ทางสีขาว ...จะเลือกทางไหนตามใจเจ้าคิด ทางที่เปลี่ยนชีวิตข้างหน้า หรือทางที่คนย่ำเดินไปมา ปรารถนาสิ่งใดไหนกัน อยากจะรู้อยากจะเห็นอยากเข้าใจ แสวงหาอะไรที่นั่น เริ่มด้วยการถากถางทางพลัน สร้างและสรรท่ามกลางป่าใหญ่..... ...ทางสีขาว คาราวาน... หลังเหตุการณ์ตุลาคม 2519 บรรดานักศึกษา แกนนำ ต่างพากันเดินทางมุ่งหน้าสู่ป่าใหญ่ ไปตามเส้นทางสีขาว เพื่อแสวงหาสังคมอุดมคติ คงจะเหมือนกับคำโบราณว่าไว้ ว่าหนีเสือปะจระเข้ หรืออีกนัยหนึ่ง คือโลกแห่งความเป็นจริงได้โบยตีความคิด ความรู้สึก ของพวกเขาจนเป็นบาดแผลร้ายลึก เพราะว่าสังคมในอุดมคติ หรือ ยูโทเปีย นั้น มันเป็นเพียงความฝันที่ไม่เคยเป็นจริงได้เลย ปีกหัก (broken wing) นกเสรีก็เลยบินต่อไปไม่ไหว คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 66 ปี 2523 จึงเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายของการต่อสู้กับความคิดของตนเองของบรรดานักศึกษาที่ไปเข้ากับพวกสีแดงในป่า .....ผ่านวันผ่านเวลามาจนถึงปัจจุบันนี้ พวกเขาได้ผ่านการต่อสู้ เจ็บปวดจนเกินกว่าที่คนรุ่นไหนจะได้สัมผัสและรู้สึกเหมือนอย่างพวกเขา ไม่แปลกถ้าสังคมเราจะรำลึกถึงพวกเขา ในนามของคนกล้า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ทุกสมรภูมิ หลายคนในวันนั้น มาถึงหลายคนในวันนี้ ..มีอยู่คนหนึ่งที่กล้ายอมรับถึงความเจ็บปวดและพ่ายแพ้ เขาน่าจะเป็นคนแรกที่ชนะบนความพ่ายแพ้นั้น ..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล...ผู้ตกผลึกในความคิดอย่างแท้จริง   Create Date : 31 ตุลาคม 2549     1 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2549 12:42:14 น.     Counter : 604 Pageviews.   Share Tweet

ยอดมนุษย์ไฟฟ้าสีชมพู ในปี 2500 ถึงได้มีการปล่อยนักโทษในคดีกบฏสันติภาพโดย จอมพลสฤษดิ์ แต่ใช่ว่าทุกคนจะไม่ถูกอำนาจรัฐคุกคาม ว่ากันว่าในคุกช่วงนั้นเต็มไปด้วยนักคิด นักเขียน เป็นปัญญาชนทั้งนั้น การถูกจองจำคุมขังก็ได้เพียงแต่ร่างกาย แต่วิญญาณเสรีชนของพวกเขานั้นอำนาจใด ๆ ก็มิอาจคุมขังได้ นับจากกบฎสันติภาพ จนเปลี่ยนถ่ายอำนาจรัฐ มาเป็นจอมพลสฤษดิ์ (2500) มาถึง จอมพลถนอม (2506) เสียงของความรู้สึกของผู้คนที่มีต่ออำนาจล้นฟ้าของฝ่ายอำนาจรัฐนั้นดังกึกก้องอื้ออึงไปทั่วทุกความรู้สึกของปัญญาชน และยิ่งดังขึ้นเรื่อย เมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งในพวกเขาถูกจับตัวไป หรือกระทั่งหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ยิ่งไปกว่านั้นคือ การทำการเชือดไก่ให้ลิงดู ในที่สุดฝ่ายอำนาจรัฐมิอาจทนต่อแรงกดดันรอบด้านได้ การตัดสินใจยึดอำนาจของตนเองของจอมพลถนอมก็เกิดขึ้นในปี 2514 แต่นั่นกลับยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับฝ่ายอำนาจมากขึ้น เป็นเพราะว่าฝ่ายอำนาจรัฐจำเป็นต้องกำจัดพวกสีแดงให้สิ้นซาก เมื่อมีใครก็ตามเพียงแค่คิดต่างและต่อต้านก็ชี้นิ้วบอกว่าพวกเขาเป็นฝ่ายซ้าย นิสิตนักศึกษาปัญญาชนในยุคสมัยของการแสวงหานั้น พวกเขามีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตนเอง มีความตื่นตัวในเรื่องของการเมือง เมื่อเขาเห็นว่าการใช้อำนาจของรัฐมิชอบ พวกเขามีหน้าที่ต้องออกมาประท้วงขับไล่ผู้นำเผด็จการ สีแดงถูกสาดเข้าใส่พวกเขา ซึ่งจะว่าไปแล้วพวกเขาก็คงเปรียยเหมือนสีขาว จะด้วยการกระทำของตนเอง หรือจากใครอื่นมาป้ายสีใส่ให้ ตามทฤษฎีของแม่สี เมื่อแดงมาผสมกับขาว ก็เป็นสีชมพู นั่นแหละพวกเขาหล่ะ ยอดมนุษย์ไฟฟ้าสีชมพู ด้วยความไร้เดียงสาคิดว่าตนเองเป็นยอดมนุษย์ผู้พิทักษ์ปกป้องโลก ท้ายสุดก็เลยต้องพากันแอ่นอกรับลูกกระสุนด้วยมือเปล่า มีเพียงอุดมการณ์อันแข็งกล้าเป็นเสมือนเสื้อเกราะกำบัง จนถึงทุกวันนี้ ผ่านวันผ่านเวลามา 30 ปี ประวัติศาสตร์เดือนตุลาคม 2519 ก็ยังไม่เคยถูกชำระด้วยข้อเท็จจริงทุกด้านให้สังคมไทยได้รับรู้   Create Date : 31 ตุลาคม 2549     0 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2549 12:30:04 น.     Counter : 591 Pageviews.   Share Tweet

ผู้จุดเชื้อไฟ ....สีแดงลามเลียผืนแผ่นดินไทยเหมือนไฟลามทุ่ง มีการแบ่งเขตการทำงานอย่างเป็นระบบ เช่น เขตอีสานเหนือ อีสานใต้ อีสานตะวันตก กลายเป็นว่าการตั้งกองอำนวยการปราบปรามคอมมิวนิสต์ล้มเหลว สีแดงจากฐานที่มั่นเดียวคือภูพาน ได้ขยายที่มั่นไป 40 จังหวัดทั่วประเทศ มาถึงยุคของจอมพลถนอม เป็นนายกรัฐมนตรี (2506)การสนับสนุนจากพี่เบิ้ม USA มีมาอย่างต่อเนื่อง มีการตั้งฐานทัพอากาศในประเทศไทย ที่ตาคลี นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี นครพนม และอู่ตะเภา คนฟังเพลงเพื่อชีวิตคงเคยได้ยินเพลงสะท้อนความรู้สึกทางสังคมในยุคนั้นบ้าง อเมริกันอันตราย ของคาราวาน เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นว่าเริ่มมีผู้เล่นกระโดดเข้ามาร่วมวงมากมายยิ่งขึ้น ยุทธวิถีปราบปรามฝ่ายตรงข้ามของทางการด้วยการจับ อุ้มฆ่า ประหาร ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้กองกำลังสีแดงเตรียมการต่อสู้ด้วยอาวุธโดยยึดเอาเขตป่าเขาเป็นที่มั่น .... คีย์แมนคนสำคัญของฝ่ายสีแดงคือ สหายคำตัน ซึ่งมีอดีตเป็นนายทหารยศพันโทฝีมือเยี่ยมในฐานะคณะกรรมการพรรค .... และแล้วก็มาถึงวันปืนแตก เมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐปะทะกับกองกำลังของสีแดง ที่จังหวัดนครพนม ในปี 2508   Create Date : 31 ตุลาคม 2549     0 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2549 12:27:54 น.     Counter : 354 Pageviews.   Share Tweet

ดั่งไฟซ่อนเชื้อ จอมพล ป. กลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง ทำให้ฝ่ายสีแดง ต้องหลบลงไปใต้ดินสักพัก ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับอำนาจของจอมพล ป. บางคนต้องขอลี้ภัยไปอยู่จีน และได้ศึกษาแนวคิดการปฏิวัติสังคมนิยมอย่างจริงจัง และเข้าร่วมกับสีแดงอย่างเป็นทางการ ....หลัง สงครามโลก ครั้งที่ 2 โลกแบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน ฝ่ายจักรวรรดิอเมริกา กับ ฝ่ายคอมมิวนิสต์ เมื่ออเมริกามองว่าภัยคอมมิวนิสต์เป็นภัยคุกคามโลก ในฐานะพี่เบิ้มจะต้องปกป้องคุ้มครองโลก ด้วยการส่งกำลังทหารและอาวุธเข้าไปช่วยเหลือ ทำนองว่า สงครามเป็นสิ่งจำเป็น แผ่นดินไทยเองก็ได้รับการช่วยเหลือทำนองนี้ด้วยเหมือนกัน .. การจับกุมคนกลุ่มผู้รักสันติภาพที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านการทำสงคราม เรียกว่ากบฎสันติภาพ 10 พ.ย. 2495 เพราะทางการต้องการความช่วยเหลือจากอเมริกาเรื่องทหารและอาวุธ เพื่อใช้ในการปราบปรามภัยคอมมิวนิสต์ในประเทศ ว่ากันว่าในช่วงของ จอมพลสฤษดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี 2501 -2506 มีงบลับมหาศาลเพื่อการนี้โดยเฉพาะ .....นิสิตนักศึกษาปัญญาชนมีความตื่นตัวทางความคิดและปัญญา เป็นยุคสมัยของการแสวงหาโดยแท้ เมื่อนักหนังสือพิมพ์ถูกจับ สื่อถูกครอบงำ หนังสือทฤษฎีทางการเมืองหลายชนิดถูกสั่งเก็บ ใครมีครอบครองถือเป็นกบฏ จึงสร้างแรงกดดันให้เกิดขึ้นในสังคม .....ในฐานะนายกรัฐมนตรี รับเงินเขามาก็ต้องดำเนินนโยบายปราบปรามคอมมิวนิสต์ในประเทศอย่างหนัก ปี 2505 จึงตั้งกองอำนายการปราบปรามคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำของ พลเอกประภาส จารุเสถียร ตอนนั้นฐานกำลังของสีแดงมีกำลังมากขึ้น ด้วยการขยายเส้นทางติดต่อกันมาจากประสบการณ์เสรีไทยตอนญี่ปุ่นบุกเข้าประเทศ ยิ่งมีการปราบปรามหนักหน่วงเท่าไร การขยายฐานที่มั่นก็เพิ่มมากขึ้น   Create Date : 31 ตุลาคม 2549     0 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2549 12:25:57 น.     Counter : 335 Pageviews.   Share Tweet

เปลวเทียนในสายลม .....อิทธิพลของสีแดงเริ่มเปล่งแสงชัดเจนขึ้นในแผ่นดินไทย เมื่อ จอมพล ป.ผู้ครองอำนาจการปกครองมานานได้ดำเนินนโยบายสงครามผิดพลาด(สงครามโลกครั้งที่ 2) โดยเข้าร่วมกับญี่ปุ่น นั่นก็คือการอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสัมพันธมิตร ......เมื่อฝ่ายอักษะแพ้สงคราม ทำให้กำลังของฝ่ายท่านปรีดี พนงยงค์ เริ่มฉายแสงเรืองรอง ในฐานะของผู้นำเสรีไทย ต่อต้านทหารญี่ปุ่น อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า เสรีไทยทำให้ไทยรอดพ้นจากการเป็นฝ่ายแพ้สงครามในครั้งนั้น... ....ท่านปรีดี กับสีแดง ค่อนข้างคลุมเคลือ บางคนว่าท่านซ้ายบางท่านว่าไม่ แต่การเคลื่อนไหวของ กลุ่มรัฐมนตรีอีสาน 4 คน (หนึ่งในนั้นนับถือท่านปรีดีว่าเป็นท่านอาจารย์) ด้วยการรวมตัวกันตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคสหชีพ ซึ่งบอกถึงเรื่องราวของสีแดงในการเมืองไทยได้ชัดเจนกว่า .....ปี 2490 ฝ่ายรัฐบาลมีนโยบายปราบปรามเด็ดขาด ท่านปรีดี และพรรคพวกถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายกบฎแบ่งแยกดินแดน ท่านปรีดีลี้ภัยไปจีนและฝรั่งเศส พรรคพวกหนีไปตั้งมั่นอยู่อีสาน ภาย 2 ปี แกนนำทั้งหลายถูกจับและสังหารโหด เฮ้อ... ยังไม่ถึงเวลาของคนตุลาเลย อดใจรอเดี๋ยวนะค้า..เรื่องราวมันต่อเนื่องเกี่ยวพัน จะข้ามผ่านไปเลยไม่ได้   Create Date : 31 ตุลาคม 2549     0 comment Last Update : 31 ตุลาคม 2549 12:24:18 น.     Counter : 390 Pageviews.   Share Tweet