คำอธิษฐานจิตเวลาทำบุญ
" สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขยาวะหัง โหตุ "
ขอให้ทาน ที่ข้าพเจ้าถวายดีแล้วนี้ จงเป็นเหตุ ให้ข้าพเจ้า หมดความเศร้าหมองใจเถิด
คำถวาย ธูป เทียน ดอกไม้
" อิมานิ มะยัง ภันเต ธูปะทีปะบุปผะวรานิ ระตะนัตถายัสเสวะ อภิปูชยามะอัมหากังระตะ
นัตตะ ยัสสะ หิตะสุขาวะหา โหตุ อาสะวักขะยัปปัตติยา "
ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอบูชาด้วย ธูปเทียน และ มีเทียนจำนำพรรษาเป็นต้น และ ดอกไม้
ทั้งหลาย อันประเสริฐนี้ แก่พระรัตนตรัย ก็กิริยาที่บูชาพระรัตนตรัยนี้ จงเป็นผล นำมาซึ่ง
ประโยชน์ และ ความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนานและเพื่อให้ถึงซึ่ง พระนิพพาน
อันเป็นที่สิ้นไปแห่ง อาสวกิเลส เทอญ
คำถวายเงินทำบุญ ( ตั้งนะโมสามจบ )
" สุทินฺนํ วต เม ทานํ อาสวกฺขยาวหํ นิพฺพานปัจฺจโย โหตุ ฯ "
ขอให้ทาน ของข้าพเจ้า อันให้ดีแล้วหนอ จงนำมาซึ่ง ความสิ้นไป
แห่งอาสวกิเลส จงเป็นปัจจัยแก่ พระนิพพาน ฯ
คำอธิษฐาน เมื่อจบของต่าง ๆ ถวายพระ
" สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง โหตุ ฯ "
ทานของเราให้ดีแล้วหนอ ขอจงเป็นเครื่อง นำมาซึ่งความสิ้นไป แห่งอาสวะกิเลส
คำถวายข้าวพระพุทธ
" อิมัง สูปะพยัญชะนะสัมปันนัง สาลีนัง โภชะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมิ ฯ "
ข้าพเจ้าขอบูชาด้วยโภชนะข้าวสาลี พร้อมด้วยแกงกับ และ น้ำอันประเสริฐนี้แด่พระพุทธเจ้า
คำถวาย ข้าว ใส่บาตร ( ยกขันข้าวขึ้นจบ ตั้ง นะโม สามจบ )
" อหํ ภนฺเต โภชนานํ สาลีนํ ปรสุทฺธํ พุทฺธสาวก สงฺฆํ ปิณฺฑปาตํ โส โหตุ ฯ "
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าวสาลีอันบริสุทธิ์นั้นจ งสำเร็จแก่พระสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า นั้นเถิด ฯ
คำถวายของใส่บาตร
" อิทัง ทานัง สีละวันตานัง ภิกขูนัง นิยาเทมิ สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง นิพานะปัจจะโย โหตุ "
ข้าพเจ้า ขอน้อมถวายท่านอันนี้ แด่พระสงฆ์ผู้มีศีลทั้งหลาย ทานที่ข้าพเจ้าถวายดีแล้วนี้
จงเป็นปัจจัย ให้ถึงพระนิพพานด้วยเทอญ
คำถวายผ้าป่า
" อิมานิ มะยัง ภันเต ปังสุxxxละจิวะรานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ ปังสุxxxละจีวะรานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ
อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ นิพพานายะจะ ฯ "
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าบังสุกุลจีวรกับทั้งบริวารเหล่านี้
แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ผ้าบังสุกุลจีวรกับทั้งบริวารเหล่านี้
ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ และ ความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
สิ้นกาลนานเทอญ
คำถวายสังฆทาน (ถวายเพื่อความสุขความเจริญ )
" อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุโน ภันเต
ภิกขุ สังโฆ อิมานิ ภัตตานิ สะปะริวารนิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ "
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวาย ซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวาร
ทั้งหลายเหล่านี้แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับซึ่งภัตตาหารกับของ ที่เป็นบริวารทั้งหลาย
เหล่านี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ
คำอาราธนา ศีล5
" มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุงวิสุง รักขะ นัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ "
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 ข้อ พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อประโยชน์แก่ การจะรักษาต่าง ๆ กัน
คำอาราธนาธรรม
" พรหมมา จะโลกาธิปะตี สะหัมปะตี กัตอัญชะลี อันธิวรัง อะยาจะถะ สันตีธะ สัตตาป
ปะระชัก ขะชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อุนะกัมปิมัง ปะชัง ฯ "
ท้าวสหัมบดี แห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลี ในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด
คำอาราธนาพระปริต
" วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปริตตัง พรูถะ มังคะลัง
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปริตตัง พรูถะ มังคะลัง
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวิสาสายะ ปริตตัง พรูถะ มังคะลัง "
ขอพระสงฆ์ทั้งหลาย จงสวดพระปริต อันเป็นมงคล เพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จ
ในสมบัติทั้งปวง และเพื่อให้ทุกข์ทั้งปวงพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งปวงพินาศไป เพื่อให้โรคทั้ง
ปวงพินาศไป
คำกรวดน้ำ
" อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย "
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลาย จงมีความสุขภาย สุขใจเถิด
คำลาข้าวพระพุทธ
" เสสัง มังคะลัง ยาจามิ ฯ "
ข้าพเจ้า ขอคืนเศษ อันเป็นมงคลนี้ ข้าพเจ้า ขอภัตต์ที่เหลือ ที่เป็นมงคลด้วยเถิด
คำถวายเครื่องสังเวยพระภูมิ
" ภุมมัสมิง มิสาภาเค สันติเทวา มะหิทธิกา เตปิอัมเห อนุรักขันตุ อะโรคะเยนะ สุเขนะ
จะสูปพยัญชะนสัมปันนัง สาลีนัง โภชนัง อุทะกัง วรัญจะ ปริภุญชันตุม เทวะตา ชะยะ
มังคะลานุภา เวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เม "
คำถวายผ้ากฐิน
" อิมัง มะยัง ภันเต, สะปะริวารัง, กะฐินะจีวะระทุสสัง, สังสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, สังโฆ, อิมัง สะปะริวารัง, กะฐินะทุสสัง, ปะฏิคคัณหาตุ, ปะฏิคคะเหตตะวาจะ, อิมินา ทุสเสนะ กะฐินัง, อัตถะระตุ, อัมหากัง ฑีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ นิพพานายะจะ ฯ "
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้ากฐินจีวร กับทั้งบริวารนี้ แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับผ้ากฐินกับทั้งบริวารนี้ ของ ข้าพเจ้าทั้งหลาย และ เมื่อรับแล้วขอจงกรานใช้ กฐิน ด้วยผ้านี้ เพื่อประโยชน์ และ ความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ ฯ
คำถวายผ้าอาบน้ำฝน
อิมานิ มะยัง ภันเต
วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ
ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ
ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าอาบน้ำฝนกับบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับผ้าอาบน้ำฝนกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ
คำถวายผ้าไตร
อิมานิ มะยัง ภันเต
ติจีวะรานิ สะปะริวารานิ
ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ ติจีวะรานิ สะปะริวารานิ
ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าไตรจีวรกับทั้งบริวารเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์
ขอพระภิกษุสงฆ์ จงรับผ้าไตรจีวรกับทั้งบริวารเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายหนังสือธรรมะ
อิมานิ มะยัง ภันเต ธัมมะโปตถะกานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ ธัมมะโปตถะกานิ สะปะริวารานิ ปฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ นิพพานายะจะ
(ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายหนังสือธรรมะกับทั้งของบริวารเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับหนังสือธรรมะกับทั้งของบริวารเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อมรรคผล นิพพาน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย และขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย จงเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติ สิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายข้าวสาร
อิมานิ มะยัง ภันเต ตัณฑุลานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ ตัณฑุลานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายข้าวสารกับทั้งบริวารเหล่านี้แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ข้าวสารกับทั้งบริวารเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายยาพระสงฆ์
อิมานิ มะยัง ภันเต คิลานะเภสัชชานิ สะปะริวารานิ สังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต สังโฆ
อิมานิ คิลานะเภสัชชานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัญจะ มาตาปิตุอาทีนัญจะ ญาตะกานัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายยาบำบัดความป่วยไข้ กับทั้งเวชภัณฑ์ทั้งหลายเหล่านี้ แก่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับยาบำบัดความป่วยไข้ และเวชภัณฑ์ทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ญาติทั้งหลาย มีมารดาและบิดาเป็นต้นด้วย สิ้นกาลนานเทอญ)
คำถวายเสนาสนะ สร้างกุฏิ วิหารให้สงฆ์
อิมานิ มะยัง ภันเต เสนาสะนานิ อาคะตานาคะตัสสะ จาตุททิสัสสะ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
อิมานิ เสนาสะนานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายเสนาสนะเหล่านี้ แก่พระภิกษุสงฆ์ ผู้มีในทิศทั้ง ๔ ที่มาแล้วก็ดี ยังไม่มาก็ดี ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับเสนาสนะเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
คำหลั่งน้ำ ถวายพระภูมิ
" อะยัง ภูมิปะเทโส วิสุงคาโม สุขี โหตุ. "
ขอภูมิประเทศ ส่วนแห่งบ้านนี้ จงมีความสุข ฯ
คำภาวนาเวลารดน้ำศพ
" กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง อะโหสิกัมมัง สัพพะปาปัง วินัสสะตุ
อิทัง มะตะกะสะรีรัง อุทะกัง วิยะ สิญจิตัง อะโหสิ กัมมัง.
กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3
ขอให้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า ทั้งต่อหน้าและลับหลังด้วยเทอญ
คำภาวนา เวลาทอดผ้าศพให้พระบังสุกุล
" นามะรูปัง อะนิจจัง นามะรูปัง ทุกขัง นามะรูปัง อะนัตตา. "
นามรูป ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน.
คำภาวนาเวลาเผาศพ
" อะยัมปิ โข เม กาโย เอวัง ภาวี เอวัง ธัมโม เอวัง อะนะตีโต. "
กายของเรานี้ ต้องเป็นอย่างนี้เหมือนกัน มีอย่างนี้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเป็นอย่างนี้ ไปได้
คำถวายผ้าไตรอุทิศให้ผู้ล่วงลับ
อิมานิ มะยัง ภันเต ติจีวะรานิ อัยยัสสะ เทมะ สาธุ โน ภันเต อะยัง ติจีวะระปูชาวิปาโก อัมหากัง มาตาปิตุอาทีนัง ญาตีนัง กาละกะตานัง สังวัตตะตุ อัมหากัง มาตาปิตุอาทะโย ญาตะกา ทานะ ปัตติง ละภันตุ อัมหากัง เจตะสา
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอถวายไตรจีวรนี้แก่พระผู้เป็นเจ้า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้เจริญ อันว่าผลวิบากของการบูชาด้วยไตรจีวรนี้ จงเป็นไปเพื่อญาติทั้งหลาย มีมารดาบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นต้น จงได้ส่วนแห่งทานนี้ตามความประสงค์ของพวกข้าพเจ้าทั้งหลายเทอญ)
วิถีแห่งความผาสุก
อะไรคือความผาสุก
กำจัดปากชั่วร้ายไม่เปรียบเทียบกับใคร
รู้รับผิดชอบในหน้าที่ตน
แม้กับคนที่มีทรรศนะไม่ตรงกันยังต้องให้อภัย
อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงผู้อื่น
ต้องยอมรับชะตากรรม
ไม่ผูกกรรมสัมพันธ์กับใคร
อย่าปรารถนาสิ่งใดมากจนเกินควรและสำคัญตนผิด
คิดแต่สิ่งที่ดี
รู้จักแก้นิสัยที่ไม่ดี
พูดมากเสียมาก พูดน้อยเสียน้อย ไม่พูด ไม่เสีย นิ่งเสีย โพธิสัตว์"
หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
"ทำเหตุในปัจจุบันดี ผลในอนาคตย่อมต้องดี"
สมเด็จพุฒาจารย์ (โต)
"เรื่องราวเต็มโลก เต็มบ้านเต็มเมือง
เราก็วางเสีย ละเสีย ละอยู่ที่กาย ที่ใจตนนี่แหละ
อย่าไปละที่อื่น การหอบอดีต และ อนาคต
มาหมักสมไว้ในใจ ก็เป็นทุกข์ ตัดออกให้หมด"
หลวงปู่แหวน สุจินโณ
"ผู้อื่นไม่ได้ทำจิตของเราเศร้าหมอง หรือ ผ่องแผ้ว
เราเองเป็นผู้ทำให้จิตของตนเศร้าหมอง ผู้อื่นช่วยไม่ได้
แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ ท่านทรงเป็นผู้บอกทางให้เท่านั้น"
หลวงปู่ขาว อนาลโย
"พูดให้เขารักยากนักหนา พูดให้เขาด่าว่า ง่ายนิดเดียว"
พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม
"คนที่ตายไปแล้ว หากคนที่มีชีวิตอยู่
เขาสามารถจดจำได้ หรือ คิดถึงอยู่
ผู้นั้นได้ชื่อว่าไม่ตาย แต่คนที่มีชีวิตอยู่
กลับไม่มีใครกล่าวถึง หรือ คิดถึงเลย
นั่นคือผู้ตายไปแล้ว..."
หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ
"ทุกข์เพราะเกิดดับ มันมีอยู่แล้ว
เอาราคะ โลภะ โทสะ โมหะ มาเพิ่ม
....ยิ่งทุกข์ใหญ่"
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
"คนไม่สนใจธรรม ธรรมก็ไม่เข้าถึงใจคน
จึงกลายเป็นคนก็สักว่าคน ธรรมก็สักว่าธรรม
ไม่อาจยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ แม้คนจะมีจำนวนมาก และ
แสดงธรรมให้ฟังทั้งพระไตรปิฎก จึงเป็นเหมือนเทน้ำใส่หลังหมา
มันสลัดออกเกลี้ยงไม่มีเหลือ ธรรมจึงไม่มีความหมายในใจของคน
เหมือนน้ำไม่มีความหมายบนหลังหมา ฉะนั้น"
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
"ผู้ปฏิบัติธรรม ตั้งตนอยู่ในกรอบแห่งศีลแล้ว
ก็ย่อมไม่ต้องเดือดร้อน เพราะศึลของตนเอง
ยังบุคคลผู้มั่นในศีล ให้พ้นจากทุกข์โทษ
เวรภัยทั้งปวง ก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย"
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
"ทุกข์ด้วยอะไร ทุกข์ด้วยมันไม่เที่ยง มีแล้วหามีจริงไม่
เกิดแล้วดับไป นี่มันทุกข์อย่างนี้นะ ทุกข์ด้วยไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์"
หลวงพ่อสด จันทสโร
"ลักษณะของบุญ คือ ใจเราดี ใจเรามีความสุข
ใจเรามีความสบาย เย็นอกเย็นใจ ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน
ไม่วุ่น ไม่วาย นี่แหละ บุญ"
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
อกฺโกเธน ชิเน โกธํ
อสาธุํ สาธุนา ชิเน
ชิเน กทริยํ ทาเนน
สจฺเจนาลิกวาทินํ . . . ฯ ๒๒๓* ฯ
พึงเอาชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ
พึงเอาชนะ ความร้าย ด้วยความดี
พึงเอาชนะคนตระหนี่ ด้วยการให้
พึงเอาชนะคนพูดพล่อย ด้วยคำสัตย์
Conquer anger by love,
Conquer evil by good,
Conquer the miser by liberality,
Conquer the liar by truth.
* อรรถกถาต้องการให้แปลว่า พึงเอาชนะคนมักโกรธด้วยความ
ไม่โกรธ พึงเอาชนะคนไม่ดีด้วยความดี... เป็นเรื่องเอาชนะคน
ประเภทต่าง ๆ ซึ่งก็ฟังเข้าทีดี
จงทำกับเพื่อนมนุษย์โดยคิดว่า....
เขาเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของเรา
เขาเป็นเพื่อนเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสารด้วยกันกะเรา
เขาก็ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลสเหมือนเรา ย่อมพลั้งเผลอไปบ้าง
เขาก็มี ราคะ โทสะ โมหะ ไม่น้อยไปกว่าเรา
เขาย่อมพลั้งเผลอบางคราวเหมือนเรา
เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม เหมือนเรา ไม่รู้จักนิพพานเหมือนเรา
เขาโง่ในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยโง่ เขาก็ตามใจตัวเองในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยทำ
เขาก็อยากดี เหมือนเรา ที่อยาก ดี-เด่น-ดัง
เขาก็มักจะกอบโกย และเอาเปรียบเมื่อมีโอกาสเหมือนเรา
เขาก็มีสิทธิที่จะ บ้าดี-เมาดี-หลงดี-จมดี เหมือนเรา
เขาเป็นคนธรรมดา ที่ยึดมั่นถือมั่นอะไรต่างๆ เหมือนเรา
เขาไม่มีหน้าที่ ที่จะเป็นทุกข์ หรือตายแทนเรา
เขาเป็นเพื่อนร่วมชาติ ร่วมศาสนากะเรา
เขาก็ทำอะไรด้วยความคิดชั่วแล่น และผลุนผลัน เหมือนเรา
เขามีหน้าที่รับผิดชอบต่อครอบครัวของเขา มิใช่ของเรา
เขามีสิทธิ ที่จะมีรสนิยม ตามพอใจของเขา
เขามีสิทธิ ที่จะเลือก (แม้ศาสนา) ตามพอใจของเขา
เขามีสิทธิ ที่จะใช้สมบัติสาธารณะเท่ากันกับเรา
เขามีสิทธิ ที่จะเป็นโรคประสาท หรือเป็นบ้า เท่ากับเรา
เขามีสิทธิ ที่จะขอความช่วยเหลือ เห็นอกเห็นใจจากเรา
เขามีสิทธิ ที่จะได้รับอภัยจากเรา ตามควรแก่กรณี
เขามีสิทธิ ที่จะเป็นสังคมนิยม หรือเสรีนิยม ตามใจเขา
เขามีสิทธิ ที่จะเห็นแก่ตัว ก่อนเห็นแก่ผู้อื่น
เขามีสิทธิ แห่งมนุษยชน เท่ากันกับเรา สำหรับจะอยู่ในโลก
ถ้าเราคิดกันอย่างนี้ จะไม่มีการขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น
จาก แก่นพุทธศาสน์ (พุทธทาส อินทปัญโญ)