All Blog
ร้อยไหมโครงตาข่าย (Mesh Scaffold)...แอนจาลี คลินิก


ถ้ากล่าวถึง..การร้อยไหม.. แน่นอนค่ะ!! ไหมมีหลากหลายชนิดมากเลย
แต่นี่เป็นไหมชนิดใหม่ที่นำเข้ามาในแอนจาลี คลินิค
นั่นก็คือ 
การร้อยไหมโครงตาข่าย (Mesh Scaffold) 
ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของไหมชนิดนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ให้ไหมสามารถยึดเกาะและพยุงเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวได้ดีขึ้นด้วย
โครงตาข่ายแบบ 360 องศา
และหลังจากแพทย์ทำการร้อยไหมไปแล้ว
เส้นเอ็นเล็กๆ บนใบหน้าจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ผ่านโครงตาข่าย
ทำให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้นด้วยนะคะ 
แอมศึกษามาอย่างละเอียดแล้ว  แอมจึงตัดสินใจร้อยทันทีค่ะ



แอมเข้ามาทำการร้อยไหมโครงตาข่าย
ที่
Anjali Clinic (แอนจาลี คลินิก)
ณ สาขาเกษตร-นวมินทร์  ค่ะ ร้านสะอาด หอม การบริการดีมากค่ะ
แอมมาลงทะเบียนเพื่อทำการร้อยไหมโครงตาข่ายค่ะ และที่สำคัญทางคลินิกรองรับ 
Certified Trainer ด้วยค่ะ






มีบริการในการเปลี่ยนรองเท้าด้วยนะคะ 






มุมกาแฟ น้ำดื่มแบรนด์ Anjali Clinic ค่ะ



แอมเป็นคนที่มีแก้มเยอะมากแล้วใบหน้ากลม
แอมอยากให้ใบหน้าเรียวขึ้นดูมีกรอบหน้า
เมื่อพบคุณหมอเตอร์ก็ ปรึกษา แนะนำ
ว่าควรร้อยไหมโครงตาข่ายส่วนไหนของใบหน้าบ้างค่ะ
คุณหมอเตอร์บอกละเอียดมาก และแนะนำได้เป็นอย่างดีมากจริงๆค่ะ



อุปรณ์และเส้นไหมวางไว้แล้วนะคะ
เป็นไหมโครงตาข่ายแบบเงี่ยง ล้อมรอบด้วยโครงตาข่ายแบบ 360 องศา
ช่วยเรื่องกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวดีขึ้น
ยกกระชับ อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ทำลายชั้นผิวใต้ผิวหนัง
ไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นใต้ชั้นผิวเลยค่ะ







คุณหมอเตอร์วาดเส้นบนใบหน้า
เพื่อเป็นคาดคะเนว่าจะร้อยไหมบริเวณจุดไหนของใบหน้าบ้าง
แก้มข้างขวาแอมจะใหญ่กว่าข้างซ้าย
แอมจึงร้อยไหมด้านขวา 4 เส้น และด้านซ้าย 2 เส้นค่ะ
เพื่อให้มีความ Balance ของใบหน้าค่ะ



คุณหมอเตอร์ทำการร้อยไหมโครงตาข่าย
โดยการฉีดยาชาก่อนและนำไหมเข้าไปร้อยค่ะ
ขณะที่ร้อยไหมนั้น แอมรู้สึกถึงไหมเข้าชั้นใต้ผิวหนัง
คุณหมอเตอร์มือเบามากนะคะและทำเร็วดีค่ะ
เมื่อทำเสร็จคุณหมอเตอร์จึงนวดให้ไหมเข้าที่
เจ็บตอนนวดมากกว่าการร้อยไหมค่ะ
มีเจ็บบ้างแต่เล็กน้อยจริงๆค่ะ แอมชอบมากเลย



หลังการร้อยไหมโครงตาข่ายเสร็จเรียบร้อยนะคะ
จะเห็นได้ว่าหน้าตึงขึ้น และดึงเรียวมากขึ้นค่ะ
จะมีบวมเล็กน้อย เดี๋ยวจะค่อยๆหายบวมนะคะ


ทางแอนจาลี คลินิก 
มีเจลเย็นให้ปะคบและทานยสาแก้เชื้อ แก้ปวด แก้อักเสบค่ะ



ใบหน้าก่อนร้อยไหมนะคะ จะเห็นได้ว่าแก้วบวมและหน้ากลมมากค่ะ



หลังการร้อยไหมโครงตาข่ายจะเห็นทันทีว่าแก้มกระชับและเรียวขึ้นนะคะ
ผิวใส กระชับขึ้น เห็นผลหลังทำทันที
หลังทำหัตถการ 2 สัปดาห์หน้าจะใสขึ้น หลังทำ 3 เดือน
ผิวแข็งแรงขึ้น หน้ายกขึ้น 74 % อยู่ได้นานถึง 1 ปี หลังทำบวมน้อย
พักฟื้นน้อย ไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นระยะยาว
หน้าจะดูสวยได้รูป อย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยเทคนิคและคุณสมบัติเฉพาะของรูปทรงของไหม
และยังผ่านมาตราฐานเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย
ไหมผลิตในประเทศเกาหลีใต้ คิดค้นโดยวิศวกร
และแพทย์ชาวเกาหลีใต้ ได้รับสิทธิบัตรทั่วโลก
เป็นไหมที่จดเครื่องมือแพทย์ของไทย ที่ใช้บนใบหน้าอย่างถูกต้องในไทย



แอมประทับใจในการร้อยไหมโครงตาข่าย (Mesh Scaffold) มากค่ะ และยังช่วยร้อยไหมหน้าใสอีกด้วย ทำให้หน้าดูฟูขึ้น ผิวใสขึ้น
เห็นผลเร็วกว่าการใช้เครื่อง เหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอยหย่อนคล้อยเยอะ
หรือใครที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบเร่งด่วน อย่างเป็นธรรมชาติ
เป็นไหมโครงตาข่ายที่ล้อมรอบไหมเงี่ยง ตัวไหมเงี่ยงจะดึงเนื้อเยื่อให้ยกขึ้น
แล้วไปยึดติดกับเส้นเอ็นเล็กๆ บนใบหน้า
ส่วนโครงตาข่ายจะล้อมรอบเส้นไหม
ทำให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นเอ็นเล็กๆ ล้อมรอบไหม
หลังจากไหมละลาย 6-8 เดือนแล้ว
หน้าจะยังคงดูยกกระชับได้รูปอยู่จนถึง 1-2 ปี
ซึ่งต่างจากไหมชนิดอื่นทั่วไป ที่โดยปกติหากไหมไหมละลายไปแล้ว หรือไหมไม่มีความแข็งแรงพอ
หลังจากร้อยไหมไปได้ไม่นาน หน้าก็จะเริ่มหย่อนลงตามเดิมค่ะ







ผ่่านมาแล้ว 1 เดือนจะบอกว่าหน้าดีขึ้นมากค่ะ
กระชับ เรียวขึ้น หน้าฟู แอมรักเลยกับการร้อยไหมโครงตาข่าย

 
ช่องทางติดตามข่าวสาร สอบถามข้อมูลและโปรโมชั่น
Website : https://www.edencolorsthailand.com/
Facebook : Anjali Clinic (https://www.facebook.com/anjaliclinic/)
Instagram : anjaliclinic15 (https://www.instagram.com/anjaliclinic15/)
Youtube link : Dr_Jeab Anjali (https://bit.ly/3rSuF48)
Line@ : @anjaliclinic (https://bit.ly/3tmi4GI)

Anjali Clinic (แอนจาลี คลินิก)
สาขาพระราม 9 : 097-057-7017
สาขาเกษตร-นวมินทร์ : 097-0453232





Create Date : 22 พฤษภาคม 2564
Last Update : 17 มิถุนายน 2564 10:01:37 น.
Counter : 900 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

barbiekiku
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]