โยคะสำหรับเด็ก
การฝึกโยคะให้ทารกน้อยๆ ที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโตเต็มที่ จะไม่ได้มุ่งสร้างสมาธิหรือฝึกลมหายใจเหมือนกับผู้ใหญ่ แต่จะนำท่าโยคะมาปรับใช้เพื่อให้เหมาะสมกับพัฒนาการด้านต่างๆ และตามความสามารถของทารก เมื่อจะฝึกโยคะให้ลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเริ่มในขณะที่ตัวเองรู้สึกเหนื่อย หงุดหงิด หรือคิดว่ามันเป็นภาระหน้าที่ ควรจะผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ อาบน้ำให้สบายตัว ล้างมือให้สะอาด ตัดเล็บให้สั้น ถอดเครื่องประดับ เพื่อไม่ให้ขีดข่วนผิวลูกขณะนวดหรือจับตัวลูก ข้อควรรู้
เด็กตั้งแต่ 1 เดือน ยังไม่จำเป็นต้องทำท่าโยคะ สามารถนวดให้ได้บ้าง ด้วยการนวดตัวเบาๆ ตามกล้ามเนื้อกลุ่มต่างๆ ของร่างกาย พออายุ 2 เดือน ก็เริ่มต้นฝึกโยคะได้ โดยทั่วไปทารก 3-9 เดือนคอแข็งแล้ว นอนนิ่งๆเป็นช่วงที่ดีที่สุด ให้ผู้ใหญ่จับทำท่าได้ ไม่ว่าจะนวด นอนหงาย นอนคว่ำ นั่ง หัวทิ่ม จับบิน ส่ายตัว หากจับลูกฝึกตั้งแต่แรกเริ่มจะทำให้ลูกน้อยคุ้นเคย เมื่อลูกโตเกิน 9 เดือน จะจับทำท่าได้ง่ายขึ้น โดยสามารถปฏิบัติได้ไปจนถึงโต พออายุใกล้ 3 ขวบลูกน้อยก็จะสามารถฝึกโยคะได้โดยคุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องประคับประคองเหมือนกับตอนเป็นทารก เพียงชวนกันฝึกและช่วยปรับท่าให้ลูก ก็ช่วยให้ลูกทำโยคะได้ O ไม่ควรนวดหรือทำโยคะให้ลูกหลังอิ่มนมหรือเพิ่งรับประทานอาหาร ควรเป็นช่วงกำลังสบายท้อง ถ้าหลังอาหารก็สัก 30 นาทีไปแล้ว O อาบน้ำให้สบายตัวก่อน ปูผ้าขนหนู แล้วให้ลูกน้อยนอน O เวลาที่ดีในการทำโยคะคือ หลังอาบน้ำตอนเช้า หรืออาจเป็นเวลาเย็น หลังอาบน้ำ แต่ต้องไม่เป็นเวลาที่ลูกน้อยง่วงนอน หิว หรือไม่สบาย ต้องเป็นเวลาที่สบายตัวจริงๆ อุปกรณ์ อากาศ สถานที่ เวลา เวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ หลังตื่นนอนตอนเช้า หลังอาบน้ำ และเปลี่ยนผ้าอ้อม หรืออาจจะเป็นช่วงเย็นก็ได้ O ระยะเวลาที่ดีในการทำโยคะคือ 15-40 นาที หรือตามความเหมาะสม ของเวลาและความพร้อมของลูก O ใช้เบาะปูนอนเล่นของลูกน้อย และอาจหาของเล่นที่ลูกชอบเล่น ชอบกัด หรือโมบายตุ๊กตาหมุนมาให้ลูกเล่นด้วยก็ได้ O เลือกสถานที่สะอาด ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี O อาจมีน้ำมันนวดตัว เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ลูกไม่แพ้ หรือ baby oil เผื่อใช้นวดลูก ถ้าอากาศเย็น สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบายตัว เพื่อให้เคลื่อนไหวสะดวก แล้วจับทำท่าโยคะ O อาจเปิดดนตรี หรือเพลงบรรเลง เสียงจากธรรมชาติ ที่มีท่วงทำนอง สบายๆ ช้าๆ เพื่อกระตุ้นจังหวะลมหายใจให้เต้นช้า หัวใจในการฝึก ทารกคือเด็กอ่อนที่ต้องการความเอาใจใส่ดูแล ต้องการให้มีคนเล่นด้วย หรือพูดคุยได้ (ถึงแม้จะพูดคนเดียว) บางครั้งคุณพ่อคุณแม่มีความสุขเพียงแค่ นั่งมองดูความน่ารักของลูกในอิริยาบถต่างๆ ทารกไม่ได้ต้องการนมและคน ที่คอยเปลี่ยนผ้าอ้อมเท่านั้น แต่ยังต้องการความอบอุ่น ความรัก และเข้าใจอื่นๆ ซึ่งหาได้ยากจากบุคคลอื่นที่มิใช่พ่อแม่ ทารกที่เติบโตอย่างมีความสุข และสมบูรณ์เท่านั้น ส่วนใหญ่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ของตนเองทั้งสิ้น ไม่มีใครรู้จักทารกของท่านได้ดีกว่าตัวท่านเอง ประโยชน์ของการฝึกโยคะให้เจ้าตัวเล็ก
ลูกสัมผัสไออุ่นที่ได้รับจากพ่อแม่ สร้างอารมณ์ที่ดี จิตใจเบิกบาน ซึ่งมีผลดีต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจของลูกน้อย ลูกจะโตขึ้นเป็น เด็กที่มีความสุข มีความรักต่อผู้อื่น และยังมีความผูกพันที่ดีกับพ่อแม่ เสริมสร้างพัฒนาการสมองทั้งสองข้างของลูกให้เติบโต เพิ่มการแตกแขนง เส้นใยสมอง ทำให้เด็กมีจินตนาการ กระตุ้นและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพิ่มการขยายตัวของหลอดเลือด เนื้อเยื่อแข็งแรง กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ก็แข็งแรง และมีฐานการทรงตัวที่ดีขึ้น ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เด็กจะสบายตัว ช่วยให้เด็กที่มีความเครียด เช่น หลับยาก ร้องโคลิก หลับได้ง่ายขึ้น ด้วยการกระตุ้นระบบประสาทผ่อนคลายให้ทำงานมากขึ้น แก้ปัญหาทารกที่มีระบบประสาทควบคุมการทรงตัวไม่ดี การสั่งงานให้เคลื่อนไหว พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อและการทรงตัวที่ไม่เป็นไปตามวัย การนวดและทำโยคะให้เด็ก จะช่วยบำบัดและกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการที่ดีขึ้น กล้ามเนื้อ แข็งแรงขึ้น ป้องกันปัญหาขาโก่ง บุคลิกภาพที่ไม่ดีเมื่อโตขึ้น บรรเทาอาการท้องผูก ทำให้ระบบขับถายดีขึ้น หัวใจมีโอกาสพัก ส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงศรีษะ
Free TextEditor
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551 | | |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2551 21:51:16 น. |
Counter : 924 Pageviews. |
| |
|
|
|