รีวิวการ์ตูนไทย - Thai Comic Review
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2561
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 ธันวาคม 2561
 
All Blogs
 
รวมการ์ตูนไทยที่ซื้อไว้ประจำเดือนพฤศจิกายน 2561





ทุกๆสิ้นเดือน บล็อกนี้จะโพสต์หนังสือการ์ตูนที่ซื้อในเดือนนั้นๆแบบครบทุกเล่ม (เฉพาะคนไทยเขียน) นอกจากจะมาอวดแล้ว ส่วนหนึ่งนั้น ก็เพื่อที่จะได้แนะนำหนังสือไปในตัวด้วย -- บางเล่มนี่หายากโคตรๆ ต้องใช้ดวงล้วนๆถึงจะได้มา อาจจะเริ่มต้นได้ไม่กี่ปี แต่ก็อย่างว่า โลกมันกลมแหละนะ สรุปแล้วก็มีดังนี้....

(ในส่วนของเดือนธันวาคม การ์ตูนเข้าเยอะมาก ดังนั้นอาจจะต้องแบ่งเป็น 2 พาร์ทจริงๆแล้ว ไม่สิ อาจจะ 3 พาร์ท......)

- T La Frame First Frame Zombie (รวมนักเขียน)

รวมเรื่องสั้นการ์ตูนซอมบี้ 8 เรื่องรวดของสำนักพิมพ์หน้าใหม่ T La Frame (ทีละเฟรม) เล่มหนามากจนสามารถเอาไปทำเป็นที่ทับกระดาษได้เลย (เดี๋ยวๆ!!!) นอกจากจะมีการ์ตูนที่ชนะการประกวด 3 อันดับแรกแล้ว ยังมีเรื่องสั้นจากทีมงานของทีละเฟรมอีกด้วย พิเศษยิ่งกว่านั้น ยังมีแขกรับเชิญระดับ A-List อย่าง Formalin และ The Duang เข้ามาร่วมแจมในคราวนี้อีกด้วย -- น่าจะได้อ่านรีวิวตัวเต็มกันอีกไม่นานเกินรอ (ภายในเล่มจะแถมโปสการ์ดจากเรื่องสั้นทั้ง 8 เรื่องพ่วงมาอีกด้วย)

- สาวนักวาดกับนายพ่อครัว (Becassine)

เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร C-Kids Express (พ่วงไปกับ EXE ข้าวจี่ แว่วกริ่ง) ก่อนที่จะปิดตัวไป ในตอนแรกตั้งใจว่าจะออก 2 เล่มจบ + ขายเฉพาะเซเว่น แต่ทางสำนักพิมพ์ตัดสินใจกักผลงานเอาไว้ แล้วเอามาลงทางนิตยสารแทน ภายหลังได้ทำการมัดรวมเป็นเล่มเดียวจบ ขายพร้อมผ้ากันเปื้อนจากคอมิกเป็นออฟชั่นเสริมสำหรับแฟนเดนตายของ Becassine (ยังมีขายใน siamintershop อยู่นะ) -- ที่ตลกก็คือ เหตุการณ์ในเรื่องที่พระเอกทำกับข้าว แล้วมีสาวบุกมาถึงบ้านพร้อมกับห่อข้าวเหนียว มันคือ Based on True Story ซะงั้น!!!! 5555+ (อันนี้ก็หาเวลาเหมาะสมลงรีวิวเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นตอนไหนนะ)

- Debut Special Project 3 แซ่บเวอร์ (รวมนักเขียน)

ต้องขอชื่นชมค่าย CTS ก่อนเลย ที่พยายามจะผลักดันให้นักวาดในไทยได้สร้างแนวทางใหม่ๆให้กับการ์ตูนโดยแท้จริง อย่างเซ็ตนี้จะพุ่งไปที่การ์ตูนทำอาหาร ที่ในไทย นอกจากพวก How to ก็แทบจะไม่มีเรื่องไหนกล้าเขียนแนวเนื้อหาเข้มๆ พวกแข่งทำอาหาร แนะนำสายอาชีพเชิงลึกแบบญี่ปุ่นเลยซักเรื่อง ก็อย่างที่รีวิวไป ผลงานเข้ารอบคราวนี้ไม่แข็งแกร่งเท่า Debut Special รอบแรก (ไม่ไทยเบย) จริงๆ และดูเหมือนจะแย่ขึ้นไปเรื่อยๆ และด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้สำนักพิมพ์ต้องยกเลิกโปรเจ็กต์ Debut Special ไปในที่สุด (อย่าคิดว่ามันจะน่าตื่นเต้นเหมือนที่เห็นในหน้าปก คนละอารมณ์กันเลย)

- พ่อของฉันฮาร์ดคอร์ (รุจา กลิ่นเกษร)

รวมเล่มเรื่องแรกของ รุจา กลิ่นเกษร มาในสไตล์ภาพง่ายๆ เนื้อหาจะเป็นอัตชีวประวัติของนักพากย์มวยปล้ำชื่อดัง น้าติง ซึ่งจริงๆแล้ว เขาเป็นพ่อของคนวาดนั่นเอง -- ผลงานชิ้นนี้ในฐานะลูกสาว จึงเปรียบเสมือนเรียงความวันพ่อที่มีเจตนาบางอย่างในใจที่ตั้งใจจะสื่อสารกับแฟนคลับน้าติงโดยเฉพาะ (อ่านจบแล้ว แต่กะจะรีวิวแบบเรียงเรื่องไปเลยจนถึงรวมเล่มล่าสุดของเขา What Kind is Your Love? ยังไงอันนี้ก็รอไปก่อนนะ)

- Project S (รวมนักเขียน)

อ่านจบแล้ว แต่ไม่มั่นใจว่าจะเขียนรีวิวดีมั้ย (เพราะยังไม่ได้ดูซีรีส์เลย อายว้อย!!!) ส่วนตัวยังไม่ค่อยอินกับเรื่องสั้นทั้ง 4 มากนัก ด้วยความที่มันเป็นเนื้อเรื่องเสริม จากซีรีส์ที่ลงประจำในแอพ Line TV ก็เลยรู้สึกคั่งค้างพอดู ปัญหาคือคนติดตามซีรีส์นี้ มีเยอะพอสมควร กลัวว่าถ้ารีวิวแบบไม่รู้เรื่องไป จะโดนตำหนิเปล่าๆ ก็ต้องไปทำการบ้านมาก่อน (อย่าคิดลึกสิแหม่) 5555+ ยังไงก็ขอพักรีวิวไว้ซักระยะไปก่อนแล้วกันนะ แหะๆ


ปกหลังน้อง พี่ ที่รัก ฉบับการ์ตูน เป็นการ์ตูนเบสบอลแบบการ์ตุนยุคเก่า ที่ตัวเอกชอบอ่าน วาดโดย Kippu Guron แต่งเรื่องโดย Kasemu Maruto


- Marchen (ฺBecassine + Ancienttear C. Zanael)

เป็นงาน Collab ครั้งแรกของเบ้และแกะในฐานะการ์ตูนสำนักพิมพ์ (และน่าจะเป็นงาน underated สำหรับแฟนหนังสือด้วยแน่ๆ) แบบแบ่งครึ่งวาด ของใครของมัน แน่นอนว่าเนื้อหาจะเป็นแนวแฟนตาซี (ซึ่งพบเห็นในงานโดจินของทั้งคู่เป็นปกติอยู่แล้ว) แต่เป็นแนวโรแมนติกดราม่านะ ไม่ใช่แนวแอ็คชั่น -- หากเคยผ่านงานสองในสามทหารเสือของ CTS มาก่อน จะรู้ว่าลายเส้นของทั้งคู่ไม่เคยตกซักครั้ง อยู่ในระดับที่ต้องร้องว้าวได้ตลอด สารภาพว่ายังไม่ได้อ่าน แต่แค่มองภาพผ่านๆก็น่าสนใจแล้ว

- น้อง พี่ ที่รัก ฉบับการ์ตูน (ณัฐพล อยู่วิทยา/ เกษม อภิชนตระกูล)

ดูหนังแล้ว การ์ตูนก็อ่านแล้ว ในเวอร์ชั่นการ์ตูนจะเป็นเนื้อเรื่องก่อนที่หนังจะเริ่ม ดังนั้นไม่จำเป็นต้องดูหนังมาก่อน ก็อ่านเข้าใจได้ ดีซะอีก เป็นการปูทางก่อนจะดูภาพยนตร์ไปในตัวด้วย น่าจะเป็นรวมเล่มการ์ตูนจากภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้วมั้ง คอนเทนต์แน่นมากๆ คุ้มเกินราคา (ตกใจกับหน้าสี 8 หน้าในเล่ม!!!!) ตอนรีวิว ท่าจะมีอะไรให้แพล่มอีกเยอะ มาสปอยล์แค่นี้ก่อน แค่อยากจะบอกว่า เล่มนี้ไม่ต้องดูหนังมาก่อน ก็สนุกได้เหมือนกันนะ

- MSD - Mind Snapper Dragon อัจฉริยะอ่านใจคน (มนตรี คุ้มเรือน/ อรุณทิวา วชิรพรพงศา)

เป็นโปรเจ็กต์คั่นเวลาของทีม Ogre Comics ที่กำลังจะออกผลงานเรื่องใหม่ในสัปดาห์นี้ (ติดตามได้ในเพจ Ogre Comics) เคยลงประจำนิตยสาร C-Kids ช่วงหนึ่ง เล่มเดียวจบ แต่แก่นเรื่องจะพุ่งตรงไปที่พฤติกรรมการโกหกของมนุษย์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว โดยตัวเอกในเรื่องมีความสามารถพิเศษในการหยุดเวลา เพื่อประเมินการโกหก โดยดูจากสีหน้าและการพูด ใครอยากรู้ทันคน แนะนำให้ซื้อเล่มนี้

- ชมรมวารสาร ตำนานสถาบัน เล่ม 5 (เกษม อภิชนตระกูล)

......หรืออีกชื่อหนึ่ง Lore Factor's High School (คนอื่นเรียกวารสารกัน แต่ตัวเองชอบเรียก ลอร์แฟคเตอร์ ไม่ก็ปกเขียว ไม่รู้ทำไม? 5555+) น่าจะเป็นหนึ่งในการ์ตูนเล่มใหม่ล่าสุดที่แฟนหนังสือตั้งตารออ่านกันจริงๆล่ะมั้งนะ (ก็ออกปีละเล่มไง) ที่ตอนนั้นเราเคยบอกไปว่า ระแวงสุดๆ เพราะเราไม่ค่อยชอบหน้าแถมสองเล่มหลัง กับสองตอนหลังในเล่ม 4 เท่าไหร่ (พูดจริง) แล้วตอนนั้นเรากลัวด้วยว่า การที่คนเขียนปิดเล่มภายใน 2 เดือนมันจะรีบไปมั้ย? (ซึ่งพอดูจากไทม์ไลน์จริงๆ เทียบกับตำแหน่งหน้าในเล่ม ท่าจะไม่ใช่แค่ 2 เดือนแล้ว...) คือตอนแรกคือกะจะเก็บพร้อมรวมเล่ม Love Hours ครึ่งหลังไปเลยดีกว่า เคยคิดขนาดที่ว่า วารสารอยู่ในช่วง downfall ไปแล้วด้วย (โดยเฉพาะส่วนของเนื้อหา ความสมเหตุสมผลของพล็อต)


ภายในเล่ม จะเต็มไปด้วยฉากต่อสู้อันดุเดือด (แต่ฉากเฮียบุรพาสู้กับมารุต ยังไม่ค่อยเท่เท่าไหร่ ก็เลยยังไม่เอาลง)

แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว เล่มใหม่กลับเป็นอะไรที่โหดกว่าที่คิด!!!! -- วารสารเล่ม 5 ไม่ใช่เพียงแค่การคืนฟอร์มเต็มรูปแบบจากเล่มเก่าๆ (โดยเฉพาะเล่ม 2 ที่ภาพรวม"ทั้งเล่ม" ดูสนุกสุด) แต่เป็นการยกระดับงานให้ดีขึ้นกว่าเล่มก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะลายเส้น มันดีขึ้นจนเล่มอื่นๆดูด้อยไปเลยถ้าเอามาเทียบกัน -- เนื้อหาภายในเล่มจะแบ่งเป็นสองช่วง โดยสองตอนแรกจะเป็นตอนทั่วๆไปแบบที่เราเคยอ่านกัน (Traditional Style) ส่วนสามตอนหลังจะเป็นการแข่ง Survival Game ยิงกันในสนามจำลอง (ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเล่ม) 5555+ ได้อารมณ์สนามแข่งบีบีกันสมัยเรียนศูนย์ฝึกชุดเขียวดีเหมือนกันนะ (คนเขียนจบ 5 ปีนะเว้ย!!) -- โดยครึ่งแรกจะเป็นการคืนฟอร์มโดยแท้จริง สนุกขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น รายละเอียดดูน่าสนใจกว่าตอนก่อนๆเยอะ (แต่ตอนแข่งบาสกับตอนเดินป่าคือพีคสุดแล้ว) เอาเป็นว่า สองตอนที่ว่า (เปลี่ยนทรงผม/หุ่นยนต์) ทุกวันนี้ก็ยังติดหัวอยู่เลย (อยากเห็นสิ่งประดิษฐ์แปลกๆของชมรมหุ่นยนต์อีกแฮะ) -- อึ่ม เพิ่งรู้ว่าแฟนเซอร์วิสก็สามารถคลีนได้เหมือนกันแฮะ ชอบๆ (ตรงนี้พยายามไม่สปอยล์ อยากให้อ่านโดยที่ไม่รู้เนื้อในมาก่อน เพราะจริงๆแล้วในเล่มมีอะไรให้ทึ่งกันอีกเยอะ)

แต่ปัญหาของเล่ม กลับไปอยู่ที่ครึ่งหลัง ในส่วนที่คนเขียนภูมิใจนำเสนอ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกในงานของเกษมที่เดินหน้าด้วยสายแอ็คชั่นเต็มตัว แบบที่เราเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับงานของเจ้าตัวมาก่อนก็ตาม -- เช่นเดียวกับข้าวจี่ รูปแบบของเรื่อง ดูจากคนเขียนก็พอเดาได้ว่าน่าจะเน้นไปทางสนุก เน้นชิงไหวชิงพริบ แต่ด้วยความเป็นวารสาร ความ playful จึงโดดออกมาก่อน ซึ่งก็มาถูกทางแล้ว ดีใจที่ไม่ออกทะเลไปซะก่อน ถึงจะรู้สึกว่ามันมีความเป็น Spin-Off (ตอนพิเศษ) มากกว่าจะเป็นตอนหลักไปบ้างก็เถอะ


เป็นหนึ่งในหน้าที่ไม่ชอบเป็นการส่วนตัว และไม่สมเหตุสมผลที่สุด -- ปกติมุกกับกระต่ายสนิทกันไม่ใช่เรอะ? แล้วทำไมถึงแสดงพฤติกรรมกับกระต่ายเหมือนข้าวจี่แบบนี้ได้

ในส่วนของฉากแอ็คชั่น ต้องยอมรับว่าคนเขียนทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง -- จะบอกว่า เห็นแววตั้งแต่ Fate Siam ตัว Teaser แล้ว (ตอนทำโดจิน ทำไมไม่ปล่อยตัวนี้ออกมาฟะ!!! ไม่เข้าใจ ดันไปปล่อยงานอะไรก็ไม่รู้ อันที่ลงในเพจกลุ่ม Fate Thailand ตัวนั้นยังจะขำซะกว่า) แต่ถึงท่าโพสจะดีแค่ไหน บางช่วงจะสังเกตได้ว่า เวลามีฉากต่อสู้ที่เน้นความแรง ไดนามิกเยอะๆ เทคนิคภาพนั้นจะด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด สัมผัสได้ถึงความหยาบของเส้นแบบชัดเจน รวมทั้งการจัดองค์ประกอบภาพก็ยังไม่สวยมาก ด้วยข้อจำกัดการแบ่งช่องแบบการ์ตูนแก๊กสีช่อง (แต่โชคดีแล้ว ที่ไม่ออกมาเละเท่า Devil & Dragon ของ G.IX) ถึงจะไม่ค่อยดี แต่เราก็เชื่อว่า คนเขียนน่าจะพัฒนาส่วนนี้ไปได้อีกไกลแน่นอน

คอสตูมของตัวละครตัวอื่นยังโอเค มีเสื้อกันกระสุน เครื่องป้องกัน แว่นก็อกเกิ้ลทั่วไป แต่ชุดของพี่ชายย้งยี้ เฮียซือ กับ พิกุลมันคือเห้อะไรวะนั่น!!!?! อีกคนใส่หน้ากาก อีกคนหนึ่งก็แต่งตัวหยั่งกับนางเอกหนังบู๊ช่อง 7 5555+ คอสตูมโคตรเพี้ยน (ไอ้บ้าที่ไหน มันจะใส่หน้ากากงานวัด มาเล่น BB Gun) ไม่ๆๆ ไอ้ที่จะบอกจริงๆก็คือ มันไม่เข้ากับบริบทเรื่องเลย ตรงนี้มันหนักไปทางแฟนตาซีซะมากกว่าแอ็คชั่นสนามรบไปจริงๆ มันไม่ดูเท่ แต่มันดูตลก อารมณ์เดียวกับเด็กชมรมมวยสากลที่ท้าต่อยมารุตในวารสารเล่มเก่าๆเลย

สรุปก็คือ บรรยากาศในส่วนของแอ็คชั่นยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ยังดูกระจัดกระจาย จะเรียกได้ว่าเป็นจุดด้อยที่สุดในเล่มเลยก็ได้มั้ง (แต่ก็ไม่ได้ความว่ามันแย่นะ มันดีในระดับหนึ่งเลย)


ตกลงเป็นแค่การแสดงหรอกเรอะ!!?! นึกว่าสู้กันจริงๆ

แต่ก็น่าสังเกตอย่างหนึ่ง หลังจากที่หนังสือวางแผง ถ้าเป็นเมื่อก่อน คอมเมนต์ส่วนมากในเพจเจ้าตัวจะมีแต่คอมเมนต์ สนุกดีครับบ้าง รอเล่มต่อไปอยู่ครับบ้าง หรือไม่ก็เอาฉากเด็ดในเรื่องมาพูดกันเล่นๆ ไม่ก็อวยตัวละครสาวๆ -- แต่ในรอบนี้ การคอมเมนต์กลับให้อารมณ์ต่างจากเล่มที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด -- จนมาถึงตอนนี้.... การ์ตูนสามารถพัฒนามาจนถึงจุดที่คนอ่านเริ่มที่จะออกความเห็นจริงจังขึ้นแล้ว (ความเห็นจะพุ่งตรงไปที่เนื้อเรื่องจริงๆ มากกว่าจะเปรยแค่ฉากๆหนึ่งในเรื่อง) จากที่เราเคยมองว่าเป็นการ์ตูนตลกไปเรื่อย (ซึ่งจริงๆ แค่นี้ก็อิ่มแล้ว) แต่ตอนนี้ตัวละครหลายๆตัวเริ่มมีเบื้องลึกมากขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตอนนี้ วารสารไม่ใช่เพื่อนที่คบกันเอาสนุกแค่เพียงผิวเผินอีกต่อไปแล้ว แต่คราวนี้จะได้เริ่มรู้จักกันและกันมากขึ้น ถือเป็นการขยับฐานะมาเป็นเพื่อนสนิทจนได้ หลังจากคบหากันมาตั้ง 9 ปี (2010-2018) 5555+ นับว่านานเหมือนกันเนอะ

หรือจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ตัวเอกเริ่มสนิทกับแก๊งวารสารอย่างเป็นทางการแล้ว?

ส่วนเรื่องความลับที่เปิดเผยต่อกัน (เรื่องครอบครัว) ก็ขอติดตามไปเรื่อยๆก่อนดีกว่า 5555+ อะไรก็เกิดขึ้นได้แล้วตอนนี้......

ส่วนเรื่องหน้าปก ก็อยากจะพูดถึงเหมือนกันนะ แต่มันสายไปแล้ว ต่อให้คนเขียนจะลงสีสดขึ้นแค่ไหน แต่เรื่องท่าโพสก็สู้ปกเล่มแรกไม่ได้อยู่ดี เหมือนเจ้าตัวจะติดการทำปกตัวละครแบบหันจากทางขวาบ่อยๆ (ยกเว้นปก Shutter Chance ซึ่งจริงๆ ก็อยากให้ออกเป็นเล่มเล็กเหมือนกัน ว่าแต่ออกรวมเล่มครึ่งหลังได้แล้วโว้ย!!!!) -- (ที่มันสายไปแล้ว ก็เพราะรูปแบบปกมันเป็นแพทเทิร์นเดียวกันไปแล้ว) ซึ่งพอดูจริงๆแล้ว ก็ปล่อยผ่านไปเถอะ ก็เป็นระเบียบเดียวกันไปแล้วนี่เนอะ เฮ้อ!!

และนี่แหละคือนิยามที่แท้จริงของ "การ์ตูนมีอะไรให้พูดถึง" มันก็จะลากยาวหลายย่อหน้ากันอย่างที่เห็นนี่แหละ (เพราะเรื่องที่เหลือ จะเอาไปลงในรีวิวหลักต่างหาก)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------

สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2561



เฮ้อ!!!....กล้าขายก็กล้าซื้อ (ไปตามอ่านของเก่ามาแล้ว)

- เสือโหยท่าเพลิน การ์ตูนจากเพจชื่อดัง จะรวมเล่มกับทาง CTS พร้อมกับโปสการ์ดแบบสุ่มจาก 1 ใน 3 ใบ (ภาพโคตรปั่น!!!)

- ผลงานเก่าของ Puck ที่เคยลงกับทาง CTS จะทำการพิมพ์ซ้ำ พร้อมเพิ่มเนื้อหาใหม่ (Someting/ Memory Me/ Questions)

- ...รวมทั้งเจ้าชายหอยของ Becassine ก็ด้วย แต่หน้าแถมจะต่างจากเล่มต้นฉบับ (ผมว่าแฟนหนังสือของเบ้น่าจะซื้อเพราะหน้าแถมแน่ๆ) อาจจะออกเดือนหน้า

- EXEcutional จะออกเล่มใหม่ทุกๆ 2 เดือน เท่ากับว่าปีหนึ่งจะได้อ่านถึง 6 เล่มเลยทีเดียว (จะขยันไปหน้าย!!!!)

- ผลงานใหม่ของมนตรี คุ้มเรือนกับอรุณทิวา วชิรพรพงศา ในชื่อ Ogre Comics จะปล่อยเรื่องใหม่ Legacy 4 ซึ่งอยู่จักรวาลเดียวกับ Ogre King ขายตั้งแต่วันที่ 19/12/2561 จนครบหนึ่งเดือน จำกัดการพิมพ์แค่ 500 เล่มเท่านั้น พร้อมลายเซ็นนักวาดเฉพาะพรีรอบแรก (งานนี้ผมว่าเกิน) สามารถซื้อได้ในเพจเท่านั้น ยังไม่ขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่งานโดจินไม่แน่.....

- งานโดจินเก่าของ Becassine ตั้งแต่เรื่องแรกอย่างทิเบตัน (เป็นชื่อสุนัขที่โหดที่สุดในโลก ส่วนเนื้อในจะเป็นการอ้างอิงข้อมูลจากเว็บ dogilike) ถูก Reprint เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย พร้อมกับแด่เธอผู้เป็นตะวัน และ Food Fantasy หนึ่งในดงเกมกาชาที่งอกเป็นดอกเห็ด น่าเสียดายที่เราคาบข่าวมาบอกไม่ทัน หมดเวลาเป็นชาติแล้ว

- ฉันชื่อแสงดาว (จริงๆน่าจะชื่อ ทาสผีกับหนุ่มเล่นหวย) ผลงานใหม่ของ Zanael ที่เคยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อนใน Horror Hours เล่ม 15 ล่ะมั้ง (แต่เป็นการ์ตูนแถม บางคนอาจจะไม่รู้เรื่องนี้ ก็เลยพิมพ์ทิ้งไว้ก่อน) ตอนนี้ได้เดินทางมาถึงเล่ม 2 จนได้ แต่ก็หมดเวลาไปแล้วเช่นกัน เพราะปิดพรีไปเป็นชาติแล้ว ดังนั้นเสียใจด้วย

- RoseKiss ผลงานหลักที่ลงประจำใน Ookbee Comics ของ แอดแมว M.L.P -- หนึ่งในผลงานที่เดินตามรอยความสำเร็จ Lily Love ของรัตนะ สาทิส ตอนนี้เปิดพรีออเดอร์เป็นบ็อกเซ็ตแล้ว (ส่วนราคาก็ 4 หลักขึ้น เป็นปกติของหนังสือทำมือ) ถ้าไม่ติดปัญหากับสัดส่วนตัวละครที่เพี้ยน 3 ปีซ้อน -- สมาคมดนตรีไทยเครื่องเคาะทองเหลืองและเครื่องเคาะไม้ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

- คุณ Gawin Satawut ได้รับรางวัล The Excellence Award Winning Silent Manga Audition 2018 สามดาวในเรื่อง Salary Man ในหัวข้อ Effort Friendship Success ซึ่ง... เอ่อ...ก็อย่างที่คุณ Ryuji Tsukihara เค้าวิจารณ์ไว้แหละเนอะ แต่ยังไงก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ (zzzzz)

ถ้ามีอีก เดี๋ยวจะมาเพิ่มให้.....
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และนี่ก็คือสาเหตุหลักที่ว่าทำไม่ถึงปล่อยช้า (มาช้าแต่ก็มานะ ไม่ได้ปล่อยร้าง) 5555+ แล้วเจอกันอีกในเดือนหน้า!!!!


Create Date : 18 ธันวาคม 2561
Last Update : 28 ธันวาคม 2561 15:50:02 น. 0 comments
Counter : 1554 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีครับ ผมเรลกันครับ ชอบอ่านการ์ตูนมากๆ หวังว่าจะสนุกกันนะครับ




Friends' blogs
[Add เรลกันคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.