมั่น

เขามีความฝัน..จะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์..กับแฟนสาว



เธอจะมารอ..หลังจากที่เขาเลิกงาน ..

ที่หน้าประตูบ้าน..ของเขา



เขาพบเธอ..ก็ยิ้มแย้ม ..ยินดีต้อนรับ.. สนทนากัน

แล้วเธอ..ก็กลับไป



วันนี้..เขากลับถึงบ้าน ..ช้ากว่าปกติมาก

แต่แปลก..ที่ยังเห็นเธอ..ยืนรอที่หน้าบ้านเขา..

เช่นทุกวัน



“โทษทีนะที่รัก ..วันนี้มีงานด่วน ..เลยกลับมาช้าไปหน่อย”



เธอยังยิ้มให้เขา

“คุณทำงาน..จนมีรถ.. มีบ้าน..อย่างที่ตั้งใจแล้ว

ทำไม..ยังทำงานหนักอีกล่ะ?”



“ผมอยากมีบ้าน..ที่มีบริเวณมากกว่านี้ .

มีรถที่ดูโอ่อ่ามากกว่านี้ ..เพื่อคุณนะจ๊ะ”



*

เวลาผ่านไป 1 ปี ..



หญิงสาว..มาหาเขาบ้าง ..ไม่มาบ้าง

แต่..เขาไม่มีเวลามาใส่ใจ..กับเรื่องอย่างนี้



วันหนึ่ง..เธอเอ่ยถามเขา

“คุณมีเงินมากพอ..จะซื้อบ้านหลังใหญ่รึยัง?”



“ขอเวลาอีกสักหน่อย ..ผมอยากซื้อแหวนวงใหม่ ..

มาเปลี่ยนให้คุณด้วย”

เขาจุมพิต..มือที่สวมแหวนทองวงเล็ก..เบาๆ



“ฉันบอกหรือว่า ..ฉันอยากได้วงใหม่?”


“ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ...ที่รัก”

*

3 เดือนแล้ว..

ที่เขาไม่เห็นเธอ..ที่หน้าประตูบ้าน

วันนี้ ..เขามีบ้านหลังใหญ่

เขาจึงตัดสินใจลางาน 1 วัน ..เพื่อไปหาเธอ



เขาขับรถคันหรู ..

ผ่านเส้นทางที่ขรุขระ..อย่างยากลำบาก

‘เธอต้องใช้ทางเส้นนี้..มาหาเราทุกวันเหรอเนี่ย...’ เขารำพึง


เมื่อมาถึง ..

แม่ของเธอ..ออกมาต้อนรับ

และมอบกล่องไม้ใบหนึ่ง..ให้เขา

และบอกเส้นทาง..ที่เป็นสถานที่..ที่เธออยู่

ที่ซึ่ง..เขาจะพบเธอได้



เนินเขาเล็ก ๆ ..รายล้อมไปด้วยดอกไม้

มีแท่นหิน..สลักชื่อหญิงสาว..ตั้งอยู่กลางเนิน



น้ำตา..ของลูกผู้ชาย ..

ไหลริน..ออกมาเป็นทาง



มือสั่นเทาของเขา ..เปิดกล่องไม้อย่างช้า ๆ

ข้างในกล่อง..อัดแน่นไปด้วย..กระดาษแผ่นเล็ก ๆ



เขาเริ่มอ่านข้อความ..ทีละใบ

“วันนี้ ..คุณกลับมาช้า ..ฉันรอ 2 ชั่วโมง ..

ไม่เป็นไร ..ฉันรักคุณ”



“วันนี้ฝนตก ..ฉันยังรอ ..แต่ไม่เจอคุณ..

ไม่เป็นไร ..แต่ฉันยังรักคุณ”



“ฉันเริ่มป่วย.. จนไปหาคุณไม่ได้ ..คุณคงไม่ทันได้สังเกต..

ไม่เป็นไร.. แต่ฉันยังรักคุณ”



“วันนี้ ..คุณบอกจะเปลี่ยนแหวนวงใหม่ ..

คุณคงลืมว่า..ฉันตอบตกลง..จะแต่งงานกับคุณ ..เพราะแหวนวงนี้ ..

ไม่เป็นไร..แต่ฉันยังรักคุณ”




*



ชายหนุ่ม..เรียนรู้แล้วว่า

บางที ..สิ่งที่เขาไขว่คว้า..มาตลอดชีวิต

อาจเทียบไม่ได้..กับสิ่งเล็กน้อย

ที่เขาเคยได้รับ...จนเป็นเรื่องปกติ..ของทุกวัน



รถคันหรู.. แล่นไกลออกไป

เหลือไว้เพียง..

กล่องแหวนเพชร..ราคาแพง..หน้าหลุมศพ

ที่ดูไม่เหลือค่าอะไร ..สำหรับเขา..อีกต่อไป

*

*

*

“ผมมีบ้านหลังใหญ่..

แต่คงกว้างไป ..สำหรับการที่จะต้อง..อยู่คนเดียว



ผมมีรถ..ราคาแพง ..

แต่ไม่รู้จะขับไปรับใคร ..ให้มานั่งเคียงคู่ ..

เพื่อไปที่ไหน ๆ ..ด้วยกัน



ผมมีเวลาอยู่กับงาน..ครึ่งชีวิต

แต่ไม่เคยมีเวลา.. ที่จะได้อยู่กับคนที่..ผมรัก



ตอนนี้.. ผมมีเงินมากมาย..

แต่..ไม่อาจซื้อเวลาเพียง 1 นาที ..

ที่จะบอกว่า.. ‘รักเธอ’..



ผมมีทุกอย่าง..เพียบพร้อม

แต่..ขาดส่วนที่สำคัญที่สุด ..

ที่จะทำให้ครอบครัว..สมบูรณ์ได้


ผม..ผม..ขอแค่ 1 นาที

ให้ย้อนกลับมา..ได้ไหม?”

~~~~~~~~~~~~~~~~~




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2550   
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 13:55:38 น.   
Counter : 278 Pageviews.  

365 วันกับความรัก

เด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งเหงาอยู่ริมหน้าต่าง
เธอมองดูกระถางต้นไม้ที่แห้ง
เฉา ดินแตกระแหง แต่ยังมีเมล็ดพืชงอกงามอยู่ในนั้น
เธอเก็บเมล็ดพืชนั้นมาด้วยความสงสัย...
อยากรู้ว่ามันงอกขึ้นมาได้อย่างไร?

...วันที่ 1
เธอนำเมล็ดพืชนั้นมาปลูกในกระถางใบใหม่..
รอคอยวันที่มันจะเติบโต เธออยากเห็นเมล็ดพืชโตเร็วจึงรดน้ำ
จนล้นกระถาง..

...วันที่ 2
เธอเฝ้าดูการเจริญเติบโตของเมล็ดพืชนั้น..
ทันใดนั้นก้อมีปลาทองออกมาจาก เมล็ดนั้น
เด็กหญิงเอาปลาทองใส่ไว้ในโหลและคิดว่าคงรดน้ำมากเกินไป
จึงเอากระถางไปใส่ไว้ในเตาอบและเฝ้าดู

...วันที่ 3
เธอเปิดเตาอบออกดูเห็นลูกไก่เดินอยู่ในนั้น
มันมองมาที่เธอและเดินตามเธอ ตลอดเวลา
เด็กหญิงมีความคิดว่าควรจะใส่ปุ๋ยให้มันและ
เริ่มเทปุ๋ยจนหมดถุง และ..รอ

...วันที่ 4
มีริบบิ้นสีแดงออกมาจากเมล็ด
เธอดีใจมากนำริบบิ้นมาผูกให้กับลูกไก่ แต่ละ
วันเด็กผู้หญิงจะเฝ้ารอดูว่าจะมีอะรัยออกมาจากเมล็ดพืชอีก
เธอมีความสุขกับการได้ดูแล
เมล็ดพืช รดน้ำ พรวนดิน ให้แสงแดด

....วันที่ 30
เด็กหญิงเบื่อที่จะรดน้ำ และดูแลต้นไม้
ไม่ตื่นเต้นกับสิ่งที่จะออกมาจาก
เมล็ดพืชนั้นเหมือนแต่ก่อน..
ต้นไม้เริ่มแห้งเฉาใบไม้เริ่มเป็นสีเหลือง
ไม่มีอะไรออกมาจากเมล็ด พืชอีก..

...วันที่ 180
ใบไม้เริ่มแห้งกรอบ
ดินเริ่มแตกแยกเหมือนครั้งแรกที่เด็กหญิงเจอมัน..
เธอเศร้าเสียใจอย่างมาก

....วันที่ 250
เด็กหญิงรดน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ...
เธอมีความหวังที่จะได้พบสิ่งที่ทำให้
ประหลาดใจอย่างที่เคยเป็น

...วันที่ 251
เธอนำกระถางมารับแสงแดดอ่อนๆตอนเช้าด้วยใจที่เบิกบาน
และเต็มไป ด้วยความหวัง

...วันที่ 252
เธอใส่ปุ๋ยและพรวนดินให้ต้นไม้
มีลูกไก่ที่ผูกริบบิ้นสีแดงและปลาทองใน โหลอยู่ใกล้ๆ

...วันที่ 300
การเอาใจใส่ ดูแลอย่างใกล้ชิดของเธอทำให้ต้นไม้
กลับมาออกใบเขียวชอุ่ม.. และที่น่าประหลาดใจคือ
เมล็ดพืชกลายเป็นดอกสีขาวเล็กๆรูปร่างคล้ายหัวใจ
เด็กหญิงตื่นเต้น ดีใจกว่าทุกครั้ง

...วันที่ 340
เธอร้องเพลงและพูดคุยกับดอกไม้สีขาวนั้นทุกเวลาที่ว่าง
เธอรู้สึกมีความสุขมาก..ที่ได้คอยเอาใจใส่โดยลืมไปสนิท
ว่ามันจะกลายเป็นอะไรต่อไป..
เด็กหญิงไม่คาดหวังให้ดอกไม้กลายเป็นสิ่งใด
เธอทนุถนอมและดูแลมันอย่างดีที่สุด

...วันที่ 365
เด็กหญิงนั่งอยู่ริมหน้าต่าง
กระถางตรงหน้าเธอไม่มีดอกไม้สีขาวรูปหัวใจ อีกแล้ว
ดอกไม้ที่เธอเฝ้าดูแลหายไป...
แต่เธอไม่เศร้า ไม่เสียใจ ไม่ร้องไห้
เพราะเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ริมหน้าต่าง
เขาสามารถพูดคุยกับเธอ ยิ้มให้เธอ ไปทุกที่กับเธอ
เข้าใจเธอ และเธอก็ไม่เคยเหงาอีกเลย......

** คุณรู้หรือยังว่าดอกไม้สีขาวรูปหัวใจกลายเป็นอะรัย **

เด็กผู้หญิงใช้เวลา 1 ปี ในการเรียนรู้เรื่องความรัก เธอเรียนรู้ว่า

  • เมื่อเธอรดน้ำมากๆไม่ได้แปลว่ามันจะเจริญเติบโตเร็ว
    มันอาจกลายเป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ ถึง

  • การเอาใจใส่กันเป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงให้ความรักคงอยู่ต่อไป

  • การรอคอยเมื่อครั้งแรกเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแต่นานเข้า
    จะกลายเป็นความท้อแท้ และเบื่อหน่าย

  • ถึงเรายอมรับที่จะสูญเสียแต่ไม่มีทางหนีจากความเจ็บปวดได้

  • ไม่มีคำว่าสาย สำหรับความรัก เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

  • การที่เราคาดหวังกับความรักมากเท่าไรเมื่อไม่เป็นอย่างที่หวัง
    เราจะยิ่งเจ็บปวดมาก
    เท่านั้น



  • คุณล่ะใช้เวลาเท่าไรในการทำความรู้จักและพยายามเข้าใจในความรัก

    "ความรัก"
    ไม่มีข้อปฏิบัติที่ตายตัวแต่ละ! คนจึงต้องค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง
    ตามวิธีที่แตกต่างกัน....






     

    Create Date : 12 ตุลาคม 2550   
    Last Update : 12 ตุลาคม 2550 8:13:29 น.   
    Counter : 287 Pageviews.  

    1  2  3  4  5  6  7  8  9  

    *BoM*
    Location :
    กรุงเทพฯ Thailand

    [Profile ทั้งหมด]

    ฝากข้อความหลังไมค์
    Rss Feed

    ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




    [Add *BoM*'s blog to your web]